ไม่ว่าอะไรก็ตามที่เป็นเรื่องแรก ครั้งแรก สิ่งแรกที่เกิดขึ้นในชีวิตของทุกคน
สิ่งนั้นมักจะอยู่ในความทรงจำที่ยากจะลืมเลือนได้ทั้งในด้านบวกและด้านลบ
ไม่เว้นแม้แต่เรื่องของหุ้นตัวแรกในชีวิตการลงทุนของ “คุณป้าเม่า” คนนี้
หุ้นตัวแรกของป้าฯ คือหุ้น IRPC ที่ซื้อตั้งแต่วันที่เข้าสู่วงการตลาดหุ้นใหม่ ๆ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เป็นบริษัทที่อยู่ในเครือปตท. (PTT) ซึ่งดำเนินธุรกิจปิโตรเลียม
โดยมีโรงกลั่นน้ำมันอยู่ที่ จ. ระยอง รวมทั้งธุรกิจอื่น ๆ อีกหลายอย่าง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
หุ้นตัวนี้มีพรายกระซิบ Oops… เพื่อนในห้องสินธรแนะนำให้ป้าฯ ซื้อ
บอกว่าเป็นหุ้นดีราคายังไม่แพงที่สำคัญไม่เจ๊งง่าย ๆ เพราะเป็นลูกของ PTT
ป้าฯ เป็นคนที่หลอกง่าย เอ๊ยย เชื่อคนง่าย ตามสไตล์สาวหมวยรวยน้ำใจ
แต่ก่อนจะซื้อก็มีแอบเข้าไปส่องในเว็บไซต์ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
เพื่อเปิดดูรายละเอียดงบการเงินซึ่งตอนนั้นยังดูได้แบบ Snake ๆ Fish ๆ
ดูข้อมูลเสร็จป้าฯ ก็รีบตั้งคำสั่งซื้อหุ้น IRPC ตามคำแนะนำอย่างไว
จำนวน 10,000 หุ้นที่ราคาหุ้นละ 4.38 บาทรวมค่าคอมมิชชั่นราคาเพิ่มเป็น 4.39 บาท
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
พอซื้อปุ๊บราคาหุ้นก็ตกลงมาปั๊บหัวใจของป้าฯ ก็หล่นตุ๊บไปอยู่ตาตุ่ม
แต่พอตั้งสติได้ป้าฯ ก็นึกถึงตำราที่ป้าฯ เรียนมาว่าการที่หุ้นดีแต่ราคาร่วงตามภาวะตลาด
โดยที่พื้นฐานของหุ้นยังไม่เปลี่ยนนับเป็นโอกาสที่ดีในการทยอยเก็บหุ้นเพิ่มในราคาที่ถูกลง
พอสติมาปัญญาเกิด ป้าฯ ก็ไม่รอช้ารีบคีย์ชื่อหุ้น ใส่จำนวนหุ้นเพิ่มเป็นเท่าตัวพร้อมตั้งราคาทันที
ประสามือใหม่ก็พิมพ์ด้วยมือที่สั่นและใจเต้นรัวกลัวราคาดีดกลับ
พิมพ์เสร็จแล้วรีบกดปุ่ม Submit ส่งคำสั่งออกไปอย่างไว
ส่งคำสั่งเสร็จรู้สึกโล่งอกค่อย ๆ ถอนหายใจออกช้า ๆ พร้อมรอยยิ้มตรงมุมปาก
และรู้สึกได้ถึงแววตาที่สะใจของตัวเองว่าจะได้หุ้นราคาถูกเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งเท่า
แล้วหันมากดปุ่มรีเฟรชเพื่อเข้าไปชื่นชมจำนวนหุ้นในพอร์ตทันที
แต่แล้วป้าฯ ต้องตาเหลือก หน้าซีด ตกใจสุดขีดกับภาพที่เห็น
เฮ้ยยย หุ้น IRPC ในพอร์ตของช้านนนหายไปหนายยยหมดฟระ?
แล้วป้าฯ ก็ตาลีตาเหลือกสำรวจตรวจสอบสิ่งผิดปกติจนใจเต้นไม่เป็นจังหวะ
จนสุดท้ายก็พบต้นตอของปัญหา
“ตรูกดผิดจาก “ซื้อ” เป็น “ขาย” หรือเนี่ยยยย” ฮืออออ!
ช่างสวยใสไร้สมองจริงจริ๊งงง เจ้าคุณป้าเม่า เอ๊ยยย!
หุ้น IRPC ในพอร์ตของป้าฯ ถูกขายไปจนเกลี้ยงพอร์ตด้วยนิ้วชี้เพชรฆาตของป้าฯ เอง
เพราะความประมาท ไม่ได้ตรวจสอบคำสั่งดี ๆ ว่าเป็นคำสั่งซื้อหรือขาย
จากที่ตั้งใจจะซื้อเพิ่มจำนวนหุ้นอีกเท่าตัวกลับกลายเป็นขายหุ้นที่มีอยู่ทั้งหมดออกไป
เหมือนการขายตัดขาดทุนทุนแต่มันไม่ใช่เวลาและกับหุ้นตัวเน้ ๆๆๆ ฮือออ ๆๆๆ
เหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้ป้าฯ สับสนและเสียใจหนักมากจนไปต่อไม่ถูก
ใจป้าฯ เริ่มแกว่ง เข็ดขยาด และจะต้องจดจำไปอีกนานแสนนาน
ป้าฯ เชื่อว่าเม่าทั้งมือใหม่และมือเก่าคงจะต้องเคยส่งคำสั่งซื้อขายผิดแบบป้าฯ เหมือนกันชิมิ?
แต่สำหรับคนที่กำลังจะเป็นเม่ามือใหม่เมื่อได้มาอ่านเจอเรื่องจริงผ่านจอของป้าฯ
ขอให้นำเรื่องนี้ไปเป็นบทเรียนและตรวจสอบให้ละเอียดก่อนส่งคำสั่งซื้อขายทุกครั้งด้วยเด้อออ
จากที่ตั้งใจแต่แรกว่าจะถือหุ้นตัวนี้ยาว ๆ ก็เปลี่ยนเป็นซื้อขายถี่ ๆ หลายรอบ
ระหว่างทางมีแอบเปลี่ยนม้ากลางศึกขายหุ้นราคากำลังตกไปซื้อหุ้นตัวอื่นแล้วแย่หนักกว่าเก่าด้วย
สุดท้ายก็ได้ซื้อกลับหุ้น IRPC เพิ่มกลับมาเป็น 48,000 หุ้นในปีแรกที่ต้นทุน 4.51 บาท
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แทนที่จะซื้อหุ้นเพิ่มตอนที่ราคาตกลงไป 3 บาทกว่าและเคยลงไปถึง 2 บาทปลาย ๆ ช่วงหนึ่ง
ป้าฯ กลับไปซื้อเพิ่มตอนที่ราคาขึ้นมาแล้วทำให้ต้นทุนสูงขึ้นแบบน่าเขกหัวตัวเองสักโป๊กกก
ป้าฯ แก่แล้วจำรายละเอียดยิบย่อยของหุ้นตัวแรกมาเล่าได้ไม่หมด
แต่ถ้าดูจากรูปที่เซฟไว้ตัวเลขช่วงปีแรกก็ยังแสดงกำไรเป็นหมื่นบาทอยู่นะ
เก่งไม่เบาเหมือนกันนะป้าฯ เนี่ยยย อิอิ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
หากมีช่วงไหนที่ร้อนเงินและมีความจำเป็นต้องขายหุ้นกิน ป้าฯ ก็จะเลือกขายหุ้นตัวอื่นออกไปก่อน
และเก็บหุ้น IRPC “สุดเลิฟ” ไว้ในพอร์ตเพื่อรอรับเงินปันผลที่อัตราผลตอบแทนสุดเริดที่ 5%
โดยคำนวณจากต้นทุนของป้าฯ ที่ 4.53 บาทเทียบกับเงินปันผลหุ้นละ 0.23 บาทเมื่อปี 2560
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ส่วนปีนี้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของหุ้น IRPC และตั้งแต่ป้าฯ ซื้อหุ้นตัวนี้
ที่ผู้บริหารใจดีจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลเป็นครั้งแรกในอัตราหุ้นละ 0.10 บาท
**สำหรับมือใหม่ คำว่าปันผลระหว่างกาลคือเงินปันผลจ่ายพิเศษระหว่างปี
ซึ่งโดยปกติหุ้นเกือบทุกตัวในตลาดจะประกาศจ่ายเงินปันผลหลังส่งงบประจำปี
ในกรณีที่บริษัทมีผลประกอบการดีมีกำไร
และจะจ่ายเงินให้แก่ผู้ถือหุ้นช่วงประมาณเดือนมีนาคม-เมษายนของปี
ขณะที่กำลังเขียนเล่าเรื่องสำหรับตอนนี้อยู่ก็ได้รับแจ้งว่ามีเงินปันผลของ IRPC
เข้ามาในบัญชีของป้าฯ เรียบร้อยแล้วสด ๆ เมื่อเช้านี้เป็นเงิน 17,399.40 บาท
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
อูยยย น้ำตาจิไหล!
ทีอู่มัก สวรรค์ช่างมีตา และปราณีกับป้าฯ จริง ๆ (ทำท่ายกมือท่วมหัวมองขึ้นฟ้าน้ำตาซึมด้วย)
เกือบตลอดทั้งสัปดาห์ที่ผ่านมาป้าฯ กำลังเครียดว่าสัปดาห์นี้จะหาเงินมาจากไหน
เพราะจะมีรายการค่าใช้จ่ายประจำเดือนเร่งด่วนที่ต้องตัดจากบัญชีหลัก ๆ 3 รายการคือ
จำนวนเงิน 4,000 บาทเป็นทุนการศึกษาส่วนตัวให้กับนักศึกษาเภสัชฯ ปีสุดท้ายคนหนึ่ง
จำนวนเงิน 3,000 บาทและ 10,000 บาทสำหรับตัดบัญชีออมหุ้นแบบ DCA ของป้าฯ และลูก
ซึ่งต้องตัดภายในเช้าวันที่ 19 ก.ย. 61 นี้ก่อน 10.00 น. รวมเป็นเงิน 17,000 บาท
ตอนแรกตั้งใจว่าหากไม่มีกระแสเงินสดเข้าบัญชี ป้าฯ จะเบี้ยว 2 รายการหลัง
เอาแบบไม่มี ไม่หนี ไม่จ่าย เอ๊ยยย ไม่มีเงินก็งดซื้อหุ้น DCA ไป 1 เดือน
แต่รายการทุนการศึกษา 4,000 บาทนี้จะงดไม่ได้เด็ดขาด!
ถ้างดแล้วน้องเขาจะเอาเงินที่ไหนไปใช้จ่ายระหว่างเรียนเล่า?
เขียนถึงตรงนี้ป้าฯ คิดถึงลูก ๆ ของตัวเองและสงสารพวกเขาจับใจ
(ไม่ดราม่า แต่ขอปาดน้ำตาแป๊บบ!!)
สรุปแล้วปีนี้หุ้น IRPC จ่ายเงินปันผลมาแล้ว 2 ครั้งรวมเป็นเงิน 0.39 บาท/หุ้น
ครั้งแรกเป็นเงินปันผลประจำปีจ่ายเมื่อเดือนเมษายน 2561 ที่ 0.29 บาท และครั้งนี้ 0.10 บาท
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
คิดเป็นอัตราผลตอบแทนทั้งปีที่ 8.60% เมื่อคำนวณจากต้นทุนของป้าฯ ที่ 4.53 บาท
ผลตอบแทนที่ได้สุดคุ้มมากเมื่อเทียบกับดอกเบี้ยเงินฝากที่ประมาณ 2% ในปัจจุบัน
ป้าฯ นี่ Happy มีความสุขกับเงินปันผลของหุ้นตัวนี้ที่สุดและตั้งใจจะกอดหุ้นเอาไว้นาน ๆ
ตราบเท่าที่ยังโชคดีไม่มีเหตุจำเป็นต้องใช้เงินด่วน??? (ฮืออออออ)
ปัจจุบัน ณ วันที่ 19 กันยายน 2561 ในพอร์ตของป้าฯ มีหุ้น IRPC รวม 185,000 หุ้น
แยกเป็น 2 พอร์ต โดยพอร์ตแรกมีจำนวนหุ้น 48,000 หุ้นและ 137,000 หุ้นในอีกหนึ่งพอร์ต
มีต้นทุนที่ 4.51 และ 4.53 บาทถือมานาน 7-8 ปี ไม่สนราคาที่ขึ้น ๆ ลง ๆ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
สำหรับมือใหม่ที่สนใจอยากจะมีหุ้นตัวนี้ไว้ในครอบครองก็ต้องศึกษาข้อมูลให้ละเอียด
แม้ราคายังไม่แพงมาก ณ ตอนนี้เมื่อเทียบกับปัจจัยพื้นฐานแต่ราคาก็ขึ้นมาพอสมควรแล้ว
ต้นทุนของป้าฯ ถือว่าอยู่ในโซนต่ำ และถือมานานรับเงินปันผลมาแล้วรวมต่อหุ้นประมาณ 1 บาท
เมื่อนำไปลดต้นทุนที่ราคาเฉลี่ย 4.50 บาทก็จะเหลือ 3.50 บาทไรงี๊
จากหุ้นตัวแรกก็กลายเป็นหุ้นหลาย ๆ ตัวที่ป้าฯ ซื้อมาขายไปสนุกสนานเหมือนเสพติดเกม
และเช่นเคย ชื่อหุ้นส่วนใหญ่ป้าฯ ก็ได้มาจากการอ่านกระทู้ในห้องสินธรน่านแหละ อิอิ
ในช่วงปีสองปีแรกป้าฯ Active และขยันทำการบ้านมาก ทำทุกอย่างตามตำราที่เรียนมาเป๊ะ
ไม่ว่าจะเป็นคำแนะนำสำหรับมือใหม่ให้ Cut Loss "ตัดก่อนตาย เตือนก่อนวายวอด"
"ขายเมื่อลิ่ง ดิ่งต้องเผ่น" และที่ป้าฯ ทำตามอย่างมีวินัยเคร่งครัดคือการบันทึกการซื้อขาย
ทำให้ในวันที่ปิ๊งไอเดียมาเล่าเรื่องหุ้นให้มือใหม่ได้ฟังกันเช่นในวันนี้
ป้าฯ จึงมีภาพจริงประกอบการเล่าเพื่อให้พวกเราเห็นภาพชัดและเข้าใจได้ง่ายขึ้นนี่ไง ^^
ไม่น่าเชื่อว่าจากที่เคยตั้งใจจะใช้เงินเริ่มต้นแค่ 5 หมื่นบาทเข้ามาทดลองเล่นหุ้นก่อน 1 ปี
ซึ่งป้าฯ ก็เหมือนพวกเราหลาย ๆ คนที่ไม่กล้าไว้ใจตลาดหุ้น
และกลัวจะเจ๊งหมดตัวเหมือนที่เคยได้ยินกันมาตลอด
แต่พอเข้าสู่วงการมาได้ไม่กี่เดือนก็เริ่มเสพติดการเล่นหุ้นเหมือนคนติดการพนัน
ป้าฯ ซื้อ ๆ ขาย ๆ หุ้นทุกตัวที่อ่านเจอในกระทู้อย่างเมามันยิ่งกว่าธาตุไฟเข้าแทรก
และทยอยอัดเงินเข้าพอร์ตทุกครั้งที่เงินทุนทุกช่องทางที่มีอยู่ครบกำหนด
พอร์ตหุ้นของป้าฯ จึงพุ่งจากเงินเริ่มต้นก้อนแรก 5 หมื่นบาทในเดือนมกราคม 2553
เป็น 1 ล้านบาทในเดือนมิถุนายน และเพิ่มเป็น 2.2 ล้านบาทในเดือนธันวาคมในปีเดียวกัน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ภาพมันก็จะเชย ๆ หน่อยนะ เพราะทำไว้ตั้งเกือบ 10 ปีแระ อิอิ
โอ้ววว แม่เจ้า ป้าฯ ตื่นเต้นเป็นปลื้มกับสรุปผลประกอบการพอร์ตหุ้นของตัวเองจนน้ำตาจิไหล
ป้าฯ ไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเองและไม่เคยคิดเลยว่าจะทำกำไรจากตลาดหุ้นได้จริง ๆ แบบเน้
ในวันทำการสุดท้ายแค่ปีแรกพอร์ตหุ้นของป้าฯ ได้กำไรมากถึง +174,055 บาทคิดเป็น +7.83%
ตอนนั้นป้าฯ ก็เริ่มฝันหวานถึงความร่ำรวยในอนาคตอันใกล้แล้วววว
อิอิ คิดแล้วก็ยังขำกับตัวเองอยู่เลยว่า ก่อนเปิดพอร์ตหุ้น ป้าฯ เน้นหาโบรกเกอร์
ที่ไม่คิดค่าคอมมิชชั่นขั้นต่ำวันละ 50 บาทเพื่อให้คุ้มกับการซื้อขายจำนวนน้อย ๆ
แต่พฤติกรรมที่มาเป็นนักแทงหุ้นซื้อขายแบบถี่ ๆ ทำให้ยอดเงินเกินคำว่าขั้นต่ำไปแล้ว
แล้วความตั้งใจของป้าฯ ก็เปลี๊ยนไป๋เพราะปรากฏว่าพอถึงสิ้นปียอดซื้อ ๆ ขาย ๆ
พุ่งสูงถึงกว่า 10 ล้านบาทจากเงินทุนที่ทยอยอัดใส่พอร์ตเพิ่มขึ้นเป็น 2.2 ล้านบาทช่วงสิ้นปีแรก
คิดเป็นค่าคอมมิชชั่นที่ต้องเสียไปทั้งสิ้นประมาณกว่า 15,000 บาท
หักแล้วเหลือกำไร +174,055 บาทและยังได้รับเงินปันผลมากถึง 33,146.89 บาทในปีแรก
รู้ป่าว? ปีแรกโบรกเก้อร์ส่งของขวัญสวัสดีปีใหม่มาให้ป้าฯ ทางไปรษณีย์ด้วยนะ
พอปีที่ 2 ป้าฯ ก็ฝันหวานหวังของขวัญแบบเดิมแต่สุดท้ายกลายเป็นคุณสมหวังซะนี่ อิอิ
ตอนแรกสงสัยว่าโบรกเกอร์งอนอะไรป้าฯ หว่า? แต่มาถึงบางอ้อเพราะเงินค่าคอมฯ ที่หล่นฮวบ
เพราะป้าฯ ทำตัวดีขึ้น เริ่มมีแนวคิดเป็น VI ถือหุ้นได้ยาวขึ้น ไม่ซื้อขายบ่อยนั่นเอง
ผลพลอยได้ก็คือได้เห็นพอร์ตหุ้นที่ค่อย ๆ โตและโชว์กำไรอยู่ในพอร์ตให้ชื่นใจนาน ๆ
สบายตา สบายใจ ทั้งยังประหยัดค่าคอมฯ และประหยัดเวลามากขึ้นอีกเป็นกอง
ตอนแรกป้าฯ ไม่ค่อยอยากจะลงรายละเอียดการซื้อขายพอร์ตหุ้นจิ๊บจ๊อย
กลัวจะอายเซียนที่มีพอร์ตหุ้นโตหลักสิบล้าน ร้อยล้าน พันล้าน ผ่านมาเห็น
แต่พอมานึกย้อนกลับไปถึงวันที่ป้าฯ เพิ่งเริ่มต้น ยังไม่มีความรู้เกี่ยวกับตลาดหุ้น
ก็ได้อาศัยท่านผู้รู้ใจดีมีน้ำใจแชร์ประสบการณ์ทำให้เกิดแรงบันดาลใจและความฮึกเฮิม
ในห้องสินธรมีสมาชิกหลายท่านที่เก่ง ๆ และเป็น Idol ของป้าฯ ที่ต้องขอกราบขอบพระคุณ
โดยเฉพาะคุณ Endophine ที่มักจะเขียนกระทู้ให้ความรู้มือใหม่เสมอ
พร้อมกับแสดงพอร์ตหุ้นที่มีหุ้นเติบโตเป็นร้อย/พันเปอร์เซ็นต์นับเป็นแรงบันดาลใจที่ดีเยี่ยม
ป้าฯ จึงรวบรวมความกล้าและได้ก้าวข้ามความกลัวการเสียหน้า
และไม่อายที่จะคุยโม้โชว์พอร์ตเล็ก ๆ แล้ว
วันนี้ป้าฯ "ยอมเสียฟอร์ม" ด้วยคติที่ว่า
เสียหน้าไม่ว่า ขอให้ป้าฯ ได้โม้โชว์พอร์ตก็พอใจแระ ^
“คุณป้าเม่า” เล่าเรื่องหุ้น...ตอนที่ 4 IRPC หุ้นตัวแรกของ “คุณป้าเม่า”
สิ่งนั้นมักจะอยู่ในความทรงจำที่ยากจะลืมเลือนได้ทั้งในด้านบวกและด้านลบ
ไม่เว้นแม้แต่เรื่องของหุ้นตัวแรกในชีวิตการลงทุนของ “คุณป้าเม่า” คนนี้
หุ้นตัวแรกของป้าฯ คือหุ้น IRPC ที่ซื้อตั้งแต่วันที่เข้าสู่วงการตลาดหุ้นใหม่ ๆ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เป็นบริษัทที่อยู่ในเครือปตท. (PTT) ซึ่งดำเนินธุรกิจปิโตรเลียม
โดยมีโรงกลั่นน้ำมันอยู่ที่ จ. ระยอง รวมทั้งธุรกิจอื่น ๆ อีกหลายอย่าง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
หุ้นตัวนี้มีพรายกระซิบ Oops… เพื่อนในห้องสินธรแนะนำให้ป้าฯ ซื้อ
บอกว่าเป็นหุ้นดีราคายังไม่แพงที่สำคัญไม่เจ๊งง่าย ๆ เพราะเป็นลูกของ PTT
ป้าฯ เป็นคนที่หลอกง่าย เอ๊ยย เชื่อคนง่าย ตามสไตล์สาวหมวยรวยน้ำใจ
แต่ก่อนจะซื้อก็มีแอบเข้าไปส่องในเว็บไซต์ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
เพื่อเปิดดูรายละเอียดงบการเงินซึ่งตอนนั้นยังดูได้แบบ Snake ๆ Fish ๆ
ดูข้อมูลเสร็จป้าฯ ก็รีบตั้งคำสั่งซื้อหุ้น IRPC ตามคำแนะนำอย่างไว
จำนวน 10,000 หุ้นที่ราคาหุ้นละ 4.38 บาทรวมค่าคอมมิชชั่นราคาเพิ่มเป็น 4.39 บาท
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
พอซื้อปุ๊บราคาหุ้นก็ตกลงมาปั๊บหัวใจของป้าฯ ก็หล่นตุ๊บไปอยู่ตาตุ่ม
แต่พอตั้งสติได้ป้าฯ ก็นึกถึงตำราที่ป้าฯ เรียนมาว่าการที่หุ้นดีแต่ราคาร่วงตามภาวะตลาด
โดยที่พื้นฐานของหุ้นยังไม่เปลี่ยนนับเป็นโอกาสที่ดีในการทยอยเก็บหุ้นเพิ่มในราคาที่ถูกลง
พอสติมาปัญญาเกิด ป้าฯ ก็ไม่รอช้ารีบคีย์ชื่อหุ้น ใส่จำนวนหุ้นเพิ่มเป็นเท่าตัวพร้อมตั้งราคาทันที
ประสามือใหม่ก็พิมพ์ด้วยมือที่สั่นและใจเต้นรัวกลัวราคาดีดกลับ
พิมพ์เสร็จแล้วรีบกดปุ่ม Submit ส่งคำสั่งออกไปอย่างไว
ส่งคำสั่งเสร็จรู้สึกโล่งอกค่อย ๆ ถอนหายใจออกช้า ๆ พร้อมรอยยิ้มตรงมุมปาก
และรู้สึกได้ถึงแววตาที่สะใจของตัวเองว่าจะได้หุ้นราคาถูกเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งเท่า
แล้วหันมากดปุ่มรีเฟรชเพื่อเข้าไปชื่นชมจำนวนหุ้นในพอร์ตทันที
แต่แล้วป้าฯ ต้องตาเหลือก หน้าซีด ตกใจสุดขีดกับภาพที่เห็น
เฮ้ยยย หุ้น IRPC ในพอร์ตของช้านนนหายไปหนายยยหมดฟระ?
แล้วป้าฯ ก็ตาลีตาเหลือกสำรวจตรวจสอบสิ่งผิดปกติจนใจเต้นไม่เป็นจังหวะ
จนสุดท้ายก็พบต้นตอของปัญหา
“ตรูกดผิดจาก “ซื้อ” เป็น “ขาย” หรือเนี่ยยยย” ฮืออออ!
ช่างสวยใสไร้สมองจริงจริ๊งงง เจ้าคุณป้าเม่า เอ๊ยยย!
หุ้น IRPC ในพอร์ตของป้าฯ ถูกขายไปจนเกลี้ยงพอร์ตด้วยนิ้วชี้เพชรฆาตของป้าฯ เอง
เพราะความประมาท ไม่ได้ตรวจสอบคำสั่งดี ๆ ว่าเป็นคำสั่งซื้อหรือขาย
จากที่ตั้งใจจะซื้อเพิ่มจำนวนหุ้นอีกเท่าตัวกลับกลายเป็นขายหุ้นที่มีอยู่ทั้งหมดออกไป
เหมือนการขายตัดขาดทุนทุนแต่มันไม่ใช่เวลาและกับหุ้นตัวเน้ ๆๆๆ ฮือออ ๆๆๆ
เหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้ป้าฯ สับสนและเสียใจหนักมากจนไปต่อไม่ถูก
ใจป้าฯ เริ่มแกว่ง เข็ดขยาด และจะต้องจดจำไปอีกนานแสนนาน
ป้าฯ เชื่อว่าเม่าทั้งมือใหม่และมือเก่าคงจะต้องเคยส่งคำสั่งซื้อขายผิดแบบป้าฯ เหมือนกันชิมิ?
แต่สำหรับคนที่กำลังจะเป็นเม่ามือใหม่เมื่อได้มาอ่านเจอเรื่องจริงผ่านจอของป้าฯ
ขอให้นำเรื่องนี้ไปเป็นบทเรียนและตรวจสอบให้ละเอียดก่อนส่งคำสั่งซื้อขายทุกครั้งด้วยเด้อออ
จากที่ตั้งใจแต่แรกว่าจะถือหุ้นตัวนี้ยาว ๆ ก็เปลี่ยนเป็นซื้อขายถี่ ๆ หลายรอบ
ระหว่างทางมีแอบเปลี่ยนม้ากลางศึกขายหุ้นราคากำลังตกไปซื้อหุ้นตัวอื่นแล้วแย่หนักกว่าเก่าด้วย
สุดท้ายก็ได้ซื้อกลับหุ้น IRPC เพิ่มกลับมาเป็น 48,000 หุ้นในปีแรกที่ต้นทุน 4.51 บาท
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แทนที่จะซื้อหุ้นเพิ่มตอนที่ราคาตกลงไป 3 บาทกว่าและเคยลงไปถึง 2 บาทปลาย ๆ ช่วงหนึ่ง
ป้าฯ กลับไปซื้อเพิ่มตอนที่ราคาขึ้นมาแล้วทำให้ต้นทุนสูงขึ้นแบบน่าเขกหัวตัวเองสักโป๊กกก
ป้าฯ แก่แล้วจำรายละเอียดยิบย่อยของหุ้นตัวแรกมาเล่าได้ไม่หมด
แต่ถ้าดูจากรูปที่เซฟไว้ตัวเลขช่วงปีแรกก็ยังแสดงกำไรเป็นหมื่นบาทอยู่นะ
เก่งไม่เบาเหมือนกันนะป้าฯ เนี่ยยย อิอิ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
หากมีช่วงไหนที่ร้อนเงินและมีความจำเป็นต้องขายหุ้นกิน ป้าฯ ก็จะเลือกขายหุ้นตัวอื่นออกไปก่อน
และเก็บหุ้น IRPC “สุดเลิฟ” ไว้ในพอร์ตเพื่อรอรับเงินปันผลที่อัตราผลตอบแทนสุดเริดที่ 5%
โดยคำนวณจากต้นทุนของป้าฯ ที่ 4.53 บาทเทียบกับเงินปันผลหุ้นละ 0.23 บาทเมื่อปี 2560
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ส่วนปีนี้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของหุ้น IRPC และตั้งแต่ป้าฯ ซื้อหุ้นตัวนี้
ที่ผู้บริหารใจดีจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลเป็นครั้งแรกในอัตราหุ้นละ 0.10 บาท
**สำหรับมือใหม่ คำว่าปันผลระหว่างกาลคือเงินปันผลจ่ายพิเศษระหว่างปี
ซึ่งโดยปกติหุ้นเกือบทุกตัวในตลาดจะประกาศจ่ายเงินปันผลหลังส่งงบประจำปี
ในกรณีที่บริษัทมีผลประกอบการดีมีกำไร
และจะจ่ายเงินให้แก่ผู้ถือหุ้นช่วงประมาณเดือนมีนาคม-เมษายนของปี
ขณะที่กำลังเขียนเล่าเรื่องสำหรับตอนนี้อยู่ก็ได้รับแจ้งว่ามีเงินปันผลของ IRPC
เข้ามาในบัญชีของป้าฯ เรียบร้อยแล้วสด ๆ เมื่อเช้านี้เป็นเงิน 17,399.40 บาท
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
อูยยย น้ำตาจิไหล!
ทีอู่มัก สวรรค์ช่างมีตา และปราณีกับป้าฯ จริง ๆ (ทำท่ายกมือท่วมหัวมองขึ้นฟ้าน้ำตาซึมด้วย)
เกือบตลอดทั้งสัปดาห์ที่ผ่านมาป้าฯ กำลังเครียดว่าสัปดาห์นี้จะหาเงินมาจากไหน
เพราะจะมีรายการค่าใช้จ่ายประจำเดือนเร่งด่วนที่ต้องตัดจากบัญชีหลัก ๆ 3 รายการคือ
จำนวนเงิน 4,000 บาทเป็นทุนการศึกษาส่วนตัวให้กับนักศึกษาเภสัชฯ ปีสุดท้ายคนหนึ่ง
จำนวนเงิน 3,000 บาทและ 10,000 บาทสำหรับตัดบัญชีออมหุ้นแบบ DCA ของป้าฯ และลูก
ซึ่งต้องตัดภายในเช้าวันที่ 19 ก.ย. 61 นี้ก่อน 10.00 น. รวมเป็นเงิน 17,000 บาท
ตอนแรกตั้งใจว่าหากไม่มีกระแสเงินสดเข้าบัญชี ป้าฯ จะเบี้ยว 2 รายการหลัง
เอาแบบไม่มี ไม่หนี ไม่จ่าย เอ๊ยยย ไม่มีเงินก็งดซื้อหุ้น DCA ไป 1 เดือน
แต่รายการทุนการศึกษา 4,000 บาทนี้จะงดไม่ได้เด็ดขาด!
ถ้างดแล้วน้องเขาจะเอาเงินที่ไหนไปใช้จ่ายระหว่างเรียนเล่า?
เขียนถึงตรงนี้ป้าฯ คิดถึงลูก ๆ ของตัวเองและสงสารพวกเขาจับใจ
(ไม่ดราม่า แต่ขอปาดน้ำตาแป๊บบ!!)
สรุปแล้วปีนี้หุ้น IRPC จ่ายเงินปันผลมาแล้ว 2 ครั้งรวมเป็นเงิน 0.39 บาท/หุ้น
ครั้งแรกเป็นเงินปันผลประจำปีจ่ายเมื่อเดือนเมษายน 2561 ที่ 0.29 บาท และครั้งนี้ 0.10 บาท
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
คิดเป็นอัตราผลตอบแทนทั้งปีที่ 8.60% เมื่อคำนวณจากต้นทุนของป้าฯ ที่ 4.53 บาท
ผลตอบแทนที่ได้สุดคุ้มมากเมื่อเทียบกับดอกเบี้ยเงินฝากที่ประมาณ 2% ในปัจจุบัน
ป้าฯ นี่ Happy มีความสุขกับเงินปันผลของหุ้นตัวนี้ที่สุดและตั้งใจจะกอดหุ้นเอาไว้นาน ๆ
ตราบเท่าที่ยังโชคดีไม่มีเหตุจำเป็นต้องใช้เงินด่วน??? (ฮืออออออ)
ปัจจุบัน ณ วันที่ 19 กันยายน 2561 ในพอร์ตของป้าฯ มีหุ้น IRPC รวม 185,000 หุ้น
แยกเป็น 2 พอร์ต โดยพอร์ตแรกมีจำนวนหุ้น 48,000 หุ้นและ 137,000 หุ้นในอีกหนึ่งพอร์ต
มีต้นทุนที่ 4.51 และ 4.53 บาทถือมานาน 7-8 ปี ไม่สนราคาที่ขึ้น ๆ ลง ๆ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
สำหรับมือใหม่ที่สนใจอยากจะมีหุ้นตัวนี้ไว้ในครอบครองก็ต้องศึกษาข้อมูลให้ละเอียด
แม้ราคายังไม่แพงมาก ณ ตอนนี้เมื่อเทียบกับปัจจัยพื้นฐานแต่ราคาก็ขึ้นมาพอสมควรแล้ว
ต้นทุนของป้าฯ ถือว่าอยู่ในโซนต่ำ และถือมานานรับเงินปันผลมาแล้วรวมต่อหุ้นประมาณ 1 บาท
เมื่อนำไปลดต้นทุนที่ราคาเฉลี่ย 4.50 บาทก็จะเหลือ 3.50 บาทไรงี๊
จากหุ้นตัวแรกก็กลายเป็นหุ้นหลาย ๆ ตัวที่ป้าฯ ซื้อมาขายไปสนุกสนานเหมือนเสพติดเกม
และเช่นเคย ชื่อหุ้นส่วนใหญ่ป้าฯ ก็ได้มาจากการอ่านกระทู้ในห้องสินธรน่านแหละ อิอิ
ในช่วงปีสองปีแรกป้าฯ Active และขยันทำการบ้านมาก ทำทุกอย่างตามตำราที่เรียนมาเป๊ะ
ไม่ว่าจะเป็นคำแนะนำสำหรับมือใหม่ให้ Cut Loss "ตัดก่อนตาย เตือนก่อนวายวอด"
"ขายเมื่อลิ่ง ดิ่งต้องเผ่น" และที่ป้าฯ ทำตามอย่างมีวินัยเคร่งครัดคือการบันทึกการซื้อขาย
ทำให้ในวันที่ปิ๊งไอเดียมาเล่าเรื่องหุ้นให้มือใหม่ได้ฟังกันเช่นในวันนี้
ป้าฯ จึงมีภาพจริงประกอบการเล่าเพื่อให้พวกเราเห็นภาพชัดและเข้าใจได้ง่ายขึ้นนี่ไง ^^
ไม่น่าเชื่อว่าจากที่เคยตั้งใจจะใช้เงินเริ่มต้นแค่ 5 หมื่นบาทเข้ามาทดลองเล่นหุ้นก่อน 1 ปี
ซึ่งป้าฯ ก็เหมือนพวกเราหลาย ๆ คนที่ไม่กล้าไว้ใจตลาดหุ้น
และกลัวจะเจ๊งหมดตัวเหมือนที่เคยได้ยินกันมาตลอด
แต่พอเข้าสู่วงการมาได้ไม่กี่เดือนก็เริ่มเสพติดการเล่นหุ้นเหมือนคนติดการพนัน
ป้าฯ ซื้อ ๆ ขาย ๆ หุ้นทุกตัวที่อ่านเจอในกระทู้อย่างเมามันยิ่งกว่าธาตุไฟเข้าแทรก
และทยอยอัดเงินเข้าพอร์ตทุกครั้งที่เงินทุนทุกช่องทางที่มีอยู่ครบกำหนด
พอร์ตหุ้นของป้าฯ จึงพุ่งจากเงินเริ่มต้นก้อนแรก 5 หมื่นบาทในเดือนมกราคม 2553
เป็น 1 ล้านบาทในเดือนมิถุนายน และเพิ่มเป็น 2.2 ล้านบาทในเดือนธันวาคมในปีเดียวกัน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
โอ้ววว แม่เจ้า ป้าฯ ตื่นเต้นเป็นปลื้มกับสรุปผลประกอบการพอร์ตหุ้นของตัวเองจนน้ำตาจิไหล
ป้าฯ ไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเองและไม่เคยคิดเลยว่าจะทำกำไรจากตลาดหุ้นได้จริง ๆ แบบเน้
ในวันทำการสุดท้ายแค่ปีแรกพอร์ตหุ้นของป้าฯ ได้กำไรมากถึง +174,055 บาทคิดเป็น +7.83%
ตอนนั้นป้าฯ ก็เริ่มฝันหวานถึงความร่ำรวยในอนาคตอันใกล้แล้วววว
อิอิ คิดแล้วก็ยังขำกับตัวเองอยู่เลยว่า ก่อนเปิดพอร์ตหุ้น ป้าฯ เน้นหาโบรกเกอร์
ที่ไม่คิดค่าคอมมิชชั่นขั้นต่ำวันละ 50 บาทเพื่อให้คุ้มกับการซื้อขายจำนวนน้อย ๆ
แต่พฤติกรรมที่มาเป็นนักแทงหุ้นซื้อขายแบบถี่ ๆ ทำให้ยอดเงินเกินคำว่าขั้นต่ำไปแล้ว
แล้วความตั้งใจของป้าฯ ก็เปลี๊ยนไป๋เพราะปรากฏว่าพอถึงสิ้นปียอดซื้อ ๆ ขาย ๆ
พุ่งสูงถึงกว่า 10 ล้านบาทจากเงินทุนที่ทยอยอัดใส่พอร์ตเพิ่มขึ้นเป็น 2.2 ล้านบาทช่วงสิ้นปีแรก
คิดเป็นค่าคอมมิชชั่นที่ต้องเสียไปทั้งสิ้นประมาณกว่า 15,000 บาท
หักแล้วเหลือกำไร +174,055 บาทและยังได้รับเงินปันผลมากถึง 33,146.89 บาทในปีแรก
รู้ป่าว? ปีแรกโบรกเก้อร์ส่งของขวัญสวัสดีปีใหม่มาให้ป้าฯ ทางไปรษณีย์ด้วยนะ
พอปีที่ 2 ป้าฯ ก็ฝันหวานหวังของขวัญแบบเดิมแต่สุดท้ายกลายเป็นคุณสมหวังซะนี่ อิอิ
ตอนแรกสงสัยว่าโบรกเกอร์งอนอะไรป้าฯ หว่า? แต่มาถึงบางอ้อเพราะเงินค่าคอมฯ ที่หล่นฮวบ
เพราะป้าฯ ทำตัวดีขึ้น เริ่มมีแนวคิดเป็น VI ถือหุ้นได้ยาวขึ้น ไม่ซื้อขายบ่อยนั่นเอง
ผลพลอยได้ก็คือได้เห็นพอร์ตหุ้นที่ค่อย ๆ โตและโชว์กำไรอยู่ในพอร์ตให้ชื่นใจนาน ๆ
สบายตา สบายใจ ทั้งยังประหยัดค่าคอมฯ และประหยัดเวลามากขึ้นอีกเป็นกอง
ตอนแรกป้าฯ ไม่ค่อยอยากจะลงรายละเอียดการซื้อขายพอร์ตหุ้นจิ๊บจ๊อย
กลัวจะอายเซียนที่มีพอร์ตหุ้นโตหลักสิบล้าน ร้อยล้าน พันล้าน ผ่านมาเห็น
แต่พอมานึกย้อนกลับไปถึงวันที่ป้าฯ เพิ่งเริ่มต้น ยังไม่มีความรู้เกี่ยวกับตลาดหุ้น
ก็ได้อาศัยท่านผู้รู้ใจดีมีน้ำใจแชร์ประสบการณ์ทำให้เกิดแรงบันดาลใจและความฮึกเฮิม
ในห้องสินธรมีสมาชิกหลายท่านที่เก่ง ๆ และเป็น Idol ของป้าฯ ที่ต้องขอกราบขอบพระคุณ
โดยเฉพาะคุณ Endophine ที่มักจะเขียนกระทู้ให้ความรู้มือใหม่เสมอ
พร้อมกับแสดงพอร์ตหุ้นที่มีหุ้นเติบโตเป็นร้อย/พันเปอร์เซ็นต์นับเป็นแรงบันดาลใจที่ดีเยี่ยม
ป้าฯ จึงรวบรวมความกล้าและได้ก้าวข้ามความกลัวการเสียหน้า
และไม่อายที่จะคุยโม้โชว์พอร์ตเล็ก ๆ แล้ว
วันนี้ป้าฯ "ยอมเสียฟอร์ม" ด้วยคติที่ว่า
เสียหน้าไม่ว่า ขอให้ป้าฯ ได้โม้โชว์พอร์ตก็พอใจแระ ^