มาแรงแซงทางโค้ง จนเรียกว่าเอาช้างมาฉุดก็ไม่อยู่จริงๆ กับ เด็กใหม่ THE SERIES GIRL FROM NO WHERE ที่กลายเป็นกระแสและถูกพูดถึงกันเป็นอย่างมากมายในโลกโซเชียลอยู่ในขณะนี้ ก็แหม่!!! จะไม่ให้สนใจได้อย่างไรล่ะจ๊ะ เพราะซีรีส์เรื่องนี้นำเอาความแปลกของเด็กสาวที่มีนามว่า แนนโน๊ะ (อะๆ แค่ชื่อก็ไม่ธรรมดาซะแล้ว) ซึ่งเธอนั้นเป็นลูกสาวของซาตาน ที่ลงมายังโลกมนุษย์เพื่อพิสูจน์ความดีของมนุษย์อย่างพวกเรา (เอาแล้วไง หนาวๆ ร้อนๆ กันเลยทีเดียว) ที่สำคัญงานนี้ยังได้ผู้กำกับถึง 9 คน จาก 13 ตอน มากำกับอีกด้วยน้า ดังระเบิดขนาดนี้เห็นทีคงต้องขอเรียกตัว คิทตี้ ชิชา อมาตยกุล ผู้รับบทเป็น แนนโน๊ะ มาคุยกันหน่อยสิว่าทำไม เธอถึงต้องเผ็ด ต้องแซ่บ ต้องแรดไฟลุกขนาดนี้ ป่ะ ไปล้วงความลับลูกสาวซาตานกันเล้ยยยย
กระแสตอบรับจากคนรอบข้างเป็นอย่างไร
คิทตี้ ชิชา : เกินความคาดหมายสุดๆ เลยค่ะ ทีมงานทุกคนรวมถึงตัวคิทเองคิดว่ามันจะเป็นซีรีส์เฉพาะกลุ่ม ไม่ได้คิดว่ามันจะเข้าถึงคนได้เยอะขนาดนี้ ในใจตอนแรกคิดว่าน่าจะถูกคุณครูหรือผู้ปกครองเกลียดชังไม่ใช่น้อย แต่ก็ดีใจที่ส่วนมากเข้ามาแชร์ว่าตัวซีรีส์เหมือนทำให้ได้คุยกับลูก และพยายามสอนว่าสิ่งไหนที่ไม่ควรทำ ส่วนคนรอบข้างที่อยู่กับคิทมาตลอดโปรเจกต์ หลายคนก็ตกใจกับกระแสเหมือนกัน หลายวันที่ผ่านมาไปเที่ยวกัน ตอนแรกก็คิดว่าไม่มีใครรู้จักเราหรอก ไปแบบชิลล์ๆ พอไปถึงหลายคนจำเราได้ ส่วนผู้กำกับก็ดีใจมากว่าทำงานออกมาแมสได้ขนาดนี้เลยเหรอ คิทเองก็รู้สึกดีใจ ดีใจมากๆ ที่คนรักตัวละครที่เราเล่น (ยิ้ม)
ความรู้สึกแรกที่ได้รับบท แนนโน๊ะ เป็นอย่างไร
คิทตี้ ชิชา : ตัวคิทเองเป็นนักแสดง ไม่ได้เป็นดาราที่ต้องเลือกสาย ว่าจะเป็นสายนางเอกหรือนางร้าย คิทอยากเล่นบทที่หลากหลายมากที่สุด พอเห็นบทเรื่องนี้ครั้งแรกคิทอยากเล่นมากๆ รู้สึกว่าถ้าไม่ได้บทนี้ เราคงไม่มีทางได้บทที่สนุกแบบนี้ไปอีกนานแน่ๆ แล้วบทนี้คงไม่ได้มีผ่านเข้ามาให้แคสอีกง่ายๆ ก็พยายามทุ่มกับมันอย่างเต็มที่ ดีใจที่ทางทีมงานให้โอกาสเลือกคิทเข้ามาเป็นแนนโน๊ะ ขอบคุณจริงๆ ค่ะ
ตัวละคร แนนโน๊ะ มีคาแรกเตอร์เป็นอย่างไร
คิทตี้ ชิชา : มันเป็นซีรีส์ที่ค่อนข้างดูดเวลาเราไป แต่คิทโชคดีที่ไม่ได้มีภาระอย่างอื่นต้องทำ อาจจะโชคดีตรงจุดนี้ที่สามารถทุ่มเทเวลา 6-7 เดือนไปกับซีรีส์เรื่องนี้ได้ ส่วนตัวมองว่าตัวละคร แนนโน๊ะ มันยากตรงที่ว่ามันไม่ใช่คนและไม่ใช่สัตว์ มุมมองของเขากับมนุษย์ไม่เหมือนกัน เขาไม่ได้รู้สึกถึงความหดหู่ ไม่ได้รู้สึกแคร์กับเรื่องของความตาย คนอื่นก็ตายไปสิ ซึ่งมันค่อนข้างยากที่เราจะเรียบเรียงความรู้สึกตัวเอง ให้เข้าใจตัวแนนโน๊ะว่าการที่เราจะไม่เห็นใจคนเลย ไม่ใช่เพราะว่าเราใจดำนะ แต่เป็นเพราะว่ามันไม่เคยมีค่ากับเราตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ซึ่งตัวละครนี้มีความท้าทายมาก หากคิทพลาดระหว่างถ่ายก็อาจจะตายได้ แต่แนนโน๊ะเขาไม่เคยตาย ทุกอย่างเป็นเรื่องง่ายสำหรับเขา เรื่องของเมจิกที่เราต้องทำให้คนดูและนักแสดงที่อยู่ร่วมกันในฉากเชื่อว่าเขาไม่ใช่คนธรรมดา เหมือนเขามีความอันตรายอยู่ตลอดเวลา บางทีมันก็อยู่นอกเหนือขอบเขตของความเป็นคนปกติอยู่เยอะมากค่ะ
เตรียมตัวอย่างไรบ้าง
คิทตี้ ชิชา : คิทโชคดีที่มีครูบิว อรพรรณ อาจสมรรถ และครูโน่ กรินทร์ ใบไพศาล ที่ Act-Things Studio แล้วก็มีทีมครีเอเตอร์ที่เข้ามาซัพพอร์ต ในเรื่องของการปูแบลคสตอรี่ของตัวละคร ที่คนดูอาจจะไม่มีคนดูได้เห็นในซีรีส์เลย เหมือนเราจะมีการเซ็ตประมาณว่า แนนโน๊ะน่าจะเป็นสิ่งมีชีวิตที่อยู่ในนรก พ่ออาจจะสั่งให้ดูจอเป็นพันๆ จอ แล้วบันทึกลงบัญชีหนังหมาว่า นายเอ ฆ่านายบีไปเรื่อยๆ ดูแล้วก็ไม่เคยรู้สึกอะไร ทุกอย่างเป็นเรื่องปกติมาก ซึ่งเวลา 1 ปีของแนนโน๊ะ ไม่ได้เท่ากับมนุษย์เลย เพราะฉะนั้นเขาอาจจะต้องลงมาดูที่โลกมนุษย์สิว่ามันจริงเหมือนที่เห็นรึเปล่า แล้วเขาก็มาลองพิสูจน์ดูว่าถ้าให้โอกาสมนุษย์ พวกเขาจะทำชั่วกันหมดรึเปล่า บางทีคนที่ไม่ทำชั่วอาจเพราะไม่มีโอกาส หรือไม่มีอำนาจที่จะทำ
ทราบมาว่าคิทตี้ เปลี่ยนลุคเพราะมาแสดงเป็นแนนโน๊ะเลยใช่มั้ย แล้ว ทรงผม ถูกออกแบบให้เป็นแบบนี้มาตั้งแต่ต้นหรือเปล่า
คิทตี้ ชิชา : จริงๆ คิทเคยตัดทรงนี้ตอนเป็นนักร้อง ต้องใช้เวลา 8 ปี มันถึงเข้ากับหน้า ตัวคิทเองมองว่าในหน้าม้าหรือผมดำตรง เป็นทรงที่คนจะเข้าใจได้ง่ายว่า คนแบบนี้มันจะลึกลับหน่อยๆ เราจะเห็นได้จากหนังไซไฟหรือในการ์ตูนญี่ปุ่นบ่อยๆ รู้สึกว่าเป็นทรงที่เล่นไฟ ปิดหน้า หรือคาด มันก็จะดูร้ายๆ ดี ส่วนการดีไซน์ในตอนแรกมีการเลือกกันว่าจะผมยาวหรือสั้นดี แล้วก็มาได้ข้อสรุปกันตรงระยะที่ว่า เหมือนจะผิดระเบียบหรือถูกระเบียบกันแน่ น่าจะเป็นการตีความตัวละครในด้านของ styling ว่ามันคือตัวละครที่อยู่ตรงเส้นของความถูกต้อง ว่าถ้ามันออกนิดหนึ่งคือผิดเลย ก็เลยได้ออกมาเป็นทรงผมนี้ค่ะ ทรงผมที่ดูเหมือนหาเรื่องครูห้องปกครองตลอดเวลา (หัวเราะ)
การดีไซน์ชุดนักเรียนของเด็กใหม่เป็นอย่างไร
คิทตี้ ชิชา : มีการ styling 11 โรงเรียน จาก 13 ตอน ซึ่งผู้กำกับแต่ละคนก็จะมีการแข่งกันทำอักษรย่อ ชุดใน EP 5 ที่เป็นเรื่องของการกดไลค์ก็จะชื่อว่า โรงเรียนนิยมวิทยา แล้วก็จะมีอีกโรงเรียนหนึ่ง เป็นโรงเรียนหญิงล้วน ก็จะได้ตัวย่อว่า ส.ว.ย. อะไรแบบนี้ โดยส่วนตัวคิทจะชอบชุดใน EP 3 มากที่สุด ที่เป็นเสื้อขาว กระโปรงแดง เพราะใส่แล้วสบายค่ะ
เม้าท์ไฟลุกกับ แนนโน๊ะ หรือ คิทตี้ ชิชา จาก เด็กใหม่ THE SERIES GIRL FROM NO WHERE
คิทตี้ ชิชา : เกินความคาดหมายสุดๆ เลยค่ะ ทีมงานทุกคนรวมถึงตัวคิทเองคิดว่ามันจะเป็นซีรีส์เฉพาะกลุ่ม ไม่ได้คิดว่ามันจะเข้าถึงคนได้เยอะขนาดนี้ ในใจตอนแรกคิดว่าน่าจะถูกคุณครูหรือผู้ปกครองเกลียดชังไม่ใช่น้อย แต่ก็ดีใจที่ส่วนมากเข้ามาแชร์ว่าตัวซีรีส์เหมือนทำให้ได้คุยกับลูก และพยายามสอนว่าสิ่งไหนที่ไม่ควรทำ ส่วนคนรอบข้างที่อยู่กับคิทมาตลอดโปรเจกต์ หลายคนก็ตกใจกับกระแสเหมือนกัน หลายวันที่ผ่านมาไปเที่ยวกัน ตอนแรกก็คิดว่าไม่มีใครรู้จักเราหรอก ไปแบบชิลล์ๆ พอไปถึงหลายคนจำเราได้ ส่วนผู้กำกับก็ดีใจมากว่าทำงานออกมาแมสได้ขนาดนี้เลยเหรอ คิทเองก็รู้สึกดีใจ ดีใจมากๆ ที่คนรักตัวละครที่เราเล่น (ยิ้ม)
ความรู้สึกแรกที่ได้รับบท แนนโน๊ะ เป็นอย่างไร
คิทตี้ ชิชา : ตัวคิทเองเป็นนักแสดง ไม่ได้เป็นดาราที่ต้องเลือกสาย ว่าจะเป็นสายนางเอกหรือนางร้าย คิทอยากเล่นบทที่หลากหลายมากที่สุด พอเห็นบทเรื่องนี้ครั้งแรกคิทอยากเล่นมากๆ รู้สึกว่าถ้าไม่ได้บทนี้ เราคงไม่มีทางได้บทที่สนุกแบบนี้ไปอีกนานแน่ๆ แล้วบทนี้คงไม่ได้มีผ่านเข้ามาให้แคสอีกง่ายๆ ก็พยายามทุ่มกับมันอย่างเต็มที่ ดีใจที่ทางทีมงานให้โอกาสเลือกคิทเข้ามาเป็นแนนโน๊ะ ขอบคุณจริงๆ ค่ะ
คิทตี้ ชิชา : มันเป็นซีรีส์ที่ค่อนข้างดูดเวลาเราไป แต่คิทโชคดีที่ไม่ได้มีภาระอย่างอื่นต้องทำ อาจจะโชคดีตรงจุดนี้ที่สามารถทุ่มเทเวลา 6-7 เดือนไปกับซีรีส์เรื่องนี้ได้ ส่วนตัวมองว่าตัวละคร แนนโน๊ะ มันยากตรงที่ว่ามันไม่ใช่คนและไม่ใช่สัตว์ มุมมองของเขากับมนุษย์ไม่เหมือนกัน เขาไม่ได้รู้สึกถึงความหดหู่ ไม่ได้รู้สึกแคร์กับเรื่องของความตาย คนอื่นก็ตายไปสิ ซึ่งมันค่อนข้างยากที่เราจะเรียบเรียงความรู้สึกตัวเอง ให้เข้าใจตัวแนนโน๊ะว่าการที่เราจะไม่เห็นใจคนเลย ไม่ใช่เพราะว่าเราใจดำนะ แต่เป็นเพราะว่ามันไม่เคยมีค่ากับเราตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ซึ่งตัวละครนี้มีความท้าทายมาก หากคิทพลาดระหว่างถ่ายก็อาจจะตายได้ แต่แนนโน๊ะเขาไม่เคยตาย ทุกอย่างเป็นเรื่องง่ายสำหรับเขา เรื่องของเมจิกที่เราต้องทำให้คนดูและนักแสดงที่อยู่ร่วมกันในฉากเชื่อว่าเขาไม่ใช่คนธรรมดา เหมือนเขามีความอันตรายอยู่ตลอดเวลา บางทีมันก็อยู่นอกเหนือขอบเขตของความเป็นคนปกติอยู่เยอะมากค่ะ
เตรียมตัวอย่างไรบ้าง
คิทตี้ ชิชา : คิทโชคดีที่มีครูบิว อรพรรณ อาจสมรรถ และครูโน่ กรินทร์ ใบไพศาล ที่ Act-Things Studio แล้วก็มีทีมครีเอเตอร์ที่เข้ามาซัพพอร์ต ในเรื่องของการปูแบลคสตอรี่ของตัวละคร ที่คนดูอาจจะไม่มีคนดูได้เห็นในซีรีส์เลย เหมือนเราจะมีการเซ็ตประมาณว่า แนนโน๊ะน่าจะเป็นสิ่งมีชีวิตที่อยู่ในนรก พ่ออาจจะสั่งให้ดูจอเป็นพันๆ จอ แล้วบันทึกลงบัญชีหนังหมาว่า นายเอ ฆ่านายบีไปเรื่อยๆ ดูแล้วก็ไม่เคยรู้สึกอะไร ทุกอย่างเป็นเรื่องปกติมาก ซึ่งเวลา 1 ปีของแนนโน๊ะ ไม่ได้เท่ากับมนุษย์เลย เพราะฉะนั้นเขาอาจจะต้องลงมาดูที่โลกมนุษย์สิว่ามันจริงเหมือนที่เห็นรึเปล่า แล้วเขาก็มาลองพิสูจน์ดูว่าถ้าให้โอกาสมนุษย์ พวกเขาจะทำชั่วกันหมดรึเปล่า บางทีคนที่ไม่ทำชั่วอาจเพราะไม่มีโอกาส หรือไม่มีอำนาจที่จะทำ
คิทตี้ ชิชา : จริงๆ คิทเคยตัดทรงนี้ตอนเป็นนักร้อง ต้องใช้เวลา 8 ปี มันถึงเข้ากับหน้า ตัวคิทเองมองว่าในหน้าม้าหรือผมดำตรง เป็นทรงที่คนจะเข้าใจได้ง่ายว่า คนแบบนี้มันจะลึกลับหน่อยๆ เราจะเห็นได้จากหนังไซไฟหรือในการ์ตูนญี่ปุ่นบ่อยๆ รู้สึกว่าเป็นทรงที่เล่นไฟ ปิดหน้า หรือคาด มันก็จะดูร้ายๆ ดี ส่วนการดีไซน์ในตอนแรกมีการเลือกกันว่าจะผมยาวหรือสั้นดี แล้วก็มาได้ข้อสรุปกันตรงระยะที่ว่า เหมือนจะผิดระเบียบหรือถูกระเบียบกันแน่ น่าจะเป็นการตีความตัวละครในด้านของ styling ว่ามันคือตัวละครที่อยู่ตรงเส้นของความถูกต้อง ว่าถ้ามันออกนิดหนึ่งคือผิดเลย ก็เลยได้ออกมาเป็นทรงผมนี้ค่ะ ทรงผมที่ดูเหมือนหาเรื่องครูห้องปกครองตลอดเวลา (หัวเราะ)
การดีไซน์ชุดนักเรียนของเด็กใหม่เป็นอย่างไร
คิทตี้ ชิชา : มีการ styling 11 โรงเรียน จาก 13 ตอน ซึ่งผู้กำกับแต่ละคนก็จะมีการแข่งกันทำอักษรย่อ ชุดใน EP 5 ที่เป็นเรื่องของการกดไลค์ก็จะชื่อว่า โรงเรียนนิยมวิทยา แล้วก็จะมีอีกโรงเรียนหนึ่ง เป็นโรงเรียนหญิงล้วน ก็จะได้ตัวย่อว่า ส.ว.ย. อะไรแบบนี้ โดยส่วนตัวคิทจะชอบชุดใน EP 3 มากที่สุด ที่เป็นเสื้อขาว กระโปรงแดง เพราะใส่แล้วสบายค่ะ