มาดูกันว่า MR Removed เชื่อได้จริงมั้ย?
ก่อนอื่นต้องเข้าใจหลักการของมันก่อนนะครับ
เสียงคือพลังงานชนิดหนึ่งที่ส่งผ่านในลักษณะของการสั่นของโมเลกุลสามารถพล็อตกราฟเป็นคลื่นเสียงที่เราเคยเห็นกัน ซึ่งคลื่นเสียงเนี่ยมันสามารถเสริมกันได้ถ้ามีแอมพลิจูดไปด้านเดียวกัน(ลูกคลื่นขึ้นลงด้านเดียวกัน)หรือหักล้างกันถ้าแอมพลิจูดไปด้านตรงข้ามกัน(ลูกคลื่นขึ้นลงสวนกัน)
โดยหลักการนี้ถ้าเราเอาคลื่นเสียง 2 อันที่หน้าตาเหมือนกันเด๊ะแต่กลับด้านลูกคลื่นขึ้นลงมารวมกัน มันจะหักล้างกันพอดีหมดทุกอย่างกลายเป็นความเงียบครับเรียกว่า Phase Cancellation มันคือหลักการทำงานของหูฟังตัดเสียงรบกวนนี่เอง
MR Removed ใช้หลักการนี้แหล่ะครับโดยใช้ทฤษฎีที่ว่า
"เพลงที่อัดมาจากสตูดิโอ = ดนตรี + เสียงร้องในสตูดิโอ
เสียงที่ได้ยินจาก Live = เสียงร้องสด + เพลงแบ๊กอัพ(ตามหลักการก็คือดนตรี + เสียงร้องในสตูดิโอจากบรรทัดบน)
ถ้าเราใส่คลื่นเสียงเพลงจากสตูดิโอที่กลับด้านเข้าไปใน Live เสียงของส่วนเพลงแบ๊กอัพจะถูกหักล้างจนหายไป เหลือแต่เสียงร้องสด"
ดูเป็นหลักการที่เข้าท่าใช่มั้ยครับ? หักล้างเหลือแต่เสียงร้องสดตรงตัวนี่หน่า? ความจริงคือไม่ใช่ 100% ครับ มีหลายครั้งที่ MR Removed บอกอะไรไม่ได้เลย ค่ายเพลงมันฉลาดกว่านั้น
หลักการ MR Removed ข้างบนจะใช้ได้ก็ต่อเมื่อเพลงแบ๊กอัพ = เพลงที่อัดจากสตูดิโอ (มันถึงจะหักล้างจนหมดได้)
ค่ายสามารถหลอก MR Removed ได้ด้วยการแทนที่"เสียงร้องในสตูดิโอ"ในสมการด้วยเสียงใหม่ครับ ทำได้ตั้งแต่ให้นักร้องอัดเสียงในสตูดิโออีกหนึ่งชุด(ที่ไม่ใช่อันที่เราฟังใน Mp3) หรืออัดเสียงนักร้องในงานก่อนแสดงจริง หรืออัดเสียงนักร้องที่เต้นจริงแต่เต้นเบาๆในรอบซ้อมแล้วเอาไปเปิดตอนแสดงรอบจริงก็ยังได้(แบบสุดท้ายคือมีเสียงลมหายใจเสียงหอบอะไรครบด้วยนะแต่เสียงจะดีกว่ารอบจริงเพราะเต้นเบากว่า)
ทั้งหมดนี้ทำให้"เสียงร้องในสตูดิโอ"ไม่เท่ากับเสียงที่เราจะเอามาหักล้างแล้ว
จากสมการ เสียงที่ได้ยินจาก Live = เสียงร้องสด + เพลงแบ๊กอัพ(ดนตรี + เสียงร้องในสตูดิโอ)
ถ้าเสียงร้องสด = 0 (ลิปซิ้ง) แล้วเพลงแบ๊กอัพก็ถูกหักล้างไม่หมด (เสียงร้องที่อัดชุดใหม่ไม่โดนหักล้าง โดนหักล้างแต่ดนตรี)
สุดท้าย MR Removed จะเหลือแต่เสียงร้องที่อัดใหม่ให้เราฟังครับ จะเพราะเพอร์เฟกต์ก็ได้ถ้าอัดจากสตูดิโอ หรือจะมีเสียงหายใจเสียงหอบให้ดูสมจริงก็ได้ถ้าอัดจากเวทีจริงตอนซ้อม แต่ก็ยังเป็นการลิปซิ้งอยู่ดี
สรุปคือ MR Removed ใช้ไม่ได้เสมอไปครับ ในกรณีที่ค่ายเปลี่ยนเสียงแบ๊กอัพเป็นชุดใหม่ที่ไม่ใช่แบบสตูดิโอที่ปล่อยมาขาย MR Removed ก็บอกอะไรเราไม่ได้เลยซึ่งมันเจอบ่อยกว่าที่เราคิดนะครับ วิธีสังเกตุง่ายที่สุดคือเปิด MR Removed เพลงเดียวกันเทียบหลายๆงานครับ ถ้าเสียงมันเหมือนเป๊ะๆทุกรอบก็แปลว่าเป็นเสียงร้องแบ๊กอัพชุดใหม่ที่ค่ายอัดไว้แล้วลิปซิ้งเอา (ไม่มีมนุษย์คนไหนสามารถร้องเพลงด้วยจังหวะ ลมหายใจ โทนเสียงหนักเบาเป๊ะๆเหมือนเดิม 100% ได้ครับ)
Edit ต้นคลิปคือคลิปนี้ครับดูเพื่อให้เห็นภาพมากขึ้น เิาคลิปมาลงไม่ได้มีเจตนาจะ discredit วงไหนทั้งสิ้นเพราะการลิปซิ้งเป็นเรื่องปกติในวงการเพลงครับแม้แต่นักร้องตะวันตกแนวหน้าก็ลิปซิ้งในบางงานเพื่อรักษาสุขภาพเสียงในระยะยาว
MR Removed เชื่อถือได้เสมอหรือไม่?
ก่อนอื่นต้องเข้าใจหลักการของมันก่อนนะครับ
เสียงคือพลังงานชนิดหนึ่งที่ส่งผ่านในลักษณะของการสั่นของโมเลกุลสามารถพล็อตกราฟเป็นคลื่นเสียงที่เราเคยเห็นกัน ซึ่งคลื่นเสียงเนี่ยมันสามารถเสริมกันได้ถ้ามีแอมพลิจูดไปด้านเดียวกัน(ลูกคลื่นขึ้นลงด้านเดียวกัน)หรือหักล้างกันถ้าแอมพลิจูดไปด้านตรงข้ามกัน(ลูกคลื่นขึ้นลงสวนกัน)
โดยหลักการนี้ถ้าเราเอาคลื่นเสียง 2 อันที่หน้าตาเหมือนกันเด๊ะแต่กลับด้านลูกคลื่นขึ้นลงมารวมกัน มันจะหักล้างกันพอดีหมดทุกอย่างกลายเป็นความเงียบครับเรียกว่า Phase Cancellation มันคือหลักการทำงานของหูฟังตัดเสียงรบกวนนี่เอง
MR Removed ใช้หลักการนี้แหล่ะครับโดยใช้ทฤษฎีที่ว่า
"เพลงที่อัดมาจากสตูดิโอ = ดนตรี + เสียงร้องในสตูดิโอ
เสียงที่ได้ยินจาก Live = เสียงร้องสด + เพลงแบ๊กอัพ(ตามหลักการก็คือดนตรี + เสียงร้องในสตูดิโอจากบรรทัดบน)
ถ้าเราใส่คลื่นเสียงเพลงจากสตูดิโอที่กลับด้านเข้าไปใน Live เสียงของส่วนเพลงแบ๊กอัพจะถูกหักล้างจนหายไป เหลือแต่เสียงร้องสด"
ดูเป็นหลักการที่เข้าท่าใช่มั้ยครับ? หักล้างเหลือแต่เสียงร้องสดตรงตัวนี่หน่า? ความจริงคือไม่ใช่ 100% ครับ มีหลายครั้งที่ MR Removed บอกอะไรไม่ได้เลย ค่ายเพลงมันฉลาดกว่านั้น
หลักการ MR Removed ข้างบนจะใช้ได้ก็ต่อเมื่อเพลงแบ๊กอัพ = เพลงที่อัดจากสตูดิโอ (มันถึงจะหักล้างจนหมดได้)
ค่ายสามารถหลอก MR Removed ได้ด้วยการแทนที่"เสียงร้องในสตูดิโอ"ในสมการด้วยเสียงใหม่ครับ ทำได้ตั้งแต่ให้นักร้องอัดเสียงในสตูดิโออีกหนึ่งชุด(ที่ไม่ใช่อันที่เราฟังใน Mp3) หรืออัดเสียงนักร้องในงานก่อนแสดงจริง หรืออัดเสียงนักร้องที่เต้นจริงแต่เต้นเบาๆในรอบซ้อมแล้วเอาไปเปิดตอนแสดงรอบจริงก็ยังได้(แบบสุดท้ายคือมีเสียงลมหายใจเสียงหอบอะไรครบด้วยนะแต่เสียงจะดีกว่ารอบจริงเพราะเต้นเบากว่า)
ทั้งหมดนี้ทำให้"เสียงร้องในสตูดิโอ"ไม่เท่ากับเสียงที่เราจะเอามาหักล้างแล้ว
จากสมการ เสียงที่ได้ยินจาก Live = เสียงร้องสด + เพลงแบ๊กอัพ(ดนตรี + เสียงร้องในสตูดิโอ)
ถ้าเสียงร้องสด = 0 (ลิปซิ้ง) แล้วเพลงแบ๊กอัพก็ถูกหักล้างไม่หมด (เสียงร้องที่อัดชุดใหม่ไม่โดนหักล้าง โดนหักล้างแต่ดนตรี)
สุดท้าย MR Removed จะเหลือแต่เสียงร้องที่อัดใหม่ให้เราฟังครับ จะเพราะเพอร์เฟกต์ก็ได้ถ้าอัดจากสตูดิโอ หรือจะมีเสียงหายใจเสียงหอบให้ดูสมจริงก็ได้ถ้าอัดจากเวทีจริงตอนซ้อม แต่ก็ยังเป็นการลิปซิ้งอยู่ดี
สรุปคือ MR Removed ใช้ไม่ได้เสมอไปครับ ในกรณีที่ค่ายเปลี่ยนเสียงแบ๊กอัพเป็นชุดใหม่ที่ไม่ใช่แบบสตูดิโอที่ปล่อยมาขาย MR Removed ก็บอกอะไรเราไม่ได้เลยซึ่งมันเจอบ่อยกว่าที่เราคิดนะครับ วิธีสังเกตุง่ายที่สุดคือเปิด MR Removed เพลงเดียวกันเทียบหลายๆงานครับ ถ้าเสียงมันเหมือนเป๊ะๆทุกรอบก็แปลว่าเป็นเสียงร้องแบ๊กอัพชุดใหม่ที่ค่ายอัดไว้แล้วลิปซิ้งเอา (ไม่มีมนุษย์คนไหนสามารถร้องเพลงด้วยจังหวะ ลมหายใจ โทนเสียงหนักเบาเป๊ะๆเหมือนเดิม 100% ได้ครับ)
Edit ต้นคลิปคือคลิปนี้ครับดูเพื่อให้เห็นภาพมากขึ้น เิาคลิปมาลงไม่ได้มีเจตนาจะ discredit วงไหนทั้งสิ้นเพราะการลิปซิ้งเป็นเรื่องปกติในวงการเพลงครับแม้แต่นักร้องตะวันตกแนวหน้าก็ลิปซิ้งในบางงานเพื่อรักษาสุขภาพเสียงในระยะยาว