สวัสดีคนที่เข้ามาอ่านกระทู้
ตั้งแต่เกิดมาเราก็ทราบเสมอเลยคะว่าเรามีจิตใจเป็นผู้หญิง ชอบทำอะไรแบบผู้หญิง พ่อแม่เขาก็น่าจะพอทราบ และสังเกตได้ว่าเราเป็นกระเทย แต่เขาก็ไม่ยอมรับ เรียนหนังสือเราก็เรียนได้คะแนนดี ได้ทุนเรียนดีหลายครั้ง ในมหาวิทยาลัย ทำงานส่งตัวเองเรียน พอตอนนี้หนูก็ได้จบมหาลัยใหม่ๆ ก็ทำงาน ส่งเงินช่วยค่าบ้านพ่อ พาแม่ไปทานข้าวบ้าง ตลอดเวลาที่เรียนก็หางาน Part-time ทำตั้งแต่ ม.3 พอเราเริ่มทำงาน เราก็อยากจะเริ่มที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเอง ไว้ผมยาว แต่แม่เราก็จะไล่ให้ไปตัดผม บอกว่ามันดูไม่ดี น่าเกลียด คนอื่นเขามองเขาก็หัวเราะเยาะ ทั้งๆที่ตัวเราเองอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุขมากๆ คนรอบข้างก็ไม่เคยไม่ยอมรับในตัวเรา ในสังคมทำงานหรือสังคมภายนอก แต่ทำไมในครอบครัวของเราเอง เขากลับไม่ยอมรับ ไม่เปิดใจ และอีกหลายๆเรื่อง พ่อแม่ชอบหาว่าเราเอาเงินไปเลี้ยง ผช บ้าง เอาของไปให้ผชบ้าง เพราะแต่ละเดือนด้วยความที่อยู่กรุงเทพ ค่าใช้จ่ายก็ค่อนข้างมาก เรามีภาระที่ต้องช่วย ที่ต้องจ่าย ถ้าภาระต่างๆนั้นหมดแน่นอนเราเก็บเงินได้แน่ๆทั้งๆ เราเสียใจมาก ทั้งๆที่เราตั้งใจทำทุกอย่างแล้ว แต่พ่อแม่กลับมองเราในด้านลบ ครอบครัวเรามี 4 คน คือ พ่อ แม่ พี่ชาย แล้วก็เรา ด้วยความที่พี่ชายเรียนไม่จบ ท่านก็หวังให้เราเรียนจบ ซึ่งเราก็เรียนจบให้ท่าน ได้เกียรนิยมอันดับ1 เป็นคนดี ไม่ดื่มสุรา ไม่สูบบุหรี่ ไม่ยุ่งกับยาเสพติด เราดีใจนะที่ได้ทำสิ่งที่ท่านต้องการ แต่ให้ลูกคนหนึ่งที่มีจิตใจเป็นผญ อยู่ในสภาพที่ไม่ได้เป็นตัวของตัวเอง จนทุกวันนี้ความสุขในการมีชีวิตอยู่ของเรามันน้อยลงทุกวัน ความทุกข์ของเราคือการอยู่ในกรอบแคบๆที่ท่านได้ตีไว้ ความคิดมากของแม่ ที่กังวล จนมองโลกในแง่ร้ายทำให้ไม่ยอมรับในตัวเรา ทุกวันนี้ก็แอบถามตัวเองว่าความสุขของตัวเราอยู่ที่ไหน ทำไมอยู่นอกบ้านเรามีความสุขมากกว่าอยู่ในบ้าน เพราะเราได้เป็นตัวของเราเมื่ออยู่ข้างนอก ปัจจุบันเราไม่คิดว่าเราต้องตกมาอยู่ในสภาพเด็กมีปัญหา ป่วยทางจิตแบบนี้ เจ็บกาย เหนื่อย หนูไม่ว่าแต่ความเจ็บป่วยทางใจ ถ้านานไปมันก็คงจะเกินเยียวยา
พิสูจน์แล้วแต่กลับไม่ได้รับการยอมรับ (ชีวิตกระเทยคนหนึ่ง)
ตั้งแต่เกิดมาเราก็ทราบเสมอเลยคะว่าเรามีจิตใจเป็นผู้หญิง ชอบทำอะไรแบบผู้หญิง พ่อแม่เขาก็น่าจะพอทราบ และสังเกตได้ว่าเราเป็นกระเทย แต่เขาก็ไม่ยอมรับ เรียนหนังสือเราก็เรียนได้คะแนนดี ได้ทุนเรียนดีหลายครั้ง ในมหาวิทยาลัย ทำงานส่งตัวเองเรียน พอตอนนี้หนูก็ได้จบมหาลัยใหม่ๆ ก็ทำงาน ส่งเงินช่วยค่าบ้านพ่อ พาแม่ไปทานข้าวบ้าง ตลอดเวลาที่เรียนก็หางาน Part-time ทำตั้งแต่ ม.3 พอเราเริ่มทำงาน เราก็อยากจะเริ่มที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเอง ไว้ผมยาว แต่แม่เราก็จะไล่ให้ไปตัดผม บอกว่ามันดูไม่ดี น่าเกลียด คนอื่นเขามองเขาก็หัวเราะเยาะ ทั้งๆที่ตัวเราเองอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุขมากๆ คนรอบข้างก็ไม่เคยไม่ยอมรับในตัวเรา ในสังคมทำงานหรือสังคมภายนอก แต่ทำไมในครอบครัวของเราเอง เขากลับไม่ยอมรับ ไม่เปิดใจ และอีกหลายๆเรื่อง พ่อแม่ชอบหาว่าเราเอาเงินไปเลี้ยง ผช บ้าง เอาของไปให้ผชบ้าง เพราะแต่ละเดือนด้วยความที่อยู่กรุงเทพ ค่าใช้จ่ายก็ค่อนข้างมาก เรามีภาระที่ต้องช่วย ที่ต้องจ่าย ถ้าภาระต่างๆนั้นหมดแน่นอนเราเก็บเงินได้แน่ๆทั้งๆ เราเสียใจมาก ทั้งๆที่เราตั้งใจทำทุกอย่างแล้ว แต่พ่อแม่กลับมองเราในด้านลบ ครอบครัวเรามี 4 คน คือ พ่อ แม่ พี่ชาย แล้วก็เรา ด้วยความที่พี่ชายเรียนไม่จบ ท่านก็หวังให้เราเรียนจบ ซึ่งเราก็เรียนจบให้ท่าน ได้เกียรนิยมอันดับ1 เป็นคนดี ไม่ดื่มสุรา ไม่สูบบุหรี่ ไม่ยุ่งกับยาเสพติด เราดีใจนะที่ได้ทำสิ่งที่ท่านต้องการ แต่ให้ลูกคนหนึ่งที่มีจิตใจเป็นผญ อยู่ในสภาพที่ไม่ได้เป็นตัวของตัวเอง จนทุกวันนี้ความสุขในการมีชีวิตอยู่ของเรามันน้อยลงทุกวัน ความทุกข์ของเราคือการอยู่ในกรอบแคบๆที่ท่านได้ตีไว้ ความคิดมากของแม่ ที่กังวล จนมองโลกในแง่ร้ายทำให้ไม่ยอมรับในตัวเรา ทุกวันนี้ก็แอบถามตัวเองว่าความสุขของตัวเราอยู่ที่ไหน ทำไมอยู่นอกบ้านเรามีความสุขมากกว่าอยู่ในบ้าน เพราะเราได้เป็นตัวของเราเมื่ออยู่ข้างนอก ปัจจุบันเราไม่คิดว่าเราต้องตกมาอยู่ในสภาพเด็กมีปัญหา ป่วยทางจิตแบบนี้ เจ็บกาย เหนื่อย หนูไม่ว่าแต่ความเจ็บป่วยทางใจ ถ้านานไปมันก็คงจะเกินเยียวยา