โรงพยาบาลรัฐบาลต้องให้คนรอความตายอีกกี่คน???

ได้ข่าวมาเยอะมากว่าคนตายเพราะโรงพยาบาล ทำงานช้าบ้าง รักษาไม่ตรงจุดบ้าง ให้ยาผิดบ้าง เรื่องที่เราเจอมากับตัวเองก็คือ เราเรียนมหาลัยที่ลพบุรีและบ้านเราอยู่อ่างทอง เราต้องกลับบ้านทุกวันศุกร์ วันนั้นเป็นวันศุกร์เวลาประมาณ 11 โมงเช้า เราปวดท้องมาก ปวดขึ้นเรื่อยๆ ก็ทนนั่งรถกลับจนถึงบ้าน พอถึงบ้านก็ลองกินยา และนอนพัก ตื่นมาอาการก็ไม่ดีขึ้น เช้าวันต่อมาเป็นวันเสาร์เราก็ให้ป้าข้างบ้านพาไปหาหมอที่คลินิคประจำของเรา หมอเขาลองกดท้องเราในจุดที่ปวด แต่เราปวดมากจนทนไม่ไหว หมอบอกว่าให้รีบไปโรงพยาบาล เราเป็นคนอำเภอโพธิ์ทอง แต่บ้านอยู่ใกล้โรงพยาบาลวิเศษชัยชาญแต่เราก็ไปไม่ได้เพราะต้องไปโรงพยาบาลในอำเภอตามบัตรประชาชน เราเลยยอมไปโรงพยาบาลโพธิ์ทอง ถึงแม้จะไกลเราก็ทน พอไปถึงพยาบาลเจาะเลือด ตรวจปัสสาวะ และเราก็เป็นลม พยาบาลให้อ๊อกซิเจนช่วยหายใจและคอยมาตรวจความดัน นอนรอหมอตั้งแต่ 7.30 ถึงบ่ายโมง หมอก็ยังไม่มาตรวจ อาการปวดท้องก็มากขึ้นเรื่อยๆ เราคิดว่าน่าจะเป็นไส้ติ่ง แต่พยาบสลบอกว่าไม่ใช่ไส้ติ่ง ต้องรอหมอ หมอมาตรวจบ่าย 2 ใช้เครื่องอัลตราซาวด์คนท้องตรวจ เขาบอกว่าเราเป็นเนื้องอกในมดลูกขนาดใหญ่ ทางโรงพยาบาลโพธิ์ทองรักษาไม่ได้ ต้องส่งตัวไปผ่าตัดที่โรงพยาบาลอ่างทอง แต่ต้องไปวันจันทร์ ปวดขนาดนี้ใครจะทนได้ ยายกับแม่รีบพาเราออกจากโรงพยาบาลนี้และรีบพาไปโรงพยาบาลอ่างทองเวชการ 2 เป็นโรงพยาบาลเอกชน พอไปถึงหมอก็ถามอาการ และตรวจภายใน หมอบอกว่าเราไม่ได้เป็นเนื้องอก แต่แค่ถุงน้ำในมดลูกมันอักเสบมันเป็นช่วงก่อนที่จะเป็นประจำเดือนอีกครั้ง ทั้งชีวิตจะปวดแค่ครั้ง 2 ครั้ง เอายาไปกินก็หาย และเขาก็ตรวจมะเร็งปากมดลูกให้ ทุกอย่างปกติไม่มีอะไรอันตราย เราได้ยามา 8 เม็ด ค่ารักษาทั้งหมด 2000 บาท กินยาไป 2 เม็ดหายปวดทันที เราก็กินยาจนหมด ถ้าเราไม่ไปโรงพยาบาลเอกชน ก็คงจะโดนผ่าท้องฟรี เจ็บฟรี เงินถึงก็มีโอกาสหาย ถ้าไม่มีเงินก็ต้องนอนรอความตาย นี่คือความแย่ของโรงพยาบาลรัฐที่เราเจอมาเองกับตัวเมื่อ 2 ปีก่อน!!!!!!
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่