ดิฉันเป็นหมอทำงานอยู่ รพ.ผ่านมาทั้งรัฐบาล รร.แพทย์ รพ.เอกชน จากประสบการณ์ทำงานมาเห็นสิทธิ์การรักษามาหลายอย่าง
สิทธิ์ข้าราชการนี่ดี แต่ปัจจุบันเริ่มมีการตัดลดหลายอย่าง ใช้บริการตาม รพ.รัฐบาล แต่รพ.บางแห่งมักแยกคิวหรือแยกเป็นคลินิคพิเศษออกมามีค่าใช้จ่ายเพิ่มบ้าง
สิทธิ์ประกันสังคม ต้องร่วมจ่าย แต่จะดีหรือไม่ดีพูดตรงๆเลยว่าอยู่ที่คุณหรือที่ทำงานของคุณเลือก รพ.ไหน ถ้าได้ รพ.ดีจะดีมาก คิวการรักษาเช่นผ่าตัดหรือเอกซเรย์สั้นกว่ารัฐบาลมาก ใครมีกำลังทรัพย์แนะนำให้ทำประกันร่วมด้วย ให้มีวงเงินตรวจผู้ป่วยนอกประมาณ 1,200บาทขึ้น ชีวิตจะดีขึ้นมาก มักมีปัญหาเวลาตั้งครรภ์เพราะต้องไปจ่ายทีหลัง และถ้าลูกมีปัญหาไม่คุ้มครองลูกเลย
ถ้าคุณท้องมีโรคแทรกซ้อน มีแนวโน้มลูกจะเจ็บป่วยหลังคลอด แนะนำไป รพ.รัฐบาลที่หมอเด็กเก่งๆ เพื่อครอบคลุมค่าใช้จ่ายลูกหลังคลอด
ประกันสุขภาพถ้วนหน้า มีย่อมดีกว่าไม่มี คิวยาวจริงแต่ก็ฟรี การรักษาบางอย่างจ่ายเองถึงขั้นล้มละลายก็ฟรีนะ ถ้าคุณเจ็บป่วยหนัก ต้องผ่าตัด อยู่ไอซียู รับยาเคมีบำบัด คุณจะเห็นค่าขึ้นมาทันที ถ้าเจ็บป่วยเล็กๆน้อยๆนี่...
แต่ปัญหาคือ คนที่ทำงานต่างถิ่นมักไม่สนใจ ไม่ย้ายสิทธิตามมาด้วย พอเจ็บป่วยอะไรขึ้นมา สิทธิอยู่ที่บ้านต่างจังหวัด ทีนี้ก็ลำบากละ
รัฐวิสาหะกิจ อันนี้ดีกว่าข้าราชการอีกนะ
เคยเจอสิทธิ์การบินไทยดีมากจริงๆ รพ.ไหนๆก็ใช้ได้
แต่ที่ดีกว่าดีสุดๆเท่าที่ตรวจคนไข้มาโดยไม่นับคนรวยจ่ายเองได้ทุกสิ่งอย่าง คือของ ปตท. ภรรยาฝากครรภ์คลอดบุตรตรวจNIFTY ยังเบิกได้
ส่วนแรงงานต่างด้าวนี่ถ้าซื้อประกันของรัฐบาลด้วยจะได้สิทธิเท่าคนไทยสามสิบบาทเลยค่ะ
ส่วนตามหัวข้อกระทู้คุณครูเอกชน เห็นว่าต้องร่วมจ่ายทุกเดือนแต่สิทธิเบิกได้แค่ปีละแสนบาท พูดตรงๆ คุณครูก็เงินเดือนน้อยอยู่แล้ว เบิกค่ารักษาถือว่าได้น้อยมากนะคะ
สมมติถ้าคุณครูไส้ติ่งแตกผ่าตัดรัฐบาลปีนั้นค่ารักษาก็เกือบหมดแล้วค่ะ ถ้าเป็นมะเร็งต้องผ่าตัดตามด้วยฉายแสงและยาเคมีบำบัด ไม่มีทางพอแน่ๆ หมดตั้งแต่ทำ CT และผ่าตัดแล้วล่ะ
อยากถามคุณครูเอกชนทั้งหลายว่าทำอย่างไรกันคะ หรือใครมีสิทธิการรักษาที่ย่ำแย่กว่านี้บ้างมั้ย
จากประสบการณ์การทำงานใน รพ. สิทธิการรักษาพยาบาลของครูเอกชนนี่แย่ที่สุดรึเปล่า
สิทธิ์ข้าราชการนี่ดี แต่ปัจจุบันเริ่มมีการตัดลดหลายอย่าง ใช้บริการตาม รพ.รัฐบาล แต่รพ.บางแห่งมักแยกคิวหรือแยกเป็นคลินิคพิเศษออกมามีค่าใช้จ่ายเพิ่มบ้าง
สิทธิ์ประกันสังคม ต้องร่วมจ่าย แต่จะดีหรือไม่ดีพูดตรงๆเลยว่าอยู่ที่คุณหรือที่ทำงานของคุณเลือก รพ.ไหน ถ้าได้ รพ.ดีจะดีมาก คิวการรักษาเช่นผ่าตัดหรือเอกซเรย์สั้นกว่ารัฐบาลมาก ใครมีกำลังทรัพย์แนะนำให้ทำประกันร่วมด้วย ให้มีวงเงินตรวจผู้ป่วยนอกประมาณ 1,200บาทขึ้น ชีวิตจะดีขึ้นมาก มักมีปัญหาเวลาตั้งครรภ์เพราะต้องไปจ่ายทีหลัง และถ้าลูกมีปัญหาไม่คุ้มครองลูกเลย
ถ้าคุณท้องมีโรคแทรกซ้อน มีแนวโน้มลูกจะเจ็บป่วยหลังคลอด แนะนำไป รพ.รัฐบาลที่หมอเด็กเก่งๆ เพื่อครอบคลุมค่าใช้จ่ายลูกหลังคลอด
ประกันสุขภาพถ้วนหน้า มีย่อมดีกว่าไม่มี คิวยาวจริงแต่ก็ฟรี การรักษาบางอย่างจ่ายเองถึงขั้นล้มละลายก็ฟรีนะ ถ้าคุณเจ็บป่วยหนัก ต้องผ่าตัด อยู่ไอซียู รับยาเคมีบำบัด คุณจะเห็นค่าขึ้นมาทันที ถ้าเจ็บป่วยเล็กๆน้อยๆนี่...
แต่ปัญหาคือ คนที่ทำงานต่างถิ่นมักไม่สนใจ ไม่ย้ายสิทธิตามมาด้วย พอเจ็บป่วยอะไรขึ้นมา สิทธิอยู่ที่บ้านต่างจังหวัด ทีนี้ก็ลำบากละ
รัฐวิสาหะกิจ อันนี้ดีกว่าข้าราชการอีกนะ
เคยเจอสิทธิ์การบินไทยดีมากจริงๆ รพ.ไหนๆก็ใช้ได้
แต่ที่ดีกว่าดีสุดๆเท่าที่ตรวจคนไข้มาโดยไม่นับคนรวยจ่ายเองได้ทุกสิ่งอย่าง คือของ ปตท. ภรรยาฝากครรภ์คลอดบุตรตรวจNIFTY ยังเบิกได้
ส่วนแรงงานต่างด้าวนี่ถ้าซื้อประกันของรัฐบาลด้วยจะได้สิทธิเท่าคนไทยสามสิบบาทเลยค่ะ
ส่วนตามหัวข้อกระทู้คุณครูเอกชน เห็นว่าต้องร่วมจ่ายทุกเดือนแต่สิทธิเบิกได้แค่ปีละแสนบาท พูดตรงๆ คุณครูก็เงินเดือนน้อยอยู่แล้ว เบิกค่ารักษาถือว่าได้น้อยมากนะคะ
สมมติถ้าคุณครูไส้ติ่งแตกผ่าตัดรัฐบาลปีนั้นค่ารักษาก็เกือบหมดแล้วค่ะ ถ้าเป็นมะเร็งต้องผ่าตัดตามด้วยฉายแสงและยาเคมีบำบัด ไม่มีทางพอแน่ๆ หมดตั้งแต่ทำ CT และผ่าตัดแล้วล่ะ
อยากถามคุณครูเอกชนทั้งหลายว่าทำอย่างไรกันคะ หรือใครมีสิทธิการรักษาที่ย่ำแย่กว่านี้บ้างมั้ย