เลดี้โบกี้


“วิมล” หญิงสาวแสนสวยวัยทำงานคนหนึ่งที่จากบ้านมาไกล เพื่อมาตามหาความฝันในเมืองกรุง เธอเข้ามาทำงานใน กทม ได้ 5 ปี จากที่มาใหม่ๆยังทุลักทุเล แต่พอเข้าปีที่ 3 การงานของเธอเริ่มมั่นคงจนมาถึงทุกวันนี้ แล้วเธอก็มีเงินเก็บมากพอสำหรับการสร้างอนาคตให้กับตนเอง 5ปีมาแล้วที่เธอยังไม่ได้กลับบ้าน เธอจึงคิดถึงพ่อแม่อยากกลับไปเยี่ยม จึงรอให้ถึงวันหยุดยาวของบริษัทเพื่อที่เธอจะได้กลับบ้านเกิดเมืองนอนของเธอ

รถไฟ เป็นตัวเลือกอันดับ 1 ที่วิมลจะเดินทางกลับบ้าน เนื่องจากรถไฟผ่านสถานีใกล้บ้านของเธอ แต่พักหลังๆมามีข่าวการฆาตกรรมบนรถไฟขึ้นมาบ่อยๆ เธอก็หวั่นๆใจอยู่ เธอจึงค้นหารายละเอียดได้ข้อมูลว่า รถไฟที่ผ่านสถานีบ้านของเธอมีขบวนที่มีโซนเฉพาะของผู้หญิง มั่นใจถึงความปลอดภัยได้ เธอจึงตัดสินใจจองตั๋วทันที

เมื่อถึงเวลาเดินทาง วิมลก็ไปขึ้นรถไฟ เลดี้โบกี้ ครั้งแรกในชีวิตก็สำรวจดูแล้วรู้สึกถูกใจ พนักงานก็จะมีแต่ผู้หญิง ทำให้รู้สึกอุ่นใจ วิมลได้เตียงชั้นล่างก็รู้สึกโชคดีไปอีก ได้ชมวิวก่อนนอนด้วย จากนั้น 1 ทุ่มพนักงานก็มาปรับที่นั่งให้เป็นที่นอน ทุกที่นั่งมีคนขึ้นมาประจำที่กันหมดละ เหลือแต่เตียงบนของวิมลเท่านั้นที่ยังไม่มา วิมลก็คิดว่าคงขึ้นกลางทางสักสถานีนึงละมั้ง เธอก็ไม่ได้สนใจ ก็นอนเล่นโทรศัพท์ไปดึกได้ที่ก็หลับไป

ตกดึกวิมลงัวเงียตื่นขึ้นมา เพราะได้ยินเสียงเตียงบนขยับ “แอ๊ดๆๆๆ” เหมือนคนนอนดิ้นอยู่ตลอดเวลา วิมลก็คิดว่ามีคนมานอนเตียงบนแล้วก็ไม่ได้คิดไรก็นอนต่อ สักพัก “ตึงๆๆๆ” เสียงเตียงบนดังเหมือนมีคนมากระทืบเท้าใส่ วิมลสะดุ้งตื่น “โอ๊ยยยยย อะไรเนี่ย” วิมลบ่นเบาๆ “ตึงๆๆๆ” พร้อมเสียงเตียงสั่น วิมลหมดความอดทนจึงลุกออกเตียงไป กะจะบอกคนข้างบนให้เบาเสียงๆ

......................ไม่มีใครนอนอยู่เตียงบน วิมลจึงเอามือลูบๆที่นอน เย็นเฉียบเพราะตากแอร์ แน่นอนว่าถ้าที่นอนเย็นๆแบบนี้ก็แสดงว่าไม่มีใครมานอนที่ตรงนี้เลยตั้งแต่แรก ไม่งั้นที่นอนต้องอุ่นๆ

“หรือว่าเตียงถัดไป” วิมลเดินออกไปดู .............. ทุกเตียงทั้งหน้าและหลังทุกเตียงปิดม่านเงียบกันหมด วิมลจึงเดินกลับมานอนต่อ นอนครุ่นคิดเพราะเธอมั่นใจว่าเสียงมันมาจากเตียงบนของเธอที่แหละ พยายามไม่คิดมากข่มตานอนต่อ พอเคริ้มๆเอาอีกแล้ว แต่คราวนี้มาเป็นเสียงผู้หญิงร้องไห้เบาๆ ดังมาจากข้างบนเหมือนเดิม วิมลเงี่ยหูฟัง เป็นเสียงสะอื้นดังอยู่ตลอดเวลา แล้วเสียงเตียงสั่นก็ตามมา เริ่มสั่นแรงขึ้นเรื่อยๆจนเตียงที่วิมลนอนอยู่ก็สั่นตาม วิมลพยายามจะลุกออกจากเตียง แต่ลุกไม่ขึ้นเหมือนอาการโดนผีอำ คือรู้สึกตัวแต่ขยับไม่ได้ แล้ววิมลก็เห็นร่างรางๆของผู้หญิงตัวเล็ก ผมยาว ไต่บันไดจากเตียงบนลงมา แล้วขึ้นมาบนเตียงที่วิมลนอนอยู่ วิมลพยายามเบียดตัวหนี ร่างนั้นก็เอื้อมมือมานอนโอบร่างของวิมล แล้วสั่นร่างของวิมลอย่างแรง จนเตียงก็สั่นตาม วิมลพยายามกรีดร้อง แต่เสียงมันก็ไม่ออก วิมลจึงสวดมนต์ในใจแทน แล้วก็หลุด ขยับร่างได้ลุกขึ้นนั่งกลางเตียง เหงื่อไหลโชก

วิมลลุกไปห้องน้ำล้างหน้าล้างตา เดินออกห้องน้ำมาเจอพนักงานมาเก็บเตียงพอดี ก็เลยถามพนักงานว่า เตียงบนมีลูกค้าไหม พนักงานบอกไม่มี วิมลก็เลยมั่นใจว่าไม่ได้ละเมอหรือคิดไปเอง แล้ววิมลก็เล่าเหตุการณ์ให้พนักงานฟัง พนักงานบอกว่า

“ปีก่อนมีลูกค้าผู้หญิงเป็นโรคลมชัก มาขึ้นขบวนนี้แหละแต่จำไม่ได้ว่าเตียงไหน แล้วคืนนั้นลูกค้าอาการกำริบ จึงช่วยกันปฐมพยาบาลแล้วให้นายสถานีพาส่ง รพ.ที่ใกล้ที่สุดแต่ได้ข่าวตามมาว่าเสียชีวิตที่ รพ.”

วิมลเข้าใจละว่าทำไมเตียงถึงสั่น พอรถถึงสถานีที่จะลง วิมลก็รีบลงแล้วเอาของกินที่ซื้อมาในกระเป๋าแล้วหาซื้อน้ำเปล่ามา วิ่งตรงไปยังต้นไม้ที่ใกล้ๆสถานีแล้วแผ่เมตตา กรวดน้ำไปให้ จากนั้นมาวิมลก็เข็ดไม่ขึ้นรถไฟอีกเลย ยอมนั่งรถทัวร์แล้วต่อรถเข้าบ้านอีกทีดีกว่า

เรื่องราวก็จบลงเพียงเท่านี้ โปรดใช้วิจารณญาณด้วยนะครับ สวัสดีครับ.
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่