สวัสดี เราอยากมาเล่าประสบการ์ณที่พึ่งเคยเจอมาครั้งเเรกในชีวิตเลยค่ะ ตอนนี้เราเรียนอยู่สายอาชีพค่ะ ปวช.1 เเต่จริงๆต้องอยู่ปวช.3 เพราะว่าก่อนหน้าเราไปเรียนสายศิลป์-จีนมา โดนบังคับอ่ะค่ะ เลยเรียนๆไปเเบบไม่อยากเรียน สุดท้ายก็ลาออก ตอนนั้ยพ่อป่วยเป็นมะเร็ง ต้องอยู่ดูเเลพ่อไปอี1ปีเลยค่ะกว่าจะได้เรียน รวมๆเป็น2ปี ตอนที่พ่อเสีย ตอนนั้นสิ้นเดือนพฤษภาคม เลยการสมัครเรียนไปเเล้ว เเต่โชคดีที่วิทลัยที่อยากเรียนยังรับอยู่ เเต่ช้ากว่าเพื่อนไปเดือนนึงเลยค่ะ ตอนเราเช้าเรียนมาเเรกๆเราก็พอได้เพื่อนอยู่2-3คนค่ะ อาจารย์ในเเผนกก็เเสนใจดี เเต่ที่เเย่ก็น่าจะเป็นเพื่อนนี่เเหละ ตอนเเรกๆเราก็เข้าหาเพื่อนอยู่ เเต่ๆๆๆ อย่างที่บอกค่ะ เรามาช้า1เดือน คนส่วนใหญ่มีกลุ่มกันหมดเเล้ว พวกนางไม่ค่อยอยากเอาเราเข้ากลุ่มอ่ะค่ะ เราก็ไม่ค่อยซีเรียส ถือคติฉันอยู่คนเดียวได้ ถ้าไม่มาเบียดเบียนกัน เราก็เลยอยู่คนเดียวชิลๆ เเต่บางทีก็เข้าหาเพื่อนบ้างเวลามีโอกาศ เเบบ เพื่อนเล่นมุกบ้าง เราเเซวเค้าขำๆบ้าง เเต่ส่วนใหญ่เราจะอยู่คนเดียวค่ะ สายอโลนที่เเท้ทรู เราก็เข้าเรียนปกติ ไปไหนมาไหนคนเดียว สบายๆ จนอาจารย์ชอบเเซวเราว่าโลกส่วนตัวสูง ชีวิตเเฮปปี้ดีค่ะตอนนี้ เเต่ๆๆๆ หลังกลางเทอมไป พวกนางเริ่มโผล่หางค่ะ พวกนางเริ่มเเขวะเริ่มเเซวเรา มีวิชานึงที่ห้องเราต้องนั่งเรียนเป็นโต๊ะกลม ที่ข้างๆเราจะมีเพื่อนคนนึงที่ตอนเเรกเราตีสนิทอยู่ เเต่หลังๆนางเเสดงท่าทีว่าเกลียดเรา เราก็งงค่ะ การที่พวกเธอไม่อยากคบกับเรานี่เราผิดหรอคะ เกลียดกันทำไมม อย่างที่เล่าค่ะ นางนั่งข้างๆเรา ที่มันจะเบียดหน่อยๆ ตอนนั้นนางพูดด้วยเสียงอันดังว่า เขยิบๆที่อกไปหน่อยได้มั้ย ตรงนี้มันอึดอัด หายใจลำบาก อึดอัด รู้เลยว่ามันเเอบเหน็บเเหนมว่าไม่อยากนั่งใกล้เรา จริงๆก็ไม่ยากคิดมากนะคะ เเต่ถ้าตอนนั้นเป็นเราจะเข้าใจเลยเเหละ อีตอนนึงคือ เราชาจเเบตโทรศัพท์เเล้วคุยกับเพื่อนอยู่ พวกนางๆในห้องว่า เดี๋ยวมันระเบิดนะ เราเลยบอกว่ามันคงไม่ระเบิดหรอก นางก็บอกเสียงเหวี่ยง ไม่เชื่อก็เเล้วเเต่นะ เเล้วพูดเปรยๆ โอ๊ย กูกลัวระเบิดอ่ะ ไปนั่งข้างนอกห้องได้มะ เออ กุยังไม่อยากตาย ไรงี้ เราลำคาญ เราเลยยอมเลิกคุยโทสับกับเพื่อนเเล้วไปนอนฟุบกับโต๊ะรออาจารย์เรียกสอบ เเต่ๆๆ เราไม่ได้หลับค่ะ เลยได้ยินนางพูดว่า โอ๊ยเเกร กุทำลูกเค้าร้องไห้อ่ะ ห้ามไม่ให้คุยโทสับ หนีไปร้องไห้เลย ด้วยความนางเอกของเรา เราก็เลยเงียบค่ะ ปล่อยให้นางพูดพล่ามไป เเละยังมีอีกมากมายค่ะ เช่น เวลามีคนมาทัก นางจะพูดด้วยหน้าตาบึ้งตึ้ง มองเราด้วยหางตา ชอบมองเราเเล้วไปเอาไปซุบซิบนินทา เเละอีกมากมาย คนเราเริ่มเคลียด ไม่อยากไปเรียนกับนังเด็กพวกนั้น อาจารย์เราก็บอกให้เราเข้าหาเพื่อน โอ๊ยอาจารย์ ปัญหาไม่ได้อยู่ที่หนูหรอกค่ะ อยู่ที่นังเด็กพวกนั้น เวลานางคุยกันเรื่องทำงานพิเศษ ด้วยที่ว่าเราลาออกตอนเรียนม.4 เราเคยไปทำงานอยู่ช่วงนึงค่ะ เลยจะช่วยบอก คือ มันเมินเราไปเลยค่ะ โอ๊ยยย มันทำเเบบนี้เราจะทำยังไงได้คะ ลองคุยเรื่องที่ชอบเหมือนกันก็ยังคุยกันไม่ได้ การเข้าหาคนอื่นทำคนเดียวไม่ได้หรอกค่ะ ถ้าอีกฝ่ายเขาไม่อยากคุยกับเรา ห้องเรามีเเค่20คน เเล้วพวกนางก็คบกันเอง ปล่อยเราเคว้งออกนอกจักรวาล ขนาดรุ่นพี่ที่มส.มาเรียนใหม่กับห้องเรา เรายังคุยกับพี่เขาจนเป็นเพื่อนกันเลย เราใช่ต้นตอของปัญหาจริงๆหรอ ตอนม.ต้นเราก็ไม่เคยเป็นเเบบนี้ ห้องเรามี50คน ต่อให้คนละกลุ่ม เราก็เพื่อนกันหมด ถึงจะเกลียดกัน เราก็ทำงานกันได้ เเถมเราก็หัวโจกห้องด้วย พอมาที่นี่ เรางงอ่ะ งงเป็นไก่ตาเเตก ทำไมห้องเราได้เป็นเเบบนี้TT
ตอนเเรกก็ธรรมดา ชิล อยู่ได้ เเต่ตอนนี้เเค่เห็นเราก็เหมือนเราไปนั่งบนหัวมันอ่ะค่ะ ซุบซิบนินทา ค่อนเเคระเหน็บเเหนบ ลำคาญพวกนางมากค่ะ จะบอกเเม่ก็ไม่ได้ เเม่คงคิดว่าเราไม่ยอมเข้าหาเพื่อนเอง ตอนนี้เคลียดมากค่ะ ไม่อยากไปเจอหน้าไอ้เด็กในห้องเคยค่ะ
เเบบนี้ถือว่าโดนbully มั้ยคะ
ตอนเเรกก็ธรรมดา ชิล อยู่ได้ เเต่ตอนนี้เเค่เห็นเราก็เหมือนเราไปนั่งบนหัวมันอ่ะค่ะ ซุบซิบนินทา ค่อนเเคระเหน็บเเหนบ ลำคาญพวกนางมากค่ะ จะบอกเเม่ก็ไม่ได้ เเม่คงคิดว่าเราไม่ยอมเข้าหาเพื่อนเอง ตอนนี้เคลียดมากค่ะ ไม่อยากไปเจอหน้าไอ้เด็กในห้องเคยค่ะ