นิยาม 2,215 เชื่อ บ้า กล้า ก้าว
เราไม่แน่ใจว่าเราจะให้นิยามกับเรื่องนี้ว่าคือหนัง สารคดี หรือเป็นเก็บตกเบื้องหลังโครงการก้าวจากเบตงถึงแม่สายดี? มันไม่ได้เป็นมีบทมีฉากแบบหนัง มันไม่ได้ให้ความรู้หรืออิงเนื้อหาแบบสารคดี และมันมีอะไรมากกว่าภาพเก็บตกเหตุการณ์ มันมีความยูนีคและมันมีความเป็นตัวของตัวเองสูงเหมือนที่พี่ตูนเป็น
ชื่อ 2,215 เชื่อ บ้า กล้า ก้าว นี้มีที่มา
จากชื่อหลายคนอาจจะทราบว่าทำไมถึงชื่อว่า 2,215 เลขนี้คือระยะจริงที่รถการ์มิน (ชื่ออุปกรณ์วัดระยะทาง) จับได้จริง ซึ่งมากกว่าที่วางไว้ตอนแรกว่าจะวิ่งจากเบตงถึงแม่สายระยะทาง 2,191 กิโลเมตร ซึ่งระยะที่เพิ่มขึ้นเกิดจากการที่พี่ตูนวิ่งเข้าไปตามหน่วยงานหรือสถานที่ต่างๆ นอกเหนือจากที่วางไว้ในตอนแรกเริ่มวิ่ง ส่วนเชื่อ บ้า กล้า ก้าว เราว่าสี่คำนี้เป็นนิยามหรือบอกความเป็น อาทิวราห์ คงมาลัยได้ดีนะ (ช่วงที่มีข่าวหมูป่าอะคาเดมี มีคนแชร์ว่าอาทิวราห์แปลว่าหมูป่า อาทิวราห์เป็นชื่อปางค์หนึ่งของพระศิวะที่ทรงหมูป่า) ตอนแรกเราสงสัยนะ ว่าทำไมต้องตั้งชื่ออะไรแบบนี้มันเหมือนอารมณ์ตั้งชื่อหนังจีน วิ่ง สู้ฟัด อะไรแบบนั้น พอมาดูถึงได้ อ๋ออออออออออออออออ... เค้าเอามาจากเนื้อหานี่แหล่ะ
“เชื่อ” มาจากความเชื่อของพี่ตูนที่ว่า พี่ตูนจะสามารถวิ่งระยะมาราธอนได้ทุกวัน ติดต่อกันจำนวน 55 วัน ทั้งๆที่ระยะวิ่งที่พี่ตูนซ้อมประจำคือประมาณ 20 กิโลเมตรเท่านั้น
“บ้า” ความบ้าของพี่ตูน มันมาจากหลายครั้งที่ร่างกายมันประท้วงว่ามันเกินขีดจำกัดแล้วนะเว้ย หยุดเหอะ! ไม่ ไม่หยุดเพราะมันมีความเชื่อเป็นที่ตั้งว่าจะทำได้ ทำให้ไม่ยอมหยุด ก็บ้าวิ่งต่อ แค่ขอรีบูตแป๊บนึง รีเฟรชร่างกายและจิตใจใหม่แป๊บนึง เดี๋ยวก็กลับไปทำต่อ ซึ่งถ้าเป็นคนทั่วไปก็คงยอมหยุดแล้ว
ไม่มีอะไรมาห้ามให้เราหยุดเดินได้นอกจากตัวเราเอง
“กล้า” พี่ตูนกล้าว่ะ กล้าออกมาทำอะไรแบบนี้ พี่แมร่งโคตรกล้าเลย กล้าที่จะทำ และกล้าที่จะลงมือทำ กล้าที่จะเสี่ยง เผื่อใครไม่รู้ว่าการทำอะไรแบบนี้ Worst case นี่คือเสียชีวิตเลยนะ มีครั้งนึงที่พี่ตูนแมร่งก้าวไปยืนยังปากเหวมาแล้วนั่นคือวันที่พี่ตูนวิ่งเข้ากทม. ช่วงนั้นเป็นช่วงที่เร่งสปีด เป็นช่วงที่ถ้าเราจำไม่ผิดคือมีการเริ่มเซต 1 โคตรเช้านั่นคือประมาณตี 2 เพราะจำได้ว่าตื่นมาตี 5 เริ่มเซต 2 แล้ว พี่ตูนอยากให้ทันตามกำหนดมันเลยมีการปรับตารางใหม่ ถ้าคนที่เคยดูไลฟ์น่าจะพอจำได้ว่าพอวิ่งถึงกทม.แล้วพี่ตูนพักที่โรงแรมคิงพาวเวอร์รางน้ำ 2 คืน เราก็คิดว่าเค้าพักทำภารกิจกับพวกสปอนเซอร์ในกทม. เพิ่งมารู้นี่แหล่ะว่า คืนนั้นเจาะเลือดแล้วอีกนิดเดียวจะเกิดภาวะไตวายแล้ว
“ก้าว” พี่ตูนก้าวออกมาข้างหน้าเพื่อนำความคิดของเค้ามาบอกต่อ เค้าก้าวออกมาโดยเค้าไม่ได้คิดว่ามันไม่ใช่หน้าที่เค้า เค้าก้าวออกมาด้วยความคิดที่ว่าเคาคิดว่าเค้าพอที่จะช่วยเหลืออะไรตรงไหนบ้าง เค้าลงมือทำทันทีโดยไม่ได้มีความลังเลใจเลยแม้แต่น้อย
จุดกำเนิดของโครงการก้าว จากเบตง-แม่สาย
ใครจะไปรู้ว่าจุดกำเนิดแรกเริ่มของโครงการวิ่งนี้มาจาก”สื่อ” หลังจากจบโครงการวิ่งเพื่อโรงพยาบาลบางสะพานไปแล้ว มีการเผยผลการดำเนินงานของโรงพยาบาลต่างๆ ในประเทศว่าขาดทุนและขาดแคลนเงินในการซื้ออุปกรณ์การแพทย์ ลำพังแค่ลงเฉยๆมันก็เป็นข่าวปกติทั่วไป แต่มันไม่ปกติตรงที่ดันผ่าจั่วหัวว่า “พี่ตูนช่วยด้วย” แล้วพี่ตูนนั้นพอได้ทราบก็ไม่ได้นิ่งดูดาย เริ่มวางแผนทำโครงการนี้ทันที
เกี่ยวกับเนื้อหา
มันไม่ใช่เรื่องราวใหม่แต่เป็นเรื่องราวเดิมๆที่เคยเห็นในไลฟ์สดนั่นแหล่ะ แต่เป็นมุมมองใหม่เหมือนหนังฝรั่งที่มันซับซ้อนที่เป็นการมองเห็นภาพสายตาจากคนต่างๆ กันในเหตุการณ์เดียวกัน อยากให้ทุกคนคิดเสมอว่าเหรียญมี 2 ด้าน คนเราก็เหมือนกัน มันไม่ได้มีด้านเดียวที่เรามองเห็นว่ามันดี มันสวยงาม มันมีอีกด้านที่ตรงกันข้าม เราเลือกที่จะเก็บหรือแสดงออก เนื้อหามันไม่เชิงเป็นหนังสร้างแรงบันดาลใจซะทีเดียว พี่ตูนพูดประมาณว่าเค้าแค่เลือกทำตามความชอบหรือความฝัน เค้าคงไม่สามารถไปให้กำลังใจหรือสร้างแรงบันดาลใจให้ใครได้เพราะเค้าเองก็ต้องใช้ แต่ถ้าเค้าทำตามความชอบความฝันสำเร็จแล้วมันจะส่งต่อหรือไปสร้างแรงบันดาลใจให้ใครต่อไปเค้าก็ดีใจ มันไม่ใช่หนังแบบ Forest Gump ที่แบบสอดแทรกแนวคิดเนื้อหา หรือปรัชญาอะไรไว้ เนื้อหามันเหมาะกับคนกำลังหมดใจ หมดไฟ ขาดกำลังใจ ใครที่คิดว่าตัวเองกำลังแย่ กำลังจมอยู่ในวังวนความคิดของตัวเอง ไปดูซะ ออกจากโรงหนังมาเหมือนได้เติมของอัพสกิลเลย ทั้งมีด โล่ หอก ดาบ ธนู เกราะ อาวุธครบ พร้อมสู้ในการดำเนินชีวิตต่อเลย
ฝนตกไม่ใช่อุปสรรคจงหยิบฮู้ดคลุมแล้ววิ่งต่อไป
ไก่-กบ 2 พลังบวก
บอกตามตรงว่า ปกติไม่ชอบดูหนังสารคดีแนวนี้เลย ที่ดูนี่เพราะพี่ตูนล้วนๆ พอลองได้ดู เห้ย...เจ๋งว่ะ การเล่าเรื่องจากภาพและเพลง การลำดับเหตุการณ์ต่างๆ มันดูน่าสนใจ และบวกกับสิ่งที่พี่กบพูด (พี่กบมือกลองบิ๊กแอส คนแต่งเพลงให้พี่ตูน) มันไม่ใช่บทพูด มันเป็นบอกเล่าเรื่องราวที่มาที่ไปของเหตุการณ์ต่างๆ เข้าใจแล้วว่าทำไมเพลงของบอดี้สแลมถึงสวยงามและมีเนื้อหาตรงมาตรงไปเข้าใจง่ายและชัดเจน ภาพที่ผกก.ถ่ายทอดให้เราเห็นมันอิมแพคกระแทกใจจริงๆ ฟุตเทจ 2,000 กว่าชั่วโมง ตัดเหลือชม.กว่าได้น่าสนใจมากตอนจบเรารู้สึกว่ายาวกว่านี้อีกก็ได้นะเราอยากดูต่อ ถ้าต่อไปมีหนังจากผู้กำกับคนนี้อีกเราดูแน่นอน
ก่อนสรุป
มีคนให้นิยามว่าพี่ตูนนั้นเป็นฮีโร่ พี่ตูนจะถ่อมตัวและบอกเสมอว่าตัวเองนั้นไม่ใช่ฮีโร่ เพราะเค้าไม่ใช่คนที่ช่วยคนอื่น เค้ามีหน้าที่คือเล่าเรื่องราวว่ามันเกิดอะไรขึ้นและแค่ชวนคนมาบริจาค คนที่เป็นฮีโร่คือคนที่บริจาคและคนที่ช่วยคนอื่นคือบุคลากรทางการแพทย์ เบ้าที่หล่อหลอมพี่ตูนมานี่สวยงามและสตรองมาก ยิ่งได้เห็นภาพที่พ่อแม่พี่ตูนมาคอยดูแลให้กำลังใจความรักนี่ช่างชนะทุกสิ่งจริงๆ เคยเห็นแฟนคลับพี่ตูนไปตบตีกับคนที่คอมเม้นด่า แกเอ๊ย...ไม่ต้องไปปกป้องเลยพี่ตูนของเราโคตรจะแข็งแกร่ง ถ้าท่านชัชชาติคือรัฐมนตรีที่แข็งแกร่งที่สุด พี่ตูนก็คือนักร้องน่องเหล็กที่แข็งแกร่งที่สุด ถ้าพี่ตูนมาอ่านเจอคนคอมเม้นด่าแกก็คงไถจอผ่านไปไม่ได้สนใจหรอก แฟนคลับอย่างเราเองที่ใจอ่อนแอทนไม่ได้ที่เค้ามาด่าพี่ตูน ต่อไปเราจะแข็งแกร่งกว่านี้
พ่อและแม่ของพี่ตูน
คนข้างๆ ที่เป็นทั้งความรักและกำลังใจให้กับผู้ชายคนนี้ “ก้อย รัชวิน”
ความสะเทือนใจในชีวิตจริงยิ่งกว่าหนัง
เนื้อหาว่าสะเทือนใจแต่ชีวิตจริงสะเทือนใจกว่า เราคิดเองเออเองว่าจะต้องมีคนมาดูเยอะ กว่าจะต่อคิวได้ตั๋วคงจะรอนาน ที่นั่งในโรงหนังคงจะเต็มอย่างแน่นอน คิดแผนสำรองไว้แล้วว่าถ้าคนเยอะมาก ก็จะซื้อตั๋วเองรอบถัดไปแทน (คือไม่ดูรอบฟรี) ที่ไหนได้ ตอนเราไปถึงแทบไม่มีคนนั่งรอหน้าโรงหนังเลย ไม่มีโต๊ะหรือเอเรียที่บ่งบอกว่าจะมีที่รับตั๋วจนเวลาผ่านไป 17.01 น. โต๊ะมาตั้งเรียบร้อย เราเลยเดินไปถามว่ารับบัตรได้รึยัง ไปกัน 2คน เลยได้ที่นั่งโซฟาตัวแรก
เวลายังเหลือคิดว่าเดี๋ยวคนคงมากันเราเลยลงมากินข้าวก่อน กินเสร็จขึ้นมาโต๊ะยังตั้งอยู่ เกือบเวลาฉายเราเดินไปซื้อป๊อปคอร์นกับน้ำก่อนเข้าโรง
โอ้วโล่งจังเดี๋ยวคงมีคนมา ตัวอย่างหนังจบ โฆษณาจบ เพลงสรรเสริญพระบารมีจบ หนังฉายนับคนดูในโรงทั้งหมดได้ 9 คนถ้วน
เราก็ตั้งหน้าตั้งตาดูไปจนเกือบจะชั่วโมง คน 5 คน แถว A ก็ลุกออกไป เป็นเด็กวัยประถาม 3 คนและผู้ใหญ่อีก 2 คน
น้ำตาจะไหลยิ่งกว่าพี่ตูนถูกเข็มแทง เอาจริงๆหนังเรื่องนี้อาจไม่เหมาะกับเด็กก็ได้ เด็กๆอาจจะชอบพี่อูน
อาจจะทนยืนรอตากแดดร้อนข้างถนนเพื่อเฝ้ารอคอยพี่ตูนวิ่งผ่าน แตไม่ได้หมายความว่าเด็กจะชอบหรืออยากดู 2,215
แอบเสียดายและเสียใจแทนคิงเพาเวอร์ที่อุตส่าห์เหมาตั๋วเกือบล้านใบให้ดูฟรีแต่ไม่ค่อยได้รับความสนใจ
แต่เราเชื่อนะว่ารอบไหนหรือที่ไหนที่พี่ตูนไปดูคนคงไปดูกันจนล้น เราชอบแนวคิดที่ผู้บริหารคิงเพาเวอร์ให้สัมภาษณ์ถึงที่มาในการเหมาตั๋วแจกครั้งนี้ว่า
“เหตุผลที่ คิงเพาเวอร์ เข้ามาสนับสนุนโครงการดังกล่าว ในรูปแบบนี้ ก็เพราะเชื่อว่า เรื่องราวของ ตูน-อาทิวราห์ คงมาลัย สามารถสร้างแรงบันดาลให้กับคนไทยทั้งประเทศได้ โดยเฉพาะหลายพื้นที่ๆ ตูน วิ่งผ่าน แต่อาจจะไม่ได้มีกำลังทรัพย์มากพอที่จะเข้าชมภาพยนตร์ แต่สิ่งที่สำคัญยิ่งกว่าคือการรับรู้ความตั้งใจดีของคนๆ หนึ่ง ที่พร้อมจะทำเรื่องที่ยิ่งใหญ่ เพื่อเปลี่ยนแปลงสังคมไปในแนวทางที่ดีขึ้น โดยอาศัยพลังใจ พลังกายของเขา แล้วทุ่มสุดตัว ซึ่งเพียงเท่านี้ก็ช่วยให้ประเทศชาติดีขึ้นได้ ขณะเดียวกันสำหรับคนที่มีกำลังทรัพย์ในระดับหนึ่ง เมื่อรับชมฟรีกันแล้ว ก็จะนำเงินในส่วนที่ต้องจ่ายค่าตั๋วภาพยนตร์ไปบริจาคให้กับคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดลแทนได้ร่วมสนับสนุนการฉายภาพยนตร์ “2,215 เชื่อ บ้า กล้า ก้าว” จำนวน 720,000 ที่นั่งให้ชาวไทยทั่วทั้งประเทศได้เข้าชมฟรี และผมหวังว่า เมื่อทุกท่านได้ชมภาพยนตร์เรื่องนี้แล้ว จะได้รับแรงบันดาลใจในการส่งต่อความดีไปสู่คนรอบข้างและสังคมต่อไป และอยากเชิญชวนให้ทุกท่านที่มาร่วมชมภาพยนตร์ช่วยกันบริจาคเพื่อแสดงพลังของคนไทยเพื่อคนไทยกันอีกครั้งครับ”
เครดิตภาพ
https://www.facebook.com/kaokonlakao/?_rdc=1&_rdr
เครดิตบทสัมภาษณ์
https://www.brandbuffet.in.th/2018/08/2215-kms-toons-movie-for-charity-supported-by-kingpower/
สำหรับผู้ชมและผู้มีจิตศรัทธาสามารถร่วมบริจาคได้ 6 ช่องทาง ดังนี้
1) บัญชีรับบริจาค ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) สาขาศิริราช เลขที่บัญชี 016-3-04556-7 ประเภทบัญชีกระแสรายวัน ชื่อบัญชี เพื่อการรักษาพยาบาลผู้ป่วยอาคารนวมินทรบพิตร 84 พรรษา โรงพยาบาลศิริราช
2) SMS บริจาคครั้งละ 10 บาท โดยพิมพ์ T แล้วกดส่งมาที่ 4545099 (เริ่มบริจาคทาง SMS ได้ตั้งแต่ 1 ก.ย. 61)
3) สแกน QR Code ผ่าน Mobile Banking เพื่อการบริจาค
4) SCB EASY APP สามารถบริจาคผ่านปุ่ม “บริจาค” ใน SCB EASY APP และเลือก โครงการ “ก้าวคนละก้าว” เพื่อโรงพยาบาลศิริราช (เริ่มบริจาคได้ตั้งแต่ 11 ส.ค. 61)
5) กล่องรับบริจาค ตรงเคาน์เตอร์หน้าโรงภาพยนตร์
6) บริจาคผ่านช่องทาง True Money Wallet
(SR) รีวิวครั้งแรกที่ไม่ได้ใช้เงินตัวเอง กับ2,215 เชื่อบ้า กล้า ก้าว สะเทือนใจตั้งแต่ก้าวแรกที่เข้าโรงหนังยันหนังจบ
เราไม่แน่ใจว่าเราจะให้นิยามกับเรื่องนี้ว่าคือหนัง สารคดี หรือเป็นเก็บตกเบื้องหลังโครงการก้าวจากเบตงถึงแม่สายดี? มันไม่ได้เป็นมีบทมีฉากแบบหนัง มันไม่ได้ให้ความรู้หรืออิงเนื้อหาแบบสารคดี และมันมีอะไรมากกว่าภาพเก็บตกเหตุการณ์ มันมีความยูนีคและมันมีความเป็นตัวของตัวเองสูงเหมือนที่พี่ตูนเป็น
ชื่อ 2,215 เชื่อ บ้า กล้า ก้าว นี้มีที่มา
จากชื่อหลายคนอาจจะทราบว่าทำไมถึงชื่อว่า 2,215 เลขนี้คือระยะจริงที่รถการ์มิน (ชื่ออุปกรณ์วัดระยะทาง) จับได้จริง ซึ่งมากกว่าที่วางไว้ตอนแรกว่าจะวิ่งจากเบตงถึงแม่สายระยะทาง 2,191 กิโลเมตร ซึ่งระยะที่เพิ่มขึ้นเกิดจากการที่พี่ตูนวิ่งเข้าไปตามหน่วยงานหรือสถานที่ต่างๆ นอกเหนือจากที่วางไว้ในตอนแรกเริ่มวิ่ง ส่วนเชื่อ บ้า กล้า ก้าว เราว่าสี่คำนี้เป็นนิยามหรือบอกความเป็น อาทิวราห์ คงมาลัยได้ดีนะ (ช่วงที่มีข่าวหมูป่าอะคาเดมี มีคนแชร์ว่าอาทิวราห์แปลว่าหมูป่า อาทิวราห์เป็นชื่อปางค์หนึ่งของพระศิวะที่ทรงหมูป่า) ตอนแรกเราสงสัยนะ ว่าทำไมต้องตั้งชื่ออะไรแบบนี้มันเหมือนอารมณ์ตั้งชื่อหนังจีน วิ่ง สู้ฟัด อะไรแบบนั้น พอมาดูถึงได้ อ๋ออออออออออออออออ... เค้าเอามาจากเนื้อหานี่แหล่ะ
“เชื่อ” มาจากความเชื่อของพี่ตูนที่ว่า พี่ตูนจะสามารถวิ่งระยะมาราธอนได้ทุกวัน ติดต่อกันจำนวน 55 วัน ทั้งๆที่ระยะวิ่งที่พี่ตูนซ้อมประจำคือประมาณ 20 กิโลเมตรเท่านั้น
“บ้า” ความบ้าของพี่ตูน มันมาจากหลายครั้งที่ร่างกายมันประท้วงว่ามันเกินขีดจำกัดแล้วนะเว้ย หยุดเหอะ! ไม่ ไม่หยุดเพราะมันมีความเชื่อเป็นที่ตั้งว่าจะทำได้ ทำให้ไม่ยอมหยุด ก็บ้าวิ่งต่อ แค่ขอรีบูตแป๊บนึง รีเฟรชร่างกายและจิตใจใหม่แป๊บนึง เดี๋ยวก็กลับไปทำต่อ ซึ่งถ้าเป็นคนทั่วไปก็คงยอมหยุดแล้ว
“กล้า” พี่ตูนกล้าว่ะ กล้าออกมาทำอะไรแบบนี้ พี่แมร่งโคตรกล้าเลย กล้าที่จะทำ และกล้าที่จะลงมือทำ กล้าที่จะเสี่ยง เผื่อใครไม่รู้ว่าการทำอะไรแบบนี้ Worst case นี่คือเสียชีวิตเลยนะ มีครั้งนึงที่พี่ตูนแมร่งก้าวไปยืนยังปากเหวมาแล้วนั่นคือวันที่พี่ตูนวิ่งเข้ากทม. ช่วงนั้นเป็นช่วงที่เร่งสปีด เป็นช่วงที่ถ้าเราจำไม่ผิดคือมีการเริ่มเซต 1 โคตรเช้านั่นคือประมาณตี 2 เพราะจำได้ว่าตื่นมาตี 5 เริ่มเซต 2 แล้ว พี่ตูนอยากให้ทันตามกำหนดมันเลยมีการปรับตารางใหม่ ถ้าคนที่เคยดูไลฟ์น่าจะพอจำได้ว่าพอวิ่งถึงกทม.แล้วพี่ตูนพักที่โรงแรมคิงพาวเวอร์รางน้ำ 2 คืน เราก็คิดว่าเค้าพักทำภารกิจกับพวกสปอนเซอร์ในกทม. เพิ่งมารู้นี่แหล่ะว่า คืนนั้นเจาะเลือดแล้วอีกนิดเดียวจะเกิดภาวะไตวายแล้ว
“ก้าว” พี่ตูนก้าวออกมาข้างหน้าเพื่อนำความคิดของเค้ามาบอกต่อ เค้าก้าวออกมาโดยเค้าไม่ได้คิดว่ามันไม่ใช่หน้าที่เค้า เค้าก้าวออกมาด้วยความคิดที่ว่าเคาคิดว่าเค้าพอที่จะช่วยเหลืออะไรตรงไหนบ้าง เค้าลงมือทำทันทีโดยไม่ได้มีความลังเลใจเลยแม้แต่น้อย
จุดกำเนิดของโครงการก้าว จากเบตง-แม่สาย
ใครจะไปรู้ว่าจุดกำเนิดแรกเริ่มของโครงการวิ่งนี้มาจาก”สื่อ” หลังจากจบโครงการวิ่งเพื่อโรงพยาบาลบางสะพานไปแล้ว มีการเผยผลการดำเนินงานของโรงพยาบาลต่างๆ ในประเทศว่าขาดทุนและขาดแคลนเงินในการซื้ออุปกรณ์การแพทย์ ลำพังแค่ลงเฉยๆมันก็เป็นข่าวปกติทั่วไป แต่มันไม่ปกติตรงที่ดันผ่าจั่วหัวว่า “พี่ตูนช่วยด้วย” แล้วพี่ตูนนั้นพอได้ทราบก็ไม่ได้นิ่งดูดาย เริ่มวางแผนทำโครงการนี้ทันที
เกี่ยวกับเนื้อหา
มันไม่ใช่เรื่องราวใหม่แต่เป็นเรื่องราวเดิมๆที่เคยเห็นในไลฟ์สดนั่นแหล่ะ แต่เป็นมุมมองใหม่เหมือนหนังฝรั่งที่มันซับซ้อนที่เป็นการมองเห็นภาพสายตาจากคนต่างๆ กันในเหตุการณ์เดียวกัน อยากให้ทุกคนคิดเสมอว่าเหรียญมี 2 ด้าน คนเราก็เหมือนกัน มันไม่ได้มีด้านเดียวที่เรามองเห็นว่ามันดี มันสวยงาม มันมีอีกด้านที่ตรงกันข้าม เราเลือกที่จะเก็บหรือแสดงออก เนื้อหามันไม่เชิงเป็นหนังสร้างแรงบันดาลใจซะทีเดียว พี่ตูนพูดประมาณว่าเค้าแค่เลือกทำตามความชอบหรือความฝัน เค้าคงไม่สามารถไปให้กำลังใจหรือสร้างแรงบันดาลใจให้ใครได้เพราะเค้าเองก็ต้องใช้ แต่ถ้าเค้าทำตามความชอบความฝันสำเร็จแล้วมันจะส่งต่อหรือไปสร้างแรงบันดาลใจให้ใครต่อไปเค้าก็ดีใจ มันไม่ใช่หนังแบบ Forest Gump ที่แบบสอดแทรกแนวคิดเนื้อหา หรือปรัชญาอะไรไว้ เนื้อหามันเหมาะกับคนกำลังหมดใจ หมดไฟ ขาดกำลังใจ ใครที่คิดว่าตัวเองกำลังแย่ กำลังจมอยู่ในวังวนความคิดของตัวเอง ไปดูซะ ออกจากโรงหนังมาเหมือนได้เติมของอัพสกิลเลย ทั้งมีด โล่ หอก ดาบ ธนู เกราะ อาวุธครบ พร้อมสู้ในการดำเนินชีวิตต่อเลย
ไก่-กบ 2 พลังบวก
บอกตามตรงว่า ปกติไม่ชอบดูหนังสารคดีแนวนี้เลย ที่ดูนี่เพราะพี่ตูนล้วนๆ พอลองได้ดู เห้ย...เจ๋งว่ะ การเล่าเรื่องจากภาพและเพลง การลำดับเหตุการณ์ต่างๆ มันดูน่าสนใจ และบวกกับสิ่งที่พี่กบพูด (พี่กบมือกลองบิ๊กแอส คนแต่งเพลงให้พี่ตูน) มันไม่ใช่บทพูด มันเป็นบอกเล่าเรื่องราวที่มาที่ไปของเหตุการณ์ต่างๆ เข้าใจแล้วว่าทำไมเพลงของบอดี้สแลมถึงสวยงามและมีเนื้อหาตรงมาตรงไปเข้าใจง่ายและชัดเจน ภาพที่ผกก.ถ่ายทอดให้เราเห็นมันอิมแพคกระแทกใจจริงๆ ฟุตเทจ 2,000 กว่าชั่วโมง ตัดเหลือชม.กว่าได้น่าสนใจมากตอนจบเรารู้สึกว่ายาวกว่านี้อีกก็ได้นะเราอยากดูต่อ ถ้าต่อไปมีหนังจากผู้กำกับคนนี้อีกเราดูแน่นอน
ก่อนสรุป
มีคนให้นิยามว่าพี่ตูนนั้นเป็นฮีโร่ พี่ตูนจะถ่อมตัวและบอกเสมอว่าตัวเองนั้นไม่ใช่ฮีโร่ เพราะเค้าไม่ใช่คนที่ช่วยคนอื่น เค้ามีหน้าที่คือเล่าเรื่องราวว่ามันเกิดอะไรขึ้นและแค่ชวนคนมาบริจาค คนที่เป็นฮีโร่คือคนที่บริจาคและคนที่ช่วยคนอื่นคือบุคลากรทางการแพทย์ เบ้าที่หล่อหลอมพี่ตูนมานี่สวยงามและสตรองมาก ยิ่งได้เห็นภาพที่พ่อแม่พี่ตูนมาคอยดูแลให้กำลังใจความรักนี่ช่างชนะทุกสิ่งจริงๆ เคยเห็นแฟนคลับพี่ตูนไปตบตีกับคนที่คอมเม้นด่า แกเอ๊ย...ไม่ต้องไปปกป้องเลยพี่ตูนของเราโคตรจะแข็งแกร่ง ถ้าท่านชัชชาติคือรัฐมนตรีที่แข็งแกร่งที่สุด พี่ตูนก็คือนักร้องน่องเหล็กที่แข็งแกร่งที่สุด ถ้าพี่ตูนมาอ่านเจอคนคอมเม้นด่าแกก็คงไถจอผ่านไปไม่ได้สนใจหรอก แฟนคลับอย่างเราเองที่ใจอ่อนแอทนไม่ได้ที่เค้ามาด่าพี่ตูน ต่อไปเราจะแข็งแกร่งกว่านี้
ความสะเทือนใจในชีวิตจริงยิ่งกว่าหนัง
เนื้อหาว่าสะเทือนใจแต่ชีวิตจริงสะเทือนใจกว่า เราคิดเองเออเองว่าจะต้องมีคนมาดูเยอะ กว่าจะต่อคิวได้ตั๋วคงจะรอนาน ที่นั่งในโรงหนังคงจะเต็มอย่างแน่นอน คิดแผนสำรองไว้แล้วว่าถ้าคนเยอะมาก ก็จะซื้อตั๋วเองรอบถัดไปแทน (คือไม่ดูรอบฟรี) ที่ไหนได้ ตอนเราไปถึงแทบไม่มีคนนั่งรอหน้าโรงหนังเลย ไม่มีโต๊ะหรือเอเรียที่บ่งบอกว่าจะมีที่รับตั๋วจนเวลาผ่านไป 17.01 น. โต๊ะมาตั้งเรียบร้อย เราเลยเดินไปถามว่ารับบัตรได้รึยัง ไปกัน 2คน เลยได้ที่นั่งโซฟาตัวแรก
เวลายังเหลือคิดว่าเดี๋ยวคนคงมากันเราเลยลงมากินข้าวก่อน กินเสร็จขึ้นมาโต๊ะยังตั้งอยู่ เกือบเวลาฉายเราเดินไปซื้อป๊อปคอร์นกับน้ำก่อนเข้าโรง
โอ้วโล่งจังเดี๋ยวคงมีคนมา ตัวอย่างหนังจบ โฆษณาจบ เพลงสรรเสริญพระบารมีจบ หนังฉายนับคนดูในโรงทั้งหมดได้ 9 คนถ้วน
เราก็ตั้งหน้าตั้งตาดูไปจนเกือบจะชั่วโมง คน 5 คน แถว A ก็ลุกออกไป เป็นเด็กวัยประถาม 3 คนและผู้ใหญ่อีก 2 คน
น้ำตาจะไหลยิ่งกว่าพี่ตูนถูกเข็มแทง เอาจริงๆหนังเรื่องนี้อาจไม่เหมาะกับเด็กก็ได้ เด็กๆอาจจะชอบพี่อูน
อาจจะทนยืนรอตากแดดร้อนข้างถนนเพื่อเฝ้ารอคอยพี่ตูนวิ่งผ่าน แตไม่ได้หมายความว่าเด็กจะชอบหรืออยากดู 2,215
แอบเสียดายและเสียใจแทนคิงเพาเวอร์ที่อุตส่าห์เหมาตั๋วเกือบล้านใบให้ดูฟรีแต่ไม่ค่อยได้รับความสนใจ
แต่เราเชื่อนะว่ารอบไหนหรือที่ไหนที่พี่ตูนไปดูคนคงไปดูกันจนล้น เราชอบแนวคิดที่ผู้บริหารคิงเพาเวอร์ให้สัมภาษณ์ถึงที่มาในการเหมาตั๋วแจกครั้งนี้ว่า
“เหตุผลที่ คิงเพาเวอร์ เข้ามาสนับสนุนโครงการดังกล่าว ในรูปแบบนี้ ก็เพราะเชื่อว่า เรื่องราวของ ตูน-อาทิวราห์ คงมาลัย สามารถสร้างแรงบันดาลให้กับคนไทยทั้งประเทศได้ โดยเฉพาะหลายพื้นที่ๆ ตูน วิ่งผ่าน แต่อาจจะไม่ได้มีกำลังทรัพย์มากพอที่จะเข้าชมภาพยนตร์ แต่สิ่งที่สำคัญยิ่งกว่าคือการรับรู้ความตั้งใจดีของคนๆ หนึ่ง ที่พร้อมจะทำเรื่องที่ยิ่งใหญ่ เพื่อเปลี่ยนแปลงสังคมไปในแนวทางที่ดีขึ้น โดยอาศัยพลังใจ พลังกายของเขา แล้วทุ่มสุดตัว ซึ่งเพียงเท่านี้ก็ช่วยให้ประเทศชาติดีขึ้นได้ ขณะเดียวกันสำหรับคนที่มีกำลังทรัพย์ในระดับหนึ่ง เมื่อรับชมฟรีกันแล้ว ก็จะนำเงินในส่วนที่ต้องจ่ายค่าตั๋วภาพยนตร์ไปบริจาคให้กับคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดลแทนได้ร่วมสนับสนุนการฉายภาพยนตร์ “2,215 เชื่อ บ้า กล้า ก้าว” จำนวน 720,000 ที่นั่งให้ชาวไทยทั่วทั้งประเทศได้เข้าชมฟรี และผมหวังว่า เมื่อทุกท่านได้ชมภาพยนตร์เรื่องนี้แล้ว จะได้รับแรงบันดาลใจในการส่งต่อความดีไปสู่คนรอบข้างและสังคมต่อไป และอยากเชิญชวนให้ทุกท่านที่มาร่วมชมภาพยนตร์ช่วยกันบริจาคเพื่อแสดงพลังของคนไทยเพื่อคนไทยกันอีกครั้งครับ”
เครดิตบทสัมภาษณ์ https://www.brandbuffet.in.th/2018/08/2215-kms-toons-movie-for-charity-supported-by-kingpower/
สำหรับผู้ชมและผู้มีจิตศรัทธาสามารถร่วมบริจาคได้ 6 ช่องทาง ดังนี้
1) บัญชีรับบริจาค ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) สาขาศิริราช เลขที่บัญชี 016-3-04556-7 ประเภทบัญชีกระแสรายวัน ชื่อบัญชี เพื่อการรักษาพยาบาลผู้ป่วยอาคารนวมินทรบพิตร 84 พรรษา โรงพยาบาลศิริราช
2) SMS บริจาคครั้งละ 10 บาท โดยพิมพ์ T แล้วกดส่งมาที่ 4545099 (เริ่มบริจาคทาง SMS ได้ตั้งแต่ 1 ก.ย. 61)
3) สแกน QR Code ผ่าน Mobile Banking เพื่อการบริจาค
5) กล่องรับบริจาค ตรงเคาน์เตอร์หน้าโรงภาพยนตร์
6) บริจาคผ่านช่องทาง True Money Wallet