
HELLO EVERYONE!! (LITTLESAMUI TRIP)

สวัสดีค่ะ ทุกคน

เรามารีวิวเที่ยวเกาหลีค่ะ เที่ยวมานานแล้วแหละตั้งแต่ปีที่แล้ว แต่เพิ่งมาเขียนรีวิว อิอิ
ทริปที่จัดเองไปเองเที่ยวเองค่ะ ไปกันแค่สองคนกับเพื่อนหญิงค่ะ(ไปหาผช 555+)
เที่ยวช่วงเดือนมีนาคม จำนวน 6 วันด้วยกัน มาเริ่มกันเถอะ!!
ก่อนเดินทางเราได้หาข้อมูลค่ะ เรื่องการเดินทาง บัตรโดยสาร ที่พัก และสถานที่น่าสนใจต่างๆ
เราได้ใช้ แอป "
Couchsurfing" เป็นแอปที่หาโซฟานอนฟรีที่คนแถวยุโรปใช้กัน แต่เราใช้ในนี้หา
เลยได้ HOST ชาวเกาหลี ชื่อ น้ามุนจา (ต้องขอบคุณคุณน้ามาก เพราะคุณน้าช่วยนำเที่ยวเราหลายที่จริง ต้องตามไปดูกันค่ะ)
ติดต่อนางได้นะคะ หากใครอยากจะเที่ยวเกาหลีแบบเข้าถึง REAL LIFESTYLE จริงๆๆ
FACEBOOK:
https://web.facebook.com/munja.im
และแอปเดินทางที่เราใช้ คือตัวนี้ค่ะ แอป "
NAVER MAP" เพื่อนเกาหลีแนะนำให้ใช้คือดีจริงๆ ถ้าพิมพ์เกาหลีเป็นด้วยก็จะดีมากเพราะว่าแม่นสุดๆ ไม่พาเราหลงกันเลย เวลาตรงตามในแอปเป๊ะ เพื่อนตายเลยทีเดียว
วันเดินทาง:
เชื่อใจวางใจเดินทางทั้งนี้กับ AIRASIA ค่ะ ไฟล์
XJ708 ตรงไปที่โซลกันเลย
พอถึงแล้ว สิ่งแรกที่ทำคือการซื้อ บัตรโดยสาร
T-MONEY ค่ะ
แล้วก็เดินทางจากสถานบินโดยรถบัสเพื่อที่จะเข้าไปในโซล รถขับข้ามสะพานข้ามมหาสมุทร อันยาวไกล-----------
ถึงในเมือง แล้วเดินทางด้วยรถเมล์เพื่อไปที่พัก เดินไปแค่นิดเดียวก็ถึงคอนโดที่พักของน้ามุนจาแล้ว (เหมือนในซีรี่เลยค้าาา)
ประตูห้องมุนจามี ให้ใส่รหัสหรือสแกนนิ้วมือด้วย อยากเอามาไว้ที่ห้องเราบ้างจุงเบย^^
เราเดินทางไปถึงประมาณเย็นๆแล้ว คุณน้าเลยจะพาเราไปกินอาหารสไตล์เกาหลีกันหน่อย เปิดด้วย
บูลโกกี(เนื้อย่างเกาหลีนี่เอง!!) อร่อยเหาะ~~ ผักสดนี่หยิบไม่อั้นค่ะ กิมจิมีให้เลือกเป็นสิบอย่าง สุดยอดไปเลย

และเราก็กลับไปนอนเก็บพลังสำหรับการเดินทางวันพรุ่งนี้
#DAY 1:
เราตื่นกันแต่เช้าค่ะ อากาศไม่หนาวมากแต่ก็หนาวววค่ะ มาแต่งตัวชุดฮันบกกัน สวยม้วกกกก~~~~
น้ามุนจามีชุดฮันบกสวยให้เช่าด้วยค่ะ เพราะว่าสถานที่ที่เราไปกันวันนี้เข้ากับชุดมากกกก
ทั้งแต่งตัวและทำผม สนุกสนานทีเดียว แล้วพอสวยกันทุกคนแล้วก็ออกเดินทางกัน
ก่อนที่เราจะไปถึงสถานที่ปลายทางนั้น น้ามุนจาได้แวะให้เราทานอาหารเที่ยง นั่นก็คือ
ต้มซุปกระดูกวัว ว้าววววว
เมื่ออิ่มท้องและเราก็เดินต่อเพื่อไปถึงจุดมายของเราคือ
KOREAN FOLK VILLAGE นั่นเอง!!
บรรยายก็จะประมาณนี้ค่ะ ดูกันนนนนค่ะ
ปล.การที่เราใส่ชุดฮันบกไปครั้งนี้ก็สามารถลดหย่อนค่าเข้าได้ด้วยนะคะ
ด้านในก็จะมาการแสดง ซึ่งเค้าจะมาตารางการแสดงมาให้ว่ามีเวลาไหนบ้าง เราก็ดูเวลาและสามารถไปนั่งดูได้
*การแสดงเดินไต่บนเชือก*การแสดงบรรเลงเครื่องดนตรีประจำชาติ*การแสดงขี่ม้า*การแสดงสาธิตพิธีการแต่งงานในสมัยก่อน
นอกจากนั้นก็มีพิพิธภัณท์ ที่จัดแสดงเกี่ยวกับวัฒนธรรมเกาหลี ตั้งแต่อดีตกาล-ปัจจุบันด้วย
เวลาที่เหลือ เราก็เดินถ่ายรูป ซึ่งได้รูปไปเยอะมากกกกก น้ามุนจาเป็นช่างถ่ายรูปที่เก่งและมี Energy ตลอดเวลาค่ะ
เราใช้เวลาทั้งวันที่นั่น และ เราก็เดินทางกลับกันค่ะ
ยังมีแรงขับรถให้เราอีกนะคะ น้ามุนจา น่ารักที่สุดค่ะ
#DAY 2:
หลังจากที่วันแรกเรารบกวนน้ามุนจาเยอะ วันที่สองเราเลยตะลุยกันเองบ้างค่ะ จะได้ใช้บัตรโดยสารที่เราซื้อมากันสักทีล่ะ ^^
สถานที่ที่เราตั้งใจกันไปนั่นก็คือ
SOUL FOREST เราไปกันแต่เช้าาาา เราเลยมีการทำข้าวกล่องเป็นแซนวิสไปกินกันในสวนด้วยย
และภาระกิจของเราครั้งนี้คือการตามล่าหา
ดอกซากุระ กัน!!
ได้ภาพกันมาไม่มากค่ะ แล้วเราก็เดินทางต่อไปยังจุดหมายที่สองคือ
CHEONGGYE CHEON RIVER เดินเท้าริมแม่น้ำแสนโรแมนติก มีเพื่อนร่วมเดินเท้ากันมากมายขวักไขว้เต็มไปหมด น้ำใสราวกับกระจก เห็นปลา สาหร่าย และเป็ดน้อย สีสวย จีบกันไปมา(เป็ดน้อยอยู่บนน้ำนะคะ)
แล้วเดินเท้ากันสักพัก เราก็ถึงเวลากินค่ะ เดินไปไม่ไกลจาก ก้นหอยสีม่วง แลนด์มากร์คอันใหญ่ของเรา ก็จะเจอร้านไก่ผัดเส้นใส ที่เลืองชื่อของเกาหลี
เส้นนี่เหนียวและยาวววมาก ระวังติดคอกันนะคะ กินไก่ร้อนๆกับ โซจู อ้ากกกก สบายใจจัง

เป้าหมายต่อไปของเราคือ
CHANGDEOKGUNG PALACE แต่ระหว่างที่เราเดินไปนั้นเราเจอวัดใหญ่ใจกลางเมือง คนเยอะมากก
มาสวดมนต์ ไหว้พระ ขอพร เลยไม่ยอมที่จะแวะไปขอพรกับเค้าบ้าง (เอาหล่อๆนะคะ

รอน้องด้วยกำลังจะไปหาแล้ววว)
และแล้วก็ไปพ้น ระหว่างทางเราเดินผ่านทางซอยน่ารักค่ะ เหมือนจะเป็นซอยวัยรุ่นน่าร้ากกกกกก
สาวสวยๆ หนุ่มหล่อเต็มไปหมดเลย แต่ไม่ได้เราต้องไป
พระราชวังก่อนที่เค้าจะปิด รอก่อนนะคะ หนุ่มๆ เดี๋ยวเค้ากลับไปหาน้าาาาาาาาาาา~~
ถึงซะทีราชวัง
ซึ่งพอถึงเราเลยรู้ว่าอารมณ์สู้วันแรกไม่ได้จริงๆ
จุดหมายต่อไปของเราก็คือ ซอยอุปป้า ที่เพิ่งเดินผ่านมานั่นเอง ต้องกลับไปค่ะ ต้องกลับไป 5555+
อุปป้ายืนรอเราอยู่จริงๆๆด้วยยยย กรี๊ดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ^^ แต่ยืนจับมือกับสาวอื่นแล้วอะ เซงเบย
เดินดูอุปป้าจนตะวันลับสายตา สาวสวยอย่างเราก็ต้องบินกลับรังค่ะ แล้วค่อยเจอกันอีกนะคะ
#DAY 3:
วันที่สามเป็นวันขอพรจริงๆค่ะ เราทั้งสองชอบเรื่อง จางอกจอง มากค่ะ นั่นก็คือ พระนางฮีบิน ใครบอกว่าพระนางใจร้าย(ถ้าใครดูเวอร์ชั่นทงอี) แต่สำหรับเราพระนางทำไปทั้งหมดก็เพราะความรักค่ะ แล้วเรื่องอำนาจงะใครๆเค้าก็แช่งชิงกันอยู่แล้ว คุณทงอีก็เหอะมีคนหนุนหลังกันหมดแหละ ชิชิ
อุ้ยๆขอโทษค่ะ ดึงอารมณ์กลับค่ะ ทั้งหมดทั้งสิ้นคือเหตุผลที่เรามากันที่ สุสานแห่งนี้ค่ะ ต่อรถไฟและรสบัสกันมาค่ะ ชื่อว่า
SEOONEUNG
บรรยายกาศที่นี่สวยค่ะ คนไม่เยอะมาก เหมือนมาเดินออกกำลังกายยามเช้าาาา
ปล. อย่าลืมขอพรเรื่องคู่กับพระนางนะคะ เพราะหลังจากกลับมาเราสองคนก็ได้คู่กันเลยค่ะ แต่คู่แท้หรือคู่กรรมนี่อีกเรื่องค่ะ อิอิ
ต่อไปเราก็เดินทางกลับไปกันที่ WORLD CUP PARK ค่ะ ตอนเราคิดว่าจะได้เจอต้นหญ้าสูงๆๆๆ แต่ตอนเราไปไม่ใช่ฤดูกาลของต้นหญ้าค่ะ เลยเปลี่ยนใจเดินขึ้นเขาแทนแล้วกัน 555555+
หลังจากนั้นก็นัดเจอเพื่อนเกาหลีและคนไทยที่มาเรียนที่เกาหลีค่ะ ก็สังสรรค์กันตามประสาเด็กเกาหลีด้วยกัน(เหรอ)
*ดื่มๆๆ โซจู*กินต็อกบอกกี*นอนจิมชิลบัง(ซาวน่าเกาหลี)*อาบน้ำเปลือยกายกับเพื่อนสาว*นอนหลับเมาเอ๋ค่ะ
#DAY 4:
ตื่นขึ้นมาเราก็เดินค่ะ เดินนนนไปช้อปปิ้งกัน เพื่อนเกาหลีพาไป เราก็จะจำชื่อแหล่งไม่ได้ค่ะ ขอโทษนะคะ ทีหลังอย่าให้เค้าพาไปค่ะให้ไปเอง

หลังจากแยกย้ายกับเพื่อน บอกว่าหากเพื่อนมาไทยอยากลืมบอกกันเค้าจะพาไปช้อปที่ไทยนะจ๊ะ ^^
เราเดินทางไปตามแผนของเราต่อค่ะหลังจากออกจากแผนการไปนานแล้ว จุดหมายต่อไปคือ
IHWA MURAL VILLAGE
เดินทางด้วยรถไฟค่ะครั้งนี้ สัมผัสถึงการเบียดเสียด(สบไหล่และอกของอุปป้า) มันช่างอบอุ่นมากค่ะ
และเราก็ลงที่สถานี IHWA UNIVERSITY กลับเข้าสู่รั้วมหาลัยกันอีกครั้ง มองตึกเรียนที่คุ้นเคย เราเคยเดินจับมือเค้าตรงนั้น ฟินจริงๆ
ยังค่ะ ยังไม่ถึงจุดหมายเราค่ะ เราต้องลงสถานีต่อไปอีกค่ะ และเราก็ถึง จุดหมายค่ะ คือดีดี๊ดี๊ดี๊ดี
[CR] AUTO PHOBIA: TRIP IN KOREA 6 DAYS =20,000 BAHT
เรามารีวิวเที่ยวเกาหลีค่ะ เที่ยวมานานแล้วแหละตั้งแต่ปีที่แล้ว แต่เพิ่งมาเขียนรีวิว อิอิ
ทริปที่จัดเองไปเองเที่ยวเองค่ะ ไปกันแค่สองคนกับเพื่อนหญิงค่ะ(ไปหาผช 555+)
เที่ยวช่วงเดือนมีนาคม จำนวน 6 วันด้วยกัน มาเริ่มกันเถอะ!!
ก่อนเดินทางเราได้หาข้อมูลค่ะ เรื่องการเดินทาง บัตรโดยสาร ที่พัก และสถานที่น่าสนใจต่างๆ
เราได้ใช้ แอป "Couchsurfing" เป็นแอปที่หาโซฟานอนฟรีที่คนแถวยุโรปใช้กัน แต่เราใช้ในนี้หา
เลยได้ HOST ชาวเกาหลี ชื่อ น้ามุนจา (ต้องขอบคุณคุณน้ามาก เพราะคุณน้าช่วยนำเที่ยวเราหลายที่จริง ต้องตามไปดูกันค่ะ)
ติดต่อนางได้นะคะ หากใครอยากจะเที่ยวเกาหลีแบบเข้าถึง REAL LIFESTYLE จริงๆๆ
FACEBOOK: https://web.facebook.com/munja.im
และแอปเดินทางที่เราใช้ คือตัวนี้ค่ะ แอป "NAVER MAP" เพื่อนเกาหลีแนะนำให้ใช้คือดีจริงๆ ถ้าพิมพ์เกาหลีเป็นด้วยก็จะดีมากเพราะว่าแม่นสุดๆ ไม่พาเราหลงกันเลย เวลาตรงตามในแอปเป๊ะ เพื่อนตายเลยทีเดียว
เชื่อใจวางใจเดินทางทั้งนี้กับ AIRASIA ค่ะ ไฟล์ XJ708 ตรงไปที่โซลกันเลย
พอถึงแล้ว สิ่งแรกที่ทำคือการซื้อ บัตรโดยสาร T-MONEY ค่ะ
แล้วก็เดินทางจากสถานบินโดยรถบัสเพื่อที่จะเข้าไปในโซล รถขับข้ามสะพานข้ามมหาสมุทร อันยาวไกล-----------
ถึงในเมือง แล้วเดินทางด้วยรถเมล์เพื่อไปที่พัก เดินไปแค่นิดเดียวก็ถึงคอนโดที่พักของน้ามุนจาแล้ว (เหมือนในซีรี่เลยค้าาา)
ประตูห้องมุนจามี ให้ใส่รหัสหรือสแกนนิ้วมือด้วย อยากเอามาไว้ที่ห้องเราบ้างจุงเบย^^
เราเดินทางไปถึงประมาณเย็นๆแล้ว คุณน้าเลยจะพาเราไปกินอาหารสไตล์เกาหลีกันหน่อย เปิดด้วย บูลโกกี(เนื้อย่างเกาหลีนี่เอง!!) อร่อยเหาะ~~ ผักสดนี่หยิบไม่อั้นค่ะ กิมจิมีให้เลือกเป็นสิบอย่าง สุดยอดไปเลย
เราตื่นกันแต่เช้าค่ะ อากาศไม่หนาวมากแต่ก็หนาวววค่ะ มาแต่งตัวชุดฮันบกกัน สวยม้วกกกก~~~~
น้ามุนจามีชุดฮันบกสวยให้เช่าด้วยค่ะ เพราะว่าสถานที่ที่เราไปกันวันนี้เข้ากับชุดมากกกก
ทั้งแต่งตัวและทำผม สนุกสนานทีเดียว แล้วพอสวยกันทุกคนแล้วก็ออกเดินทางกัน
ก่อนที่เราจะไปถึงสถานที่ปลายทางนั้น น้ามุนจาได้แวะให้เราทานอาหารเที่ยง นั่นก็คือ ต้มซุปกระดูกวัว ว้าววววว
เมื่ออิ่มท้องและเราก็เดินต่อเพื่อไปถึงจุดมายของเราคือ KOREAN FOLK VILLAGE นั่นเอง!!
บรรยายก็จะประมาณนี้ค่ะ ดูกันนนนนค่ะ
ปล.การที่เราใส่ชุดฮันบกไปครั้งนี้ก็สามารถลดหย่อนค่าเข้าได้ด้วยนะคะ
ด้านในก็จะมาการแสดง ซึ่งเค้าจะมาตารางการแสดงมาให้ว่ามีเวลาไหนบ้าง เราก็ดูเวลาและสามารถไปนั่งดูได้
นอกจากนั้นก็มีพิพิธภัณท์ ที่จัดแสดงเกี่ยวกับวัฒนธรรมเกาหลี ตั้งแต่อดีตกาล-ปัจจุบันด้วย
เวลาที่เหลือ เราก็เดินถ่ายรูป ซึ่งได้รูปไปเยอะมากกกกก น้ามุนจาเป็นช่างถ่ายรูปที่เก่งและมี Energy ตลอดเวลาค่ะ
เราใช้เวลาทั้งวันที่นั่น และ เราก็เดินทางกลับกันค่ะ
ยังมีแรงขับรถให้เราอีกนะคะ น้ามุนจา น่ารักที่สุดค่ะ
หลังจากที่วันแรกเรารบกวนน้ามุนจาเยอะ วันที่สองเราเลยตะลุยกันเองบ้างค่ะ จะได้ใช้บัตรโดยสารที่เราซื้อมากันสักทีล่ะ ^^
สถานที่ที่เราตั้งใจกันไปนั่นก็คือ SOUL FOREST เราไปกันแต่เช้าาาา เราเลยมีการทำข้าวกล่องเป็นแซนวิสไปกินกันในสวนด้วยย
และภาระกิจของเราครั้งนี้คือการตามล่าหา ดอกซากุระ กัน!!
ได้ภาพกันมาไม่มากค่ะ แล้วเราก็เดินทางต่อไปยังจุดหมายที่สองคือ CHEONGGYE CHEON RIVER เดินเท้าริมแม่น้ำแสนโรแมนติก มีเพื่อนร่วมเดินเท้ากันมากมายขวักไขว้เต็มไปหมด น้ำใสราวกับกระจก เห็นปลา สาหร่าย และเป็ดน้อย สีสวย จีบกันไปมา(เป็ดน้อยอยู่บนน้ำนะคะ)
แล้วเดินเท้ากันสักพัก เราก็ถึงเวลากินค่ะ เดินไปไม่ไกลจาก ก้นหอยสีม่วง แลนด์มากร์คอันใหญ่ของเรา ก็จะเจอร้านไก่ผัดเส้นใส ที่เลืองชื่อของเกาหลี
เส้นนี่เหนียวและยาวววมาก ระวังติดคอกันนะคะ กินไก่ร้อนๆกับ โซจู อ้ากกกก สบายใจจัง
เป้าหมายต่อไปของเราคือ CHANGDEOKGUNG PALACE แต่ระหว่างที่เราเดินไปนั้นเราเจอวัดใหญ่ใจกลางเมือง คนเยอะมากก
มาสวดมนต์ ไหว้พระ ขอพร เลยไม่ยอมที่จะแวะไปขอพรกับเค้าบ้าง (เอาหล่อๆนะคะ
และแล้วก็ไปพ้น ระหว่างทางเราเดินผ่านทางซอยน่ารักค่ะ เหมือนจะเป็นซอยวัยรุ่นน่าร้ากกกกกก
สาวสวยๆ หนุ่มหล่อเต็มไปหมดเลย แต่ไม่ได้เราต้องไป
พระราชวังก่อนที่เค้าจะปิด รอก่อนนะคะ หนุ่มๆ เดี๋ยวเค้ากลับไปหาน้าาาาาาาาาาา~~
ถึงซะทีราชวัง
ซึ่งพอถึงเราเลยรู้ว่าอารมณ์สู้วันแรกไม่ได้จริงๆ
จุดหมายต่อไปของเราก็คือ ซอยอุปป้า ที่เพิ่งเดินผ่านมานั่นเอง ต้องกลับไปค่ะ ต้องกลับไป 5555+
อุปป้ายืนรอเราอยู่จริงๆๆด้วยยยย กรี๊ดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ^^ แต่ยืนจับมือกับสาวอื่นแล้วอะ เซงเบย
เดินดูอุปป้าจนตะวันลับสายตา สาวสวยอย่างเราก็ต้องบินกลับรังค่ะ แล้วค่อยเจอกันอีกนะคะ
วันที่สามเป็นวันขอพรจริงๆค่ะ เราทั้งสองชอบเรื่อง จางอกจอง มากค่ะ นั่นก็คือ พระนางฮีบิน ใครบอกว่าพระนางใจร้าย(ถ้าใครดูเวอร์ชั่นทงอี) แต่สำหรับเราพระนางทำไปทั้งหมดก็เพราะความรักค่ะ แล้วเรื่องอำนาจงะใครๆเค้าก็แช่งชิงกันอยู่แล้ว คุณทงอีก็เหอะมีคนหนุนหลังกันหมดแหละ ชิชิ
อุ้ยๆขอโทษค่ะ ดึงอารมณ์กลับค่ะ ทั้งหมดทั้งสิ้นคือเหตุผลที่เรามากันที่ สุสานแห่งนี้ค่ะ ต่อรถไฟและรสบัสกันมาค่ะ ชื่อว่า SEOONEUNG
บรรยายกาศที่นี่สวยค่ะ คนไม่เยอะมาก เหมือนมาเดินออกกำลังกายยามเช้าาาา
ปล. อย่าลืมขอพรเรื่องคู่กับพระนางนะคะ เพราะหลังจากกลับมาเราสองคนก็ได้คู่กันเลยค่ะ แต่คู่แท้หรือคู่กรรมนี่อีกเรื่องค่ะ อิอิ
ต่อไปเราก็เดินทางกลับไปกันที่ WORLD CUP PARK ค่ะ ตอนเราคิดว่าจะได้เจอต้นหญ้าสูงๆๆๆ แต่ตอนเราไปไม่ใช่ฤดูกาลของต้นหญ้าค่ะ เลยเปลี่ยนใจเดินขึ้นเขาแทนแล้วกัน 555555+
หลังจากนั้นก็นัดเจอเพื่อนเกาหลีและคนไทยที่มาเรียนที่เกาหลีค่ะ ก็สังสรรค์กันตามประสาเด็กเกาหลีด้วยกัน(เหรอ)
ตื่นขึ้นมาเราก็เดินค่ะ เดินนนนไปช้อปปิ้งกัน เพื่อนเกาหลีพาไป เราก็จะจำชื่อแหล่งไม่ได้ค่ะ ขอโทษนะคะ ทีหลังอย่าให้เค้าพาไปค่ะให้ไปเอง
หลังจากแยกย้ายกับเพื่อน บอกว่าหากเพื่อนมาไทยอยากลืมบอกกันเค้าจะพาไปช้อปที่ไทยนะจ๊ะ ^^
เราเดินทางไปตามแผนของเราต่อค่ะหลังจากออกจากแผนการไปนานแล้ว จุดหมายต่อไปคือ IHWA MURAL VILLAGE
เดินทางด้วยรถไฟค่ะครั้งนี้ สัมผัสถึงการเบียดเสียด(สบไหล่และอกของอุปป้า) มันช่างอบอุ่นมากค่ะ
และเราก็ลงที่สถานี IHWA UNIVERSITY กลับเข้าสู่รั้วมหาลัยกันอีกครั้ง มองตึกเรียนที่คุ้นเคย เราเคยเดินจับมือเค้าตรงนั้น ฟินจริงๆ
ยังค่ะ ยังไม่ถึงจุดหมายเราค่ะ เราต้องลงสถานีต่อไปอีกค่ะ และเราก็ถึง จุดหมายค่ะ คือดีดี๊ดี๊ดี๊ดี
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้