อยากจะถามเรื่องการดำเนินคดีค่ะ
เรื่องมีอยู่ว่า เราได้ไปนั่งดื่มกับพี่ที่รู้จักกันที่ร้านๆหนึ่ง พี่ที่เรารู้จักเขาเอาลูกน้องมานั่งดื่มด้วยหลายคนค่ะ แล้วพอเริ่มดื่มไปเลื่อยๆ เราสังเกตุว่าน้องคนที่นั่งตรงข้ามเราเขาจะนั่งกอดหมวกกันน๊อกเขาไว้ตลอด ทีนี้เราก็เลยอยากจะทราบราคา เลยถามน้องเขาไป น้องเขาก็ตอบว่าราคาเป็นหลักหมื่นค่ะ เราก็ถามเขากลับว่าหมวกกันน๊อกเขาทำไมแพงจังแล้วมันดียังไง เขาก็ยิ้มแล้วบอกว่าให้เราลองโยนดูว่ามันจะเป็นอะไรมั้ย เราก็เลยขอหมวกกันน๊อกน้องเขามาแล้วลองปล่อยจากมือเราที่นั่งเก้าอี้อยู่ คือเราปล่อยจริงๆน่ะไม่มีการโยนหรืออะไร แล้วระดับที่เรานั่งเก้าอี้คือมันสูงจากพื้นน่าจะไม่เกิน 2 ไม้บรรทัด พอเราปล่อยไปแล้วเราก็หยิบหมวกขึ้นมาสำรวจดู คือหมวกไม่มีรอยอะไรทั้งสิ้น แล้วทีนี้เราก็ยื่นหมวกกันน๊อกให้น้องเขาคืน แล้วเราก็ถามน้องเขาว่าโกรธมั้ย น้องเขาก็ยิ้มแล้วบอกว่าไม่เป็นไรพี่ พอสักพักเริ่มดื่มกันเยอะขึ้น น้องคนนั้นเขาก็ถามเราขึ้นมาว่า เราเคยมีของรักมั้ย เราก็เลยตอบไปว่าถ้ามีน่าจะเป็นโทรศัพท์มือถือ ไอโฟน6พลัส ที่เราทำงานเก็บเงินซื้อเอง พอผ่านไปแค่ไม่ถึงครึ่งชั่วโมง น้องคนนั้นอยู่ดีๆก็หยิบโทรศัพท์เราไม่ แล้วก็บอกว่า ผมจะทำให้พี่รู้ว่าทำกับของรักของคนอื่นมันเป็นยังไง แล้วน้องเขาก็เควี่ยงโทรศัพท์เราลงพื้นอย่างแรง เน้นว่าแรง และไม่ใช่แค่ทีเดียว 3 ที แล้วเอาเท้าเหยียบซ้ำจนมันแหลก พี่ๆในวงเดียวกันก็พลานกันอารมณ์ขึ้น แต่พี่เขายังคุมสติกันได้อยู่ ส่วนตัวเราก็นั่งอยู่เฉยๆคอยบอกพวกพี่ๆเขาว่าไม่เป็นไร ค่อยคุยตอนน้องเขามีสติดีกว่า แล้วสักแปปหนึ่งน้องเขาก็โทรตามเรียกพวกเขา ซึ่งบอกก่อนว่าเราและพวกพี่ๆเรายังไม่มีใครว่าหรือทำอะไรน้องเขาเลย ตอนหลังพอบอกให้น้องเขากลับไปได้ พี่ที่เรารู้จักซึ่งเป็นหัวหน้าน้องเขา เขาบอกเราว่าน้องคนนี้เคยติดยา แล้วให้เราไปแจ้งความเรื่องที่น้องเขาทำกับเราเกินกว่าเหตุ
เราอยากจะทราบว่าเรื่องทั้งหมดนี้เราไปแจ้งความจะได้มั้ย จำรวจจะช่วยเหลือเรายังไง แล้วเรามีสิทธิ์ที่จะเรีบกร้องโทรศัพท์ใหม่กับน้องเขาได้มั้ยค่ะ
เราอยากให้ช่วยแนะนำเราจริงๆ
ว่าด้วยเรื่องการทำลายทรัพย์สินผู้อื่น
เรื่องมีอยู่ว่า เราได้ไปนั่งดื่มกับพี่ที่รู้จักกันที่ร้านๆหนึ่ง พี่ที่เรารู้จักเขาเอาลูกน้องมานั่งดื่มด้วยหลายคนค่ะ แล้วพอเริ่มดื่มไปเลื่อยๆ เราสังเกตุว่าน้องคนที่นั่งตรงข้ามเราเขาจะนั่งกอดหมวกกันน๊อกเขาไว้ตลอด ทีนี้เราก็เลยอยากจะทราบราคา เลยถามน้องเขาไป น้องเขาก็ตอบว่าราคาเป็นหลักหมื่นค่ะ เราก็ถามเขากลับว่าหมวกกันน๊อกเขาทำไมแพงจังแล้วมันดียังไง เขาก็ยิ้มแล้วบอกว่าให้เราลองโยนดูว่ามันจะเป็นอะไรมั้ย เราก็เลยขอหมวกกันน๊อกน้องเขามาแล้วลองปล่อยจากมือเราที่นั่งเก้าอี้อยู่ คือเราปล่อยจริงๆน่ะไม่มีการโยนหรืออะไร แล้วระดับที่เรานั่งเก้าอี้คือมันสูงจากพื้นน่าจะไม่เกิน 2 ไม้บรรทัด พอเราปล่อยไปแล้วเราก็หยิบหมวกขึ้นมาสำรวจดู คือหมวกไม่มีรอยอะไรทั้งสิ้น แล้วทีนี้เราก็ยื่นหมวกกันน๊อกให้น้องเขาคืน แล้วเราก็ถามน้องเขาว่าโกรธมั้ย น้องเขาก็ยิ้มแล้วบอกว่าไม่เป็นไรพี่ พอสักพักเริ่มดื่มกันเยอะขึ้น น้องคนนั้นเขาก็ถามเราขึ้นมาว่า เราเคยมีของรักมั้ย เราก็เลยตอบไปว่าถ้ามีน่าจะเป็นโทรศัพท์มือถือ ไอโฟน6พลัส ที่เราทำงานเก็บเงินซื้อเอง พอผ่านไปแค่ไม่ถึงครึ่งชั่วโมง น้องคนนั้นอยู่ดีๆก็หยิบโทรศัพท์เราไม่ แล้วก็บอกว่า ผมจะทำให้พี่รู้ว่าทำกับของรักของคนอื่นมันเป็นยังไง แล้วน้องเขาก็เควี่ยงโทรศัพท์เราลงพื้นอย่างแรง เน้นว่าแรง และไม่ใช่แค่ทีเดียว 3 ที แล้วเอาเท้าเหยียบซ้ำจนมันแหลก พี่ๆในวงเดียวกันก็พลานกันอารมณ์ขึ้น แต่พี่เขายังคุมสติกันได้อยู่ ส่วนตัวเราก็นั่งอยู่เฉยๆคอยบอกพวกพี่ๆเขาว่าไม่เป็นไร ค่อยคุยตอนน้องเขามีสติดีกว่า แล้วสักแปปหนึ่งน้องเขาก็โทรตามเรียกพวกเขา ซึ่งบอกก่อนว่าเราและพวกพี่ๆเรายังไม่มีใครว่าหรือทำอะไรน้องเขาเลย ตอนหลังพอบอกให้น้องเขากลับไปได้ พี่ที่เรารู้จักซึ่งเป็นหัวหน้าน้องเขา เขาบอกเราว่าน้องคนนี้เคยติดยา แล้วให้เราไปแจ้งความเรื่องที่น้องเขาทำกับเราเกินกว่าเหตุ
เราอยากจะทราบว่าเรื่องทั้งหมดนี้เราไปแจ้งความจะได้มั้ย จำรวจจะช่วยเหลือเรายังไง แล้วเรามีสิทธิ์ที่จะเรีบกร้องโทรศัพท์ใหม่กับน้องเขาได้มั้ยค่ะ
เราอยากให้ช่วยแนะนำเราจริงๆ