สงครามการค้า อเมริกา - จีน ทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ล่าสุด อเมริกาขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจีน อีก 10% (พูดอีกแง่หนึ่งก็คือ ผู้บริโภคชาวอเมริกันก็ชื้อของแพงขึ้นด้วยอีก 10%) การขึ้นภาษีเพียงเท่านี้ คงยังไม่เพียงพอต่อการดึงการผลิตกลับอเมริกา หรือลดความสามารถในการแข่งขันของสินค้าจีนที่มุ่งสู่อเมริกาได้ แต่หากต้นปีหน้า อเมริกาขึ้นภาษีนำเข้าเพิ่มเป็น 25% ก็ไม่แน่

(ภาพจาก net)
นั่นเรื่องของเค้า แต่ของเรา ก็คงได้รับผลกระทบแน่ ในช่วงต้นอาจยังได้รับผลน้อยอยู่ เพราะตอนนี้ทางจีนได้เพิ่ม Rebate Tax สินค้าบางจำพวกให้ผู้ส่งออกเพิ่มมากขึ้นอีก 2-3% (Rebate Tax -- คล้ายการคืนภาษีมูลค่าเพิ่มตอนส่งออก) ทีนี้สินค้าเหล่านั้นก็คงจะไหลไปที่ประเทศอื่นมากขึ้น ซึ่งก็รวมถึงไทยด้วย เดือนหน้าสินค้านำเข้าคงมีราคาถูกลงอีก -- ในฐานะผู้นำเข้าก็คงได้ประโยชน์เพิ่มขึ้นอีกนิดนึงในระยะสั้น ในระยะยาวแล้วก็ไม่แน่
ส่วนที่ว่าไทยเกินดุลการค้าอเมริกา เท่านั้น เท่านี้ ไม่รู้มันรวมดุลด้านการบริการด้วยหรือเปล่า เพราะนอกจากสินค้าค้าแล้ว ยังมีพวกบริการที่มาล้วงเงินคนไทยไปมากมาย อาทิเช่น Website ต่างๆ ที่มีการดึงเงินค่าโฆษณาไปด้วย โดย 5 อันดับ (update 1 สิงหาคม 2562) คือ 1.) Facebook 2.) Google.co.th 3.) Google.com 4.) Youtube 5.) Pantip (พระเอกของเราเอง)
Ref.
https://www.similarweb.com/top-websites/thailand ยังไม่รวมถึงพวกค่าใช้จ่ายทางด้านการศึกษาต่อต่างประเทศอีก....
แต่ที่จีนโดนหนักอาจเพราะว่า ทางจีนไม่เปิดรับ ทั้ง Facebook, Google, Youtube หรือเปล่านะ... ทำให้อเมริกาไม่ได้ดุลบริการในส่วนนี้
ระยะยาวก็ไม่รู้เหมือนกันว่า สุดท้าย เราจะได้รับผลกระทบมากหรือน้อย
แต่ที่แน่ ๆ ปีหน้า เลือกตั้งก็จะถึงวันนี้ ที่รอคอยกันซักที การค้า การลงทุน คงฟื้นตัวแบบทะลุทะลวง เป็นห่วงก็แต่ Trade War จะส่งผลกระทบกับเรามากหรือน้อย ยังไงคิดว่า ปีหน้าคงดีกว่าปีนี้ (ตอนนี้ก็ขายดีมาก ๆ นะ 5555)
Trade War กะตัวเรา
นั่นเรื่องของเค้า แต่ของเรา ก็คงได้รับผลกระทบแน่ ในช่วงต้นอาจยังได้รับผลน้อยอยู่ เพราะตอนนี้ทางจีนได้เพิ่ม Rebate Tax สินค้าบางจำพวกให้ผู้ส่งออกเพิ่มมากขึ้นอีก 2-3% (Rebate Tax -- คล้ายการคืนภาษีมูลค่าเพิ่มตอนส่งออก) ทีนี้สินค้าเหล่านั้นก็คงจะไหลไปที่ประเทศอื่นมากขึ้น ซึ่งก็รวมถึงไทยด้วย เดือนหน้าสินค้านำเข้าคงมีราคาถูกลงอีก -- ในฐานะผู้นำเข้าก็คงได้ประโยชน์เพิ่มขึ้นอีกนิดนึงในระยะสั้น ในระยะยาวแล้วก็ไม่แน่
ส่วนที่ว่าไทยเกินดุลการค้าอเมริกา เท่านั้น เท่านี้ ไม่รู้มันรวมดุลด้านการบริการด้วยหรือเปล่า เพราะนอกจากสินค้าค้าแล้ว ยังมีพวกบริการที่มาล้วงเงินคนไทยไปมากมาย อาทิเช่น Website ต่างๆ ที่มีการดึงเงินค่าโฆษณาไปด้วย โดย 5 อันดับ (update 1 สิงหาคม 2562) คือ 1.) Facebook 2.) Google.co.th 3.) Google.com 4.) Youtube 5.) Pantip (พระเอกของเราเอง)
Ref. https://www.similarweb.com/top-websites/thailand ยังไม่รวมถึงพวกค่าใช้จ่ายทางด้านการศึกษาต่อต่างประเทศอีก....
แต่ที่จีนโดนหนักอาจเพราะว่า ทางจีนไม่เปิดรับ ทั้ง Facebook, Google, Youtube หรือเปล่านะ... ทำให้อเมริกาไม่ได้ดุลบริการในส่วนนี้
ระยะยาวก็ไม่รู้เหมือนกันว่า สุดท้าย เราจะได้รับผลกระทบมากหรือน้อย
แต่ที่แน่ ๆ ปีหน้า เลือกตั้งก็จะถึงวันนี้ ที่รอคอยกันซักที การค้า การลงทุน คงฟื้นตัวแบบทะลุทะลวง เป็นห่วงก็แต่ Trade War จะส่งผลกระทบกับเรามากหรือน้อย ยังไงคิดว่า ปีหน้าคงดีกว่าปีนี้ (ตอนนี้ก็ขายดีมาก ๆ นะ 5555)