ถ้าพูดถึงคลิปในตำนานคลิปหนึ่งในเว็บไซต์ยูทูป ที่มีคนดูมากที่สุดคลิปหนึ่ง หนึ่งในนั้นคงมี คลิปเพลง "I Dream a Dream" ที่ขับร้องโดยแม่บ้านชาวสก็อตแลนด์วัย 48 ปีที่แทบไม่มีคนรู้จักนาม "ซูเซิน บอยล์" ในรายการ
Britain's Got Talent Season 3 ใน
วันที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2552
บอยล์ กลายเป็นเศรษฐีนีคนใหม่ในช่วงเวลากว่า 9 ปีในวงการเพลง เธอทำรายได้มากมายมหาศาล และยังมีรางวัลการันตีอีกเพียบ ยิ่งไปกว่านั้นเธอยังมีชื่ออยู่ใน กินเนสส์ บุ๊ก โดยบันทึกว่า ได้ทำลายสถิติโลกแล้วถึง 3 รายการ คือ
เป็นเจ้าของอัลบั้มนักร้องหญิงที่ขายเร็วที่สุดในสหราชอาณาจักร, สถิติอัลบั้มที่ทำยอดขายได้มากที่สุดภายในสัปดาห์แรก และเป็นนักร้องที่อายุมากที่สุดในขณะเปิดตัวอัลบั้มแรกที่ขึ้นชาร์ตอันดับ 1
ถ้าเธอประสบความสำเร็จ และมีชื่อเสียงขนาดนี้ แล้วเธอหายไปไหน ทำไมไม่ออกสื่อ หรือออกทัวร์คอนเสิร์ต เพราะคงมีแฟนเพลงพร้อมที่จะควักกระเป๋าซื้อบัตรคอนเสิร์ตอยู่
สาวใหญ่ชาวสก็อตแลนด์ วัย 57 ปี มีงานเข้าตลอดนับตั้งแต่ที่เธอสร้างความฮือฮาในรายการคนล่าฝันเมืองผู้ดีเมื่อปี 2009 หลังจากนั้นก็ได้ออกอัลบั้มแรกในชื่อ
I Dreamed a Dream โดยติดชาร์ตมากมายทั่วโลก และกลายเป็นอัลบั้มที่ทำยอดขายได้มากที่สุดตลอดกาลในสหราชอาณาจักร จากนั้นเธอก็มีโอกาส
ได้ออกอีก 6 อัลบั้ม รวมเบ็ดเสร็จก็ 7 อัลบั้ม
I Dreamed a Dream Album
ซูเปอร์สตาร์รุ่นเดอะ สามารถทำสถิติมียอดขายอัลบั้มทั่วโลกมากกว่า 25 ล้านปอนด์ (ราว 1,125 ล้านบาท) แถมเมื่อเร็วๆ นี้
เธอก็เพิ่งจะออกมาเปิดเผยว่าน้ำหนักตัวลดไป 2 สโตน หรือประมาณ 12 กิโลกรัม ในปี 2016 และย้อนกลับไปในปี 2013 เธอถูกตรวจพบว่ามี
อาการแอสเพอร์เกอร์ หรือความผิดปกติทางการทำงานของระบบประสาท ที่จัดอยู่ในกลุ่มของโรคกลุ่มออทิสติค
อัลบั้มล่าสุดก็คือ
A Wonderful World ออกมาเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2016 แต่กลายเป็นว่านี่คืออัลบั้มที่ติดชาร์ตต่ำที่สุดของเธอในสหราชอาณาจักรโดยรั้งอยู่ในอันดับ 22
บอยล์ ไม่มีซิงเกิลติดชาร์ตนับตั้งแต่ปี 2014 เมื่อเธอโคเวอร์เพลง You Raise Me Up ของวงดูโอ Secret Garden ซึ่งเพลงนี้ Westlife วงบอยแบนด์ชื่อดังจากประเทศไอร์แลนด์ นำมาร้องจนประสบความสำเร็จมาแล้วก่อนหน้านี้
อย่างไรก็ตามในเวอร์ชั่นที่มาจากลูกคอ บอยล์ น่าเสียดายที่เพลงนี้ไม่ติดชาร์ต จริงๆ แล้วเธอไม่มีเพลงติดชาร์ตมาตั้งแต่ปี 2013 แล้วตอนที่ออกอัลบั้ม
Home for Christmas โดยเพลง Oh Come All Ye Faithful ได้ใช้เทคนิคพิเศษให้เธอได้ร้องคู่กับ เอลวิส เพรสลี่ย์ ตำนานราชาร็อคแอนด์โรลผู้ล่วงลับ
ซูซาน บอยล์ พยายามที่จะใช้ชีวิตแบบไม่ให้เป็นที่สนใจจากสื่อและทุกๆ คน หลังจากที่เธอออกอัลบั้มล่าสุด A Wonderful World เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2016 เธอออกทัวร์ครั้งสุดท้ายในช่วงระหว่างเดือนกรกฎาคม 2013-พฤศจิกายน 2014
อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 13 เมษายน 2018 เดอะ ซัน สื่อชั้นนำในประเทศอังกฤษ เผยว่า บอยล์ จะกลับมาอีกครั้งพร้อมกับ Christmas Album ในปี 2018
บอยล์กลายเป็นข่าวใหญ่เมื่อเดือนมิถุนายน 2017 หลังจากที่ตกเป็นเหยื่อของกลุ่มนักเลงในบ้านเกิด เรื่องนี้ผู้ที่เห็นเหตุการณ์ระบุว่านักร้องรุ่นใหญ่ต้องอยู่ในอาการหวาดกลัวหลังจากที่โดนด่า และโดนขู่กรรโชก
พยานที่อยู่ในเหตุการณ์เผยว่า "
เราอยู่บนรถบัสด้วย และพวกเขาก็ขว้างก้อนหินใส่เธอ แถมยังตะโกนบางอย่างซะดังลั่น มันมีอีกครั้งที่กลุ่มคน 10-15 คนไปล้อมรอบเธอแล้วปาสิ่งของใส่เธอ พวกเขาจุดไฟใส่กระดาษแล้วปาใส่หน้าของเธอ นอกจากนี้ ตอนที่ฉันไปห้าง มิลล์ เซนเตอร์ เนี่ย พวกเขาก็ไปยืนรอ ซูซาน ตรงทางเข้าในตอนที่เธอออกจากห้าง แล้วพวกเขาก็พูดใส่เธอว่า -ทำไมไม่ไปหาซื้อแว่นมาใส่สักหน่อยล่ะ ยัยแก่หน้าตาทุเรศเอ๊ย- มันน่ากลัวมากๆ เลยล่ะ"
ตัวแทนของบอยล์ ได้ออกมาเปิดเผยว่าสถานการณ์ในครั้งนั้นสุดเลวร้าย และพวกเขามีแผนที่จะไปแจ้งความเพื่อให้ตำรวจเข้ามาช่วยเหลือ และทำให้มั่นใจว่าซูเปอร์สตาร์วัยใกล้ 60 จะใช้ชีวิตได้อย่างปกติสุขและปลอดภัย
บอยล์ เกิดและเติบโตในเขต
เวสต์โลเธียน เมืองแบล็กเบิร์น ประเทศสกอตแลนด์ โดยบ้านเปรียบเสมือสถานที่พักหัวใจสำหรับเธอ หลังจากประสบความสำเร็จจนโด่งดังในรายการ Britain"s Got Talent และอัลบั้มเปิดตัวก็ติดอันดับท็อปในชาร์ตต่างๆ มากมาย เธอซื้อบ้านขนาด 4 ห้องนอนราคา 65,000 ปอนด์ (ราว 2.92 ล้านบาท) ซึ่งเธอยังคงอาศัยอยู่ที่นั่นจนปัจจุบันนี้
สถานที่พัก ณ ปัจจุบัน
เธอยังคว้ากระเป๋ากว่า 300,000 ปอนด์ (ราว 13.5 ล้านบาท) ซึ้งบ้านหลังใหม่ขนาด 5 ห้องนอน แต่เธอรู้สึกว่ามันยากในการปรับตัวเมื่อเข้าไปอยู่ที่นั่นและให้หลานสาวเข้าไปอยู่แทน ส่วนคุณป้าก็กลับไปอยู่บ้านหลังเดิม
นักร้องสาวใหญ่วัยใกล้เกษียณ มีทรัพย์สินโดยประมาณอยู่ที่
26 ล้านปอนด์ (ราว 1,170 ล้านบาท) แต่เงินนั้นไม่ได้มีความสำคัญสำหรับสตาร์ดังที่ใช้ชีวิตติดดินมากๆ
บอยล์ ยังคงอยู่ในบ้านหลังเก่าที่บ้านเกิดของเธอ และใช้เงินซื้อของที่แพงที่สุดก็คือเสื้อโค้ทขนสัตว์ราคา 300 ปอนด์ (ราว 13,500 บาท) กับน้ำหอมยี่ห้อชาแนล นับเบอร์ไฟว์ เธอมีทรัพย์สินมากมาย และมักจะนำไปบริจาคให้กับมูลนิธิหลายๆ แห่ง รวมทั้งใช้เงินที่หาได้เพื่อช่วยเหลือเพื่อนๆ กับครอบครัวของเธอ
กับเปียโนตัวเก่ง
ดีว่าใจดีเจ้าของเพลงฮิต I Dreamed a Dream มักจะควักเงินจ่ายค่าจำนอง, ค่าสาธารณูปโภคภายในบ้าน และหนี้สินต่างๆ ให้กับทุกๆ คน โดยเธอเคยพูดว่าไม่อยากเห็นคนที่เธอรักต้องลำบาก และไม่มีเงินใช้จ่าย
สำหรับตอนนี้ไม่ว่า ซูซาน บอยล์ จะอยู่ที่ไหน หรือจะมีอัลบั้มใหม่ออกมาให้ฟังหรือไม่ ก็คงไม่สำคัญเท่ากับนิสัย และความโอบอ้อมอารีของเธอ ที่มีให้กับทุกๆ คน และหวังใจว่าหาก บอยล์ มีผลงานใหม่ออกมา เธอจะประสบความสำเร็จเหมือนที่เธอเคยได้รับ
ซูเซิน บอยล์ (Susan Boyle; เกิด: 1 เมษายน พ.ศ. 2504) เป็นนักร้องมือสมัครเล่นชาวสกอตแลนด์และเคยเป็นนักบริการชุมชน เธอได้รับความสนใจจากสาธารณชนเมื่อเธอปรากฏตัวในรายการ Britain's Got Talent ฤดูกาลที่ 3 รอบแรก ณ วันที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2552 เพื่อประกวดขับร้องเพลง "I dreamed a dream" เพลงจากละครเวทีเรื่อง "Les Misérables"
ซึ่งก่อนเธอจะขับร้อง ทั้งผู้ชมในโถงประกวดและคณะกรรมการตัดสินแสดงความกังขาเชิงลบต่อเธอ
เนื่องจากเธอมีรูปลักษณ์ไม่น่าชม ร่างกายอุ้ยอ้ายทำให้เธอดูงุ่มง่าม การแต่งกายที่ล้าสมัย การมาจากเมืองชนบท กับทั้งอายุของเธอที่มากแล้ว แต่ในทางกลับกัน ความสามารถในการร้องเพลงของเธอยังให้ผู้ชมทั้งโถงและกรรมการอึ้งและประทับในในการแสดงถึงกับหลั่งน้ำตาและยืนขึ้นให้เกียรติ โดยกรรมการตัดสินทั้งสามคนลงคะแนนเสียงให้เธอผ่านการประกวดรอบแรก ทั้งนี้ การประกวดรอบดังกล่าวบันทึกขึ้นในเดือนมกราคม พ.ศ. 2552 ที่นครกลาสโกว์ ประเทศสกอตแลนด์ ประเทศบ้านเกิดของซูเซินเอง
ซูเซินยิ่งได้รับความสนใจมากขึ้นไปอีกเมื่อวีดิทัศน์การประกวดร้องเพลงดังกล่าวได้รับการนำลง
เผยแพร่ทางเว็บไซต์ยูทูบ และเพียงหนึ่งสัปดาห์นับแต่วันนำลงเว็บไซต์ก็มีผู้เข้าชมมากกว่าสี่พันสามร้อยล้านครั้งทั่วโลก มีการนำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับเธอโดยสื่อมวลชนนานาชาติ รวมถึงประเทศไทย นอกจากนี้ บริษัทโซนีมิวสิกยังเตรียมทำสัญญาจ้างซูเซินเป็นนักร้องในสังกัดอีกด้วย
ชีวิตส่วนตัว
ซูเซิน บอยล์ เกิดเมื่อวันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2504 ณ เมือง
แบล็กเบิร์น เทศมณฑลเวสต์โลเธียน ประเทศสกอตแลนด์ โดยเป็น
บุตรคนสุดท้องในบรรดาบุตรเก้าคนของนายแพทริก บอยล์ (Patrick Boyle) พนักงานโกดังที่โรงงานบริติชเลย์แลนด์ (British Leyland) ในเมืองบาธเกต (Bathgate) กับนางบริดเจ็ต บอยล์ (Bridget Boyle) นักพิมพ์ชวเลข ซูเซินมีพี่ชายสี่คน และพี่สาวอีกสี่คน ซึ่งพี่น้องทั้งเก้าคนนี้ปัจจุบันเสียชีวิตแล้วสามคน เมื่อตอนซูเซินเกิด มารดามีอายุได้ 44 ปี และหนังสือพิมพ์ซันเดย์ไทมส์รายงานว่า เวลานั้นเป็นช่วงที่ลำบากมาก เพราะไม่มีออกซิเจนเพียงพอจะให้แก่ซูเซินเมื่อแรกเกิด ทำให้ประสาทการเรียนรู้ของเธอทำงานอ่อน เมื่อตอนเข้าโรงเรียนจึงเป็นที่กลั่นแกล้งและล้อเลียนกันอย่างสนุกสนานของเพื่อน ๆ
ซูเซินและมารดา บริดเจ็ต บอยล์
เมื่อสำเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาโดยมีคุณสมบัติตามเกณฑ์เพียงบางประการแล้วนั้น ซูเซินเข้ารับการอบรมประกอบอาหารที่
วิทยาลัยเวสต์โลเธียน (West Lothian College) เป็นเวลา 6 เดือน และเข้าโครงการฝึกอาชีพที่รัฐบาลจัดขึ้นต่ออีกระยะหนึ่ง ในช่วงนั้นเธอชื่นชอบการเข้าชมละครเวทีและได้เข้าชมที่โรงละครท้องถิ่นหลายครั้ง เธอจึงได้ชมดูนักร้องเพลงมืออาชีพขับร้องอย่างเพลิดเพลิน
ใน พ.ศ. 2538 ซูเซินเข้าทดสอบการแสดงในรายการ "
My Kind of People" ของไมเคิล แบร์รีมอร์ (Michael Barrymore) โดยรายการกำลังจัดการแข่งขัน ณ ศูนย์การค้าแบรเฮด (Braehead Shopping Centre) นครกลาสโกว์ ซึ่งครั้งนั้นซูเซินกล่าวว่าเธอตื่นเต้นเกินกว่าจะสงบสติอารมณ์และสร้างความประทับใจให้แก่ผู้ชมได้ ต่อมา ซูเซินเข้ารับการอบรมร้องเพลงจากนักฝึกเสียงชื่อดัง เฟรด โอเนล (Fred O'Neil) และใน พ.ศ. 2542 เธอได้อัดเสียงร้องเพลง "Cry Me A River" สำหรับอัลบัมการกุศลที่สภาเทศบาลจัดทำขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองคริสต์สหัสวรรษที่ 2 นอกจากนี้ ซูเซินยังได้เข้าเรียนการแสดงที่โรงเรียนฝึกสอนการแสดงแห่งเอดินบะระ (Edinburgh Acting School) และได้แสดงในเทศกาลเอดินบะระฟรินจ์ (Edinburgh Fringe) อันเป็นเทศกาลทางศิลปกรรมที่จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่สุดของโลกเป็นประจำทุกปีด้วย
สำหรับชีวิตครอบครัวนั้น บิดาของซูเซินถึงแก่กรรมในกลางพุทธทศวรรษที่ 2530 (พ.ศ. 2530-2540) และญาติพ้องน้องพี่ของเธอก็จากบ้านไปทั้งหมด ทิ้งให้ซูเซินอาศัยอยู่ลำพังกับมารดาผู้ชรา ซึ่งนางบริดเจ็ต มารดาของซูเซิน นั้นทราบว่าบุตรสาวของตนชอบร้องเพลง ก็มักชี้ชวนและให้กำลังใจบุตรสาวให้เข้าร่วมการประกวดร้องเพลงของท้องถิ่นเสมอ และซูเซินก็คว้ารางวัลชนะเลิศมาหลายครั้ง ทั้งนี้
นางบริดเจ็ตยังชี้ชวนให้ซูเซินเข้าประกวดร้องเพลงที่รายการ "Britain's Got Talent" หลายครั้ง โดยกล่าวว่าอยากให้ซูเซินได้ลองเสี่ยงแสดงความกล้าร้องเพลงต่อหน้าผู้ชมขนาดใหญ่มากกว่าผู้ชมในโบสถ์ แต่ซูเซินปฏิเสธว่าเธอรู้สึกว่ายังไม่พร้อม กระทั่งนางบริดเจ็ตเสียชีวิตใน พ.ศ. 2550 เมื่ออายุได้เก้าสิบเอ็ดปี ซูเซินคงพำนักอยู่ในบ้านหลังเดิมที่มีห้องนอนสี่ห้องต่อไป โดยมี
แมวชราชื่อ "เพ็บเบิลส์" (Pebbles) เป็นเพื่อนแก้เหงา
เพื่อนบ้านของซูเซินบอกนักข่าวว่า ซูเซินไม่เคยมีหรือจัดงานวันเกิดของตัวเองเลยเพราะใช้เวลาดูแลเอาใจใส่มารดาอยู่เสมอ
และหลังจากมารดาเสียชีวิตแล้ว ซูเซินก็พยายามข่มใจต่อสู้กับการสูญเสียครั้งนี้โดยบอกกับตัวเองว่า จะขอทำใจอยู่ในบ้าน ไม่ออกไปข้างนอก ตอบเสียงเคาะประตู หรือรับโทรศัพท์สักสามสี่วัน
Pebbles
“ซูเซิน บอยล์” วันนี้เธอทำอะไรอยู่
บอยล์ กลายเป็นเศรษฐีนีคนใหม่ในช่วงเวลากว่า 9 ปีในวงการเพลง เธอทำรายได้มากมายมหาศาล และยังมีรางวัลการันตีอีกเพียบ ยิ่งไปกว่านั้นเธอยังมีชื่ออยู่ใน กินเนสส์ บุ๊ก โดยบันทึกว่า ได้ทำลายสถิติโลกแล้วถึง 3 รายการ คือ เป็นเจ้าของอัลบั้มนักร้องหญิงที่ขายเร็วที่สุดในสหราชอาณาจักร, สถิติอัลบั้มที่ทำยอดขายได้มากที่สุดภายในสัปดาห์แรก และเป็นนักร้องที่อายุมากที่สุดในขณะเปิดตัวอัลบั้มแรกที่ขึ้นชาร์ตอันดับ 1
ถ้าเธอประสบความสำเร็จ และมีชื่อเสียงขนาดนี้ แล้วเธอหายไปไหน ทำไมไม่ออกสื่อ หรือออกทัวร์คอนเสิร์ต เพราะคงมีแฟนเพลงพร้อมที่จะควักกระเป๋าซื้อบัตรคอนเสิร์ตอยู่
สาวใหญ่ชาวสก็อตแลนด์ วัย 57 ปี มีงานเข้าตลอดนับตั้งแต่ที่เธอสร้างความฮือฮาในรายการคนล่าฝันเมืองผู้ดีเมื่อปี 2009 หลังจากนั้นก็ได้ออกอัลบั้มแรกในชื่อ I Dreamed a Dream โดยติดชาร์ตมากมายทั่วโลก และกลายเป็นอัลบั้มที่ทำยอดขายได้มากที่สุดตลอดกาลในสหราชอาณาจักร จากนั้นเธอก็มีโอกาสได้ออกอีก 6 อัลบั้ม รวมเบ็ดเสร็จก็ 7 อัลบั้ม
ซูเปอร์สตาร์รุ่นเดอะ สามารถทำสถิติมียอดขายอัลบั้มทั่วโลกมากกว่า 25 ล้านปอนด์ (ราว 1,125 ล้านบาท) แถมเมื่อเร็วๆ นี้เธอก็เพิ่งจะออกมาเปิดเผยว่าน้ำหนักตัวลดไป 2 สโตน หรือประมาณ 12 กิโลกรัม ในปี 2016 และย้อนกลับไปในปี 2013 เธอถูกตรวจพบว่ามีอาการแอสเพอร์เกอร์ หรือความผิดปกติทางการทำงานของระบบประสาท ที่จัดอยู่ในกลุ่มของโรคกลุ่มออทิสติค
อัลบั้มล่าสุดก็คือ A Wonderful World ออกมาเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2016 แต่กลายเป็นว่านี่คืออัลบั้มที่ติดชาร์ตต่ำที่สุดของเธอในสหราชอาณาจักรโดยรั้งอยู่ในอันดับ 22
บอยล์ ไม่มีซิงเกิลติดชาร์ตนับตั้งแต่ปี 2014 เมื่อเธอโคเวอร์เพลง You Raise Me Up ของวงดูโอ Secret Garden ซึ่งเพลงนี้ Westlife วงบอยแบนด์ชื่อดังจากประเทศไอร์แลนด์ นำมาร้องจนประสบความสำเร็จมาแล้วก่อนหน้านี้
อย่างไรก็ตามในเวอร์ชั่นที่มาจากลูกคอ บอยล์ น่าเสียดายที่เพลงนี้ไม่ติดชาร์ต จริงๆ แล้วเธอไม่มีเพลงติดชาร์ตมาตั้งแต่ปี 2013 แล้วตอนที่ออกอัลบั้ม Home for Christmas โดยเพลง Oh Come All Ye Faithful ได้ใช้เทคนิคพิเศษให้เธอได้ร้องคู่กับ เอลวิส เพรสลี่ย์ ตำนานราชาร็อคแอนด์โรลผู้ล่วงลับ
ซูซาน บอยล์ พยายามที่จะใช้ชีวิตแบบไม่ให้เป็นที่สนใจจากสื่อและทุกๆ คน หลังจากที่เธอออกอัลบั้มล่าสุด A Wonderful World เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2016 เธอออกทัวร์ครั้งสุดท้ายในช่วงระหว่างเดือนกรกฎาคม 2013-พฤศจิกายน 2014
อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 13 เมษายน 2018 เดอะ ซัน สื่อชั้นนำในประเทศอังกฤษ เผยว่า บอยล์ จะกลับมาอีกครั้งพร้อมกับ Christmas Album ในปี 2018
บอยล์กลายเป็นข่าวใหญ่เมื่อเดือนมิถุนายน 2017 หลังจากที่ตกเป็นเหยื่อของกลุ่มนักเลงในบ้านเกิด เรื่องนี้ผู้ที่เห็นเหตุการณ์ระบุว่านักร้องรุ่นใหญ่ต้องอยู่ในอาการหวาดกลัวหลังจากที่โดนด่า และโดนขู่กรรโชก
พยานที่อยู่ในเหตุการณ์เผยว่า "เราอยู่บนรถบัสด้วย และพวกเขาก็ขว้างก้อนหินใส่เธอ แถมยังตะโกนบางอย่างซะดังลั่น มันมีอีกครั้งที่กลุ่มคน 10-15 คนไปล้อมรอบเธอแล้วปาสิ่งของใส่เธอ พวกเขาจุดไฟใส่กระดาษแล้วปาใส่หน้าของเธอ นอกจากนี้ ตอนที่ฉันไปห้าง มิลล์ เซนเตอร์ เนี่ย พวกเขาก็ไปยืนรอ ซูซาน ตรงทางเข้าในตอนที่เธอออกจากห้าง แล้วพวกเขาก็พูดใส่เธอว่า -ทำไมไม่ไปหาซื้อแว่นมาใส่สักหน่อยล่ะ ยัยแก่หน้าตาทุเรศเอ๊ย- มันน่ากลัวมากๆ เลยล่ะ"
ตัวแทนของบอยล์ ได้ออกมาเปิดเผยว่าสถานการณ์ในครั้งนั้นสุดเลวร้าย และพวกเขามีแผนที่จะไปแจ้งความเพื่อให้ตำรวจเข้ามาช่วยเหลือ และทำให้มั่นใจว่าซูเปอร์สตาร์วัยใกล้ 60 จะใช้ชีวิตได้อย่างปกติสุขและปลอดภัย
บอยล์ เกิดและเติบโตในเขตเวสต์โลเธียน เมืองแบล็กเบิร์น ประเทศสกอตแลนด์ โดยบ้านเปรียบเสมือสถานที่พักหัวใจสำหรับเธอ หลังจากประสบความสำเร็จจนโด่งดังในรายการ Britain"s Got Talent และอัลบั้มเปิดตัวก็ติดอันดับท็อปในชาร์ตต่างๆ มากมาย เธอซื้อบ้านขนาด 4 ห้องนอนราคา 65,000 ปอนด์ (ราว 2.92 ล้านบาท) ซึ่งเธอยังคงอาศัยอยู่ที่นั่นจนปัจจุบันนี้
เธอยังคว้ากระเป๋ากว่า 300,000 ปอนด์ (ราว 13.5 ล้านบาท) ซึ้งบ้านหลังใหม่ขนาด 5 ห้องนอน แต่เธอรู้สึกว่ามันยากในการปรับตัวเมื่อเข้าไปอยู่ที่นั่นและให้หลานสาวเข้าไปอยู่แทน ส่วนคุณป้าก็กลับไปอยู่บ้านหลังเดิม
นักร้องสาวใหญ่วัยใกล้เกษียณ มีทรัพย์สินโดยประมาณอยู่ที่ 26 ล้านปอนด์ (ราว 1,170 ล้านบาท) แต่เงินนั้นไม่ได้มีความสำคัญสำหรับสตาร์ดังที่ใช้ชีวิตติดดินมากๆ
บอยล์ ยังคงอยู่ในบ้านหลังเก่าที่บ้านเกิดของเธอ และใช้เงินซื้อของที่แพงที่สุดก็คือเสื้อโค้ทขนสัตว์ราคา 300 ปอนด์ (ราว 13,500 บาท) กับน้ำหอมยี่ห้อชาแนล นับเบอร์ไฟว์ เธอมีทรัพย์สินมากมาย และมักจะนำไปบริจาคให้กับมูลนิธิหลายๆ แห่ง รวมทั้งใช้เงินที่หาได้เพื่อช่วยเหลือเพื่อนๆ กับครอบครัวของเธอ
ดีว่าใจดีเจ้าของเพลงฮิต I Dreamed a Dream มักจะควักเงินจ่ายค่าจำนอง, ค่าสาธารณูปโภคภายในบ้าน และหนี้สินต่างๆ ให้กับทุกๆ คน โดยเธอเคยพูดว่าไม่อยากเห็นคนที่เธอรักต้องลำบาก และไม่มีเงินใช้จ่าย
สำหรับตอนนี้ไม่ว่า ซูซาน บอยล์ จะอยู่ที่ไหน หรือจะมีอัลบั้มใหม่ออกมาให้ฟังหรือไม่ ก็คงไม่สำคัญเท่ากับนิสัย และความโอบอ้อมอารีของเธอ ที่มีให้กับทุกๆ คน และหวังใจว่าหาก บอยล์ มีผลงานใหม่ออกมา เธอจะประสบความสำเร็จเหมือนที่เธอเคยได้รับ
ซูเซิน บอยล์ (Susan Boyle; เกิด: 1 เมษายน พ.ศ. 2504) เป็นนักร้องมือสมัครเล่นชาวสกอตแลนด์และเคยเป็นนักบริการชุมชน เธอได้รับความสนใจจากสาธารณชนเมื่อเธอปรากฏตัวในรายการ Britain's Got Talent ฤดูกาลที่ 3 รอบแรก ณ วันที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2552 เพื่อประกวดขับร้องเพลง "I dreamed a dream" เพลงจากละครเวทีเรื่อง "Les Misérables"
ซึ่งก่อนเธอจะขับร้อง ทั้งผู้ชมในโถงประกวดและคณะกรรมการตัดสินแสดงความกังขาเชิงลบต่อเธอ เนื่องจากเธอมีรูปลักษณ์ไม่น่าชม ร่างกายอุ้ยอ้ายทำให้เธอดูงุ่มง่าม การแต่งกายที่ล้าสมัย การมาจากเมืองชนบท กับทั้งอายุของเธอที่มากแล้ว แต่ในทางกลับกัน ความสามารถในการร้องเพลงของเธอยังให้ผู้ชมทั้งโถงและกรรมการอึ้งและประทับในในการแสดงถึงกับหลั่งน้ำตาและยืนขึ้นให้เกียรติ โดยกรรมการตัดสินทั้งสามคนลงคะแนนเสียงให้เธอผ่านการประกวดรอบแรก ทั้งนี้ การประกวดรอบดังกล่าวบันทึกขึ้นในเดือนมกราคม พ.ศ. 2552 ที่นครกลาสโกว์ ประเทศสกอตแลนด์ ประเทศบ้านเกิดของซูเซินเอง
ซูเซินยิ่งได้รับความสนใจมากขึ้นไปอีกเมื่อวีดิทัศน์การประกวดร้องเพลงดังกล่าวได้รับการนำลงเผยแพร่ทางเว็บไซต์ยูทูบ และเพียงหนึ่งสัปดาห์นับแต่วันนำลงเว็บไซต์ก็มีผู้เข้าชมมากกว่าสี่พันสามร้อยล้านครั้งทั่วโลก มีการนำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับเธอโดยสื่อมวลชนนานาชาติ รวมถึงประเทศไทย นอกจากนี้ บริษัทโซนีมิวสิกยังเตรียมทำสัญญาจ้างซูเซินเป็นนักร้องในสังกัดอีกด้วย
ซูเซิน บอยล์ เกิดเมื่อวันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2504 ณ เมืองแบล็กเบิร์น เทศมณฑลเวสต์โลเธียน ประเทศสกอตแลนด์ โดยเป็นบุตรคนสุดท้องในบรรดาบุตรเก้าคนของนายแพทริก บอยล์ (Patrick Boyle) พนักงานโกดังที่โรงงานบริติชเลย์แลนด์ (British Leyland) ในเมืองบาธเกต (Bathgate) กับนางบริดเจ็ต บอยล์ (Bridget Boyle) นักพิมพ์ชวเลข ซูเซินมีพี่ชายสี่คน และพี่สาวอีกสี่คน ซึ่งพี่น้องทั้งเก้าคนนี้ปัจจุบันเสียชีวิตแล้วสามคน เมื่อตอนซูเซินเกิด มารดามีอายุได้ 44 ปี และหนังสือพิมพ์ซันเดย์ไทมส์รายงานว่า เวลานั้นเป็นช่วงที่ลำบากมาก เพราะไม่มีออกซิเจนเพียงพอจะให้แก่ซูเซินเมื่อแรกเกิด ทำให้ประสาทการเรียนรู้ของเธอทำงานอ่อน เมื่อตอนเข้าโรงเรียนจึงเป็นที่กลั่นแกล้งและล้อเลียนกันอย่างสนุกสนานของเพื่อน ๆ
เมื่อสำเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาโดยมีคุณสมบัติตามเกณฑ์เพียงบางประการแล้วนั้น ซูเซินเข้ารับการอบรมประกอบอาหารที่วิทยาลัยเวสต์โลเธียน (West Lothian College) เป็นเวลา 6 เดือน และเข้าโครงการฝึกอาชีพที่รัฐบาลจัดขึ้นต่ออีกระยะหนึ่ง ในช่วงนั้นเธอชื่นชอบการเข้าชมละครเวทีและได้เข้าชมที่โรงละครท้องถิ่นหลายครั้ง เธอจึงได้ชมดูนักร้องเพลงมืออาชีพขับร้องอย่างเพลิดเพลิน
ใน พ.ศ. 2538 ซูเซินเข้าทดสอบการแสดงในรายการ "My Kind of People" ของไมเคิล แบร์รีมอร์ (Michael Barrymore) โดยรายการกำลังจัดการแข่งขัน ณ ศูนย์การค้าแบรเฮด (Braehead Shopping Centre) นครกลาสโกว์ ซึ่งครั้งนั้นซูเซินกล่าวว่าเธอตื่นเต้นเกินกว่าจะสงบสติอารมณ์และสร้างความประทับใจให้แก่ผู้ชมได้ ต่อมา ซูเซินเข้ารับการอบรมร้องเพลงจากนักฝึกเสียงชื่อดัง เฟรด โอเนล (Fred O'Neil) และใน พ.ศ. 2542 เธอได้อัดเสียงร้องเพลง "Cry Me A River" สำหรับอัลบัมการกุศลที่สภาเทศบาลจัดทำขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองคริสต์สหัสวรรษที่ 2 นอกจากนี้ ซูเซินยังได้เข้าเรียนการแสดงที่โรงเรียนฝึกสอนการแสดงแห่งเอดินบะระ (Edinburgh Acting School) และได้แสดงในเทศกาลเอดินบะระฟรินจ์ (Edinburgh Fringe) อันเป็นเทศกาลทางศิลปกรรมที่จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่สุดของโลกเป็นประจำทุกปีด้วย
สำหรับชีวิตครอบครัวนั้น บิดาของซูเซินถึงแก่กรรมในกลางพุทธทศวรรษที่ 2530 (พ.ศ. 2530-2540) และญาติพ้องน้องพี่ของเธอก็จากบ้านไปทั้งหมด ทิ้งให้ซูเซินอาศัยอยู่ลำพังกับมารดาผู้ชรา ซึ่งนางบริดเจ็ต มารดาของซูเซิน นั้นทราบว่าบุตรสาวของตนชอบร้องเพลง ก็มักชี้ชวนและให้กำลังใจบุตรสาวให้เข้าร่วมการประกวดร้องเพลงของท้องถิ่นเสมอ และซูเซินก็คว้ารางวัลชนะเลิศมาหลายครั้ง ทั้งนี้ นางบริดเจ็ตยังชี้ชวนให้ซูเซินเข้าประกวดร้องเพลงที่รายการ "Britain's Got Talent" หลายครั้ง โดยกล่าวว่าอยากให้ซูเซินได้ลองเสี่ยงแสดงความกล้าร้องเพลงต่อหน้าผู้ชมขนาดใหญ่มากกว่าผู้ชมในโบสถ์ แต่ซูเซินปฏิเสธว่าเธอรู้สึกว่ายังไม่พร้อม กระทั่งนางบริดเจ็ตเสียชีวิตใน พ.ศ. 2550 เมื่ออายุได้เก้าสิบเอ็ดปี ซูเซินคงพำนักอยู่ในบ้านหลังเดิมที่มีห้องนอนสี่ห้องต่อไป โดยมีแมวชราชื่อ "เพ็บเบิลส์" (Pebbles) เป็นเพื่อนแก้เหงา
เพื่อนบ้านของซูเซินบอกนักข่าวว่า ซูเซินไม่เคยมีหรือจัดงานวันเกิดของตัวเองเลยเพราะใช้เวลาดูแลเอาใจใส่มารดาอยู่เสมอ
และหลังจากมารดาเสียชีวิตแล้ว ซูเซินก็พยายามข่มใจต่อสู้กับการสูญเสียครั้งนี้โดยบอกกับตัวเองว่า จะขอทำใจอยู่ในบ้าน ไม่ออกไปข้างนอก ตอบเสียงเคาะประตู หรือรับโทรศัพท์สักสามสี่วัน