ระหว่าง Toyota Yaris ATIV 2018 S กับ Suzuki Swift 2018 GLX-Navi CVT ตัวTop ทั้งคู่ตัวไหนน่าเซื้อกว่ากันในแง่ที่ผมListในกระทู้ครับ โดยจุดประสงค์ของกระทู้นี้ขอเป็นผู้ใช้งานจะดีมากเลยครับ
1. สิ่งนี้สำคัญอันดับ 1 คือเรื่องการขายต่อครับ ว่าราคาตกห่างกันมากแค่ไหนครับ เข้าใจว่า Toyota ราคาตกน้อยกว่าแน่นอน แต่ถ้ามันห่างกันไม่มาก มันก็โอเค (ข้อนี้ใครทำเต้นท์หรือมีประสบการณ์ขายต่อมาแล้ว รบกวนด้วยนะครับ ) อยากรู้ว่าพอมีเรทไหมครับเช่น Toyota yaris ตกปีละ 10% หรือตกปีละ10,000 ส่วน swift ตกปีละ 15% หรือปีละ 5,000 บาท อันนี้ยกตัวอย่างนะครับ หรือเอาเป็นว่าถ้าขายต่อเนี่ย 2รุ่นนี้ swift ราคาตกห่างกับ yaris 90,000 บาท ทำนองนี้ก็ได้
ปล. ข้อนี้รบกวนอย่าดรามาซื้อรถมาใช้ ไม่ได้มาขายนะครับ เพราะส่วนตัว 2 ยี่ห้อนี้ ซื้อเพื่อนเน้นประหยัดน้ำมัน ราคาขายต่อ ค่าซ่อมบำรุง ซึ่งอนาคต 3-5 ปี อาจจะต้องการรถที่สูงขึ้น ใหญ่ขึ้น ก็ต้องขาย และตรงๆคือคนขับรถระดับนี้ไม่ได้มีเงินมากนัก แต่ด้วยการเป็นรถเนี่ย ตั้งแต่ 5-6 ปีขึ้นไปก็จะเริ่มขายซื้อใหม่ นั่นคือถ้าราคามันตกมาก เสียเงินค่าบำรุงรักษามาก น้ำมันแพง ตอนซื้อใหม่ก็จะหนักอีก จะไม่มีเงินเก็บสักที ดังนั้น ข้อนี้ผมคิดว่าจำเป็นสำหรับผม เท่าที่ศึกษามาคือ
- Yaris ราคาตกน้อยกว่า เท่าไม่รู้ตกกว่าเท่าไร บางเต๊นท์บอกห่าง 8-9 หมื่น ข้อนี้จริงหรอครับ
บางคนก็บอกว่า ราคาขายต่อตกห่างกันประมาณ 50,000 ถ้าประกาศขายเอง ถ้าขายเต๊นท์
แต่ สำหรับ Yaris อาจจะประกาศขายเองได้ ไม่โดนเต๊นท์กดราคา เพราะขึ้นชื่อว่า Toyota ขายง่าย
ส่วน Swift ไม่รู้ว่าขายง่ายไหม ถ้าโพสต์ขายเอง เพราะเท่าที่ลองดูถ้าโพสต์ขายเองทั้งคู่ ราคาตกห่างกันประมาณ 30,000-40,000 บาท ก็ถือว่าเป็นตัวเลขที่รับได้ถ้าตัดสินใจเลือก SWIFT เพราะแม้ SWIFT ราคาจะตกกว่า พอหักลบค่าน้ำมันรวมตลอดการขับรถก่อนขาย และหักลบค่าซ่อมบำรุงสะสม อาจจะทำให้โดยรวมหลังขาย ส่วนต่างการสูญเสียเงิน หรือ ค่าเสื่อม ห่างกันเพียง 1-2 หมื่น แต่ได้รถที่ชอบ หากตัดสินใจเลือก SWIFT (ทั้งนี้อย่างที่เขียนไปครับ ชอบทั้งคู่ มันมีจุดดีและด้อยทั้งคู่ กินกันไม่ลง )[ในกรณีข้อมูลถูกต้อง]
แต่ถ้าโพสต์ขายเองไม่ได้ แล้วถ้าไปที่เต๊นท์ ไม่รู้ว่าพอขึ้นชื่อว่า Swift จะโดนกดราคาไหม ถ้าโดนกดอาจทำให้ระยะห่างในการตกอาจจะห่างถึง 50,000-90,000 บาท เลยทีเดียว ซึ่งเป็นตัวเลขที่เยอะ หักร้างยังๆ ก็น่าจะเหลื่มประมาณ 30,000 บาท ใครรู้หรือมีประสบการณ์ รบกวนแชร์ด้วยนะครับ
2. ค่าบำรุงรักษา ข้อนี้ส่วนตัวให้ความสำคัญอีกเช่นกัน ไม่เคยขับ Eco car ขับแต่พวก รถกลางๆมาหลายยี่ห้อ ซ่อมทีแล้วเหนื่อย ซ่อมแต่ละทีดูดเงินมากๆ และซ่อมบ่อยอีกตั้งหาก แต่ Eco car อย่าง swift และ yaris ได้ไปลองถามศูนย์มาทั้ง 2 ได้คำตอบเหมือนกันว่า ค่าซ่อมแทบไม่มี ใน 5 ปี มีแต่เช็คระยะ ทั้ง2ยี่ห้อเคลมว่าตัวเองราคาถูกโดย
Yaris เซลล์บอกกว่า ไม่ค่อยมีซ่อม ส่วนใหญ่มีแต่เช็คระยะ และเนื่องด้วยเป็น Eco car ดังนั้นอะไหล่จึงถูกมากและส่วนใหญ่มีอะไหล่เปลี่ยนได้เลย ศูนย์เยอะ แต่ที่เซล์ย้ำคือ 5 ปี ไม่มีซ่อม แค่เช็คระยะ
Swift บอกว่า จริงๆคนไม่รู้ Swift กับ Yaris เนี่ย ถ้าเข้าศูนย์ทั้งคู่ Swift จะถูกกว่า และค่าแรงถูกกว่าด้วย ส่วน toyota นั้นแพง แต่ที่คนส่วนใหญ่บอกว่าโตโยต้าถูกเพราะไปซ่อมข้างนอกจึงไปใช้ของเทียบซึ่งอาจจะอยู่ไม่นานเหมือนของแท้ แต่ถ้า swift ต้องซ่อมศูนย์อย่างเดียว และเซลล์ได้ยกตัวอย่างค่าซ่อมอะไรสักอย่างสมมุติโตโยต้า ราคาค่าซ่อม 7000-8000 ถ้า swift 4000 บาทเท่านั้น และโตโยต้าซ่อมทีเกิน 5 พัน บางทีเป็นหมื่น ถ้าเข้าศูย์ ไม่รู้ว่าเรื่องจริงเป็นอย่างไร จึงอยากถามประสบการณ์ผู้ใช้จริงครับ ว่าค่าบำรุงรักษาต่างกันอะไรยังไง
3. ค่าน้ำมัน ไปลองเทสมาทั้ง 2 รุ่น เลยแอบ "สังเกตุตัวเลขหน้าจอของรถ TEST DRIVE " ทั้ง 2 ยี่ห้อ ก็เห็นว่า
YARIS อัตราการกินน้ำมันเฉลี่ยอยู่ที่ 11.3 km/l ประมาณนี้ ส่วน Swift อัตราการกินน้ำมันอยู่ที่ 12.9 km/l พอดูจริงๆก็ตกใจนะเพราะทั้งคู่โฆษณาว่า 20 km/l ส่วนใหญ่ขับอยู่ในเมืองซึ่งรถติดไฟแดงเยอะ เหยียบเบรคบ่อย เพื่อนๆ พี่ๆ ได้กันเท่าไรบ้างครับ ดูตัวเลขจากรถ test drive ถือว่ากินน้ำมันอยู่นะครับ เลยอยากถามผู้ใช้จริงครับว่าอัตราน้ำมันเป็นอย่างไร รบกวนแจ้งว่าขับตจว ไม่ติด หรือในเมืองติดๆด้วยนะครับ มีเซลล์ทั้งคู่บอกว่า ทั้งคู่น้ำมันถึงเดียวขับไปเชียงใหม่ได้เลยหรอครับ แบบเหลือๆ และกรณีวิ่งเที่ยวตจว อัตราการกินน้ำมันเท่าไรครับ
แต่มีจุดเด่นนึงของ SWIFT คือ Idling Stop พอรถติดไฟแดง หรือรถติดเครื่องเหมือนจะดับ พอเหยียบคันเน่งก็เหมือน start ใหม่ ไม่รู้ว่ามันช่วยประหยัดน้ำมันได้เยอะไหมครับ เพราะเข้าใจว่าทุกครั้งที่ start มันต้องใช้น้ำมันเยอะช่วง start และถ้าขับในเมืองเช่นแถวสยามรถแทบหยุดนิ่งมากกว่าขยับ แบบนี้ไม่ดับๆstartๆจนเปลืองน้ำมันกว่าเดิม หรือเสียเร็วขึ้นหรอครับ
4. ความปลอดภัยในการเลี้ยวโค้ง หรือขับตจว. ครับ
5. ตัว Top ทั้งคู่ไม่มีเบาะหนัง Swift ถ้าเปลี่ยนประกันขาด ส่วน Yaris บอกว่ารอรุ่นใหม่ที่เป็น plus มาพร้อมเบาะหนัง แต่บางศูนย์บอกว่ารุ่นที่ออกมาจะแพงกว่าซื้อตัวนี้เดี๋ยวแถมทำเบาะหนังให้ แต่ไม่ได้แจ้งเรื่องประกัน สำหรับ Yaris และไม่มีใครตอบได้ว่าตัวใหม่จะมาเมื่อไร ควรรอไหมครับ
จาก 5 ข้อ จะสรุปได้ว่าที่ถามๆมาได้ข้อมูลสรุปดังนี้ [ถ้าข้อมูลถูกต้อง]
ขายต่อ Yaris ชนะ
ค่าซ่อมศูนย์ Suzuki Swift ชนะ
ประหยัดน้ำมัน Swift ชนะ
ปัญหาการใช้งาน ข้อนี้ยังไม่มีข้อมูล
ซึ่งพอหักล้างเมื่อเทียบเป็นเงินแล้ว ไม่รู้ว่าอะไรคุ้มกว่ากัน เลยเป็นที่มาของการตั้งกระทู้ละเอียดๆกระทู้นี้ครับ
โดยส่วนตัวสำหรับรายได้ประมาณ 60,000 -100,000 บาท/เดือน (รายได้หลัก + เสริม ) แต่เป็นคนขับรถกลางๆมาหลายยี่ห้อ ส่วนตัวไม่ได้เป็นคนหลงไหลกับ Design อะไรมากอยู่แล้วเพราะที่ชอบจริงๆคือ Benz แต่จากรายได้จึงไปไม่ถึงฝัน ระหว่างทางขับแต่รถกลางๆเปลี่ยนมา 4 ยี่ห้อ รู้สึกถูกดูดเงินค่าซ่อมโดยใช่เหตุ อีกทั้งค่าน้ำมันที่ดูดเอาๆ รู้สึกสิ้นเปลืองมากๆโดยไร้ประโยชน์เพราะทำงานในเมือง รถติด อีกทั้ง ขายต่อแต่ละทีสะเทือนใจ ซื้อรถกลางๆ ผ่อนรวมดอก เฉียดๆล้าน บางคันล้านนิดๆ พอขายต่อ เหลือเพียง 3 แสน ต่ำสุดที่เจอมาคือ ขายได้ 170,000 บาท รู้สึกค่าเสื่อมที่หายไป + ค่าซ่อมระหว่างทาง + ค่าน้ำมันที่ดูด ไม่คุ้มค่าเอามากๆ เอาเงินไปลงทุนหรือทำอย่างอื่นดีกว่า ส่วนตัวคิดว่าซื้อรถทีเดียวมันไม่จบ 4-6 ปี ก็ต้องซื้อใหม่อีก วงจรการดูดเงินแบบนี้มันจะมาเรื่อยๆ ครั้งนี้เลยเด็ดขาดกับตัวเองว่า จะขับอะไรที่ประหยัดเงินในกระเป๋าสุดเป็นที่ตั้ง แต่ส่วนตัวใช้ชีวิตในเมือง กรุงเทพเป็นหลัก ออกต่างจังหวัดถ้ามีสนามบินก็บินแล้วเช่ารถอยู่แล้ว นอกจากไปจังหวัดที่จำเป็นต้องเดินทางด้วยรถ ทั้งนี้เลยไม่สนใจรถที่สูงกว่า ECO CAR แล้ว เพราะตัวกลางๆบางรุ่นเห็นประหยัดน้ำมันกว่าก็จริง แต่ด้วยความเป็นรถกลางๆ ราคาก็จะตกแรง รวมถึงค่าบำรุงรักษาก็แรง ถ้าใครลองจดดูค่าใช้จ่ายในการขับรถกลางๆค่อนข้างสูงเลยทีเดียว เหตุที่เล่าเพราะผู้ตอบจะได้ทราบเจตนาที่แท้จริงว่าทำไมไม่มองรุ่นอื่นเลย เพราะไม่ใช่แค่ค่าน้ำมัน แต่มันมีเรื่องอื่นๆเข้ามาด้วย และที่สำคัญตัวเองตอนนี้ไม่ได้ต้องการ indy อยากได้รถยี่ห้อแปลก หรือตัดสินที่ Design เป็นหลักแล้ว
แต่การเลือก 2 รุ่นนี้เป็นอะไรที่กินกันไม่ลง [List จุดเด่นแต่ละอันส่วนตัวเป็นดังนี้ จุดเด่นอื่นที่ไม่ LIST เพราะทั้งคู่มี]
Yaris
- เหมือนวัสดุภายในจะดีกว่า รถใหญ่กว่า ดูบึกบึนกว่า ดูจะปลอดภัยกว่าหรือเปล่า ไม่แน่ใจนะครับ แต่ล้อแค่ 15 swift 16 ไม่รู้ว่าล้อ 15 จะปลอดภัยไหม
- คนหลังนั่งสบายกว่า และที่เก็บของประตูหลังก็ใหญ่ น่าจะใส่กระเป๋าใบใหญ่ได้ถึง 2 ใบและน่าจะยังเหลือที่ใส่ของซื้อ Shooping อีกด้วย
- ถ้าตัวเลขการประหยัดน้ำมันห่างกันนิดหน่อยก็พอรับได้
- การขายต่อน่าจะราคาไม่ตกมากด้วยกลางเป็น TOYATA ที่ไม่ใช่ตัวกลางขึ้นไป แต่เป็น ECO CAR อย่าง YARIS
SWIFT
- ของเล่นจัดเต็ม แม้จอ NAVI จะอยู่ในตำแหน่งที่ใช้งานยาก มันอยู่ในระดับสายตาที่ต้องก้มตาลงสลับก้มตาขึ้นในการมองทาง จึงไม่น่าจะโอเค แค่อย่างน้อยมี NAVI ไว้กันหลงทาง
- รถสั้น น่าจะจอดง่าย หาที่จอดง่าย แต่ว่าไม่รู้คนนั่งหลังจะสบายไหม และเก็บของด้านหลังจะเยอะแค่ไหนถ้ายัดกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ 2 ใบก็น่าจะเต็มแล้ว
- ประหยัดน้ำมันกว่าแน่ๆ แต่ไม่รู้ห่างจาก Yaris จนต้องถือเป็นนัยยะสำคัญไหม
- ถ้าศูนย์ซูซูกิไม่ได้หลอกมา ค่าซ่อม อะไหล่ ค่าแรง ถ้าซ่อมศูนย์ SWIFT ถูกกว่า แต่ด้วย YARIS ก็เป็น ECO CAR ค่าซ่อมก็ไม่น่าจะห่างกันมาก อันนี้คิดเองเองนะครับ ไม่รู้ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร
- ล้อ 16 น่าจะติดถนนมากกว่าหรือเปล่าเวลาฝนตกหรือเลี้ยวโค้ง แต่รุ่นใหม่น้ำหนักหายไป 100กว่าโล เวลาเกิดการชน จะปลอดภัยไหม
ขอบคุณครับ
ระหว่างYaris ATIV 2018 S กับ Suzuki Swift 2018 GLX-Navi CVT ตัวTop ทั้งคู่ตัวไหนน่าซื้อกว่ากันในแง่ที่ผมListในกระทู้ครับ
1. สิ่งนี้สำคัญอันดับ 1 คือเรื่องการขายต่อครับ ว่าราคาตกห่างกันมากแค่ไหนครับ เข้าใจว่า Toyota ราคาตกน้อยกว่าแน่นอน แต่ถ้ามันห่างกันไม่มาก มันก็โอเค (ข้อนี้ใครทำเต้นท์หรือมีประสบการณ์ขายต่อมาแล้ว รบกวนด้วยนะครับ ) อยากรู้ว่าพอมีเรทไหมครับเช่น Toyota yaris ตกปีละ 10% หรือตกปีละ10,000 ส่วน swift ตกปีละ 15% หรือปีละ 5,000 บาท อันนี้ยกตัวอย่างนะครับ หรือเอาเป็นว่าถ้าขายต่อเนี่ย 2รุ่นนี้ swift ราคาตกห่างกับ yaris 90,000 บาท ทำนองนี้ก็ได้
ปล. ข้อนี้รบกวนอย่าดรามาซื้อรถมาใช้ ไม่ได้มาขายนะครับ เพราะส่วนตัว 2 ยี่ห้อนี้ ซื้อเพื่อนเน้นประหยัดน้ำมัน ราคาขายต่อ ค่าซ่อมบำรุง ซึ่งอนาคต 3-5 ปี อาจจะต้องการรถที่สูงขึ้น ใหญ่ขึ้น ก็ต้องขาย และตรงๆคือคนขับรถระดับนี้ไม่ได้มีเงินมากนัก แต่ด้วยการเป็นรถเนี่ย ตั้งแต่ 5-6 ปีขึ้นไปก็จะเริ่มขายซื้อใหม่ นั่นคือถ้าราคามันตกมาก เสียเงินค่าบำรุงรักษามาก น้ำมันแพง ตอนซื้อใหม่ก็จะหนักอีก จะไม่มีเงินเก็บสักที ดังนั้น ข้อนี้ผมคิดว่าจำเป็นสำหรับผม เท่าที่ศึกษามาคือ
- Yaris ราคาตกน้อยกว่า เท่าไม่รู้ตกกว่าเท่าไร บางเต๊นท์บอกห่าง 8-9 หมื่น ข้อนี้จริงหรอครับ
บางคนก็บอกว่า ราคาขายต่อตกห่างกันประมาณ 50,000 ถ้าประกาศขายเอง ถ้าขายเต๊นท์
แต่ สำหรับ Yaris อาจจะประกาศขายเองได้ ไม่โดนเต๊นท์กดราคา เพราะขึ้นชื่อว่า Toyota ขายง่าย
ส่วน Swift ไม่รู้ว่าขายง่ายไหม ถ้าโพสต์ขายเอง เพราะเท่าที่ลองดูถ้าโพสต์ขายเองทั้งคู่ ราคาตกห่างกันประมาณ 30,000-40,000 บาท ก็ถือว่าเป็นตัวเลขที่รับได้ถ้าตัดสินใจเลือก SWIFT เพราะแม้ SWIFT ราคาจะตกกว่า พอหักลบค่าน้ำมันรวมตลอดการขับรถก่อนขาย และหักลบค่าซ่อมบำรุงสะสม อาจจะทำให้โดยรวมหลังขาย ส่วนต่างการสูญเสียเงิน หรือ ค่าเสื่อม ห่างกันเพียง 1-2 หมื่น แต่ได้รถที่ชอบ หากตัดสินใจเลือก SWIFT (ทั้งนี้อย่างที่เขียนไปครับ ชอบทั้งคู่ มันมีจุดดีและด้อยทั้งคู่ กินกันไม่ลง )[ในกรณีข้อมูลถูกต้อง]
แต่ถ้าโพสต์ขายเองไม่ได้ แล้วถ้าไปที่เต๊นท์ ไม่รู้ว่าพอขึ้นชื่อว่า Swift จะโดนกดราคาไหม ถ้าโดนกดอาจทำให้ระยะห่างในการตกอาจจะห่างถึง 50,000-90,000 บาท เลยทีเดียว ซึ่งเป็นตัวเลขที่เยอะ หักร้างยังๆ ก็น่าจะเหลื่มประมาณ 30,000 บาท ใครรู้หรือมีประสบการณ์ รบกวนแชร์ด้วยนะครับ
2. ค่าบำรุงรักษา ข้อนี้ส่วนตัวให้ความสำคัญอีกเช่นกัน ไม่เคยขับ Eco car ขับแต่พวก รถกลางๆมาหลายยี่ห้อ ซ่อมทีแล้วเหนื่อย ซ่อมแต่ละทีดูดเงินมากๆ และซ่อมบ่อยอีกตั้งหาก แต่ Eco car อย่าง swift และ yaris ได้ไปลองถามศูนย์มาทั้ง 2 ได้คำตอบเหมือนกันว่า ค่าซ่อมแทบไม่มี ใน 5 ปี มีแต่เช็คระยะ ทั้ง2ยี่ห้อเคลมว่าตัวเองราคาถูกโดย
Yaris เซลล์บอกกว่า ไม่ค่อยมีซ่อม ส่วนใหญ่มีแต่เช็คระยะ และเนื่องด้วยเป็น Eco car ดังนั้นอะไหล่จึงถูกมากและส่วนใหญ่มีอะไหล่เปลี่ยนได้เลย ศูนย์เยอะ แต่ที่เซล์ย้ำคือ 5 ปี ไม่มีซ่อม แค่เช็คระยะ
Swift บอกว่า จริงๆคนไม่รู้ Swift กับ Yaris เนี่ย ถ้าเข้าศูนย์ทั้งคู่ Swift จะถูกกว่า และค่าแรงถูกกว่าด้วย ส่วน toyota นั้นแพง แต่ที่คนส่วนใหญ่บอกว่าโตโยต้าถูกเพราะไปซ่อมข้างนอกจึงไปใช้ของเทียบซึ่งอาจจะอยู่ไม่นานเหมือนของแท้ แต่ถ้า swift ต้องซ่อมศูนย์อย่างเดียว และเซลล์ได้ยกตัวอย่างค่าซ่อมอะไรสักอย่างสมมุติโตโยต้า ราคาค่าซ่อม 7000-8000 ถ้า swift 4000 บาทเท่านั้น และโตโยต้าซ่อมทีเกิน 5 พัน บางทีเป็นหมื่น ถ้าเข้าศูย์ ไม่รู้ว่าเรื่องจริงเป็นอย่างไร จึงอยากถามประสบการณ์ผู้ใช้จริงครับ ว่าค่าบำรุงรักษาต่างกันอะไรยังไง
3. ค่าน้ำมัน ไปลองเทสมาทั้ง 2 รุ่น เลยแอบ "สังเกตุตัวเลขหน้าจอของรถ TEST DRIVE " ทั้ง 2 ยี่ห้อ ก็เห็นว่า
YARIS อัตราการกินน้ำมันเฉลี่ยอยู่ที่ 11.3 km/l ประมาณนี้ ส่วน Swift อัตราการกินน้ำมันอยู่ที่ 12.9 km/l พอดูจริงๆก็ตกใจนะเพราะทั้งคู่โฆษณาว่า 20 km/l ส่วนใหญ่ขับอยู่ในเมืองซึ่งรถติดไฟแดงเยอะ เหยียบเบรคบ่อย เพื่อนๆ พี่ๆ ได้กันเท่าไรบ้างครับ ดูตัวเลขจากรถ test drive ถือว่ากินน้ำมันอยู่นะครับ เลยอยากถามผู้ใช้จริงครับว่าอัตราน้ำมันเป็นอย่างไร รบกวนแจ้งว่าขับตจว ไม่ติด หรือในเมืองติดๆด้วยนะครับ มีเซลล์ทั้งคู่บอกว่า ทั้งคู่น้ำมันถึงเดียวขับไปเชียงใหม่ได้เลยหรอครับ แบบเหลือๆ และกรณีวิ่งเที่ยวตจว อัตราการกินน้ำมันเท่าไรครับ
แต่มีจุดเด่นนึงของ SWIFT คือ Idling Stop พอรถติดไฟแดง หรือรถติดเครื่องเหมือนจะดับ พอเหยียบคันเน่งก็เหมือน start ใหม่ ไม่รู้ว่ามันช่วยประหยัดน้ำมันได้เยอะไหมครับ เพราะเข้าใจว่าทุกครั้งที่ start มันต้องใช้น้ำมันเยอะช่วง start และถ้าขับในเมืองเช่นแถวสยามรถแทบหยุดนิ่งมากกว่าขยับ แบบนี้ไม่ดับๆstartๆจนเปลืองน้ำมันกว่าเดิม หรือเสียเร็วขึ้นหรอครับ
4. ความปลอดภัยในการเลี้ยวโค้ง หรือขับตจว. ครับ
5. ตัว Top ทั้งคู่ไม่มีเบาะหนัง Swift ถ้าเปลี่ยนประกันขาด ส่วน Yaris บอกว่ารอรุ่นใหม่ที่เป็น plus มาพร้อมเบาะหนัง แต่บางศูนย์บอกว่ารุ่นที่ออกมาจะแพงกว่าซื้อตัวนี้เดี๋ยวแถมทำเบาะหนังให้ แต่ไม่ได้แจ้งเรื่องประกัน สำหรับ Yaris และไม่มีใครตอบได้ว่าตัวใหม่จะมาเมื่อไร ควรรอไหมครับ
จาก 5 ข้อ จะสรุปได้ว่าที่ถามๆมาได้ข้อมูลสรุปดังนี้ [ถ้าข้อมูลถูกต้อง]
ขายต่อ Yaris ชนะ
ค่าซ่อมศูนย์ Suzuki Swift ชนะ
ประหยัดน้ำมัน Swift ชนะ
ปัญหาการใช้งาน ข้อนี้ยังไม่มีข้อมูล
ซึ่งพอหักล้างเมื่อเทียบเป็นเงินแล้ว ไม่รู้ว่าอะไรคุ้มกว่ากัน เลยเป็นที่มาของการตั้งกระทู้ละเอียดๆกระทู้นี้ครับ
โดยส่วนตัวสำหรับรายได้ประมาณ 60,000 -100,000 บาท/เดือน (รายได้หลัก + เสริม ) แต่เป็นคนขับรถกลางๆมาหลายยี่ห้อ ส่วนตัวไม่ได้เป็นคนหลงไหลกับ Design อะไรมากอยู่แล้วเพราะที่ชอบจริงๆคือ Benz แต่จากรายได้จึงไปไม่ถึงฝัน ระหว่างทางขับแต่รถกลางๆเปลี่ยนมา 4 ยี่ห้อ รู้สึกถูกดูดเงินค่าซ่อมโดยใช่เหตุ อีกทั้งค่าน้ำมันที่ดูดเอาๆ รู้สึกสิ้นเปลืองมากๆโดยไร้ประโยชน์เพราะทำงานในเมือง รถติด อีกทั้ง ขายต่อแต่ละทีสะเทือนใจ ซื้อรถกลางๆ ผ่อนรวมดอก เฉียดๆล้าน บางคันล้านนิดๆ พอขายต่อ เหลือเพียง 3 แสน ต่ำสุดที่เจอมาคือ ขายได้ 170,000 บาท รู้สึกค่าเสื่อมที่หายไป + ค่าซ่อมระหว่างทาง + ค่าน้ำมันที่ดูด ไม่คุ้มค่าเอามากๆ เอาเงินไปลงทุนหรือทำอย่างอื่นดีกว่า ส่วนตัวคิดว่าซื้อรถทีเดียวมันไม่จบ 4-6 ปี ก็ต้องซื้อใหม่อีก วงจรการดูดเงินแบบนี้มันจะมาเรื่อยๆ ครั้งนี้เลยเด็ดขาดกับตัวเองว่า จะขับอะไรที่ประหยัดเงินในกระเป๋าสุดเป็นที่ตั้ง แต่ส่วนตัวใช้ชีวิตในเมือง กรุงเทพเป็นหลัก ออกต่างจังหวัดถ้ามีสนามบินก็บินแล้วเช่ารถอยู่แล้ว นอกจากไปจังหวัดที่จำเป็นต้องเดินทางด้วยรถ ทั้งนี้เลยไม่สนใจรถที่สูงกว่า ECO CAR แล้ว เพราะตัวกลางๆบางรุ่นเห็นประหยัดน้ำมันกว่าก็จริง แต่ด้วยความเป็นรถกลางๆ ราคาก็จะตกแรง รวมถึงค่าบำรุงรักษาก็แรง ถ้าใครลองจดดูค่าใช้จ่ายในการขับรถกลางๆค่อนข้างสูงเลยทีเดียว เหตุที่เล่าเพราะผู้ตอบจะได้ทราบเจตนาที่แท้จริงว่าทำไมไม่มองรุ่นอื่นเลย เพราะไม่ใช่แค่ค่าน้ำมัน แต่มันมีเรื่องอื่นๆเข้ามาด้วย และที่สำคัญตัวเองตอนนี้ไม่ได้ต้องการ indy อยากได้รถยี่ห้อแปลก หรือตัดสินที่ Design เป็นหลักแล้ว
แต่การเลือก 2 รุ่นนี้เป็นอะไรที่กินกันไม่ลง [List จุดเด่นแต่ละอันส่วนตัวเป็นดังนี้ จุดเด่นอื่นที่ไม่ LIST เพราะทั้งคู่มี]
Yaris
- เหมือนวัสดุภายในจะดีกว่า รถใหญ่กว่า ดูบึกบึนกว่า ดูจะปลอดภัยกว่าหรือเปล่า ไม่แน่ใจนะครับ แต่ล้อแค่ 15 swift 16 ไม่รู้ว่าล้อ 15 จะปลอดภัยไหม
- คนหลังนั่งสบายกว่า และที่เก็บของประตูหลังก็ใหญ่ น่าจะใส่กระเป๋าใบใหญ่ได้ถึง 2 ใบและน่าจะยังเหลือที่ใส่ของซื้อ Shooping อีกด้วย
- ถ้าตัวเลขการประหยัดน้ำมันห่างกันนิดหน่อยก็พอรับได้
- การขายต่อน่าจะราคาไม่ตกมากด้วยกลางเป็น TOYATA ที่ไม่ใช่ตัวกลางขึ้นไป แต่เป็น ECO CAR อย่าง YARIS
SWIFT
- ของเล่นจัดเต็ม แม้จอ NAVI จะอยู่ในตำแหน่งที่ใช้งานยาก มันอยู่ในระดับสายตาที่ต้องก้มตาลงสลับก้มตาขึ้นในการมองทาง จึงไม่น่าจะโอเค แค่อย่างน้อยมี NAVI ไว้กันหลงทาง
- รถสั้น น่าจะจอดง่าย หาที่จอดง่าย แต่ว่าไม่รู้คนนั่งหลังจะสบายไหม และเก็บของด้านหลังจะเยอะแค่ไหนถ้ายัดกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ 2 ใบก็น่าจะเต็มแล้ว
- ประหยัดน้ำมันกว่าแน่ๆ แต่ไม่รู้ห่างจาก Yaris จนต้องถือเป็นนัยยะสำคัญไหม
- ถ้าศูนย์ซูซูกิไม่ได้หลอกมา ค่าซ่อม อะไหล่ ค่าแรง ถ้าซ่อมศูนย์ SWIFT ถูกกว่า แต่ด้วย YARIS ก็เป็น ECO CAR ค่าซ่อมก็ไม่น่าจะห่างกันมาก อันนี้คิดเองเองนะครับ ไม่รู้ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร
- ล้อ 16 น่าจะติดถนนมากกว่าหรือเปล่าเวลาฝนตกหรือเลี้ยวโค้ง แต่รุ่นใหม่น้ำหนักหายไป 100กว่าโล เวลาเกิดการชน จะปลอดภัยไหม
ขอบคุณครับ