เป็นกระทู้ที่ดีเลย์นานพอสมควร เนื่องจากทริปนี้เราได้เดินทางไปภูมิภาคคันไซ-ชูบู ช่วงต่นกุมภา 2017 ทั้งหมด 7 วัน มีเหตุผลส่วนตัวทำให้ไม่ได้เข้ามาเขียนรีวิวทันที (ผิดวิสัย) เพราะตอนขากลับดันทะเลาะกะแฟน 555 ทำให้รู้สึกถ้ารีวิวก็จะยิ่งหงุดหงิดนึกถึงช่วงเวลานั้น (เป็นเรื่องปกติ) ด้วยเวลาล่วงเลยมาเกือบจะ 2 ปี เรารู้สึกเสียดายข้อมูล การเดินทางโดยใช้ Takayama-Hokuriku Pass เพราะยังมีเพื่อนๆถามไถ่กันมาพอสมควร ไปชิราคาวาโกะ ควรพักที่ไหนดี Kanazawa ดีมั๊ย จะฝากกระเป๋าอย่างไรดี จะเริ่มเดินทางจากเกียวโต หรือโอซาก้าดี Toyama น่าเที่ยวมั๊ย ข้อมูลน่าจะเป็นประโยชน์จึงขอเชิญเข้ามาเก็บเกี่ยวความรู้มาให้เพื่อนสนุกอ่านกัน (เรื่องที่ทะเลาะกะแฟนจะไม่ขอกล่าวถึงในกระทู้นี้นะ555)
เกริ่นนำก่อนออกเดินทาง
เนื่องจากครั้งนี้เราไปภูมิภาคคันไซ เป็นครั้งที่ 3 มีเวลาทั้งสิ้น 7 วัน แผนการเดินทางครั้งนี้เดินทางโดยใช้ Pass Takayama Hokuriku Pass เพื่อเที่ยวภูมิภาคชูบู แต่ก็อยากเที่ยวภูมิภาคคันไซด้วย เราเลยใช้ Pass แค่ครึ่งทางเท่านั้น (Osaka<->Kyoto<->Kanazawa<->Toyama) ตัด Takayama กับ Nagoya ออก เพราะสะดวกในการเดินทางกลับ Osaka มากกว่า(เก็บไว้ทริปหน้า) แล้วไป Unazukionsen ที่ Toyama แทน และเที่ยว นารา กับ โกเบ เพิ่มมา โดยไม่ได้ซื้อ Kansai Thru Pass เพราะกลัวว่าแผนจะเปลี่ยน เลยจ่ายเป็นรายเที่ยวแทน เบ็ดเสร็จค่าเดินทางทริปนี้
-ไปแอร์เอ็ก กลับ scoot ดอนเมือง-KIX รวมกระเป๋าอาหาร ประมาณ 11,500 บาท (ช่วงหยุดยาววิสาขบูชา)
-ซื้อ Takayama hokuriku pass ราคา 4,630 บาท (ค่าเงินเยน กพ. 2017 : 3.1)
-ค่าเดินทางที่ไม่ได้อยู่ใน pass + ที่พัก(Business hotel/ออนเซน 1 คืน) + ค่าเข้าสถานที่/เช่าจักรยาน + ของกิน = 20,000 บาท
รวม 36,130 บาท ไม่รวม (shopping)
(จากแผนที่ที่ใช้ Pass เราใช้เดินทาง Osaka Kyoto Kanazawa ถึงแค่ Toyoma แล้วจ่ายตังค์เพิ่มเพื่อต่อขบวนจาก Toyama ไป Shin-kurobe)
เริ่มต้นเดินทางด้วยหางแดงจากดอนเมืองสู่สนามบินคันไซ เวลายอดนิยมของไฟล์ทนี้เครื่องลง 21.40 น. ตรงเวลาเป๊ะ ผ่าน ตม.รีบรับกระเป๋าเสร็จ เกือบ 4 ทุ่มครึ่ง ต้องรีบไปแลก Pass ที่ JR information center อยู่ชั้น 2 อาคารฝั่งตรงข้าม Terminal เดินข้ามทางลอยฟ้าไป ต้องวิ่งนะคะเพราะ office ปิด 5 ทุ่มและไม่รู้คิวจะยาวมั๊ย และรถไฟเข้าเมืองเที่ยวสุดท้ายก็ก่อนเที่ยงคืน เผื่อเวลาหน่อย
มาถึงเคาร์เตอร์ JR office นำ Voucher ที่ซื้อจากเมืองไทยแลก Pass โดยระบุจำนวนวันที่เราเริ่มใช้ จำนวนต่อเนื่อง 5 วัน เราเริ่มใช้วันที่ 3 ของการเดินทาง ได้ถึงวันสุดท้ายที่กลับสนามบินพอดี นอกจากนั้นเรายังจองที่นั่งจาก Kyoto ไป Kanazawa (นั่งยาวกลัวเต็ม)/ที่นั่งชินกันเซ็นจาก Kanazawa ไป Toyama ด้วย ยังไม่พอเราซื้อตั๋วเดินทาง Route เพิ่มนอกเหนือจาก Pass จาก Toyama ไป Kurobe-Unazukionsen สำหรับขบวน Nonreserved 1,440 เยน ไปกลับก็คูณ 2 ภาระกิจ Done!! ซื้อได้ครบแล้ว เดินไปขึ้นรถไฟเข้าเมืองกัน
เนื่องจากวันนี้และพรุ่งนี้ยังไม่ได้ใช้ Pass เลยเลือกนั่งรถไฟ Nankai เข้าเมือง ที่นั่งสวยงามกว้างขวาง ขอพักเหนื่อยจากที่วิ่งๆวกี้ เหนื่อยนะเนี่ย เฮ้อ!!ป้าแก่แล้วจะเป็นลม ของีบเล็กๆ 32 นาทีแล้วเปลี่ยน 1 สถานี แล้วไปลง Ebisucho
เราเลือกที่พัก Toyokoinn (โรงแรมประจำตัวของข้า 555 ) Toyoko inn เป็น Business hotel ที่เตียงนอนไม่แคบมาก มีห้องน้ำในตัว ราคาถูกและฟรีอาหารเช้า ครั้งนี้พักที่ สาขา Nippombashi เพราะนึกว่าน่าจะเดินไป Namba ตอนเช้าได้ชิวๆ ที่ไหนได้ไม่ใกล้เลย เรานั่งสาย Nankai ลงสถานี Ebisucho เดินออกมาจากสถานีนึกว่าอยู่ในตู้แช่แข็งหนาวมากๆประมาณ 2 องศา จากสถานีเดินอีกประมาณ 5นาที เราว่าเดินไกลพอสมควร(หรือว่าเราหนาว) แต่ทางเดินติดถนนมีรถวิ่งตลอดไม่เปลี่ยวมาก และก็ถึง Toyokoinn เช็คอิน เก็บของแล้วไปหาอะไรร้อนๆกินแก้หนาวดีกว่า แถวโรงแรมร้านสะดวกซื้อทั้งเซเว่น ลอร์สัน เดินเลือกสนุกสนาน จัดโอเด้งมาคลายความหนาว
วันที่ 2
ตื่นเช้ามาแบบหนาวๆ เราเก็บกระเป๋าเริ่มเดินทางต่อเลยทันที เพราะจะไปพักที่ Kyoto ย่านกิออนคืนนี้ แต่อยู่แถว nippombashi แล้ว แถวนี้จะใกล้ย่าน Denden town ขายเครื่องใช้ไฟฟ้า เช้าๆยังงี้ขอแวะไปที่ Kuromon Market ก่อน เดินเที่ยวหาของกิน เดินออกจากสถานี nippombashi ทางออก 10 เดินเลี้ยวซ้าย บล็อคแรกก็เจอตลาด จะเห็นว่าตลาดที่นี่สะอาดมาก กว้างขวาง เดินลากกระเป๋าชิวๆเลย
แวะซื้ออาหารเช้ากินกัน รีบออกไม่ได้กินอาหารเช้าฟรีที่โรงแรม มากินอาหารทะเลแทน ส่วนใหญ่ก็ซื้อมายืนกินกัน
ออกจาก Kuromon Market ประมาณ 10 โมง เราก็เดินไปสถานี Kintetsu Nippombashi ต่อเพื่อไปสถานี Kintetsu-Nara เราจะไปดูกวางกัน นั่งไป 40 นาที เราว่าจะไปขี่จักรยานไปวัดโทไดจิ คราวนี้ไม่เดินลากกระเป๋าแล้ว เราต้องฝากกระเป๋าไว้ที่ Coin locker ที่สถานี Kintetsu Nara
เดินออกจาก Kintetsu-nara ทางออก 7 เลี้ยวขวา เดินตามทางมาเรื่อยๆผ่านป้ายรถเมล์เจอแยก มองขวาจะเห็นร้านเช่าจักรยาน ราคาจักรยาน มี 2 แบบ แบบธรรมดา กับแบบดิจิ(ตอล) 500 กับ 800 เยน ขี่ได้ถึง 4 โมงเยนคุ้มเว่อร์ !! แต่เรามีเวลาแค่ 2 ชม.เพราะต้องไปเกียวโตต่อ ตอนไปติดต่อก็ต้องแจ้งชื่อโรงแรมที่เราพักด้วย จดที่อยู่เบอร์โทรโรงแรมไว้ด้วย เราแจ้งที่พักที่เกียวโต
ที่นารามีทางสำหรับปั่นจักรยานไปถึงวัดโทไดจิเลย ถ้าเดินไปสวนนารา คงเหนื่อยมากเพราะไกลแล้วมีเนินสูงหลายเนิน ปั่นจักรยานก็เป็นทางเลือกที่ดี มิฉะนั้นก็ต้องนั่งรถบัส ถึงสวนแล้วแต่หาที่จอดจักรยานยากนิดนึงต้องมองหาดีๆ
ผ่าน Nara Park กวางที่นี่ดูเข้ากับคนได้ดี(เกินไป) ใครมีขนมเซมเบ้ ก็จะเข้ามารุมล้อมเลยจ้า แล้วยังกินแผนที่พี่อีก เอิ่ม!!เกือบเอาออกไปทัน
หน้าทางเข้าวัดโทไดจิก็จะมีร้านขายของฝาก ซุ้มร้านอาหารมาขายของกินกัน ใกล้เที่ยงแล้วเราก็เลยกินข้าวตรงนี้เลย ต่อจากนั้นก็เข้าไปวัดโทไดจิเสียค่าเข้า 700 เยน ที่นี่เป็นที่ประดิษฐานของหลวงพ่อโตหรือไดบุตสึ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ของเมืองนารา
ปั่นกลับไปสถานี Kintetsu-nara เอากระเป๋าแล้วนั่งไปเกียวโตกัน ประมาณ 50 นาที ลงสถานี GionShijo เพื่อไปเข้าที่พักกันก่อนที่ Minami House เกียวโต เดินเลี้ยวขวาจากทางออก 1 ของสถานี เจอซอยแรกเลี้ยวขวาเดินเข้าซอยประมาณ 200 เมตร Minami House ที่พักแบบ service apartment ใกล้ๆริมแม่น้ำคาโมะ มีห้องนั่งเล่นและห้องครัว ราคาต่อคืน 2300 บาท เท่านั้นเอง
เนื่องจากมาถึงที่พักก็บ่ายสามกว่าแล้ว ขอพักเอาแรง 1 ชม. ตอนแรกว่าจะไปเดินถนนหน้าวัดน้ำใส แต่ไม่ไหวของีบเอาแรง เราหาข้าวเย็นแถวๆกิออนดีกว่า แต่เมื่อทริปที่เเล้วเราเคยเดินแถว Hanami-koji street กับ Yasaka Shrine แล้ว คราวนี้เลยขอเดินไปแถวฟากสถานี Kawaramachi เต็มไปด้วยห้างสรรพสินค้า (คนละบรรยากาศเลย) เดินไกลมากจนไปถึงสถานี Sanjo เลยเจอร้าน Gyu-Kaku บุฟเฟ่ปิ้งย่าง (ร้านนี้มีที่สาขาดงโทบุริ) บุฟเฟ่ตกเป็นเงินไทยหัวละ 1,200 บาท รสชาดก็เหมือนกินที่ไทย 555
[CR] รีวิวทริปคันไซ-ชูบุ โดย Pass Takayama Hokoriku ไปเจอหิมะฟูๆ ที่ Toyama
เกริ่นนำก่อนออกเดินทาง
เนื่องจากครั้งนี้เราไปภูมิภาคคันไซ เป็นครั้งที่ 3 มีเวลาทั้งสิ้น 7 วัน แผนการเดินทางครั้งนี้เดินทางโดยใช้ Pass Takayama Hokuriku Pass เพื่อเที่ยวภูมิภาคชูบู แต่ก็อยากเที่ยวภูมิภาคคันไซด้วย เราเลยใช้ Pass แค่ครึ่งทางเท่านั้น (Osaka<->Kyoto<->Kanazawa<->Toyama) ตัด Takayama กับ Nagoya ออก เพราะสะดวกในการเดินทางกลับ Osaka มากกว่า(เก็บไว้ทริปหน้า) แล้วไป Unazukionsen ที่ Toyama แทน และเที่ยว นารา กับ โกเบ เพิ่มมา โดยไม่ได้ซื้อ Kansai Thru Pass เพราะกลัวว่าแผนจะเปลี่ยน เลยจ่ายเป็นรายเที่ยวแทน เบ็ดเสร็จค่าเดินทางทริปนี้
-ไปแอร์เอ็ก กลับ scoot ดอนเมือง-KIX รวมกระเป๋าอาหาร ประมาณ 11,500 บาท (ช่วงหยุดยาววิสาขบูชา)
-ซื้อ Takayama hokuriku pass ราคา 4,630 บาท (ค่าเงินเยน กพ. 2017 : 3.1)
-ค่าเดินทางที่ไม่ได้อยู่ใน pass + ที่พัก(Business hotel/ออนเซน 1 คืน) + ค่าเข้าสถานที่/เช่าจักรยาน + ของกิน = 20,000 บาท
รวม 36,130 บาท ไม่รวม (shopping)
(จากแผนที่ที่ใช้ Pass เราใช้เดินทาง Osaka Kyoto Kanazawa ถึงแค่ Toyoma แล้วจ่ายตังค์เพิ่มเพื่อต่อขบวนจาก Toyama ไป Shin-kurobe)
เริ่มต้นเดินทางด้วยหางแดงจากดอนเมืองสู่สนามบินคันไซ เวลายอดนิยมของไฟล์ทนี้เครื่องลง 21.40 น. ตรงเวลาเป๊ะ ผ่าน ตม.รีบรับกระเป๋าเสร็จ เกือบ 4 ทุ่มครึ่ง ต้องรีบไปแลก Pass ที่ JR information center อยู่ชั้น 2 อาคารฝั่งตรงข้าม Terminal เดินข้ามทางลอยฟ้าไป ต้องวิ่งนะคะเพราะ office ปิด 5 ทุ่มและไม่รู้คิวจะยาวมั๊ย และรถไฟเข้าเมืองเที่ยวสุดท้ายก็ก่อนเที่ยงคืน เผื่อเวลาหน่อย
มาถึงเคาร์เตอร์ JR office นำ Voucher ที่ซื้อจากเมืองไทยแลก Pass โดยระบุจำนวนวันที่เราเริ่มใช้ จำนวนต่อเนื่อง 5 วัน เราเริ่มใช้วันที่ 3 ของการเดินทาง ได้ถึงวันสุดท้ายที่กลับสนามบินพอดี นอกจากนั้นเรายังจองที่นั่งจาก Kyoto ไป Kanazawa (นั่งยาวกลัวเต็ม)/ที่นั่งชินกันเซ็นจาก Kanazawa ไป Toyama ด้วย ยังไม่พอเราซื้อตั๋วเดินทาง Route เพิ่มนอกเหนือจาก Pass จาก Toyama ไป Kurobe-Unazukionsen สำหรับขบวน Nonreserved 1,440 เยน ไปกลับก็คูณ 2 ภาระกิจ Done!! ซื้อได้ครบแล้ว เดินไปขึ้นรถไฟเข้าเมืองกัน
เนื่องจากวันนี้และพรุ่งนี้ยังไม่ได้ใช้ Pass เลยเลือกนั่งรถไฟ Nankai เข้าเมือง ที่นั่งสวยงามกว้างขวาง ขอพักเหนื่อยจากที่วิ่งๆวกี้ เหนื่อยนะเนี่ย เฮ้อ!!ป้าแก่แล้วจะเป็นลม ของีบเล็กๆ 32 นาทีแล้วเปลี่ยน 1 สถานี แล้วไปลง Ebisucho
เราเลือกที่พัก Toyokoinn (โรงแรมประจำตัวของข้า 555 ) Toyoko inn เป็น Business hotel ที่เตียงนอนไม่แคบมาก มีห้องน้ำในตัว ราคาถูกและฟรีอาหารเช้า ครั้งนี้พักที่ สาขา Nippombashi เพราะนึกว่าน่าจะเดินไป Namba ตอนเช้าได้ชิวๆ ที่ไหนได้ไม่ใกล้เลย เรานั่งสาย Nankai ลงสถานี Ebisucho เดินออกมาจากสถานีนึกว่าอยู่ในตู้แช่แข็งหนาวมากๆประมาณ 2 องศา จากสถานีเดินอีกประมาณ 5นาที เราว่าเดินไกลพอสมควร(หรือว่าเราหนาว) แต่ทางเดินติดถนนมีรถวิ่งตลอดไม่เปลี่ยวมาก และก็ถึง Toyokoinn เช็คอิน เก็บของแล้วไปหาอะไรร้อนๆกินแก้หนาวดีกว่า แถวโรงแรมร้านสะดวกซื้อทั้งเซเว่น ลอร์สัน เดินเลือกสนุกสนาน จัดโอเด้งมาคลายความหนาว
วันที่ 2
ตื่นเช้ามาแบบหนาวๆ เราเก็บกระเป๋าเริ่มเดินทางต่อเลยทันที เพราะจะไปพักที่ Kyoto ย่านกิออนคืนนี้ แต่อยู่แถว nippombashi แล้ว แถวนี้จะใกล้ย่าน Denden town ขายเครื่องใช้ไฟฟ้า เช้าๆยังงี้ขอแวะไปที่ Kuromon Market ก่อน เดินเที่ยวหาของกิน เดินออกจากสถานี nippombashi ทางออก 10 เดินเลี้ยวซ้าย บล็อคแรกก็เจอตลาด จะเห็นว่าตลาดที่นี่สะอาดมาก กว้างขวาง เดินลากกระเป๋าชิวๆเลย
แวะซื้ออาหารเช้ากินกัน รีบออกไม่ได้กินอาหารเช้าฟรีที่โรงแรม มากินอาหารทะเลแทน ส่วนใหญ่ก็ซื้อมายืนกินกัน
ออกจาก Kuromon Market ประมาณ 10 โมง เราก็เดินไปสถานี Kintetsu Nippombashi ต่อเพื่อไปสถานี Kintetsu-Nara เราจะไปดูกวางกัน นั่งไป 40 นาที เราว่าจะไปขี่จักรยานไปวัดโทไดจิ คราวนี้ไม่เดินลากกระเป๋าแล้ว เราต้องฝากกระเป๋าไว้ที่ Coin locker ที่สถานี Kintetsu Nara
เดินออกจาก Kintetsu-nara ทางออก 7 เลี้ยวขวา เดินตามทางมาเรื่อยๆผ่านป้ายรถเมล์เจอแยก มองขวาจะเห็นร้านเช่าจักรยาน ราคาจักรยาน มี 2 แบบ แบบธรรมดา กับแบบดิจิ(ตอล) 500 กับ 800 เยน ขี่ได้ถึง 4 โมงเยนคุ้มเว่อร์ !! แต่เรามีเวลาแค่ 2 ชม.เพราะต้องไปเกียวโตต่อ ตอนไปติดต่อก็ต้องแจ้งชื่อโรงแรมที่เราพักด้วย จดที่อยู่เบอร์โทรโรงแรมไว้ด้วย เราแจ้งที่พักที่เกียวโต
ที่นารามีทางสำหรับปั่นจักรยานไปถึงวัดโทไดจิเลย ถ้าเดินไปสวนนารา คงเหนื่อยมากเพราะไกลแล้วมีเนินสูงหลายเนิน ปั่นจักรยานก็เป็นทางเลือกที่ดี มิฉะนั้นก็ต้องนั่งรถบัส ถึงสวนแล้วแต่หาที่จอดจักรยานยากนิดนึงต้องมองหาดีๆ
ผ่าน Nara Park กวางที่นี่ดูเข้ากับคนได้ดี(เกินไป) ใครมีขนมเซมเบ้ ก็จะเข้ามารุมล้อมเลยจ้า แล้วยังกินแผนที่พี่อีก เอิ่ม!!เกือบเอาออกไปทัน
หน้าทางเข้าวัดโทไดจิก็จะมีร้านขายของฝาก ซุ้มร้านอาหารมาขายของกินกัน ใกล้เที่ยงแล้วเราก็เลยกินข้าวตรงนี้เลย ต่อจากนั้นก็เข้าไปวัดโทไดจิเสียค่าเข้า 700 เยน ที่นี่เป็นที่ประดิษฐานของหลวงพ่อโตหรือไดบุตสึ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ของเมืองนารา
ปั่นกลับไปสถานี Kintetsu-nara เอากระเป๋าแล้วนั่งไปเกียวโตกัน ประมาณ 50 นาที ลงสถานี GionShijo เพื่อไปเข้าที่พักกันก่อนที่ Minami House เกียวโต เดินเลี้ยวขวาจากทางออก 1 ของสถานี เจอซอยแรกเลี้ยวขวาเดินเข้าซอยประมาณ 200 เมตร Minami House ที่พักแบบ service apartment ใกล้ๆริมแม่น้ำคาโมะ มีห้องนั่งเล่นและห้องครัว ราคาต่อคืน 2300 บาท เท่านั้นเอง
เนื่องจากมาถึงที่พักก็บ่ายสามกว่าแล้ว ขอพักเอาแรง 1 ชม. ตอนแรกว่าจะไปเดินถนนหน้าวัดน้ำใส แต่ไม่ไหวของีบเอาแรง เราหาข้าวเย็นแถวๆกิออนดีกว่า แต่เมื่อทริปที่เเล้วเราเคยเดินแถว Hanami-koji street กับ Yasaka Shrine แล้ว คราวนี้เลยขอเดินไปแถวฟากสถานี Kawaramachi เต็มไปด้วยห้างสรรพสินค้า (คนละบรรยากาศเลย) เดินไกลมากจนไปถึงสถานี Sanjo เลยเจอร้าน Gyu-Kaku บุฟเฟ่ปิ้งย่าง (ร้านนี้มีที่สาขาดงโทบุริ) บุฟเฟ่ตกเป็นเงินไทยหัวละ 1,200 บาท รสชาดก็เหมือนกินที่ไทย 555
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น