[CR] รีวิวหนัง The Predator แม้เสน่ห์ของเพรดเดเทอร์จะหายไปแต่หนังยัง โหด มันส์ เลือดสาดสะใจ อยู่นะจ๊ะ [by กระโหลก]

ขออนุญาตฝากเพจก่อนเลยนะครับ "โหลก-เถื่อน-หรั่ง Studio" เป็นเพจเกี่ยวกับการรีวิวหนังโดยจะเน้นไปที่หนังเก่าๆเป็นพิเศษนะครับ

ถ้าใครสนใจก็เข้าไปดูได้เลยครับ
https://www.facebook.com/ReviewMoviesStudio/
และก็มีช่องyoutubeสำหรับรีวิวหนังด้วยครับเผื่อใครอยากดูเเบบวีดีโอก็เข้าไปติดตามกันได้ครับ
https://www.youtube.com/channel/UCezvYsjsEqVaGeta32fikqA?view_as=subscriber


     บอกก่อนเลยว่าผมไม่ได้เป็นแฟนพันธุ์แท้หนังเพรดเดเทอร์อะไรหลอกแต่ถามว่าชอบหนังเพรดเดเทอร์ภาคก่อนๆไหมก็ชอบนะ(เฉพาะภาคแรกของปี1987และภาครีบูทเมื่อปี2010เท่านั้นนะนอกนั้นเฉยๆ)และก็ชอบคาแรคเตอร์ของเจ้าเพรดเดเทอร์อยู่เหมือนกันรู้สึกว่ามันเท่และมีเสน่ห์น่าจดจำดี แต่โดยรวมก็ไม่ได้ชอบถึงขั้นคลั่งไคล้อะไรขนาดนั้น รวมไปถึงตัวของผู้กำกับอย่าง เชน แบล็ค ซึ่งผมก็พอจะชอบหนังของเขาหลายเรื่องอยู่เหมือนกัน เช่น IronMan3,TheNiceGuys, KissKissBangBang แต่ก็ไม่ได้ถึงขั้นหลงใหลชอบอะไรมากมายขนาดนั้นอยู่ดี ที่ผมอยากจะบอกจริงๆก็คือในการรีวิวครั้งนี้ผมจะรีวิวในฐานะของคนธรรมดาคนนึงที่ไม่ได้เป็นทั้งติ่งของเพรดเดเทอร์หรือว่าตัวของผู้กำกับ เป็นแค่คนที่เข้าไปดูหนังเรื่องนี้เพียงเพื่ออยากจะหาความบันเทิงใส่ตัวก็เท่านั้น ดังนั้นจงมั่นใจได้ว่ารีวิวนี้ของผมจะมีความเป็นกลางแบบสุดๆครับ

เรื่องย่อ:การไล่ล่ากลับมาอีกครั้ง และในตอนนี้นักล่าที่อันตรายที่สุดในจักรวาลก็แข็งแกร่งขึ้น ฉลาดขึ้น และอันตรายยิ่งกว่าที่เคยเป็นมา พวกมันตัดต่อพันธุกรรมของตนเองเข้ากับดีเอ็นเอของสปีชี่อื่นๆในจักรวาล และเมื่อเด็กชายคนหนึ่งบังเอิญกระตุ้นให้พวกมันกลับมาที่โลกอีกครั้ง มีเพียงสมาชิกแร็กแท็กจากอดีตทหารและอาจารย์สอนวิทยาศาสตร์อีกหนึ่งคนที่ไม่ได้รับการยอมรับเท่านั้น ที่จะช่วยไม่ให้เผ่าพันธุ์มนุษย์ต้องสิ้นสุดลง

ความรู้สึกหลังดูจบ: บอกตรงๆว่าบทค่อนข้างจะมีปัญหาอยู่ไม่ใช่น้อย คือมันเหมือนเป็นบทที่เกือบจะดีและแต่ก็มีรายละเอียดบางอย่างที่น่าขัดใจอยู่ในนั้นจนทำให้เนื้อเรื่องออกมาไม่ดีเท่าที่ควรจะเป็น แต่ถึงจะอย่างงั้นผมก็กล้าพูดได้เต็มปากครับว่าผมยังชอบหนังเรื่องนี้อยู่นะ แน่นอนถึงแม้บทจะมีปัญหาแต่ในส่วนของแอ็คชั่นเขาทำได้ดีครับ มันมันส์สะใจและเลือดสาดสมกับเป็นหนังเพรดเดเทอร์จริงๆ แถมเคมีของตัวละครหลายๆตัวก็เข้าขากันได้ดีมาก ผมชอบการเล่นมุขตลกสไตล์ เชน แบล็ก มากเลยอะ มันทำให้หนังเพรดเดเทอร์ดูมีมุมมองที่แปลกใหม่และสร้างสีสันให้กับเรื่องได้มากทีเดี๋ยว ดังนั้นก็บอกตรงๆเลยว่าหนังเรื่องนี้ได้ใจผมเพราะความบันเทิงล้วนๆเลยครับ มันอาจจะไม่ค่อยเหมาะกับคนที่จริงจังเรื่องหนังเท่าไร และก็
อาจจะไม่เหมาะกับคนที่เป็นแฟนพันธุ์แท้เพรดเดทอร์ด้วย

     ในส่วนแรกที่อยากจะพูดถึงเอาเรื่องของบทก่อนเลยละกัน อย่างที่บอกเป็นบทที่เกือบจะดีแล้วจริงๆ เพราะหนังวางPlotเรื่องไว้ได้น่าสนใจและชวนให้เราอยากจะคิดตามตั้งแต่ต้น เช่นการโยนปริศนาหลายอย่างเข้ามาไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเดินทางมาโลกของเพรดเดเทอร์ที่เหมือนว่าครั้งนี้จะมีจุดประสงค์อื่นให้ทำมากกว่าการมาล่ามนุษย์ การที่หนังให้เราได้เห็นกลุ่มองค์กรของมนุษย์ที่เหมือนจะรู้จักกับเจ้าเพรดเดเทอร์เป็นอย่างดี หรือแม้แต่การที่พระเอกเผชิญหน้ากับเพรดเดเทอร์แล้วยังรอดชีวิตไปได้ มันทำให้เราเกิดความคิดมากมายในหัวว่าเฮ้ยต่อไปมันจะเป็นยังไงวะจะเกิดอะไรขึ้น ต้องบอกตรงๆว่ามันไม่ใช่แค่หนังที่มีมนุษย์โชคร้ายกลุ่มนึงเข้าไปติดอยู่ในพื้นที่ในการล่าของเพรดเดเทอร์และเกิดการล่าขึ้นแค่นั้นอีกต่อไปแล้ว แต่ด้วยความซับซ้อนของบทและเส้นเรื่องในหลายๆทางมันทำให้หนังมีความแปลกใหม่กว่าทุกภาคและดูสนุกมากขึ้น แต่ แต่ แต่!! มันเหมือนจะดูดีอยู่แค่ช่วงแรกๆนะสิ พอหนังดำเนินไปเรื่อยๆคุณจะเห็นถึงความหละหลวมมากมายที่อยู่ในบท เช่น ความไม่สมเหตุสมผลของอะไรบางอย่างซึ่งผมก็ไม่อาจจะยกตัวอย่างในข้อนี้ได้เพราะอาจจะสปอยล์เนื้อหาสำคัญแต่คิดว่าถ้าคุณเข้าไปดูก็คงจะรับรู้ได้เองเพราะมันเด่นชัดมากๆ หรือรายละเอียดบางอย่างที่หนังยังไม่เล่าให้เราเข้าใจชัดเจนอย่างแก่นเรื่องที่เล่นกับประเด็นของคนที่มีความพิเศษในตัวแต่มักจะถูกมองข้ามซึ่งเหมือนจะใส่เข้ามาให้มันมีไปงั้นๆไม่ได้ให้ความสำคัญและเล่าแบบผ่านๆ หรือกระทั่งโมเม้นต่างๆภายในเรื่องที่เหมือนจะจับจังหวะได้ไม่ดีบางอย่างก็ดูรีบเกินไปอย่างฉากการตายของตัวละครสำคัญบางตัวที่น่าจะมีช่วงเวลาบิ้วอารมณ์ให้เราอยู่กับซีนนั้นๆได้นานกว่านี้สักนิดนึงแต่หนังก็รีบตัดให้มันจบๆไปและเดินเรื่องไปต่อทันที แม้แต่การส่งบทจากจุดนึงไปยังอีกจุดก็ยังส่งบทไปแบบง่ายๆเหมือนว่าหนังไม่ได้เซ็ทเรื่องในจุดนั้นมาดีพอก็เลยคิดเนื้อเรื่องแบบง่ายๆขึ้นมาแถให้มันดำเนินไป เช่นสมมุติว่าถ้าพวกพระเอกอยากจะเดินทางไปยังสถานที่นึงก็จะมีใครบางคนขับยานพาหนะมาให้ใช้ได้เลยแบบนี้ ซึ่งมันดูง่ายๆไปหน่อยไหมอะ โดยรวมนะครับบทเหมือนจะปูทางมาดีแต่ก็มาเสียตรงรายละเอียดเล็กๆน้อยๆเนี่ยแหละ จนมันทำให้เห็นถึงความไม่ปราณีตและขาดความละเอียดอ่อนของบทเป็นอย่างมาก

     โอเคนอกเหนือจากบท ในส่วนอื่นๆผมก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรกับมันเลยนะ ที่สำคัญยังแอบรู้สึกชอบมันซะด้วยซ้ำ อย่างเช่นตัวละครในเรื่องโดยเฉพาะกลุ่มของพวกพระเอก จะเห็นได้จากในตัวอย่างที่มีพระเอกอยู่ในรถและกำลังคุยกับทหารท่าทางเฮฮาหลายๆคน ตัวละครที่ผมชอบก็คือกลุ่มพวกนั้นนะแหละครับ ต้องบอกเลยว่าตัวละครเหล่านี้สร้างสีสันให้กับหนังได้มากทีเดียว โดยเฉพาะในด้านของความตลกเพราะมุขตลกส่วนใหญ่จะมาจากความบ้าความเพี้ยนของตัวละครเหล่านี้ทั้งนั้น ซึ่งนี้ก็นับเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งในการกำกับหนังของ เชน แบล็ค เลยก็ว่าได้ จะเห็นได้ว่าหนังของ เชน แบล็ค หลายเรื่องมักจะชอบเล่นมุขตลกกับตัวละครเพี้ยนๆบ้างเปิ่นๆบ้างรั่วๆบ้างบ้าๆบอๆบ้างอะไรประมานนี้ และภาคนี้ก็คงเสน่ห์ในจุดนั้นไว้ได้ดีทีเดียว ที่สำคัญเคมีของตัวละครนั้นเข้าขากันดีมากจะมีช่วงนึงของหนังที่จะจับตัวละครเหล่านี้มาอยู่รวมกันและก็ปล่อยมุขรั่วๆมาแบบรัวๆซึ่งบอกเลยว่าโครตฮา น่าเสียดายที่บทไม่ได้มาส่งเสริมเรื่องราวให้กับตัวละครได้ดีพอ เพราะตัวละครบางตัวนอกจากความตลกก็แทบจะไม่มีมิติในด้านอื่นๆเลย(จริงๆหลายตัวเลยละ) หรืออย่างที่บอกไปด้านบนว่าเวลามีโมเม้นสำคัญของตัวละครเหล่านี้เกิดขึ้นหนังก็ให้เวลาบิ้วอารมณ์เราได้ไม่ดีพอ สุดท้ายเราเลยไม่สามารถจะอินกับตัวละครได้เท่าที่ควรจะเป็น แต่ก็ถือว่าผมยังชอบอยู่นะเพราะมันตลกดี 555 (ส่วนตัวมากๆ)

     ทีนี้เรามาพูดถึงจุดขายหลักของหนังกันเลยก็คือเจ้าเพรดเดเทอร์ ซึ่งผมได้บอกไปในความรู้สึกหลังดูจบว่าแฟนพันธุ์แท้ของเจ้าเพรดเดเทอร์อาจจะไม่ชอบก็ได้ สาเหตุเพราะหนังภาคนี้ได้ลดเสน่ห์บางอย่างของเจ้าเพรดเดเทอร์ลงไป นั้นก็คือความเป็นนักล่าในตัวของมัน ภาคนี้จะไม่ใช่ภาคที่เพรดเดเทอร์จะคอยพรางตัวอยู่ตลอดเพื่อซุ่มจัดการเหยื่อไปทีละคนเหมือนภาคก่อนๆอีกแล้ว แต่ภาคนี้เพรดเดเทอร์เราโหดกว่านั้นเยอะเพราะมันจะเดินเข้าไปบวกตรงๆไม่มีหลบไม่มีซ่อน มนุษย์มากันกี่สิบคนก็ตามกูวิ่งใส่หมดอะไรประมานนี้ ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ภาคนี้เต็มไปด้วยแอ็คชั่นยิงกันตูมตามตลอดทั้งเรื่อง วิ่งเข้าใส่บวกกันจนเลือดสาสเออสิ่งที่หนังยังคงความเป็นเพรดเดเตอร์เอาไว้ได้บ้างก็คือความเลือดสาดของมันเนี่ยแหละเรทRสะใจมากๆ และเนี่ยแหละที่อาจจะทำให้แฟนๆเพรดเดเทอร์ต้องผิดหวังที่ไม่ได้เห็นเพรดเดเทอร์ออกล่าอย่างที่ควรจะเป็น ซึ่งเอาจริงๆขนาดผมไม่ใช่แฟนเพรดเดเทอร์นะยังรู้สึกผิดหวังนิดๆเลยเพราะสิ่งนึงที่ทำให้ผมชอบเพรดเดเตอร์ภาคแรกเมื่อปี1987ได้ก็เพราะรูปแบบในการล่าของมันเนี่ยแหละ แต่ถึงอย่างงั้นหนังก็ให้เหตุผลได้ดีว่าทำไมเพรดเดเทอร์ถึงไม่ล่าแต่เล่นบวกไม่ยั้งแทน เพราะภาคนี้มันมาโลกเพราะตามหาอะไรบางอย่างและดันเป็นสิ่งที่สำคัญมากมันจึงไม่มีเวลาที่จะมาเล่นสนุกกับการล่าด้วยซ้ำแต่ต้องรีบไปให้ถึงเป้าหมายให้เร็วที่สุดใครมาขวางก็ฆ่าซะอะไรแบบนี้ และนี่ก็เป็นอีกส่วนที่ดีในบทแต่ถ้าคุณดูให้ลึกๆอาจจะเห็นความไม่สมเหตุสมผลอยู่ในจุดนี้นิดนึงเหมือนกัน (คือแบบอย่างที่บอกเหมือนบทจะดีแต่ก็ดีไม่สุดอะ) ด้วยเหตุผลที่หนังมาเสริมให้ตรงนี้มันก็ทำให้ความผิดหวังของผมลดลงไปและพอคิดดูดีๆมันก็เป็นเรื่องที่ดีเหมือนกันนะที่เราจะได้เห็นเพรดเดเตอร์ในมุมมองใหม่ๆที่ไม่เน้นซุ่มแต่เน้นบวก 555 ซึ่งหนังก็ทำได้มันส์และสะใจมากๆ

     สรุปนะครับแม้บทหนังจะมีปัญหามาก แต่ความบันเทิงในด้านอารมณ์ทั้งความ มันส์ ความสะใจ เลือดสาด และตลก หนังทำได้ดี คือถ้าไปดูแบบไม่คิดอะไรมากก็บันเทิงกับหนังได้สบายๆ แต่สำหรับคนที่ต้องการจะดูหนังดีมีคุณภาพในด้านเนื้อเรื่อง รวมถึงแฟนๆเหล่าเพรดเดเทอร์ที่อาจจะมีความคิดยึดติดกับเพรดเดเทอร์ในแบบก่อนๆ ไม่แนะนำครับผมว่าเป็นการยากมากที่คุณจะชอบหนังเรื่องนี้ได้ โอเคสำหรับวันนี้ก็มีเท่านี้แหละครับไปก่อนนะสวัสดีครับ ^^

ยังมีรีวิวหนังเรื่องอื่นๆอีกมากเข้าไปอ่านกันในเพจได้เลยนะครับ
https://www.facebook.com/ReviewMoviesStudio/
( ชอบกดไลท์ ใช่กดแชร์ เป็นกำลังใจให้พวกเราด้วยนะ >< )

อันนี้youtubeครับ
https://www.youtube.com/channel/UCezvYsjsEqVaGeta32fikqA?view_as=subscriber
ชื่อสินค้า:   ภาพยนตร์ The Predator
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่