
เคยดูพรีเดเตอร์ภาคแรก ครั้งยังอยู่บ้านต่างจังหวัดกับครอบครัว การดูหนังเป็นสิ่งบันเทิงที่จะทำทุกคืนวันศุกร์ ตอนนั้นมี พระเอกกล้ามล่ำ อาร์โนล์ ชวาร์กฯ เป็นพระเอก เนื้อเรื่องแปลกใหม่ ลุ้นระทึก ต้องคอยเอาใจช่วยพระเอก ว่า จะชนะเครื่องจักรสังหารที่สะสมหัวกะโหลกมนุษย์ นี้ได้อย่างไร และได้ทยอยดูภาคต่อไปอีก 3-4 ภาค ภาคท้ายๆ ก็ปะทะกับเอเลี่ยน แอบเชียร์พวกพรีเดเตอร์ เพราะพวกนี้มีอารมณ์ความรู้สึก เหมือนมนุษย์มากกว่า
และได้รับเกียรติให้ไปดูหนัง The Predator เดอะ เพรดเดเทอร์ เมื่อค่ำวันที่ 13 กันยายน 2561 ที่ กรุงศรี ไอแมกซ์ เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ รัชโยธิน ภาพใหญ่เต็มจอ ปะทะอยู่ตรงหน้า เป็นการดูหนังที่น่าสุขสมอยู่ไม่น้อย
การมาดูหนังภาคต่อคราวนี้ (ก็น่าจะเรียกว่า ภาคต่อ ได้ เพราะมีเนื้อเรื่องที่พาดพิงข้อมูลกับภาคเก่าอยู่แว๊บๆ และมีนักแสดงบางคนที่คุ้นๆ ว่าเคยแสดงในภาคก่อนด้วย) อาจจะเป็นการเพิ่มตัวแสดงที่เป็นมนุษย์เข้ามาค่อนข้างเยอะ บทการแสดงเลยต้องถัวไปให้นักแสดงท่านอื่นๆ เพื่อแสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์เชื่อมโยงกัน หนังพยายามแสดงถึง ความรักครอบครัว รักพวกพ้อง การเสียสละ ยังมีแทรกบทตลกเข้ามาด้วย แต่ก็ไม่สุด การลุ้นระทึก ว่า จะสู้กับมนุษย์ต่างดาวที่เป็นเครื่องจักรสังหารนี้ ก็ไม่มากอย่างภาคแรกๆ
นักแสดงบางคนก็ไม่ได้มีบทสนับสนุนมาว่าเก่งได้อย่างไร นักแสดงบางตัวก็หายไปเฉยๆ จนต้องนั่งดูจนจบเครดิตตอนท้าย เพื่อรอดูเงื่อนงำที่หนังได้ทิ้งไว้ เผื่อมีภาคต่อ ปรากฎว่า ไม่มี และในเนื้อเรื่องจับได้ถึงประเด็น วาย เล็กๆ คนที่ไปดูหนังเรื่องนี้ จับประเด็นนี้ได้หรือเปล่าจ้ะ
แต่สำหรับคนที่ไม่ได้ดูภาคก่อนๆ มา ก็น่าจะดูได้อย่างสนุก เพราะตัวหนังมีการปูข้อมูลความสามารถของตัวมนุษย์ต่างดาวนี้มาให้ และภาคนี้ก็ยังไม่ลืม แสดงภาพที่เป็น ซิกเนเจอร์ ของเรื่อง ที่มองผ่านสายตาของ มนุษย์ต่างดาว ที่เป็นแบบสีส้ม เขียว เหลือง และ น้ำเงิน หนังไม่ทิ้งกลิ่นอายของภาดเก่าๆ ไปเท่าไร ทั้งฉากการต่อสู้ในป่า และ หน้าตาท่าทางของพรีเดเตอร์ ยังมีฉากอ้าปากของสัตว์ประหลาดนี้อยู่
ขอขอบคุณ Major Cineplex และ Pantip.com ที่พาไปดูหนังคราวนี้
อยากมีโอกาสหน้าอีกเยอะๆ น้าา
[SR] Review : The Predator เดอะ เพรดเดเทอร์
เคยดูพรีเดเตอร์ภาคแรก ครั้งยังอยู่บ้านต่างจังหวัดกับครอบครัว การดูหนังเป็นสิ่งบันเทิงที่จะทำทุกคืนวันศุกร์ ตอนนั้นมี พระเอกกล้ามล่ำ อาร์โนล์ ชวาร์กฯ เป็นพระเอก เนื้อเรื่องแปลกใหม่ ลุ้นระทึก ต้องคอยเอาใจช่วยพระเอก ว่า จะชนะเครื่องจักรสังหารที่สะสมหัวกะโหลกมนุษย์ นี้ได้อย่างไร และได้ทยอยดูภาคต่อไปอีก 3-4 ภาค ภาคท้ายๆ ก็ปะทะกับเอเลี่ยน แอบเชียร์พวกพรีเดเตอร์ เพราะพวกนี้มีอารมณ์ความรู้สึก เหมือนมนุษย์มากกว่า
และได้รับเกียรติให้ไปดูหนัง The Predator เดอะ เพรดเดเทอร์ เมื่อค่ำวันที่ 13 กันยายน 2561 ที่ กรุงศรี ไอแมกซ์ เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ รัชโยธิน ภาพใหญ่เต็มจอ ปะทะอยู่ตรงหน้า เป็นการดูหนังที่น่าสุขสมอยู่ไม่น้อย
การมาดูหนังภาคต่อคราวนี้ (ก็น่าจะเรียกว่า ภาคต่อ ได้ เพราะมีเนื้อเรื่องที่พาดพิงข้อมูลกับภาคเก่าอยู่แว๊บๆ และมีนักแสดงบางคนที่คุ้นๆ ว่าเคยแสดงในภาคก่อนด้วย) อาจจะเป็นการเพิ่มตัวแสดงที่เป็นมนุษย์เข้ามาค่อนข้างเยอะ บทการแสดงเลยต้องถัวไปให้นักแสดงท่านอื่นๆ เพื่อแสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์เชื่อมโยงกัน หนังพยายามแสดงถึง ความรักครอบครัว รักพวกพ้อง การเสียสละ ยังมีแทรกบทตลกเข้ามาด้วย แต่ก็ไม่สุด การลุ้นระทึก ว่า จะสู้กับมนุษย์ต่างดาวที่เป็นเครื่องจักรสังหารนี้ ก็ไม่มากอย่างภาคแรกๆ
นักแสดงบางคนก็ไม่ได้มีบทสนับสนุนมาว่าเก่งได้อย่างไร นักแสดงบางตัวก็หายไปเฉยๆ จนต้องนั่งดูจนจบเครดิตตอนท้าย เพื่อรอดูเงื่อนงำที่หนังได้ทิ้งไว้ เผื่อมีภาคต่อ ปรากฎว่า ไม่มี และในเนื้อเรื่องจับได้ถึงประเด็น วาย เล็กๆ คนที่ไปดูหนังเรื่องนี้ จับประเด็นนี้ได้หรือเปล่าจ้ะ
แต่สำหรับคนที่ไม่ได้ดูภาคก่อนๆ มา ก็น่าจะดูได้อย่างสนุก เพราะตัวหนังมีการปูข้อมูลความสามารถของตัวมนุษย์ต่างดาวนี้มาให้ และภาคนี้ก็ยังไม่ลืม แสดงภาพที่เป็น ซิกเนเจอร์ ของเรื่อง ที่มองผ่านสายตาของ มนุษย์ต่างดาว ที่เป็นแบบสีส้ม เขียว เหลือง และ น้ำเงิน หนังไม่ทิ้งกลิ่นอายของภาดเก่าๆ ไปเท่าไร ทั้งฉากการต่อสู้ในป่า และ หน้าตาท่าทางของพรีเดเตอร์ ยังมีฉากอ้าปากของสัตว์ประหลาดนี้อยู่
ขอขอบคุณ Major Cineplex และ Pantip.com ที่พาไปดูหนังคราวนี้
อยากมีโอกาสหน้าอีกเยอะๆ น้าา
SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้