ค่อนข้างจะเซอร์ไพรส์เล็กน้อยที่ตัวเต็งอย่าง A Star Is Born ที่ดูน่าจะเป็นขวัญใจคนดูพอกับ Green Bookไม่สามารถคว้ารางวัลใดๆกลับบ้าน
Green Book สร้างจากเรื่องจริงของ Tony Lip นังเลงไนท์คลับที่ได้มาเป็นคนขับรถให้นักเปียโนผิวสี Don Shirley ตระเวนออกทัวร์ทั่วแดนใต้ของอเมริกา ในช่วงยุค 1960 หนังได้รับคำวิจารณ์ที่ดี แต่อาจจะไม่ดีมาก นักวิจารณ์ส่วนใหญ่บอกว่าหนังสนุกมาก หนังแสดงนำเล่นดีทั้งคู่ หนังกำกับโดยหนึ่งในผู้กำกับพี่น้องสายตลกชื่อดังอย่าง Farrelly brothers ที่เคยกำกับ Dumb and Dumber (1994)และ There's Something About Mary (1998) โดยรอบนี้พี่ชายอย่าง Peter Farrelly กำกับคนเดียว
ผู้ชนะรางวัล People's Choice Award เกือบทุกๆปีจะไปเข้าชิงออสการ์กันตลอด โดยผู้ชนะในทศวรรษนี้เกือบทั้งหมดเข้าชิงออสการ์ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม เริ่มตั้งแต่ The King's Speech (2010), Silver Linings Playbook (2012), 12 Years a Slave (2013), The Imitation Game (2014), Room (2015), La La Land (2016) และปีที่แล้ว Three Billboards Outside Ebbing, Missouri (2017)
สาขาที่ Green Book มีลุ้นในออสการ์น่าจะมี 3-4 สาขา ด้วยเนื้อหาเกี่ยวกับเหยียวผิดและเรื่องราวสไตล์ Road Movie ที่สนุกสนานน่าจะดีพอให้ Green Book มีลุ้นเข้าชิงออสการ์สาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ตามรอย Driving Miss Daisy (1989)และ Hidden Figures (2016) อารากอร์นขวัญใจใครๆหลายคน Viggo Mortensen ที่รอบนี้ไม่ต้องแก้ผ้าโชว์อวัยวะเพศ ก็มีลุ้นเข้าชิงออสการ์นำชายเป็นครั้งที่ 3 หลังจากเคยเข้าชิงจาก Eastern Promises (2007)และ Captain Fantastic (2016) กับบทสไตล์ตลกหน่อยๆ ที่เขาไม่ค่อยเล่น Mahershala Ali เจ้าของรางวัลออสการ์สมทบชาย จากบทประมาณ 16 นาทีใน Moonlight (2016) กับมาครั้งนี้ในบทนักดนตรีที่อยู่ท่ามกลางความเหยียวผิวรุนแรงในแดนใต้ของอเมริกาช่วงยุค 60 อาจจะพาเขาคว้าออสการ์อีกรอบในสาขาสมทบชายตามรอย Christoph Waltz ที่คว้าอออสการ์สมทบชายในเวลาไล่เลี่ยกัน จาก Inglourious Basterds (2009)และ Django Unchained (2012)
Green Book ชนะรางวัลขวัญใจมหาชนจาก 2018 Toronto International Film Festival
Green Book สร้างจากเรื่องจริงของ Tony Lip นังเลงไนท์คลับที่ได้มาเป็นคนขับรถให้นักเปียโนผิวสี Don Shirley ตระเวนออกทัวร์ทั่วแดนใต้ของอเมริกา ในช่วงยุค 1960 หนังได้รับคำวิจารณ์ที่ดี แต่อาจจะไม่ดีมาก นักวิจารณ์ส่วนใหญ่บอกว่าหนังสนุกมาก หนังแสดงนำเล่นดีทั้งคู่ หนังกำกับโดยหนึ่งในผู้กำกับพี่น้องสายตลกชื่อดังอย่าง Farrelly brothers ที่เคยกำกับ Dumb and Dumber (1994)และ There's Something About Mary (1998) โดยรอบนี้พี่ชายอย่าง Peter Farrelly กำกับคนเดียว
ผู้ชนะรางวัล People's Choice Award เกือบทุกๆปีจะไปเข้าชิงออสการ์กันตลอด โดยผู้ชนะในทศวรรษนี้เกือบทั้งหมดเข้าชิงออสการ์ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม เริ่มตั้งแต่ The King's Speech (2010), Silver Linings Playbook (2012), 12 Years a Slave (2013), The Imitation Game (2014), Room (2015), La La Land (2016) และปีที่แล้ว Three Billboards Outside Ebbing, Missouri (2017)
สาขาที่ Green Book มีลุ้นในออสการ์น่าจะมี 3-4 สาขา ด้วยเนื้อหาเกี่ยวกับเหยียวผิดและเรื่องราวสไตล์ Road Movie ที่สนุกสนานน่าจะดีพอให้ Green Book มีลุ้นเข้าชิงออสการ์สาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ตามรอย Driving Miss Daisy (1989)และ Hidden Figures (2016) อารากอร์นขวัญใจใครๆหลายคน Viggo Mortensen ที่รอบนี้ไม่ต้องแก้ผ้าโชว์อวัยวะเพศ ก็มีลุ้นเข้าชิงออสการ์นำชายเป็นครั้งที่ 3 หลังจากเคยเข้าชิงจาก Eastern Promises (2007)และ Captain Fantastic (2016) กับบทสไตล์ตลกหน่อยๆ ที่เขาไม่ค่อยเล่น Mahershala Ali เจ้าของรางวัลออสการ์สมทบชาย จากบทประมาณ 16 นาทีใน Moonlight (2016) กับมาครั้งนี้ในบทนักดนตรีที่อยู่ท่ามกลางความเหยียวผิวรุนแรงในแดนใต้ของอเมริกาช่วงยุค 60 อาจจะพาเขาคว้าออสการ์อีกรอบในสาขาสมทบชายตามรอย Christoph Waltz ที่คว้าอออสการ์สมทบชายในเวลาไล่เลี่ยกัน จาก Inglourious Basterds (2009)และ Django Unchained (2012)