https://www.facebook.com/poohi.patticha/videos/2247231255318941/?hc_ref=ARSj2wRE943n_y75VsMjUc98qK6scYPQHEvLtmeFGI4ArGsV8xhgMYTpqYJdD6Bv7V0&fref=nf&__xts__
“ชนแล้วหนี” วิถีทางแห่งช่องว่างกฏหมายไทย
เหตุการณ์สดๆร้อนๆ ที่เพิ่งเกิดขึ้นกับคนใกล้ตัว อันเป็นเรื่องราวของการ ชนแล้วหนี (ตรงกับคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 01.10 น.)
เหตุเกิดบนเส้นทางมุ่งหน้าสะพานพระราม 7 ใกล้บริเวณวัดเสาหิน (บิ๊กซี วงศ์สว่าง)
ผู้บาดเจ็บ 2 ราย โดนรถยนต์ที่ขับขี่ด้วยความเร็ว ชนเข้าด้านท้ายของมอเตอร์ไซด์จนได้รับความเสียหายและบาดเจ็บอย่างรุนแรง
ซึ่งในขณะนี้ แม้ผู้บาดเจ็บทั้ง 2 ราย จะอยู่ในความดูแลของแพทย์ และได้รับการวินิจฉัย โดยทั้งคู่ยังอยู่ในระยะที่ต้องเฝ้าสังเกตุการณ์
คนหนึ่ง มีเคสต้องเข้ารับการผ่าตัดเพิ่มเติม ได้รับบาดเจ็บรุนแรงบริเวณช่วงอกและซี่โครง
อีกคนหนึ่ง ต้องรอดูอาการ เพราะได้รับการกระทบกระเทือนทางสมอง
แต่แล้วในกรณีนี้กลับมีบางอย่างที่ผิดเพี้ยนไป!!!
แม้เบื้องต้น ในวันถัดมาจะมีผู้เข้ามาแจ้งความ เพื่อลงบันทึกประจำวัน โดยยอมรับว่า เกิดจากอาการหลับใน และเป็นผู้ขับขี่รถยนต์ชนจริง พร้อมรับผิดชอบความเสียหายดังกล่าวทุกกรณี
แต่ดุลยพินิจจากทางตำรวจ และทางประกันของผู้ขับขี่รถดังกล่าว กลับพิจารณาตามหลักฐานเบื้องต้นว่า อาจจะมิใช่รถคันนี้ที่มีส่วนในการเฉี่ยวชนแต่อย่างใด
เพราะเมื่อตรวจสอบสภาพความเสียหายที่เกิดขึ้นกับทั้งรถมอเตอร์ไซด์ และรถยนต์แล้ว
กลับระบุว่า มีร่องรอยของการถูกชนที่ไม่ตรงกัน!
รวมทั้งคำอธิบายของผู้ขับขี่รถยนต์ ที่ไม่สามารถระบุร่องรอยการชนได้ว่า เกิดจากสาเหตุใด เพราะอยู่ในภาวะของการหลับใน
นั่นหมายความว่า ในขณะนี้
- เจ้าของรถดังกล่าว รอการพิสูจน์หลักฐานจากทางเจ้าหน้าที่ ว่า ตนคือผู้ที่กระทำผิดจริงหรือไม่ จากนั้นจึงจะเริ่มดำเนินการเข้าช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ พร้อมเคลมค่าใช้จ่ายจากทางประกันต่อไป
- ไม่สามารถชี้ชัดได้ว่า ใครคือคู่กรณี และต้องมาทำการรับผิดชอบต่อการกระทำดังกล่าว
- น้องผู้บาดเจ็บ จำต้องรอความหวังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ให้สามารถหาหลักฐานมาชี้ชัดผู้กระทำความผิดให้จงได้
- ทางฝั่งญาติผู้เสียหาย ก็ไม่สามารถกระทำการอันใดได้ เพราะการหาหลักฐาน และขอเปิดกล้องวงจรปิดนั้น ต้องได้รับการอนุญาติจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ซึ่งเหตุนี้เอง จึงมีคำถามมากมาย พร้อมเผยช่องโหว่หลายประการของกฎหมายในบ้านเรา
ว่าแท้จริงแล้ว... ขึ้นอยู่กับเหตุปัจจัยอะไรบ้าง?
ที่ทำให้... ผู้กระทำความผิด ไม่จำเป็นต้องออกมาแสดงความรับผิดชอบโดยทันที
ที่ทำให้... ความยุติธรรมมีอันต้องล่าช้าออกไป เพราะต้องรอดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมายอันซับซ้อน
ที่ทำให้... ผู้ได้รับความเสียหาย กลับต้องมาเรียกร้องสิ่งที่พึงจะได้รับ ด้วยแรงกายและจิดใจอันเข้มแข็งด้วยตัวเอง
ที่ทำให้... เมืองไทยยังคงติดกับดักใน “จรรยาบรรณทางความคิด” ของตัวบุคคล มากกว่า ความศักดิ์สิทธิ์ทางกฎหมายอันมีอนุภาพแค่ในอากาศ
#ขอให้ผู้บาดเจ็บหายโดยไว
#เป็นกำลังใจให้ญาติผู้เสียหายทุกท่าน
#RIPแด่ความขลาดของผู้ขับขี่รถยนต์คันดังกล่าว
#RIPแด่จิตวิญญาณของผู้ผดุงความยุติธรรม?
#กฎหมายไทยอยู่ที่ใครคือคนใช้มัน
วอนสังคมพิพากษา
“ชนแล้วหนี” วิถีทางแห่งช่องว่างกฏหมายไทย
เหตุการณ์สดๆร้อนๆ ที่เพิ่งเกิดขึ้นกับคนใกล้ตัว อันเป็นเรื่องราวของการ ชนแล้วหนี (ตรงกับคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 01.10 น.)
เหตุเกิดบนเส้นทางมุ่งหน้าสะพานพระราม 7 ใกล้บริเวณวัดเสาหิน (บิ๊กซี วงศ์สว่าง)
ผู้บาดเจ็บ 2 ราย โดนรถยนต์ที่ขับขี่ด้วยความเร็ว ชนเข้าด้านท้ายของมอเตอร์ไซด์จนได้รับความเสียหายและบาดเจ็บอย่างรุนแรง
ซึ่งในขณะนี้ แม้ผู้บาดเจ็บทั้ง 2 ราย จะอยู่ในความดูแลของแพทย์ และได้รับการวินิจฉัย โดยทั้งคู่ยังอยู่ในระยะที่ต้องเฝ้าสังเกตุการณ์
คนหนึ่ง มีเคสต้องเข้ารับการผ่าตัดเพิ่มเติม ได้รับบาดเจ็บรุนแรงบริเวณช่วงอกและซี่โครง
อีกคนหนึ่ง ต้องรอดูอาการ เพราะได้รับการกระทบกระเทือนทางสมอง
แต่แล้วในกรณีนี้กลับมีบางอย่างที่ผิดเพี้ยนไป!!!
แม้เบื้องต้น ในวันถัดมาจะมีผู้เข้ามาแจ้งความ เพื่อลงบันทึกประจำวัน โดยยอมรับว่า เกิดจากอาการหลับใน และเป็นผู้ขับขี่รถยนต์ชนจริง พร้อมรับผิดชอบความเสียหายดังกล่าวทุกกรณี
แต่ดุลยพินิจจากทางตำรวจ และทางประกันของผู้ขับขี่รถดังกล่าว กลับพิจารณาตามหลักฐานเบื้องต้นว่า อาจจะมิใช่รถคันนี้ที่มีส่วนในการเฉี่ยวชนแต่อย่างใด
เพราะเมื่อตรวจสอบสภาพความเสียหายที่เกิดขึ้นกับทั้งรถมอเตอร์ไซด์ และรถยนต์แล้ว
กลับระบุว่า มีร่องรอยของการถูกชนที่ไม่ตรงกัน!
รวมทั้งคำอธิบายของผู้ขับขี่รถยนต์ ที่ไม่สามารถระบุร่องรอยการชนได้ว่า เกิดจากสาเหตุใด เพราะอยู่ในภาวะของการหลับใน
นั่นหมายความว่า ในขณะนี้
- เจ้าของรถดังกล่าว รอการพิสูจน์หลักฐานจากทางเจ้าหน้าที่ ว่า ตนคือผู้ที่กระทำผิดจริงหรือไม่ จากนั้นจึงจะเริ่มดำเนินการเข้าช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ พร้อมเคลมค่าใช้จ่ายจากทางประกันต่อไป
- ไม่สามารถชี้ชัดได้ว่า ใครคือคู่กรณี และต้องมาทำการรับผิดชอบต่อการกระทำดังกล่าว
- น้องผู้บาดเจ็บ จำต้องรอความหวังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ให้สามารถหาหลักฐานมาชี้ชัดผู้กระทำความผิดให้จงได้
- ทางฝั่งญาติผู้เสียหาย ก็ไม่สามารถกระทำการอันใดได้ เพราะการหาหลักฐาน และขอเปิดกล้องวงจรปิดนั้น ต้องได้รับการอนุญาติจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ซึ่งเหตุนี้เอง จึงมีคำถามมากมาย พร้อมเผยช่องโหว่หลายประการของกฎหมายในบ้านเรา
ว่าแท้จริงแล้ว... ขึ้นอยู่กับเหตุปัจจัยอะไรบ้าง?
ที่ทำให้... ผู้กระทำความผิด ไม่จำเป็นต้องออกมาแสดงความรับผิดชอบโดยทันที
ที่ทำให้... ความยุติธรรมมีอันต้องล่าช้าออกไป เพราะต้องรอดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมายอันซับซ้อน
ที่ทำให้... ผู้ได้รับความเสียหาย กลับต้องมาเรียกร้องสิ่งที่พึงจะได้รับ ด้วยแรงกายและจิดใจอันเข้มแข็งด้วยตัวเอง
ที่ทำให้... เมืองไทยยังคงติดกับดักใน “จรรยาบรรณทางความคิด” ของตัวบุคคล มากกว่า ความศักดิ์สิทธิ์ทางกฎหมายอันมีอนุภาพแค่ในอากาศ
#ขอให้ผู้บาดเจ็บหายโดยไว
#เป็นกำลังใจให้ญาติผู้เสียหายทุกท่าน
#RIPแด่ความขลาดของผู้ขับขี่รถยนต์คันดังกล่าว
#RIPแด่จิตวิญญาณของผู้ผดุงความยุติธรรม?
#กฎหมายไทยอยู่ที่ใครคือคนใช้มัน