สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 8
ปัญหาของเรื่องนี้คือคุณไม่ยอมตัดใจ
ผู้ชาย ต่อให้เป็นสามีเก่าหรือแฟนเก่า มานอนด้วยกันอีกที
ก็ไม่ต่างกับนอนกับชายแปลกหน้า คือไม่มีอะไรแน่นอน
ตอนแรกที่เจอใหม่ ๆ ผู้ชายคงรู้สึกดี ๆ กับคุณ แต่เค้ายังไม่พร้อมที่จะเป็นพ่อ
พอคุณปล่อยให้ท้อง เลยเสียความรู้สึกด้วย เครียดและตกใจ พาลหมดรักคุณไปเลย
ยิ่งมามีปากเสียงกันด้วย เพราะคุณคาดหวังให้เค้ามาอยู่เป็นผัวเมียกัน ซึ่งมันกดดันเขา
ตัดใจไม่ได้เหรอคะคุณ ถ้าคุณรักลูก ก็รับสภาพเถอะค่ะ เลิกยึดติดคาดหวังว่าจะเขาจะต้อง
กลับมามีคุณ ใจเค้าไปไกลแล้ว แต่กระนั้น เราก็ยังเห็นว่าเค้ามีความรับผิดชอบนะคะ
จ่ายทุกอย่างที่เป็นค่าลูก รวมทั้งค่าเช่าบ้านด้วย นี่ก็ดีแล้วค่ะ เป็นเราก็โอเคนะ
เราคงเป็นเพื่อนกับเค้าไป ไหน ๆ เค้าก็จ่ายค่าเลี้ยงดูแล้วเราก็ไม่ห่วงล่ะ
เราก็จะไปหางานทำ มีชีวิตใหม่ของเราไป เค้าจะไปมีแฟนใหม่อะไรก็เรื่องของเค้า
เพราะเราเจอใครดี ๆ เราก็เริ่มใหม่เหมือนกัน
ที่เราแนะนำนี่คือเราดูสถานะของคุณทั้งคู่ด้วย ถ้าคุณแต่งงานกันแล้วสามีขอเลิก
เราจะแนะอีกแบบ
ผู้ชาย ต่อให้เป็นสามีเก่าหรือแฟนเก่า มานอนด้วยกันอีกที
ก็ไม่ต่างกับนอนกับชายแปลกหน้า คือไม่มีอะไรแน่นอน
ตอนแรกที่เจอใหม่ ๆ ผู้ชายคงรู้สึกดี ๆ กับคุณ แต่เค้ายังไม่พร้อมที่จะเป็นพ่อ
พอคุณปล่อยให้ท้อง เลยเสียความรู้สึกด้วย เครียดและตกใจ พาลหมดรักคุณไปเลย
ยิ่งมามีปากเสียงกันด้วย เพราะคุณคาดหวังให้เค้ามาอยู่เป็นผัวเมียกัน ซึ่งมันกดดันเขา
ตัดใจไม่ได้เหรอคะคุณ ถ้าคุณรักลูก ก็รับสภาพเถอะค่ะ เลิกยึดติดคาดหวังว่าจะเขาจะต้อง
กลับมามีคุณ ใจเค้าไปไกลแล้ว แต่กระนั้น เราก็ยังเห็นว่าเค้ามีความรับผิดชอบนะคะ
จ่ายทุกอย่างที่เป็นค่าลูก รวมทั้งค่าเช่าบ้านด้วย นี่ก็ดีแล้วค่ะ เป็นเราก็โอเคนะ
เราคงเป็นเพื่อนกับเค้าไป ไหน ๆ เค้าก็จ่ายค่าเลี้ยงดูแล้วเราก็ไม่ห่วงล่ะ
เราก็จะไปหางานทำ มีชีวิตใหม่ของเราไป เค้าจะไปมีแฟนใหม่อะไรก็เรื่องของเค้า
เพราะเราเจอใครดี ๆ เราก็เริ่มใหม่เหมือนกัน
ที่เราแนะนำนี่คือเราดูสถานะของคุณทั้งคู่ด้วย ถ้าคุณแต่งงานกันแล้วสามีขอเลิก
เราจะแนะอีกแบบ
แสดงความคิดเห็น
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
ปัญหาครอบครัว
Single Mom
พ่อของลูกกำลังจะแต่งงานใหม่ปีหน้า
เรารู้จักและคบหากับแฟนได้ 1 ปี แล้วนิสัยเข้ากันไม่ได้ เราจึงตกลงที่จะเลิกกัน ตั้งแต่เลิกกันเราก็ไม่ได้มีการติดต่อกับเค้าอีกเลย
จนมาวันนึงหลังจากที่เลิกกันมาได้ 1ปีกว่าๆ เราได้บังเอิญเจอกันอีกครั้ง อารมณ์ตอนนั้นคือเราดีใจที่ได้เจอเค้าเราต่างเดินมากอดกันด้วยความคิดถึง
แต่..เรื่องราวไม่ได้จบแบบแฮปปี้แอนดิ้ง เราปฎิเสธที่จะมีความสัมพันธ์กับเค้าเพราะว่าเรากำลังมีชีวิตที่ดีและมีอนาคต แต่เค้าก็ไม่ยอมปล่อยเรา เค้าตามตื้อเราจนเราใจอ่อน เพราะลึกๆในใจเรายังมีความรู้สึกดีๆให้เค้าอยู่ เราใช้เวลาร่วมกัน 4 วันก่อนที่เค้าจะเดินทางกลับบ้านที่ต่างประเทศ(อังกฤษ) แล้วเราก็ติดต่อคุยกันทาง messenger และ โทรหากันมาตลอด จนกระทั้งเวลาผ่านไปได้เดือนกว่า เรามีอาการผิดปกติก็คือประจำเดือนไม่มา... ผลออกมาคือเราตั้งครรภ์ นาทีนั้นเราไม่รู้จะรู้สึกยังไงดี เราโทรหาเค้าแต่สิ่งที่เราได้ยินคือ ใช่ลูกเค้ารึเปล่า..เราช็อคไปสักพัก น้ำตาไหลออกมาจากไหนก็ไม่รู้ พูดอะไรไม่ออก แล้วเค้าก็วางสายไปโดยไม่ได้พูดอะไรต่อ เวลาผ่านไปสามชั่วโมงเค้าโทรมาหาเราบอกยินดีจะจ่ายค่าโรงพยาบาลและยาทุกอย่าง แต่ถ้าออกมาแล้วเค้าจะขอตรวจดีเอ็นเอ ถ้าเป็นลูกเค้าจะยอมเลี้ยงดูส่งเสียให้มีอนาคต เค้าเป็นคนออกค่าใช้จ่ายทุกอย่างตั้งแต่ฝากท้อง จนถึงตอนที่เราตั้งครรภ์ได้ 5 เดือน เค้าเริ่มมีอาการแปลกๆคือโมโหหงุดหงิดใส่เราบ่อยๆ ทำตัวห่างเหิน ทิ้งเราไว้คนเดียวในบ้าน จนท้องแก่ใกล้คลอดเค้าก็ไม่โทรมาไถ่ถามเราสักคำว่าเป็นยังไง วันที่เราได้วันนัดผ่าคลอด เราก็สองจิตสองใจ จะบอกเค้าดีไหม แต่สุดท้ายเราก็เลือกที่จะบอก วันและเวลาคลอด
วันนั้นเรายังจำได้ไม่มีวันลืม เค้าเดินเข้ามาเยี่ยมเราหลังจากผ่าคลอดไม่กี่ชั่วโมงด้วยสีหน้าเรียบเฉย ไม่มีการถามอาการเราใดๆทั้งสิ้น พยาบาลเข็นลูกมาเค้าก็อุ้มขึ้นให้เราถ่ายรูปให้ ต่อด้วยการตีหน้าเศร้าขอเราเป็นเพื่อน นาทีนั้นในใจเรามีแต่ความโกรธ และเกลียดชัง เสียใจที่เค้าทิ้งเราให้อยู่คนเดียวโดยไม่รู้สึกสงสารเห็นใจ เราไม่น่าบอกเค้าเลย เรามีปัญหากันเรื่องที่เราไม่ได้ระบุชื่อพ่อลงในใบสูติบัตร เราทะเลาะกันอย่างรุนแรงหลังออกจากโรงพยาบาลได้ไม่กี่วัน เพราะต้องตรวจดีเอ็นเอเพื่อใส่ชื่อพ่อลงในสูติบัตร
เค้าบอกกับเราว่าจะเช่าคอนโดให้อยู่กับลูกแต่เป็นแบบหนึ่งห้องนอนเพราะเค้าไม่ได้อยู่ด้วย จะไปมาอยู่กับลูกแค่เดือนละ 15 วัน เค้าอยากไปจากเราเพื่อที่จะได้เจอคนที่ใช่ และต้องการมีชีวิตที่อิสระ เราตอบรับข้อเสนอของเค้า
จนมาวันนี้ครบ 1 ปีแล้วที่เราอาศัยอยู่ในคอนโดที่เค้าเช่าให้อยู่กับลูก แต่ช่วงหลังๆมานี้เราทะเลากันบ่อยมาก ทุกครั้งที่เค้ามาหาเรากับลูก จะชวนทะเลาะตลอดจนชีวิตเราไม่มีความสุขเลย จะสุขก็แต่เวลาที่เค้าไม่อยู่คอนโด เราต้องใช้ความอดทนมากที่ต้องอยู่กับคนที่นอกใจไม่ซื่อสัตย์เพื่อลูกเราถึงยอมทน เพราะเค้ายังเล็ก เราอยากไปทำงานก็ไม่มีคนเลี้ยงให้ จะจ้างก็ไม่ได้มีเงินมากมายที่จะพอจ้าง
มาถึงวันนี้ เค้าเปิดอกพูดกับเราว่าเค้าจะแต่งงานกับผู้หญิงฟิลิปปินส์กุมภาปีหน้า แล้วผู้หญิงคนนั้นก็จะเป็นครอบครัวของเค้า เค้าจะรับลูกติดของผู้หญิงปินส์ไว้ในอุปการะ ถ้าเค้าเสียชีวิตเด็กคนนั้นก็จะได้ครึ่งนึงของมรดกที่เค้าทิ้งไว้ คนละครึ่งกับลูกสาวดิฉัน มันเป็นอะไรที่ยากมากในการยอมรับ เค้ายังต้องการที่จะให้เราไปเช่าอยู่คอนโดอีกที่นึง เพราะหลังจากแต่งงานเค้าจะพาแฟนคนฟิลิปปินส์มาอยู่ แต่จะเช่าให้เราอยู่กับลูกอีกที่นึง
ตอนนี้เรากับเค้าแทบจะคุยกันไม่ได้เพราะทะเลาะกันตลอด ทั้งที่ดิฉันไม่ได้มีการพูดอะไร เลือกที่จะอยู่เฉยๆ แต่เค้ามักจะหาเรื่องทะเลาะไม่เว้นแต่ละวัน
อยากหนีไปให้ไกลที่สุดความรู้สึกตอนนี้มันอัดอั้นจนไม่รู้จะบอกกัลใคร ทรมานเหมือนไม่มีวันสิ้นสุด เพราะที่ทนอยู่ก็เพื่อให้ลูกได้มีอนาคตที่ดี แต่มองดูแล้วเหมือนเราเดินมาถึงทางตัน
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านเรื่องเราจนจบนะค่ะ ถ้ามีความเห็นหรือคำแนะนำอะไรก็สามารถแสดงความคิดมาได้นะคะ ขอบคุณค่ะ