ไม่ว่าโลกแห่งความจริง หรือ ความฝันสุดท้ายแล้วเราก็ต้องตื่นมาเพื่อเผชิญหน้ากับมันอยู่ดี
หญิงสาวผู้มีปม กับ ชายหนุ่มผู้มีปัญหา เข้าร่วมการทดสอบการรักษาแบบใหม่ ที่จะเปลี่ยนชีวิตพวกเขาไปตลอดกาล
- ถ้าใครชอบผลงานไซไฟแบบ สุดขั้น หรือชอบงานที่เรียกได้ว่าใส่ลูกบ้าของผู้ไปสุดขั้นแล้ว เรื่องนี้ผมขอแนะนำอย่างยิ่งครับ
- ซีรีส์สนุกมากๆรวมหลายอารมณ์ไว้ภายในเรื่องเดียวแต่ต้องยอมรับอย่างหนึ่งว่า ช่วงแรก ของซีรีส์ค่อนข้างหนัก และ ดูเครียดๆไปนิด ( ใครจะชมต้องผ่านช่วงแรกของเรื่องให้ได้นะครับ ) แต่หลังจากนั้นก็เปี่ยมไปด้วยความสนุกปนดาร์กแบบ non - stop เราจะได้เห็นการเติบโตของตัวละครไปเรื่อยๆจนบทสรุป
- สร้างโลกของตัวเองได้สวยสดมีสไตล์มีความ blade runner แต่ก็มีแนวทางของตัวเอง ( จุดนี้ชอบและเซอร์ไพร์สมากๆ )
- นอกเหนือจากงาน production design แล้ว ในส่วนของตัวบท ต้องเรียกว่าวางมาอย่างฉลาดและปั่นป่วนตามชื่อซีรีส์ครับ หากดูจนถึง ep 9 คุณอาจต้องยืน standing ovation เลยละ
- แต่ที่จะชมมากที่สุดต้องยกให้สาขาการแสดงครับ มันเหมือนออกแบบมาเพื่อให้ทุกคนเข้าชิงรางวัลอย่าง emmy award หรือ golden globe อะไรแบบนั้น เพราะหลายๆคนในเรื่อง Jonah Hill / Emma Stone ต้องรับบทที่ท้าทายและแตกต่างไปจากตัวเองมากๆต้องรับบทหลายตัวละครในเรื่องเดียวกัน แต่จะอะไรยังไงไม่ขอเล่าต่อนะครับ ซึ่งทั้งสองคนนี้เล่นได้แตกต่าง เเละ ยอดเยี่ยมมากๆ ในฐานะที่ผมเป็น fanclub emma stone คนนึง ขอบอกเลยว่า ซีรีส์เรื่องนี้เหมือนอีกขั้นทางการแสดงของเธอจริงๆ หลังจากคว้ารางวัล oscar แล้ว สังเกตได้เลยว่าเธอค่อนข้างรับบทที่ท้าทายตัวเองขึ้นเรื่อยๆ สุดยอด และ ทำได้ดีมากๆด้วย อีกคนคือ jonah hill ที่ต้องลดน้ำหนักต้องเปลี่ยนบทบาทจากชายผู้ร่าเริงมาเป็นซึมๆได้ดีมากและไม่น่าเชื่อว่าฉากเล่นคิวบิคจะทำผมน้ำตาไหลได้ แต่ที่สะพรึงสุดคงหนีไม่พ้น sally field ที่ออกมานิดนึงแต่สะพรึงมากและเป็นตัวเต็งสมทบหญิงเวทีไหนก็ได้สบายๆ เพราะอะไร....ไปดูเอารวมถึง นักแสดงคนอื่นๆก็แสดงได้ดีมากๆจริงๆ
- แต่ข้อเสียของไหม มีครับ ช่วงแรกผมคิดว่าเปิดเรื่องมาหนักพอสมควรใครเบื่ออาจล้มเลิกไปเลยทั้ง ความดราม่า และ ในเรื่องของการโยนทฤษฎีต่างๆเข้ามามากมาย และ ผ่านไปสักระยะจะมีช่วงเอื่อยๆๆ แต่หลังจากนั้นล่ะแม่เจ้าคุณเอ้ย มันส์
- มีฉากชวนนึกถึง 2001 a space odyssey ด้วยหรือล้อเลียนก็ไม่รู้
- มีความเป็นตัวของตัวเองสูงมากครับใครไม่ชอบอาจเกลียดมัน ไซไฟดาร์กๆอาจมีตรรกะแปลกๆมาด้วยแต่รวมๆแล้วมันกลมกล่อมมันดีมาก
สรุป ประทับใจครับ A-
ดูจบแล้วหลายคนอาจมีแรงบันดาลใจในการฝ่าฟันกับความทุกข์ก็ได้ครับ
Emma Stone daily 04 : ดูจบแล้วคันปากมินิรีวิว Netflix Maniac ( no spoil )
ไม่ว่าโลกแห่งความจริง หรือ ความฝันสุดท้ายแล้วเราก็ต้องตื่นมาเพื่อเผชิญหน้ากับมันอยู่ดี
หญิงสาวผู้มีปม กับ ชายหนุ่มผู้มีปัญหา เข้าร่วมการทดสอบการรักษาแบบใหม่ ที่จะเปลี่ยนชีวิตพวกเขาไปตลอดกาล
- ถ้าใครชอบผลงานไซไฟแบบ สุดขั้น หรือชอบงานที่เรียกได้ว่าใส่ลูกบ้าของผู้ไปสุดขั้นแล้ว เรื่องนี้ผมขอแนะนำอย่างยิ่งครับ
- ซีรีส์สนุกมากๆรวมหลายอารมณ์ไว้ภายในเรื่องเดียวแต่ต้องยอมรับอย่างหนึ่งว่า ช่วงแรก ของซีรีส์ค่อนข้างหนัก และ ดูเครียดๆไปนิด ( ใครจะชมต้องผ่านช่วงแรกของเรื่องให้ได้นะครับ ) แต่หลังจากนั้นก็เปี่ยมไปด้วยความสนุกปนดาร์กแบบ non - stop เราจะได้เห็นการเติบโตของตัวละครไปเรื่อยๆจนบทสรุป
- สร้างโลกของตัวเองได้สวยสดมีสไตล์มีความ blade runner แต่ก็มีแนวทางของตัวเอง ( จุดนี้ชอบและเซอร์ไพร์สมากๆ )
- นอกเหนือจากงาน production design แล้ว ในส่วนของตัวบท ต้องเรียกว่าวางมาอย่างฉลาดและปั่นป่วนตามชื่อซีรีส์ครับ หากดูจนถึง ep 9 คุณอาจต้องยืน standing ovation เลยละ
- แต่ที่จะชมมากที่สุดต้องยกให้สาขาการแสดงครับ มันเหมือนออกแบบมาเพื่อให้ทุกคนเข้าชิงรางวัลอย่าง emmy award หรือ golden globe อะไรแบบนั้น เพราะหลายๆคนในเรื่อง Jonah Hill / Emma Stone ต้องรับบทที่ท้าทายและแตกต่างไปจากตัวเองมากๆต้องรับบทหลายตัวละครในเรื่องเดียวกัน แต่จะอะไรยังไงไม่ขอเล่าต่อนะครับ ซึ่งทั้งสองคนนี้เล่นได้แตกต่าง เเละ ยอดเยี่ยมมากๆ ในฐานะที่ผมเป็น fanclub emma stone คนนึง ขอบอกเลยว่า ซีรีส์เรื่องนี้เหมือนอีกขั้นทางการแสดงของเธอจริงๆ หลังจากคว้ารางวัล oscar แล้ว สังเกตได้เลยว่าเธอค่อนข้างรับบทที่ท้าทายตัวเองขึ้นเรื่อยๆ สุดยอด และ ทำได้ดีมากๆด้วย อีกคนคือ jonah hill ที่ต้องลดน้ำหนักต้องเปลี่ยนบทบาทจากชายผู้ร่าเริงมาเป็นซึมๆได้ดีมากและไม่น่าเชื่อว่าฉากเล่นคิวบิคจะทำผมน้ำตาไหลได้ แต่ที่สะพรึงสุดคงหนีไม่พ้น sally field ที่ออกมานิดนึงแต่สะพรึงมากและเป็นตัวเต็งสมทบหญิงเวทีไหนก็ได้สบายๆ เพราะอะไร....ไปดูเอารวมถึง นักแสดงคนอื่นๆก็แสดงได้ดีมากๆจริงๆ
- แต่ข้อเสียของไหม มีครับ ช่วงแรกผมคิดว่าเปิดเรื่องมาหนักพอสมควรใครเบื่ออาจล้มเลิกไปเลยทั้ง ความดราม่า และ ในเรื่องของการโยนทฤษฎีต่างๆเข้ามามากมาย และ ผ่านไปสักระยะจะมีช่วงเอื่อยๆๆ แต่หลังจากนั้นล่ะแม่เจ้าคุณเอ้ย มันส์
- มีฉากชวนนึกถึง 2001 a space odyssey ด้วยหรือล้อเลียนก็ไม่รู้
- มีความเป็นตัวของตัวเองสูงมากครับใครไม่ชอบอาจเกลียดมัน ไซไฟดาร์กๆอาจมีตรรกะแปลกๆมาด้วยแต่รวมๆแล้วมันกลมกล่อมมันดีมาก
สรุป ประทับใจครับ A-
ดูจบแล้วหลายคนอาจมีแรงบันดาลใจในการฝ่าฟันกับความทุกข์ก็ได้ครับ