ถ้ายังจำกันได้ นาโอมิ โอซาก้า พึ่งจะเข้าร่วมการแข่งขันรายการ WTA Rising star ในระดับเยาวชนเมื่อ 3 ปีที่แล้ววันนี้นาโอมิมาไกลเกินกว่าใครจะฝันถึง! อะไรเป็นแรงผลักดันให้เด็กสาวลูกครึ่งญี่ปุ่นในวัย 19 ปีรายนี้ก้าวข้ามไปยืนแถวหน้าเทียบเท่ามือระดับ Top 5 ของโลกในเวลานี้ได้?
สิ่งหนึ่งที่เรามองเห็นได้ชัดเจนถึงความแตกต่างระหว่างนาโอมิ และเด็กคนอื่นๆในรุ่นเดียวกันนั่นก็คือ...โอกาส
โอกาสที่จะพบกับผู้เชี่ยวชาญ!
โอกาสที่จะได้พบกับมืออาชีพ!
โอกาสที่จะอยู่ในสถานที่ๆเหมาะสมถูกที่ถูกเวลา!
นั่นคือสิ่งเดียวที่เราเห็น และสัมผัสได้อย่างชัดเจน กับคำว่า โอกาส!!!
ซึ่งโอกาสต่างๆจากนาโอมิได้รับ มาจากการสนับสนุนของรัฐบาลญี่ปุ่นมาตลอดทุกขั้นตอน นาโอมิมาฝึกซ้อมที่อคาเดมี่ที่อเมริกา ด้วยทุนของรัฐบาล แถมการออกแข่งในแต่ละครั้ง ก็ใช้งบประมาณจากญี่ปุ่นทั้งสิ้น ทุกครั้งที่เอาโค้ชไป เอาฟิตเนสโค้ชไป ต้องจ้าง อาทิตย์ละหมื่นดอลล่าร์ ลองคิดดูว่ารายจ่ายต่อเดือนจะสูงมากแค่ไหน เกินหลักล้านต่อเดือนหรือไม่
แล้วลองหันกลับมามอง วงการเทนนิสของไทย ว่าเกิดอะไรขึ้น ก่อนหน้านี้ที่ใครตามข่าวก็จะพอทราบว่า ไทยเรามีเด็กมหัศจรรย์เกิดขึ้น ในการแข่งขัน ออเร้นจ์โบว์ เด็กไทยที่เป็นมือโนเนมต้องควอลิฟาย แล้วผ่านควอลิฟฟายไปเล่นเมนดรอว์จนสามารถเขี่ยนักกีฬามือวางอันดับหนึ่งของรายการตกรอบ จนทำให้ยูนิโคลหนึ่งในผู้สนับสนุนATP World tour และ World Junior u14 Final ได้ให้ไวด์การ์ดเด็กเราเข้าแข่งขัน เป็นหนึ่งในหกผู้เล่น ด้วยวัยเพียงสิบสองปีเท่านั้น ในรายการ World Junior u14 Final จนสำนักข่าว หลายๆสำนักในไทย ใน ขณะนั้น ออกมากระพือข่าว แต่พอแข่งขัน น้องไม่ประสบความสำเร็จ เพราะแข่งขันกับคนที่อายุมากกว่า เกือบๆสามปีทั้งหมด แพ้รอบแบ่งกลุ่มแบบสกอร์สูสี แถมมีอาการบาดเจ็บตบท้าย พอแข่งเสร็จทางลอนเทนนิสก็ให้สัมภาษณ์กับนักข่าวนะ ว่าจะสนับสนุนนักกีฬาเต็มที่ แต่ว่าพอคุณพ่อน้องขอความช่วยเหลือ ให้ทางลอนช่วยออกค่าช้จ่าย ในการเดินทางไปฝึกกับอะเคเดมี่ในต่างประเทศ กลับไม่ได้รับการตอบกลับใดๆจากลอนเทนนิสเลย คุณพ่อ และน้องจึงย้ายถิ่นฐาน มาฝึกโดยออกค่าใช้จ่าย ร่วมกับการสนับสนุนบางส่วนจากอเมริกา ทำให้น้องได้เข้าไปฝึกซ้อมใน Pro World Academy อะคาเดมี่เดียวกับ นาโอมิโอซาก้า และน้องก็ลงคอร์ทช่วยซ้อมให้นาโอมิบ่อยๆ
เราเคยคุยกับพ่อของน้องคนนี้นะ เกี่ยวกับการสร้างนักกีฬาให้ได้แบบนาโอมิ ซึ่งคุณพ่อก็ตอบกลับมาว่า บ้านเราจะทำได้แบบเค้า ผมว่ามันเป็นเพียงแค่ความฝันที่มีขายกันอยู่ทั่วไป แต่พอลงมือทำจริงๆแล้วนั้น การสนับสนุนของบ้านเรา ยังห่างไกลแบบที่นาโอมิได้จากญี่ปุ่นมาก การมีฝีมืออย่างเดียวไม่พอ ต้องมีหลายๆพร้อมกันด้วย
หลายๆคนคงสงสัย ว่าเด็กคนนั้นเป็นใคร เด็กคนนั้น ชื่อ เครดิต ไชยนรินทร์
ล่าสุดออกแข่งได้สักพักใหญ่ๆ แล้ว ตอนแรก น้องเล่นเฉพาะใน ระดับ u14 ในอเมริกา สามรถคว้าแชมป์ได้สองแชมป์ในอเมริกา ซึ่งเป็นคอร์ทดินทั้งหมด ตอนนี้ น้องได้เริ่มออกแข่งในระดับ ITF Junior ได้สามรายการ แถบๆอเมริกาใต้ ซึ่ง ผลการแข่งขัน ถือว่าโอเคในระดับหนึ่ง
Semi Final Grade 4 At mexico
Quarter Final Grade 4 At Mexico
R16 Grade 4 At Bahamas
สุดท้ายก็หวังว่า ทางครอบครัวจะไม่ท้อซะก่อนที่น้องจะไปถึงฝัน น้องได้โอกาสมากกว่าเด็กไทยคนอื่นๆ ถึงแม้จะไม่เท่ากับนาโอมิก็ตามแต่ ให้เอานาโอมิเป็นแรงบันดาลใจขับเคลื่อนความฝัน ไปให้สำเร็จ ไม่แน่วันหนึ่ง ไทยเราอาจจะได้เชียร์นักเทนนิสไทยในระดับเอทีพีก็ได้
เห็นความสำเร็จของ นาโอมิ โอซาก้า ขออนุญาติเล่าถึงเด็กไทย ที่มีโอกาสเป็นความหวังของไทยในอนาคต
สิ่งหนึ่งที่เรามองเห็นได้ชัดเจนถึงความแตกต่างระหว่างนาโอมิ และเด็กคนอื่นๆในรุ่นเดียวกันนั่นก็คือ...โอกาส
โอกาสที่จะพบกับผู้เชี่ยวชาญ!
โอกาสที่จะได้พบกับมืออาชีพ!
โอกาสที่จะอยู่ในสถานที่ๆเหมาะสมถูกที่ถูกเวลา!
นั่นคือสิ่งเดียวที่เราเห็น และสัมผัสได้อย่างชัดเจน กับคำว่า โอกาส!!!
ซึ่งโอกาสต่างๆจากนาโอมิได้รับ มาจากการสนับสนุนของรัฐบาลญี่ปุ่นมาตลอดทุกขั้นตอน นาโอมิมาฝึกซ้อมที่อคาเดมี่ที่อเมริกา ด้วยทุนของรัฐบาล แถมการออกแข่งในแต่ละครั้ง ก็ใช้งบประมาณจากญี่ปุ่นทั้งสิ้น ทุกครั้งที่เอาโค้ชไป เอาฟิตเนสโค้ชไป ต้องจ้าง อาทิตย์ละหมื่นดอลล่าร์ ลองคิดดูว่ารายจ่ายต่อเดือนจะสูงมากแค่ไหน เกินหลักล้านต่อเดือนหรือไม่
แล้วลองหันกลับมามอง วงการเทนนิสของไทย ว่าเกิดอะไรขึ้น ก่อนหน้านี้ที่ใครตามข่าวก็จะพอทราบว่า ไทยเรามีเด็กมหัศจรรย์เกิดขึ้น ในการแข่งขัน ออเร้นจ์โบว์ เด็กไทยที่เป็นมือโนเนมต้องควอลิฟาย แล้วผ่านควอลิฟฟายไปเล่นเมนดรอว์จนสามารถเขี่ยนักกีฬามือวางอันดับหนึ่งของรายการตกรอบ จนทำให้ยูนิโคลหนึ่งในผู้สนับสนุนATP World tour และ World Junior u14 Final ได้ให้ไวด์การ์ดเด็กเราเข้าแข่งขัน เป็นหนึ่งในหกผู้เล่น ด้วยวัยเพียงสิบสองปีเท่านั้น ในรายการ World Junior u14 Final จนสำนักข่าว หลายๆสำนักในไทย ใน ขณะนั้น ออกมากระพือข่าว แต่พอแข่งขัน น้องไม่ประสบความสำเร็จ เพราะแข่งขันกับคนที่อายุมากกว่า เกือบๆสามปีทั้งหมด แพ้รอบแบ่งกลุ่มแบบสกอร์สูสี แถมมีอาการบาดเจ็บตบท้าย พอแข่งเสร็จทางลอนเทนนิสก็ให้สัมภาษณ์กับนักข่าวนะ ว่าจะสนับสนุนนักกีฬาเต็มที่ แต่ว่าพอคุณพ่อน้องขอความช่วยเหลือ ให้ทางลอนช่วยออกค่าช้จ่าย ในการเดินทางไปฝึกกับอะเคเดมี่ในต่างประเทศ กลับไม่ได้รับการตอบกลับใดๆจากลอนเทนนิสเลย คุณพ่อ และน้องจึงย้ายถิ่นฐาน มาฝึกโดยออกค่าใช้จ่าย ร่วมกับการสนับสนุนบางส่วนจากอเมริกา ทำให้น้องได้เข้าไปฝึกซ้อมใน Pro World Academy อะคาเดมี่เดียวกับ นาโอมิโอซาก้า และน้องก็ลงคอร์ทช่วยซ้อมให้นาโอมิบ่อยๆ
เราเคยคุยกับพ่อของน้องคนนี้นะ เกี่ยวกับการสร้างนักกีฬาให้ได้แบบนาโอมิ ซึ่งคุณพ่อก็ตอบกลับมาว่า บ้านเราจะทำได้แบบเค้า ผมว่ามันเป็นเพียงแค่ความฝันที่มีขายกันอยู่ทั่วไป แต่พอลงมือทำจริงๆแล้วนั้น การสนับสนุนของบ้านเรา ยังห่างไกลแบบที่นาโอมิได้จากญี่ปุ่นมาก การมีฝีมืออย่างเดียวไม่พอ ต้องมีหลายๆพร้อมกันด้วย
หลายๆคนคงสงสัย ว่าเด็กคนนั้นเป็นใคร เด็กคนนั้น ชื่อ เครดิต ไชยนรินทร์
ล่าสุดออกแข่งได้สักพักใหญ่ๆ แล้ว ตอนแรก น้องเล่นเฉพาะใน ระดับ u14 ในอเมริกา สามรถคว้าแชมป์ได้สองแชมป์ในอเมริกา ซึ่งเป็นคอร์ทดินทั้งหมด ตอนนี้ น้องได้เริ่มออกแข่งในระดับ ITF Junior ได้สามรายการ แถบๆอเมริกาใต้ ซึ่ง ผลการแข่งขัน ถือว่าโอเคในระดับหนึ่ง
Semi Final Grade 4 At mexico
Quarter Final Grade 4 At Mexico
R16 Grade 4 At Bahamas
สุดท้ายก็หวังว่า ทางครอบครัวจะไม่ท้อซะก่อนที่น้องจะไปถึงฝัน น้องได้โอกาสมากกว่าเด็กไทยคนอื่นๆ ถึงแม้จะไม่เท่ากับนาโอมิก็ตามแต่ ให้เอานาโอมิเป็นแรงบันดาลใจขับเคลื่อนความฝัน ไปให้สำเร็จ ไม่แน่วันหนึ่ง ไทยเราอาจจะได้เชียร์นักเทนนิสไทยในระดับเอทีพีก็ได้