การฝึกงานครั้งแรกของฉัน

มีเรื่องอยากจะระบายค่ะ

อย่างแรกเลยคือเรากำลังเรียนปีสามอยู่ เราคิดมาตลอดว่าถ้าถึงปีสี่ที่เราต้องออกฝึกงานตอนปีสี่เราจะเป็นยังไง เราเลยอยากทดลองลงสนามจริงดูบ้างเสริช์เข้าไปหางานพาร์ทไทม์ในเว็บไซต์หางาน เราเลือกที่ไม่ใกล้บ้านเท่าไหร่และตรงกับเอกที่เราเรียนอยู่โชคดีมากเราเจอที่นึงซึ่งตรงกับความต้องการของเราเป็นอย่างมาก เรากรอกประวัติส่วนตัวอะไรลงไปและส่งไปที่บริษัทนั้นเขาโทรกลับมาหาเราภายในเย็นวันนั้นเราเลยเบาใจลงบ้างว่าที่นี่ต้องขาดพนักงานหลายอัตราแน่นอนฝั่งนั้นก็นัดวันทดสอบ ส่งเอกสารหยิบย่อย สัมภาษณ์ทีเดียววันนั้นเลยเราก็ดีใจจะได้ลองทำไรด้วยตัวเองเป็นครั้งแรกก็เลยเล่าให้แม่ฟัง แม่ก็พาไปตามวันที่เขาเรียกเราตื่นเต้นมากกกกกกก มือเย็นปากสั่นไปหมดเพราะไม่เคยทำอะไรแบบนี้จริงจังมาก่อน [code]ขอบอกรายละเอียดแค่ที่บอกนะคะว่าที่เราฝึกงานมันเป็นคล้ายๆโรงเรียนสอนพิเศษมีหลายวิชา และไม่ขอตอบนะคะว่าเราเรียนเอกอะไรและตั้งใจลงสอนวิชาไหนบอกได้แค่ว่าวิชานี้ค่อนข้างต้องใช้ความเข้าใจและถนัดหลายทักษะสูงเราได้สอบสัมภาษณ์สองทักษะซึ่งด้านหนึ่งเราข้างทำได้ดีเพราะเราชอบและถนัดอยู่แล้วแต่อีกด้านเราต้องเทรนกับครูประจำตัวเพิ่มพวกเขาก็ปลอบใจเราว่าได้สิ ไม่ต้องกลัวค่ะผ่านอยู่แล้ว ในใจตอนนั้นเรามั่นใจเลยว่าผ่านสัมภาษณ์แน่นอน.....แล้วก็เป็นไปตามนั้นค่ะ[/code]
หลังจากวันนั้นเจ้าของโรงเรียนก็นัดวันที่เราไม่เรียนรวมทั้งเสาร์อาทิตย์เราก็ต้องสะละเวลาตรงนั้นที่สามารถทำอะไรได้หลายๆอย่างทั้งทำการบ้านกองเป็นภูเขา(ปีสามแล้วอะเนอะร้องไห้) อ่านหนังสือเตรียมทำควิซแต่ละวิชา มาทุ่มให้กับการฝึกงานครั้งนี้(ที่มันเสียเวลาและความรู้สึกมากๆ)

พอเริ่มวันแรกก็งานเข้าซะละ กองแบบทดสอบกองพะเนินบนโต๊ะเรา เราทำตั้งแต่เช้ายันเย็นแบบนี้ไปเรื่อยๆจนวันหนึ่งคำที่อาจารย์ที่ปรึกษาเคยสอนเราไว้มันแล่นเข้าหูเราในวินาทีนั้น "สังคมการทำงานเธอจะได้เจอคนหลายประเภทที่หนักกว่าเพื่อนมหาลัยมากทางเดียวที่ทำได้คือตั้งใจทำงานไม่ต้องสนใจเสียงนินทา งัดด้านดีๆออกมาให้คนอื่นได้ประจักษ์ว่าเธอเน้นทำไม่เน้นพูด"

ในใจก็ทั้งอยากจะร้องไห้แต่อีกใจก็ไม่อยากถอยเพราะนี่คือก้าวแรกของเราในชีวิตการทำงานถึงแม้จะไม่ใช่งานประจำก็ตาม เพราะอะไรทราบมั้ยคะ.....เราจะบอกให้ก็ได้ค่ะ เราฝึกงานได้ประมาณ2-3อาทิตย์และเราเพิ่งโดนปฏิเสธการเป็นพนักงานจริงเมื่อไม่กี่ชั่วโมงนี้เองค่ะหน้าชามาก

สิ่งที่เราเจอมา2-3อาทิตย์ที่ผ่านมาคือ

-มันมีวันนึงที่พนักงานคนหนึ่งตั้งใจจะเลี้ยงอาหารชุดใหญ่ให้กับทุกคน เรารู้ได้ตั้งแต่วินาทีแรกที่ก้าวเข้ามาในโรงเรียนนี้ว่ามีคนไม่ชอบขี้หน้าเราอย่างแรงเซ้นส์เรามันบอกอย่างนั้นแต่เราไม่รู้ว่าใครที่ไม่ชอบเรา[code]พีคจริงๆในตอนนั้นคือทุกคนพร้อมใจกันตักอาหารเม้าท์มอยกันตามประสาครูผู้หญิงไอ้เราก็เก้งๆกังๆเพราะเป็นเด็กฝึกงานไม่กล้าตักบ้างจนครูที่เป็นเจ้าของโรงเรียนอึกๆอักๆอะไรซักอย่างก็ชวนเราตักอาหารไปกิน เราก็ตักตามมารยาทและวันนั้นเขาอนุญาตให้ไปนั่งกินตรงห้องสำหรับผู้ปกครองรอลูกระหว่างการเรียน ซึ่งมีครูสองคนเดินไปนั่งทานกันอยู่ก่อนแล้วพวกเธอคุยกันสัพเพเหระหัวเราะคิกคักพอเรานั่งลงบ้างเพราะคิดว่าจะมีครูคนอื่นมาสมทบเปล่าเลย มีเรากับพวกเขานั่งอยู่แค่นั้น พอเรานั่งปุ๊บพวกเธอเงียบทันทีในใจเราแบบ เอาแล้วโดนแล้วไง เราเลยแก้สถานการณ์ด้วยการทำเป็นไปหยิบของอย่างอื่นมาบ้างปรากฏว่าผลลัพธ์ตรงกันข้ามหนึ่งในสองคนนั้นที่เป็นเจ้ามือเลี้ยงอาหารชุดใหญ่มื้อนี้ที่นั่งอยู่พูดกับครูอีกคนที่รุ่นไล่เลี่ยกับเราดังๆว่า 'ครู.....ไปนั่งข้างในกันยังเหลือที่นั่นอีกสองที่พอดีเราสองคนเลย' OMG ถ้าคนไม่คิดอะไรก็คงปล่อยผ่าน แต่นี่เธอบังเอิญเน้นย้ำประโยคสุดท้ายสองครั้งแถมพูดดัง เราก็ไม่รู้หรอกนะครูแกไม่ชอบอะไรเราทั้งๆที่เรากับครูคนนั้นอายุห่างกันมาก[/code]
-ตลอดการฝึกงานไม่มีใครบอกเราเลยว่าเวลาไหนคือเวลาพักกลางวันเวลาไหนต้องเข้างาน เราต้องสังเกตครูคนอื่นๆว่าถ้าไปรวมตัวที่ห้องครัวแปลว่าถึงเวลาพักไปก็ฟังเสียงนาฬิกาเตือนเอา เราเริ่มรู้สึกแปลกๆกับเรื่องเล็กน้อย

-นานวันเข้ามันเริ่มไม่ปกติแล้วใช้เราไปทำนั่นนี่แต่ไม่เคยแนะนำชื่อคนอื่นๆให้เรารู้จัก แถมมาขำเราที่เราไม่รู้ชื่อคนอื่น(ปล. ที่เราไม่รู้ว่าใครเป็นใครไม่ใช่ไม่ใส่ใจนะทุกคนเวลางานยุ่งมากพิมพ์เอกสารเตรียมสอนตลอดไม่ก็แอบนินทาคนนู้นทีคนนี้ทีเราเป็นเด็กใหม่ก็ไม่ใช่เรื่องที่จะขอร่วมวงสนทนา)

-ครูสองคนที่เทรนให้เรารับกันทุกครั้งที่เราจะกลับว่าได้งานแน่ๆเตรียมตัวไว้เลยเราเป็นคนเรียนรู้งานไวแล้วอีกอย่างที่ได้เปรียบครูคนอื่นเพราะเราเรียนสายตรงมา

แล้วก็มีอีกหลายเรื่องที่เราเล่าไม่หมดมันเยอะจริงๆค่ะเรารู้สึกได้แค่ว่าเหมือนโรงเรียนนี้พอใจกับระบบองค์กรเดิมๆทำงานกับคนเดิมๆทั้งๆที่ควรจะปรับเปลี่ยนอะไรหลายๆอย่างให้เข้ากับการเรียนรู้ของเด็กดูบ้าง และเหมือนว่าพวกเขาอคติกับเราอาจจะเพราะว่ามอเราชื่อไม่ค่อยเป็นที่รู้จักผลการเรียนกลางๆหรือเราเป็นคนนิ่งๆไม่ชอบประจบประแจงแบบคนอื่นๆ(ปล. เราเคยยกมือไหว้คนหนึ่งเขาไม่รับไหว้เราแถมยังแกล้งเอาโต๊ะทำงานที่จะเป็นของเราเอาให้ครูคนอื่นทั้งบอกว่า 'จะนั่งไหนไม่รู้จะให้คนที่มาก่อนนั่งเราเลยไม่ยุ่งกับแกอีกเลย) หน้าชาจริงค่ะกับเหตุผลที่เราไม่ผ่านโปรเขาให้เหตุผลที่ฟังไม่ขึ้นมากๆ

งงที่สุดคือเขาเพิ่งให้เราเซ็นต์สัญญาครูพาร์ทไทม์ของที่นั่นไม่กี่วันไปและลงตารางให้เราว่าลงวันไหนบ้างกี่ชั่วโมง แต่ไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมาของวันนี้กลับมาบอกว่าเราไม่ผ่านโปรนะอย่างนั้นอย่างนี้ทั้งๆที่เขาบอกกับเราเองว่าเราเป็นคนแรกและคนเดียวที่ฝึกลงสอนจริงไวมากเพราะพัฒนาการเราดี ก็ขอให้สนุกกับการหาบุคลากรเพิ่มนะคะถ้าคุณยังไม่ยกเลิกระบบเอาแต่คนเก่าคนแก่เน้นยุ่งเรื่องชาวบ้านมากกว่าให้ความรู้เด็กคงจะพัฒนาไม่ใช่น้อย
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่