อัพเดทผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหลังไปทำเลเซอร์กำจัดขน
เนื่องจากช่วงนี้บูมทำเลเซอร์กำจัดขนบ่อยมาก (ทำทุกเดือน) ทำให้ผิวระคายเคือง แห้งลอก และคล้ำง่าย หลังจากปรับนู่น ลองนี่อยู่นาน เลยได้เป็นเซทนี้ ที่บูมใช้แล้วให้ผลลัพธ์ค่อนข้างดี (อิงจากสภาพผิวของบูม) ผิวแห้งลอกลดลง ผิวแข็งแรง และกระจ่างใสขึ้นจนมีคนทัก เอาหละ อย่าให้เสียเวลา เราไปดูกันเลยจ้า......
ใครไม่ชอบอ่านเนื้อหากดดูคลิปได้เลยจ้า
1. Maybelline : Micellar Water (400ml./229.-)
Maybelline : Micellar Water
ของถูกและดีมีในโลกจริงๆ เป็น Cleansing Water ที่บูมใช้ได้ตลอด ไม่ทำให้ผิวแห้ง ไม่ระคายเคือง เหมาะกับมนุษย์ที่ไม่ได้ลงเมคอัพหนาๆ (กันแดด/บีบี/รองพื้น และแป้งฝุ่น) แค่ขวดนี้ขวดเดียวจบจ้า แต่ใครที่ใช้พวก Waterproof อาจจะเอาไม่อยู่นะขอรับ ไม่พูดมากเจ็บคอ ไปดูประสิทธิภาพกันเลยจ้า
ทดสอบด้วย COLLECTION – Lasting Perfection Concealer
]
เช็ดด้วย Maybelline : Micellar Water
ผลลัพธ์หลังเช็ดด้วย Maybelline : Micellar Water
เป็นไงหละ บอกแล้วว่าเอาอยู่ ถ้าใครที่แต่งหน้าประมาณที่บูมบอก ใช้แค่ Maybelline : Micellar Water ขวดเดียวบูมว่าจบนะ แถมไม่ทำให้หน้าแห้งด้วยหละ เลิฟเลย 💖
2. Hada Labo : Mild & Sensitive Face Wash (100ml./179.-)

Hada Labo : Mild & Sensitive Face Wash
ใครว่า Hada Labo มีดีแค่น้ำตบ Cleanser เค้าก็ปังอยู่นะยูว์ ทำความสะอาดได้ค่อนข้างดี แถมอ่อนโยน ไม่ทำให้ผิวเสียสมดุล ล้างแล้วยังเหลือความชุ่มชื้นไว้บนผิว (อันนี้คือไม่ได้อวย ไม่ได้ใช้ฟรี และไม่ได้ค่าจ้างใดๆ นะครับ)
เป็นเนื้อเจลสีขาวขุ่น ก่อฟองได้เล็กน้อย
นวดวนเบาๆ เพื่อดึงคราบเครื่องสำอางค์ออก
ทะดาา นี่ขนาดไม่ได้ใช้ Cleansing Water นะยัง ออกเกือบหมด
3. Pixi Glow Tonic 5% Glycolic Acid Exfoliating Toner (100ml/890.-)
Pixi Glow Tonic 5% Glycolic Acid Exfoliating Toner
โทนเนอร์ที่อยากลองมานานแล้ว ทดเสียงลือเสียงเล่าอ้างไม่ไหว เลยไปตำไซส์ 100ml. มาลองก่อน ปรากฏว่า เฮ้ย! มันดี กลิ่นดี ไม่เหนอะหนะ ใช้แล้วผิวดูกระจ่างใสขึ้น (มีคนทักว่าผิวดูขาวขึ้นนะ เป็นปลื้ม)
เนื้อค่อนข้างเหลว และซึมไว ไม่ทิ้งความมัน/เหนอะหนะไว้บนผิว
ที่สำคัญคือไม่ทำให้ผิวแห้งลอก แถมยังเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวอีก ถ้าราคาถูกกว่านี้ซักนิดจะเป็น Tonner ที่หาข้อติไม่ได้เลย (แต่ใครที่มีผิวระคายเคือง รอให้ผิวแข็งแรงขึ้นก่อนค่อนใช้นะค๊าบ)
4. The Ordinary Hyaluronic Acid 2% + B5 (30 ml./420.-)
The Ordinary Hyaluronic Acid 2% + B5
ยังคงวนเวียนอยู่กับแบรนด์นี้ ไม่ยอมไปไหน (ก็ของเค้าดี) ต้องบอกว่าในช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมา ที่บูมทำเลเซอร์กำจัดขนแล้วมีอาการระคายเคือง และผิวแห้งลอก เซรั่มตัวนี้เป็น 1 ในไอเท็มที่ช่วยได้เยอะมากจริงๆ ใช้ 1-2 วัน รู้เรื่อง ผิวที่แห้งลอก หายสนิท แถมเซทตัวได้ค่อนข้างไว และไม่ทิ้งความมัน/เหนอะหนะไว้บนผิวอีก ใครยังไม่เคยลอง ต้องไปตำบอกเลย!
5. La Roche Posay : TOLERIANE ULTRA LIGHT (40m./960.-)
La Roche Posay : TOLERIANE ULTRA LIGHT
เป็นมอยเจอร์ไรเซอร์ที่เบสิคมาก ถึงมากที่สุด ถึงแม้ค่าตัวอาจจะไม่ถูกนัก แต่ความดีงามของนางคือ ไม่มีสารกันเสีย แอลกอฮอล์ น้ำหอม และสารที่อาจก่อนให้เกิดการระคายเคืองอื่นๆ ทำให้ตัดสินใจได้ไม่ยากที่จะหยิบเค้าขึ้นมาใช้ในช่วงที่ทำเลเซอร์อย่างหนักหน่วงแบบนี้
เนื้อเจล ค่อนข้างเบา เกลี่ยและซึมง่าย ไม่ทิ้งความมันไว้บนผิ
ว
6. La Roche Posay ANTHELIOS XL DRY TOUCH GEL-CREAM (50ml./1,300.-)
La Roche Posay ANTHELIOS XL DRY TOUCH GEL-CREAM
ถึงแม้ค่าตัวจะค่อนข้างสูง แต่ในด้านประสิทธิภาพการปกป้องผิวจากแสงแดดนั้น ทำได้อย่างไม่มีข้อกังขาเลยทีเดียว บูมเคยใช้ตอนไปเที่ยวใต้หลายวัน กลับมาสีผิวไม่คล้ำขึ้นเลย ดังนั้นเจ้า La Roche Posay ANTHELIOS XL DRY TOUCH GEL-CREAM จึงเป็น 1 ในกันแดดที่บูมวางใจมากในช่วงที่ผิวคล้ำเสียง่ายแบบนี้
เสียอย่างเดียวคือ เนื้อสัมผัสของเค้าค่อนข้างหนาและหนัก ถ้าใครมีผิวผสมค่อนไปทางมัน บูมแนะนำว่า หลังทา La Roche Posay ANTHELIOS XL DRY TOUCH GEL-CREAM ควรลงแป้งฝุ่นซับซะหน่อย ไม่งั้นรับรองความไหลหยด ย้อยชัวร์!
นี่แหละคือผลิตภัณฑ์ที่กู้หนังหน้าบูมในช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านการทำเลเซอร์กำจัดขนมาอย่างต่อเนื่อง บอกเลยว่าเอาอยู่ทั้งในเรื่องผิวระคายเคือง แห้ง ลอก รวมถึงผิวคล้ำเสีย ใครที่มีสภาพผิวคล้ายๆ กัน และมีปัญหาแบบนี้กับบูม ลองเอาไปปรับใช้กันดูนะครับ
[CR] อัพเดทผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหลังไปทำเลเซอร์กำจัดขน
เนื่องจากช่วงนี้บูมทำเลเซอร์กำจัดขนบ่อยมาก (ทำทุกเดือน) ทำให้ผิวระคายเคือง แห้งลอก และคล้ำง่าย หลังจากปรับนู่น ลองนี่อยู่นาน เลยได้เป็นเซทนี้ ที่บูมใช้แล้วให้ผลลัพธ์ค่อนข้างดี (อิงจากสภาพผิวของบูม) ผิวแห้งลอกลดลง ผิวแข็งแรง และกระจ่างใสขึ้นจนมีคนทัก เอาหละ อย่าให้เสียเวลา เราไปดูกันเลยจ้า......
1. Maybelline : Micellar Water (400ml./229.-)
ของถูกและดีมีในโลกจริงๆ เป็น Cleansing Water ที่บูมใช้ได้ตลอด ไม่ทำให้ผิวแห้ง ไม่ระคายเคือง เหมาะกับมนุษย์ที่ไม่ได้ลงเมคอัพหนาๆ (กันแดด/บีบี/รองพื้น และแป้งฝุ่น) แค่ขวดนี้ขวดเดียวจบจ้า แต่ใครที่ใช้พวก Waterproof อาจจะเอาไม่อยู่นะขอรับ ไม่พูดมากเจ็บคอ ไปดูประสิทธิภาพกันเลยจ้า
เป็นไงหละ บอกแล้วว่าเอาอยู่ ถ้าใครที่แต่งหน้าประมาณที่บูมบอก ใช้แค่ Maybelline : Micellar Water ขวดเดียวบูมว่าจบนะ แถมไม่ทำให้หน้าแห้งด้วยหละ เลิฟเลย 💖
2. Hada Labo : Mild & Sensitive Face Wash (100ml./179.-)
ใครว่า Hada Labo มีดีแค่น้ำตบ Cleanser เค้าก็ปังอยู่นะยูว์ ทำความสะอาดได้ค่อนข้างดี แถมอ่อนโยน ไม่ทำให้ผิวเสียสมดุล ล้างแล้วยังเหลือความชุ่มชื้นไว้บนผิว (อันนี้คือไม่ได้อวย ไม่ได้ใช้ฟรี และไม่ได้ค่าจ้างใดๆ นะครับ)
3. Pixi Glow Tonic 5% Glycolic Acid Exfoliating Toner (100ml/890.-)
โทนเนอร์ที่อยากลองมานานแล้ว ทดเสียงลือเสียงเล่าอ้างไม่ไหว เลยไปตำไซส์ 100ml. มาลองก่อน ปรากฏว่า เฮ้ย! มันดี กลิ่นดี ไม่เหนอะหนะ ใช้แล้วผิวดูกระจ่างใสขึ้น (มีคนทักว่าผิวดูขาวขึ้นนะ เป็นปลื้ม)
ที่สำคัญคือไม่ทำให้ผิวแห้งลอก แถมยังเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวอีก ถ้าราคาถูกกว่านี้ซักนิดจะเป็น Tonner ที่หาข้อติไม่ได้เลย (แต่ใครที่มีผิวระคายเคือง รอให้ผิวแข็งแรงขึ้นก่อนค่อนใช้นะค๊าบ)
4. The Ordinary Hyaluronic Acid 2% + B5 (30 ml./420.-)
ยังคงวนเวียนอยู่กับแบรนด์นี้ ไม่ยอมไปไหน (ก็ของเค้าดี) ต้องบอกว่าในช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมา ที่บูมทำเลเซอร์กำจัดขนแล้วมีอาการระคายเคือง และผิวแห้งลอก เซรั่มตัวนี้เป็น 1 ในไอเท็มที่ช่วยได้เยอะมากจริงๆ ใช้ 1-2 วัน รู้เรื่อง ผิวที่แห้งลอก หายสนิท แถมเซทตัวได้ค่อนข้างไว และไม่ทิ้งความมัน/เหนอะหนะไว้บนผิวอีก ใครยังไม่เคยลอง ต้องไปตำบอกเลย!
5. La Roche Posay : TOLERIANE ULTRA LIGHT (40m./960.-)
เป็นมอยเจอร์ไรเซอร์ที่เบสิคมาก ถึงมากที่สุด ถึงแม้ค่าตัวอาจจะไม่ถูกนัก แต่ความดีงามของนางคือ ไม่มีสารกันเสีย แอลกอฮอล์ น้ำหอม และสารที่อาจก่อนให้เกิดการระคายเคืองอื่นๆ ทำให้ตัดสินใจได้ไม่ยากที่จะหยิบเค้าขึ้นมาใช้ในช่วงที่ทำเลเซอร์อย่างหนักหน่วงแบบนี้
6. La Roche Posay ANTHELIOS XL DRY TOUCH GEL-CREAM (50ml./1,300.-)
ถึงแม้ค่าตัวจะค่อนข้างสูง แต่ในด้านประสิทธิภาพการปกป้องผิวจากแสงแดดนั้น ทำได้อย่างไม่มีข้อกังขาเลยทีเดียว บูมเคยใช้ตอนไปเที่ยวใต้หลายวัน กลับมาสีผิวไม่คล้ำขึ้นเลย ดังนั้นเจ้า La Roche Posay ANTHELIOS XL DRY TOUCH GEL-CREAM จึงเป็น 1 ในกันแดดที่บูมวางใจมากในช่วงที่ผิวคล้ำเสียง่ายแบบนี้
เสียอย่างเดียวคือ เนื้อสัมผัสของเค้าค่อนข้างหนาและหนัก ถ้าใครมีผิวผสมค่อนไปทางมัน บูมแนะนำว่า หลังทา La Roche Posay ANTHELIOS XL DRY TOUCH GEL-CREAM ควรลงแป้งฝุ่นซับซะหน่อย ไม่งั้นรับรองความไหลหยด ย้อยชัวร์!
นี่แหละคือผลิตภัณฑ์ที่กู้หนังหน้าบูมในช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านการทำเลเซอร์กำจัดขนมาอย่างต่อเนื่อง บอกเลยว่าเอาอยู่ทั้งในเรื่องผิวระคายเคือง แห้ง ลอก รวมถึงผิวคล้ำเสีย ใครที่มีสภาพผิวคล้ายๆ กัน และมีปัญหาแบบนี้กับบูม ลองเอาไปปรับใช้กันดูนะครับ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้