สิ่งที่คนเคยพยายามฆ่าตัวตายอยากบอก ในวันป้องกันการฆ่าตัวตายโลก 2018

0.
สวัสดีค่ะ
นี่เป็นกระทู้ที่สามของเรา AmilyKatze ค่ะ
เป็นการแชร์ประสบการณ์ เรื่องการฆ่าตัวตายของตัวเองตั้งแต่อายุ 16 จนถึงปัจจุบันว่าเรารู้สึกอย่างไรบ้าง
และจริงๆแล้วต้องการอะไรกันแน่จากการกระทำนั้น ๆ ?

สาเหตุที่เขียนวันนี้ก็เพราะว่าวันที่ 10 กันยายนของทุกปี ถือเป็น World Suicide Prevention Day
หรือเรียกชื่อไทยว่า "วันป้องกันการฆ่าตัวตายโลก" ค่ะ
และในสัปดาห์นั้น ๆ ก็จะเป็นสัปดาห์รณรงค์ป้องกันการฆ่าตัวตายด้วยนะคะ

อนึ่ง ภาพประกอบทั้งหมดเป็นภาพที่เราวาดเองตั้งแต่ปี 2015 ค่ะ
(พูดตรง ๆ ก็คือขี้เกียจวาดใหม่ค่ะ ฮาาาา)

อสอง เนื้อหาทั้งหมดเป็นเพียงความคิดเห็นส่วนบุคคล
อันมาจากประสบการณ์ตรงของตัวเจ้าของกระทู้เอง โปรดใช้วิจารณญาณและสติในการรับชมค่ะ


---------------------------------


1.
"ไม่มีการฆ่าตัวตายใดที่ไม่ทรมาน"


อันนี้มาจากตัวเราเองล้วน ๆ เลยค่ะ
จะกินน้ำยาล้างห้องน้ำ ก็อ่านเจอว่ามันทรมานแค่ไหนกว่าจะตาย
กรีดข้อมือแล้ว แค่เหมือนรอยแมวข่วนก็ทำต่อไปไม่ไหว
จะโดดลงน้ำก็กลัว
ลองเอาเชือกรัดคอตัวเองก็หายใจไม่ออก ลูกตาแทบจะหลุดออกจากเบ้า
ที่หนักที่สุดคือเคยกรอกยาแก้แพ้ ยาแก้เมารถ รวม ๆ กันหลายสิบเม็ด นึกว่าจะหลับยาว ๆ ไปเลย
แต่ก็ตื่นขึ้นมาแบบมึน ๆ ในอีกวันหนึ่ง

สรุป ทรมานตัวเองชะมัด ไม่ทำแล้วก็ได้...


---------------------------------

2.
"คนที่จะฆ่าตัวตาย ไม่ได้โง่ แล้วก็ไม่ได้บ้า"


เค้าคิดเยอะมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก แล้วนะ
แล้วสุดท้ายก็เลือกที่จบปัญหาโดยที่ทำให้คนอื่นเดือดร้อนน้อยที่สุดในความคิดของพวกเขา
ก็คือเลือกที่จะฆ่าตัวตายไง
เพราะว่าการฆ่าตัวตายนั้นเรียกได้ว่าเป็นการสิ้นสุดของทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำให้ไม่สบายใจของคน ๆ นั้น

แต่คนข้างหลังล่ะ...
คนที่ทำลงไปแล้ว คิดเผื่อไว้หมดแล้วล่ะว่าต้องการอะไรหลังจากนี้
(ซึ่งจริง ๆ แล้วเรื่องหลังความตายนี่ยุ่งยากพอสมควรเลยนะ ตั้งแต่งานศพยันเรื่องหยุมหยิม)


---------------------------------

3.
"ยิ่งยุให้ตายเท่าไหร่ โอกาสที่จะฆ่าตัวตายยิ่งมากขึ้นเท่านั้น
และถ้ามีใครสักคนรั้งเอาไว้ได้ทัน ความกล้าที่จะฆ่าตัวตายก็จะลดลง"


เราเคยอ่านข่าวนึงของต่างประเทศ
ที่เด็กสาวยืนบนตึก แล้วไลฟ์สดว่าจะฆ่าตัวตาย แต่แทนที่คนดูจะห้าม ไม่อะ...ยุให้ตาย ๆ ไปเลย
ผลก็คือนางทิ้งตัวลงมาเรียบร้อยโรงเรียนแมวค่ะ

เพราะฉะนั้น ถ้าเจอใครสักคนบอกว่าอยากตาย หรือจะฆ่าตัวตาย
หรือโพสต์รูป/คลิปที่มีแนวโน้มจะทำร้ายตัวเอง โปรดรั้งให้พวกเขามีชีวิตต่อไปเถอะนะ
เพราะบางทีก็ไม่ได้อยากตายจริง ๆ หรอก


---------------------------------


4.
"คนที่ประชดชีวิตด้วยการฆ่าตัวตาย แค่อยากให้ใครสักคนสนใจ
ส่วนคนที่จะฆ่าตัวตายจริง ๆ มักจะวางแผนไว้ล่วงหน้า และไม่สนใจอะไรอีกแล้ว ลาก่อน"



คือ เท่าที่เราพบเจอ
คนที่เรียกร้องความสนใจด้วยการฆ่าตัวตาย โอกาสที่จะทำสำเร็จนั้นต่ำ
และมักใช้ของใกล้ตัว ที่ไม่ค่อยทำให้ถึงตายสักเท่าไหร่
(เคยอ่านข่าวว่า มีคนฆ่าตัวตายประชดแฟนด้วยการเทแชมพูเข้าปาก ฟองฟอดเลย)

แต่พวกที่ต้องการทำจริง ๆ
มีการวางแผนแน่นอน จริงจัง และมักจะมีการเขียนข้อความสั่งเสียเอาไว้
หรือมีการบ่นให้คนใกล้ตัวได้ยินได้เห็นเป็นระยะ ๆ
ซึ่งโอกาสที่จะทำสำเร็จนั้นสูง เพราะพวกเขาต้องการที่จะลาโลกจริง ๆ


---------------------------------


5.
"ไม่เจอกับตัว ไม่เข้าใจเราหรอก"


เป็นประโยคบอกเล่าที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวดที่คนอื่นไม่เข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นกับเราเลย
ซึ่งจริง ๆ แล้ว ไม่มีใครหรอกที่จะเข้าใจเราได้ทุกเรื่อง
ขนาดเราเองยังเข้าใจคนอื่นได้ไม่หมดทุกเรื่องเลย แหม่
เพราะฉะนั้นเราลองเปลี่ยนดีกว่า เปลี่ยนจากพยายามเข้าใจมันทุกเรื่อง เป็นรับฟังซึ่งกันและกันจะดีกว่า
อ๋อ ฟังเฉย ๆ ก็พอนะ แล้วอย่าเผลอไปด่ากลับล่ะ


---------------------------------

6.
"บางทีเราก็แค่ป่วยทางใจนะ"

แต่ไม่ใช่ทุกคนที่ฆ่าตัวตายจะต้องเป็นโรคจิตเวช!!

เท่าที่สังเกต ช่วงสองสามปีหลังนี้มีข่าวเกี่ยวกับการฆ่าตัวตายออกมาเยอะมาก
ตั้งแต่วัยรุ่นยันวันชรา แล้วสิ่งหนึ่งที่เราเห็นก็คือ
การที่คนส่วนหนึ่งในสังคมกล่าวว่า "มันต้องเป็นโรคซึมเศร้าแน่ ๆ"

ทำความเข้าใจโรคซึมเศร้าได้ที่กระทู้ที่เราเคยเขียนค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

ภาวะอยากฆ่าตัวตายเกิดขึ้นได้กับทุกคน ไม่จำเพาะเจาะจงว่าแกต้องเป็นผู้ป่วยจิตเวชเท่านั้นนะ
และผู้ป่วยจิตเวชก็ไม่จำเป็นต้องเกิดภาวะนี้ทุกคน
สรุปก็คือ คนที่ฆ่าตัวตาย บางคน นั้นป่วยเป็นโรคจิตเวช
และผู้ป่วยจิตเวช ไม่ได้อยากฆ่าตัวตายกันทุกคน โอเคนะ


---------------------------------


7.
"ไม่ต้องมาแนะนำอะไรทั้งนั้น เพราะมันไม่ได้ช่วยให้เราดีขึ้นเลย"


อย่างที่บอกไปว่า ส่วนมากเราไม่ได้ต้องการคำแนะนำให้ทำนู่นนี่นั้นหรอก
แค่ต้องการคนที่คอยรับฟังอย่างเงียบ ๆ แค่นั้นแหละ
แต่เมื่อไม่มีคนฟัง...แล้วเราจะพูดไปทำไม >> นี่คือสิ่งที่คนเคยฆ่าตัวตายส่วนมากบอกกับเรา
จึงแสดงออกด้วยภาวะนี้เพื่อให้ทุกคนเห็นว่า ฉันยังมีตัวตนอยู่ยนโลกเน่า ๆ นี้นะ


---------------------------------


8.
"แค่อยากหลับให้พ้น ๆ " (แล้วทุกอย่างจบลง)


เอาจริง ๆ มันก็คือการแก้ปัญหาอย่างหนึ่ง
ด้วยการหลับไปตลอดกาล... และตัดขาดจากโลกนี้โดยสมบูรณ์

ซึ่งไม่ใช่วิธีการที่ดีเท่าไหร่นักหรอก
เพราะผลที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นมันเยอะแยะมากมาย
ทั้งกับตัวเอง (ถ้าไม่ตาย) และคนข้างหลังที่ต้องมาจัดการต่อ

คำพูดที่เจอกันบ่อย ๆ ก็คือ
"ถ้าหลับตาลง แล้วทุกอย่างลบหายไป ก็คงจะดีไม่น้อย"

ทุกอย่างในที่นี้หมายถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นในชีวิตของคน ๆ นั้น
ซึ่งทำให้พวกเขารู้สึกเหนื่อย อยากที่จะพักผ่อน และหาทางจบทุกอย่างให้เร็วที่สุดไงละ


---------------------------------


9.
สำหรับเรา
หลังจากที่ฆ่าตัวตายไม่สำเร็จเมื่อกลางปีที่แล้ว (2017)
ก็ทำให้เราเห็นหลายสิ่งอย่างจากเหตุการณ์นั้น

จริง ๆ แล้วเรายังมีคนที่แคร์เราอยู่มาก ๆ อยู่นะ
คนที่พร้อมจะรับฟังและกอดเราไว้
เรายังจำได้ว่าการกอดใครสักคนนั้นทำให้เรารู้สึกถึงการมีชีวิตอยู่มากขนาดไหน
ถึงขั้นสัญญากันเลยว่าจะไม่ทำแบบนั้นอีก
เพราะคนที่กอดเราไว้บอกว่า "เค้าเสียใจนะที่ช่วยอะไรเราไม่ได้เลย"

จากวันนั้นจนถึงตอนนี้ เราว่าเราเข้มแข็งขึ้นนะ
ไม่ได้เพื่อใครทั้งนั้น เพื่อตัวเองนี่แหละ...



---------------------------------------------------------------------------------------


กระทู้อื่น ๆ ของ AmilyKatze

"เพราะว่าฉันเป็น MDD ฉันจึง ERROR" - บันทึกผู้ป่วยโรคซึมเศร้าคนหนึ่ง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

มหากาพย์ในอายุ 25 : "เมื่อตกบันไดรถเมล์เพราะคนเห็นแก่ตัวจนกระดูกแตก"
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้


ขอจบแต่เพียงเท่านี้ก่อนนะคะ
เจอกันครั้งหน้าเมื่อไหร่ก็ไม่รู้นะคะ ยิ้ม
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่