.
ขณะกำลังมองฟ้ากว้างเมฆไหลเอื่อยๆพร้อมค่อยๆทยอยเปลี่ยนรูปทรงให้คนข้างล่างช่างฝันได้จินตนาการ...ช้าง...ราชรถ...เปลือกหอย....พี่หมีตัวใหญ่....มอม้าคึกคัก อิงอิงใช้สองมือวางเหนือหัวล้มตัวลงนอนบนสนามหญ้าสีเขียวภายในบริเวณหมู่บ้าน ลมพัดผ่านเสื้อยืดตัวเก่งสะบัดพลิ้วไหวแนบเนื้อสาวจนต้องใช้มือดึงจัดเสื้อให้เข้าที่เข้าทาง อิงอิงสูดกลิ่นลมชมกลิ่นสดชื่นของหญ้าหอมที่สวนสาธารณะของหมู่บ้านอย่างมีความสุข
เมื่อฤดูกาลสอบสิ้นสุด อะไรๆก็ดูดีไปหมด แม้แต่ถังขยะก็ดูจะสวยงามกว่าทุกวัน เรื่องจริงนะ ก็เมื่อวานยังเห็นเป็นสีเขียวใบใหญ่เทอะทะ แตกปรุเป็นทางตามความเก่าและคงผ่านสภาพการใช้งานมานานอย่างยับเยิน ขาดความทนุถนอม แต่วันนี้กลับกลายเป็นมีถังใสสีขาว รูปร่างเพรียวทันสมัย(และคาดว่าใส่ขยะได้น้อยลง)เก๋ไก๋จนนึกอยากขนเอาไปเป็นเฟอร์นิเจอร์ในบ้าน หืม แค่คิดเล่นๆนะ ไม่เอาหรอกสมบัติสาธารณะ ยังไม่อยากตกนรกกลายเป็นเปรต หึหึ
เมื่ออาทิตย์ก่อนเธอยังเครียดหัวแทบระเบิดกับการนั่งจดจำมาตรากฏหมายและตะลุยทำข้อสอบเก่าพิชิตโจทย์จนสมองชาและเบลอไปหมด ถามว่าได้อะไรจากความพยายามอย่างหนักบ้าง ในแง่หนึ่งมันอาจทำให้ได้ทำความเข้าใจเนื้อหาแบบลึกซึ้งเพราะผ่านสมองหลายรอบ แต่ก็คงดีกว่านี้ถ้าไม่ใช่เพียงแค่ก้าวออกมาจากห้องสอบเธอก็ลืมทุกอย่างแทบจะทันที ต่อจากนั้นสักเดือนสองเดือนข้อมูลความทรงจำต่างๆที่ทุ่มเทอ่าน ทำความเข้าใจ และจดจำก็แทบจะละลายหายไปพร้อมกาลเวลา จนเมื่อหยิบหนังสือหรือข้อสอบมาดูอีกครั้งก็ต้องตกใจว่าเอ๋....เราเคยเรียน เคยผ่านวิชานี้มาแล้วเหรอคุ้นๆนะ แต่ไม่มีอะไรเหลือติดอยู่ในหัวเลย
อิงอิงก็เหมือนเด็กวัยรุ่นส่วนใหญ่ ใช้ชีวิตมีสีสันกับเพื่อนๆ เธอไม่คิดจะสอบเข้ามหาวิทยาลัยตั้งแต่แรก เพราะนอกจากจะเสียค่าสมัครซ้ำซ้อนหลายทางในวงเงินที่ค่อนข้างสูง เธอก็ไม่มีปัญญานำเสนอตัวเองผ่านPortfolioให้ทางมหาวิทยาลัยสนใจหรอก สู้เอาเวลามานั่งเก็บหน่วยกิตของรามคำแหง ที่เพื่อนตัวดีชี้ชวนให้มาสมัครไว้แบบPre degreeดีกว่า เริ่มลงไว้ตั้งแต่ม.4 ตอนนี้เก็บได้เก้าสิบกว่าหน่วยกิต ก็ถือว่าฝีมือไม่เลวสำหรับเด็กมัธยมหัดเรียนมหาวิทยาลัย
ถามว่าชอบไหมกับนิติศาสตร์และสาขาวิชาที่เลือกลงทะเบียนเรียน มันก็ก้ำกึ่งตอบยากเหมือนกัน เธอรู้ตัวแค่ว่าถนัดวิชาท่องจำมากกว่าวิชาคำนวณ และที่ผ่านมารายวิชาเกี่ยวกับสังคมเธอก็คว้าเกรดสี่ได้มาโดยตลอด เมื่อเพื่อนชวนลงเรียนกฏหมายจึงใช้เวลาไม่กี่วันในการตรึกตรองและตัดสินใจ
ใครๆก็มองว่าเรียนกฏหมายแล้วจบไปต้องต่อเนติฯ สอบตั๋วทนายความ ทำงานในสายกฏหมายแล้วลองสอบผู้พิพากษาดู สำหรับเธอ...การเรียนกฏหมายที่รามฯเป็นใบเบิกทางเพื่อปริญญาตรีที่เร็วกว่าคนอื่น การจบปริญญาตรีเหมือนหน้าที่ขั้นพื้นฐานเพื่อพ่อแม่ และสังคมกำหนดว่า"ต้องมี ส่วนจะได้ใช้จริงหรือเปล่าก็อีกเรื่องหนึ่ง
อิงอิงมีความสนใจเรื่องการทำอาหารเป็นพิเศษ เธออยากเปิดร้านอาหารตามสั่งเล็กๆสักร้านเป็นของตัวเอง เอ...จะว่าไปก็ไม่เคยเล่าความฝันให้ใครฟังนะ พ่อกับแม่ซึ่งทำงานรับราชการทั้งคู่อยากให้ลูกทำงานประจำมากกว่าเพราะมองว่ามีความมั่นคง มีหลักประกันในชีวิต แต่ในมุมมองของอิงอิง งานทุกอย่างมีความเสี่ยง มันขึ้นอยู่กับว่าเราจะเชี่ยวชาญในงานที่ทำแค่ไหน มองจุดแข็ง จุดอ่อนของตัวเองออกไหมและสามารถพาตัวเองไปสู่จุดการสร้างรายได้โดยไม่ฝืนหรือเครียดเกินไปได้หรือเปล่า
อิงอิงเกลียดวิถีชีวิตมนุษย์เงินเดือน ต้องตื่นแต่เช้าฝ่าการจราจรที่คับคั่ง สูดมลพิษแลกชีวิตกับเงินเดือนซึ่งพอหักค่าใช้จ่ายนู่นนี่นั่น ก็แทบจะไม่เหลือ ดีไม่ดีก็ต้องกู้ต้องเป็นหนี้แบบพ่อแม่ของเธอผ่อนหัวโตตลอดชาติ ชีวิตมันน่าจะมีทางเลือกมากกว่านั้นนะ
หมดเวลาฝันเข้าสู่โหมดความเป็นจริง อิงอิงลุกขึ้นปัดเศษดินและเศษหญ้าที่ติดตามตัวออก เสียงโทรศัพท์สั่นตรืดในกระเป๋ากางเกงทำให้อิงอิงต้องหยิบมันออกมาดู
คืนนี้สามทุ่มที่เดิม...มิสเตอร์เอ็ม นี่เธอยังไม่ได้เล่าเรื่องที่มาของเงินเพิ่มพิเศษที่ทำโดยไม่บอกให้พ่อกับแม่รู้เลยใช่ไหม
อืม...บางเรื่องถ้ารู้แล้วไม่สบายใจ ก็อย่าให้รู้จะดีกว่า
>>>>>>>>
อิงอิงตัดสินใจลุกขึ้นเตรียมก้าวออกจากบริเวณสวนสาธารณะ แต่เหมือนมีกำแพงที่มองไม่เห็นกั้นขวาง เธอขมวดคิ้วยุ่งด้วยความประหลาดใจ นี่มันเกิดอะไรขึ้น เหมือนมีบางอย่างที่เธอมองไม่เห็นกักเธอไว้ที่นี่ว่าแต่มันคืออะไรล่ะ
"โฮ่งๆๆๆๆๆ" เสียงลูกหมาตัวเล็กของหญิงสาวคนหนึ่งที่มาพักผ่อนบริเวณสวนสาธารณะห่างจากที่อิงอิงนั่งไม่ไกลนัก หันมาทางเธอส่งเสียงเห่าอย่างบ้าคลั่ง จะเห่าอะไรนักนะ ไอ้หมาบ้า
"หืม...โตโต้เป็นอะไรน่ะเห่าไม่ยอมหยุดเลย" ชายหนุ่มใส่เสื้อกล้าม กางเกงขาสั้น รองเท้าผ้าใบเหงื่อท่วมตัว คงเพิ่งวิ่งออกกำลังกายเสร็จถามเฟย์แฟนสาวอย่างแปลกใจ
"ไม่รู้เหมือนกัน ก็ไม่เห็นจะมีใครอยุ่แถวนี้นี่นา"คำตอบของผู้หญิงสวมเสื้อยืดกางเกงขาสั้นที่ขณะนี้กำลังลูบหัวปลอบเจ้าหมาตัวเล็กให้หยุดเห่า ทำเอาฉันตะลึง รื้อข้าวของในกระเป๋าหากระจก...ก็มีเงานี่นา สงสัยยัยนี่ต้องมีปัญหาทางสายตาแน่ๆ
"นี่เมื่อคืนได้ยินข่าวไหม....ที่แถวนี้มีผู้หญิงถูกฆ่า เพราะมีปัญหากับพวกขาใหญ่โต๊ะบอล ยังเป็นนักเรียนอยู่เลย น่าสงสารเนอะ "ชายหนุ่มทรุดตัวลงนั่งข้างเพื่อนสาวแล้วหยิบขวดน้ำออกมาดื่มแล้วใช้ผ้าขนหนูเช็ดเหงื่อตามใบหน้าและลำแขน
"ข่าวอะไรพี่ ไม่เห็นรู้เรื่องเลย อยากรู้อ่ะ เล่าให้ฟังหน่อย" เสียงผู้หญิงที่มาด้วยกันดูกระตือรือร้นให่ฝ่ายชายเล่า
"ก็เมื่อคืนตอนสามทุ่ม มีน้องผู้หญิงขี่มอเตอร์ไซด์มาบ้านคงอยู่แถวนี้น่ะ คงไม่รู้ตัวหรอกว่ามีรถติดฟิล์มดำทั้งคันแล่นตามประกบ โน่นเห็นถังขยะใบใหม่นั่นไหม ถูกเอามาตั้งแทนใบเก่า เพราะหลังยิงรถน้องผู้หญิงเสียหลักชนถังขยะหลังถูกยิง ขนาดคนแถวนี้รีบเอาส่งโรงพยาบาลแล้วนะ แต่สุดท้ายก็ไม่รอด"
"แล้วมันเกี่ยวกับมาเฟียโต๊ะบอลยังไงล่ะพี่" เธอยังสงสัย
"น้องคนนี้เป็นเหมือนตัวกลางคอยรับแทงบอลจากเพื่อนๆผู้ชายและทางเน็ต เห็นตำรวจบอกว่ามีพิรุธเด็กมัธยมเองแต่มีเงินหมุนเวียนในบัญชีเข้าออกร่วมๆล้าน แปลกไหมล่ะ"
"เสียดายแทนพ่อแม่เนอะ ตายตั้งแต่อายุยังน้อย ไม่น่าเลย...อนาคตยังอีกยาวไกล"
....ฯลฯ.....
อิงอิงไม่ได้สนใจฟังบทสนทนาของทั้งคู่ต่อจากนั้นเพราะภาพเหตุการณ์ทั้งหมดฉายวนในสมองซ้ำไปซ้ำมา...ใช่เธอตายแล้ว...ตายเพราะฝีมือคนในแกงค์ที่หักหลังกันเองแล้วมีปัญหาพ่วงมาถึงเงินที่เข้าออกในบัญชีเธอ
ไม่น่าเลย...ไม่น่าเลย....อิงอิงเข่าอ่อนทรุดตัวลงกันพื้นร้องไห้เอามือปิดหน้าร้องไห้ด้วยความเสียใจอย่างที่สุด
ใบปริญญาที่คาดหวังว่าจะได้เร็วกว่าชาวบ้าน...บัดนี้ไม่มีความหมายอะไรแล้ว
ถ้าหากว่าเธอไม่เรียนPre degreeและตั้งใจฟังอาจารย์สอนในห้อง..ไม่รีบร้อนจนเกินไป..ในเรื่องความละอายและเกรงกลัวต่อบาป เธอคงไม่เข้ามายุ่งเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้ และไม่เจอจุดจบในวัยที่ไม่สมควร
ไม่ทันแล้วล่ะ....อิงอิงเงยหน้ามองหนุ่มสาวคู่นั้นพร้อมลูกหมาเดินจากไป ส่วนตัวเธอก็รอคอยผลแห่งกรรมที่ทำตอนมีชีวิตอยู่ย้อนรอยตอบสนอง....โดยที่ยังไปไหนไม่ได้
อิงอิงหันไปมองถังขยะใบใหม่ด้วยสายตาเจ็บปวด....เธอรู้แล้วว่าทำไมมันถึงถูกเปลี่ยน ถ้าก่อนหน้านี้เธอคิดได้ก่อนหลวมตัวไปพัวพันกับทางแห่งอบายด้วยความหลงในเงินตรา และความคิดว่าที่มุ่งมั่นจะสร้างอนาคตทีมั่นคงก่อนวัยอันควร ใส่ใจกับการเป็นคนดี และลูกที่ดีของพ่อแม่ เรื่องทุกอย่างคงไม่พบจุดจบเช่นในวันนี้
..........................................................
............................................................
>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>
เรื่องสั้น...อนาคต
ขณะกำลังมองฟ้ากว้างเมฆไหลเอื่อยๆพร้อมค่อยๆทยอยเปลี่ยนรูปทรงให้คนข้างล่างช่างฝันได้จินตนาการ...ช้าง...ราชรถ...เปลือกหอย....พี่หมีตัวใหญ่....มอม้าคึกคัก อิงอิงใช้สองมือวางเหนือหัวล้มตัวลงนอนบนสนามหญ้าสีเขียวภายในบริเวณหมู่บ้าน ลมพัดผ่านเสื้อยืดตัวเก่งสะบัดพลิ้วไหวแนบเนื้อสาวจนต้องใช้มือดึงจัดเสื้อให้เข้าที่เข้าทาง อิงอิงสูดกลิ่นลมชมกลิ่นสดชื่นของหญ้าหอมที่สวนสาธารณะของหมู่บ้านอย่างมีความสุข
เมื่อฤดูกาลสอบสิ้นสุด อะไรๆก็ดูดีไปหมด แม้แต่ถังขยะก็ดูจะสวยงามกว่าทุกวัน เรื่องจริงนะ ก็เมื่อวานยังเห็นเป็นสีเขียวใบใหญ่เทอะทะ แตกปรุเป็นทางตามความเก่าและคงผ่านสภาพการใช้งานมานานอย่างยับเยิน ขาดความทนุถนอม แต่วันนี้กลับกลายเป็นมีถังใสสีขาว รูปร่างเพรียวทันสมัย(และคาดว่าใส่ขยะได้น้อยลง)เก๋ไก๋จนนึกอยากขนเอาไปเป็นเฟอร์นิเจอร์ในบ้าน หืม แค่คิดเล่นๆนะ ไม่เอาหรอกสมบัติสาธารณะ ยังไม่อยากตกนรกกลายเป็นเปรต หึหึ
เมื่ออาทิตย์ก่อนเธอยังเครียดหัวแทบระเบิดกับการนั่งจดจำมาตรากฏหมายและตะลุยทำข้อสอบเก่าพิชิตโจทย์จนสมองชาและเบลอไปหมด ถามว่าได้อะไรจากความพยายามอย่างหนักบ้าง ในแง่หนึ่งมันอาจทำให้ได้ทำความเข้าใจเนื้อหาแบบลึกซึ้งเพราะผ่านสมองหลายรอบ แต่ก็คงดีกว่านี้ถ้าไม่ใช่เพียงแค่ก้าวออกมาจากห้องสอบเธอก็ลืมทุกอย่างแทบจะทันที ต่อจากนั้นสักเดือนสองเดือนข้อมูลความทรงจำต่างๆที่ทุ่มเทอ่าน ทำความเข้าใจ และจดจำก็แทบจะละลายหายไปพร้อมกาลเวลา จนเมื่อหยิบหนังสือหรือข้อสอบมาดูอีกครั้งก็ต้องตกใจว่าเอ๋....เราเคยเรียน เคยผ่านวิชานี้มาแล้วเหรอคุ้นๆนะ แต่ไม่มีอะไรเหลือติดอยู่ในหัวเลย
อิงอิงก็เหมือนเด็กวัยรุ่นส่วนใหญ่ ใช้ชีวิตมีสีสันกับเพื่อนๆ เธอไม่คิดจะสอบเข้ามหาวิทยาลัยตั้งแต่แรก เพราะนอกจากจะเสียค่าสมัครซ้ำซ้อนหลายทางในวงเงินที่ค่อนข้างสูง เธอก็ไม่มีปัญญานำเสนอตัวเองผ่านPortfolioให้ทางมหาวิทยาลัยสนใจหรอก สู้เอาเวลามานั่งเก็บหน่วยกิตของรามคำแหง ที่เพื่อนตัวดีชี้ชวนให้มาสมัครไว้แบบPre degreeดีกว่า เริ่มลงไว้ตั้งแต่ม.4 ตอนนี้เก็บได้เก้าสิบกว่าหน่วยกิต ก็ถือว่าฝีมือไม่เลวสำหรับเด็กมัธยมหัดเรียนมหาวิทยาลัย
ถามว่าชอบไหมกับนิติศาสตร์และสาขาวิชาที่เลือกลงทะเบียนเรียน มันก็ก้ำกึ่งตอบยากเหมือนกัน เธอรู้ตัวแค่ว่าถนัดวิชาท่องจำมากกว่าวิชาคำนวณ และที่ผ่านมารายวิชาเกี่ยวกับสังคมเธอก็คว้าเกรดสี่ได้มาโดยตลอด เมื่อเพื่อนชวนลงเรียนกฏหมายจึงใช้เวลาไม่กี่วันในการตรึกตรองและตัดสินใจ
ใครๆก็มองว่าเรียนกฏหมายแล้วจบไปต้องต่อเนติฯ สอบตั๋วทนายความ ทำงานในสายกฏหมายแล้วลองสอบผู้พิพากษาดู สำหรับเธอ...การเรียนกฏหมายที่รามฯเป็นใบเบิกทางเพื่อปริญญาตรีที่เร็วกว่าคนอื่น การจบปริญญาตรีเหมือนหน้าที่ขั้นพื้นฐานเพื่อพ่อแม่ และสังคมกำหนดว่า"ต้องมี ส่วนจะได้ใช้จริงหรือเปล่าก็อีกเรื่องหนึ่ง
อิงอิงมีความสนใจเรื่องการทำอาหารเป็นพิเศษ เธออยากเปิดร้านอาหารตามสั่งเล็กๆสักร้านเป็นของตัวเอง เอ...จะว่าไปก็ไม่เคยเล่าความฝันให้ใครฟังนะ พ่อกับแม่ซึ่งทำงานรับราชการทั้งคู่อยากให้ลูกทำงานประจำมากกว่าเพราะมองว่ามีความมั่นคง มีหลักประกันในชีวิต แต่ในมุมมองของอิงอิง งานทุกอย่างมีความเสี่ยง มันขึ้นอยู่กับว่าเราจะเชี่ยวชาญในงานที่ทำแค่ไหน มองจุดแข็ง จุดอ่อนของตัวเองออกไหมและสามารถพาตัวเองไปสู่จุดการสร้างรายได้โดยไม่ฝืนหรือเครียดเกินไปได้หรือเปล่า
อิงอิงเกลียดวิถีชีวิตมนุษย์เงินเดือน ต้องตื่นแต่เช้าฝ่าการจราจรที่คับคั่ง สูดมลพิษแลกชีวิตกับเงินเดือนซึ่งพอหักค่าใช้จ่ายนู่นนี่นั่น ก็แทบจะไม่เหลือ ดีไม่ดีก็ต้องกู้ต้องเป็นหนี้แบบพ่อแม่ของเธอผ่อนหัวโตตลอดชาติ ชีวิตมันน่าจะมีทางเลือกมากกว่านั้นนะ
หมดเวลาฝันเข้าสู่โหมดความเป็นจริง อิงอิงลุกขึ้นปัดเศษดินและเศษหญ้าที่ติดตามตัวออก เสียงโทรศัพท์สั่นตรืดในกระเป๋ากางเกงทำให้อิงอิงต้องหยิบมันออกมาดู
คืนนี้สามทุ่มที่เดิม...มิสเตอร์เอ็ม นี่เธอยังไม่ได้เล่าเรื่องที่มาของเงินเพิ่มพิเศษที่ทำโดยไม่บอกให้พ่อกับแม่รู้เลยใช่ไหม
อืม...บางเรื่องถ้ารู้แล้วไม่สบายใจ ก็อย่าให้รู้จะดีกว่า
>>>>>>>>
อิงอิงตัดสินใจลุกขึ้นเตรียมก้าวออกจากบริเวณสวนสาธารณะ แต่เหมือนมีกำแพงที่มองไม่เห็นกั้นขวาง เธอขมวดคิ้วยุ่งด้วยความประหลาดใจ นี่มันเกิดอะไรขึ้น เหมือนมีบางอย่างที่เธอมองไม่เห็นกักเธอไว้ที่นี่ว่าแต่มันคืออะไรล่ะ
"โฮ่งๆๆๆๆๆ" เสียงลูกหมาตัวเล็กของหญิงสาวคนหนึ่งที่มาพักผ่อนบริเวณสวนสาธารณะห่างจากที่อิงอิงนั่งไม่ไกลนัก หันมาทางเธอส่งเสียงเห่าอย่างบ้าคลั่ง จะเห่าอะไรนักนะ ไอ้หมาบ้า
"หืม...โตโต้เป็นอะไรน่ะเห่าไม่ยอมหยุดเลย" ชายหนุ่มใส่เสื้อกล้าม กางเกงขาสั้น รองเท้าผ้าใบเหงื่อท่วมตัว คงเพิ่งวิ่งออกกำลังกายเสร็จถามเฟย์แฟนสาวอย่างแปลกใจ
"ไม่รู้เหมือนกัน ก็ไม่เห็นจะมีใครอยุ่แถวนี้นี่นา"คำตอบของผู้หญิงสวมเสื้อยืดกางเกงขาสั้นที่ขณะนี้กำลังลูบหัวปลอบเจ้าหมาตัวเล็กให้หยุดเห่า ทำเอาฉันตะลึง รื้อข้าวของในกระเป๋าหากระจก...ก็มีเงานี่นา สงสัยยัยนี่ต้องมีปัญหาทางสายตาแน่ๆ
"นี่เมื่อคืนได้ยินข่าวไหม....ที่แถวนี้มีผู้หญิงถูกฆ่า เพราะมีปัญหากับพวกขาใหญ่โต๊ะบอล ยังเป็นนักเรียนอยู่เลย น่าสงสารเนอะ "ชายหนุ่มทรุดตัวลงนั่งข้างเพื่อนสาวแล้วหยิบขวดน้ำออกมาดื่มแล้วใช้ผ้าขนหนูเช็ดเหงื่อตามใบหน้าและลำแขน
"ข่าวอะไรพี่ ไม่เห็นรู้เรื่องเลย อยากรู้อ่ะ เล่าให้ฟังหน่อย" เสียงผู้หญิงที่มาด้วยกันดูกระตือรือร้นให่ฝ่ายชายเล่า
"ก็เมื่อคืนตอนสามทุ่ม มีน้องผู้หญิงขี่มอเตอร์ไซด์มาบ้านคงอยู่แถวนี้น่ะ คงไม่รู้ตัวหรอกว่ามีรถติดฟิล์มดำทั้งคันแล่นตามประกบ โน่นเห็นถังขยะใบใหม่นั่นไหม ถูกเอามาตั้งแทนใบเก่า เพราะหลังยิงรถน้องผู้หญิงเสียหลักชนถังขยะหลังถูกยิง ขนาดคนแถวนี้รีบเอาส่งโรงพยาบาลแล้วนะ แต่สุดท้ายก็ไม่รอด"
"แล้วมันเกี่ยวกับมาเฟียโต๊ะบอลยังไงล่ะพี่" เธอยังสงสัย
"น้องคนนี้เป็นเหมือนตัวกลางคอยรับแทงบอลจากเพื่อนๆผู้ชายและทางเน็ต เห็นตำรวจบอกว่ามีพิรุธเด็กมัธยมเองแต่มีเงินหมุนเวียนในบัญชีเข้าออกร่วมๆล้าน แปลกไหมล่ะ"
"เสียดายแทนพ่อแม่เนอะ ตายตั้งแต่อายุยังน้อย ไม่น่าเลย...อนาคตยังอีกยาวไกล"
....ฯลฯ.....
อิงอิงไม่ได้สนใจฟังบทสนทนาของทั้งคู่ต่อจากนั้นเพราะภาพเหตุการณ์ทั้งหมดฉายวนในสมองซ้ำไปซ้ำมา...ใช่เธอตายแล้ว...ตายเพราะฝีมือคนในแกงค์ที่หักหลังกันเองแล้วมีปัญหาพ่วงมาถึงเงินที่เข้าออกในบัญชีเธอ
ไม่น่าเลย...ไม่น่าเลย....อิงอิงเข่าอ่อนทรุดตัวลงกันพื้นร้องไห้เอามือปิดหน้าร้องไห้ด้วยความเสียใจอย่างที่สุด
ใบปริญญาที่คาดหวังว่าจะได้เร็วกว่าชาวบ้าน...บัดนี้ไม่มีความหมายอะไรแล้ว
ถ้าหากว่าเธอไม่เรียนPre degreeและตั้งใจฟังอาจารย์สอนในห้อง..ไม่รีบร้อนจนเกินไป..ในเรื่องความละอายและเกรงกลัวต่อบาป เธอคงไม่เข้ามายุ่งเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้ และไม่เจอจุดจบในวัยที่ไม่สมควร
ไม่ทันแล้วล่ะ....อิงอิงเงยหน้ามองหนุ่มสาวคู่นั้นพร้อมลูกหมาเดินจากไป ส่วนตัวเธอก็รอคอยผลแห่งกรรมที่ทำตอนมีชีวิตอยู่ย้อนรอยตอบสนอง....โดยที่ยังไปไหนไม่ได้
อิงอิงหันไปมองถังขยะใบใหม่ด้วยสายตาเจ็บปวด....เธอรู้แล้วว่าทำไมมันถึงถูกเปลี่ยน ถ้าก่อนหน้านี้เธอคิดได้ก่อนหลวมตัวไปพัวพันกับทางแห่งอบายด้วยความหลงในเงินตรา และความคิดว่าที่มุ่งมั่นจะสร้างอนาคตทีมั่นคงก่อนวัยอันควร ใส่ใจกับการเป็นคนดี และลูกที่ดีของพ่อแม่ เรื่องทุกอย่างคงไม่พบจุดจบเช่นในวันนี้
..........................................................
............................................................