วันนี้อยากมาแชร์ประสบการณ์การสอบ IELTS แบบใหม่ เรียกว่า IELTS computer delivered test ก่อนไปสอบเราหาข้อมูลเยอะมาก แต่แทบไม่ค่อยมีรีวิว เลยอยากตั้งกระทู้ไว้ เผื่อว่าใครกำลังจะไปสอบ จะได้เอาไว้ตัดสินใจว่าถนัดสอบแบบ paper หรือแบบ computer มากกว่ากัน
สมัครสอบ
เราสมัครผ่านเวปของ IDP กรอกข้อมูล ตัดเงินผ่านบัตรเครดิต ข้อดีของการสอบผ่านคอมพิวเตอร์คือ รอบการสอบจะเยอะกว่าการสอบปกติ (บางอาทิตย์มี 2-3 วัน)
การสอบ
Listening , Reading, Writing จะสอบกับคอมพิวเตอร์ ส่วน Speaking ยังเป็นการสอบพูดตัวต่อตัวกับ examiner เหมือนปกติ ซึ่งทั้ง 4 ทักษะ จะสอบภายในวันเดียวกัน
วันสอบ
เจ้าหน้าที่จะนัดให้มาก่อนเวลาสอบเพื่อทำการบรีฟรายละเอียด, สแกนลายนิ้วมือ, ถ่ายรูป แล้วก็จะพาไปที่ห้องสอบทีละคน จะเป็นโต๊ะมีพาทิชั่นกั้น มีหูฟังสำหรับพาร์ท listening รอบที่เราไปมีคนเข้าสอบประมาณ 10 คน ก็จะค่อนข้าง private หน่อย
Listening - เนื่องจากมีหูฟังส่วนตัว ไม่ต้องห่วงเรื่องฟังไม่ชัด และห้องก็จะค่อนข้างเงียบ เรื่องอื่นก็ไม่มีอะไรต่างจากแบบ paper แค่เปลี่ยนจากเขียนคำตอบเป็นพิมพ์
Reading - ข้อสอบจะแบ่งหน้าจอเป็นสองฝั่ง ด้านซ้ายเป็น paragraph ด้านขวาเป็นโจทย์ ส่วนตัวพาร์ทนี้เราชอบแบบ paper มากกว่า เพราะถนัดการวง การเขียน keyword บนกระดาษ เพื่อช่วยให้อ่านเร็วขึ้น แอบรู้สึกว่าเสียเวลากับการเพ่งอ่านมากกว่าเดิม ทำพาร์ทสุดท้ายเกือบไม่ทัน
Writing - ไม่มีอะไรแปลกใหม่ แค่เปลี่ยนจากเขียนบนกระดาษเป็นพิมพ์แค่นั้นเอง ส่วนตัวเราถนัดพิมพ์มากกว่าเขียน เลยทำให้ทำพาร์ทนี้ได้เร็วขึ้น
ผลสอบ
จะออกภายใน 5-7 วัน เราสอบ 11 ผลออกวันที่ 18
ภาพรวม ก็เป็นระบบที่สะดวกดี รอบสอบเยอะ แต่ละรอบคนสอบน้อยและดู private กว่าแบบ paper ส่วนตัวถือเป็นอีกทางเลือกดีที่ดี
แชร์ประสบการณ์สอบ IELTS ผ่านระบบคอมพิวเตอร์
สมัครสอบ
เราสมัครผ่านเวปของ IDP กรอกข้อมูล ตัดเงินผ่านบัตรเครดิต ข้อดีของการสอบผ่านคอมพิวเตอร์คือ รอบการสอบจะเยอะกว่าการสอบปกติ (บางอาทิตย์มี 2-3 วัน)
การสอบ
Listening , Reading, Writing จะสอบกับคอมพิวเตอร์ ส่วน Speaking ยังเป็นการสอบพูดตัวต่อตัวกับ examiner เหมือนปกติ ซึ่งทั้ง 4 ทักษะ จะสอบภายในวันเดียวกัน
วันสอบ
เจ้าหน้าที่จะนัดให้มาก่อนเวลาสอบเพื่อทำการบรีฟรายละเอียด, สแกนลายนิ้วมือ, ถ่ายรูป แล้วก็จะพาไปที่ห้องสอบทีละคน จะเป็นโต๊ะมีพาทิชั่นกั้น มีหูฟังสำหรับพาร์ท listening รอบที่เราไปมีคนเข้าสอบประมาณ 10 คน ก็จะค่อนข้าง private หน่อย
Listening - เนื่องจากมีหูฟังส่วนตัว ไม่ต้องห่วงเรื่องฟังไม่ชัด และห้องก็จะค่อนข้างเงียบ เรื่องอื่นก็ไม่มีอะไรต่างจากแบบ paper แค่เปลี่ยนจากเขียนคำตอบเป็นพิมพ์
Reading - ข้อสอบจะแบ่งหน้าจอเป็นสองฝั่ง ด้านซ้ายเป็น paragraph ด้านขวาเป็นโจทย์ ส่วนตัวพาร์ทนี้เราชอบแบบ paper มากกว่า เพราะถนัดการวง การเขียน keyword บนกระดาษ เพื่อช่วยให้อ่านเร็วขึ้น แอบรู้สึกว่าเสียเวลากับการเพ่งอ่านมากกว่าเดิม ทำพาร์ทสุดท้ายเกือบไม่ทัน
Writing - ไม่มีอะไรแปลกใหม่ แค่เปลี่ยนจากเขียนบนกระดาษเป็นพิมพ์แค่นั้นเอง ส่วนตัวเราถนัดพิมพ์มากกว่าเขียน เลยทำให้ทำพาร์ทนี้ได้เร็วขึ้น
ผลสอบ
จะออกภายใน 5-7 วัน เราสอบ 11 ผลออกวันที่ 18
ภาพรวม ก็เป็นระบบที่สะดวกดี รอบสอบเยอะ แต่ละรอบคนสอบน้อยและดู private กว่าแบบ paper ส่วนตัวถือเป็นอีกทางเลือกดีที่ดี