"พระเจ้าาานี้มันเยี่ยมจริงๆเป็น5ปีที่คุ้มค่าจริงๆเราจะเชื่อมโลกอีกโลกนึงผ่านเจ้าสิ่งนี้หรอ มันคืออะไร" เสียงของบิล คาทอฟ CEOของบริษัทไบโอครีเอทีฟ ชายรูปร่างอ้วนผิวคล้ำใส่ชุดสูทที่แสนแพงได้พูดขึ้น ณห้องวิจัยใต้ดิน เขากำลังตกตะลึงกับวัตถุทรงกลมที่ถูกครอบโดยจานหมุนขนาดยักษ์
"มันคือ Parallel Gate ทำงานโดยใช้กระแสไฟฟ้าที่มากพอที่จะทำให้จานหมุนนี้หมุนด้วยความเร็วเหนือแสงความร้อนที่เกิดจากการเสียดสีของการหมุนกับอากาศจะถูกส่งไปเป็นเชื้อเพลิงให้กับเครื่องดูดพลังงานและเจ้าเครื่องนี้ก็จะยิงไปที่วัตถุทรงกลมทำให้เกิดช่องมิติและคงสภาพอยู่หากมีความเร็วของการหมุนที่คงที่ โดยความเร็วของการหมุนจะส่งผลต่อโลกอีกโลกที่อยู่ด้านหลังช่องมิตินี้" แซมหัวหน้าทีมวิจัยตอบกลับบิลที่กำลังตกตะลึงกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้าเขาบิลทำหน้างงๆเมื่อฟังในสิ่งที่แซมบอก
"ดร.ฮิล จะเป็นคนอธิบายให้ท่านฟัง" แซมชี้นิ้วไปที่ ดร.ฮิล มาร์คอม นักฟิสิกส์ของทีมวิจัย ชายผมยุ่งสีบลอนด์ลักษณะเด็กเนิร์ดๆในชุดเชิตสีขาว
"วัตถุทรงกลมนั้นมันเปรียบเหมือนโลกนั่นละการหมุนของจานเป็นการสร้างแรงสองแรงให้กับทรงกลม คือแรงผลักที่มีปฏิกริยานิวเคลียร์ที่อยู่ใจกลางของทรงกลมและแรงดูดเข้าสู่จุดศูนย์กลาง นอกจากนี้ความร้อนที่เกิดจากการหมุนจะถูกส่งไปยังเครื่องดูดพลังงานซึ่งเจ้าเครื่องนี้จะทำการยิงเพื่อดูดพลังงานนิวเคลียร์ของวัตถุทรงกลมจนหมดทำให้แรงผลักที่ออกไม่สามารถต้านแรงที่ดูดเข้าสู่จุดศูนย์กลางได้ทำให้เกิดการยุบตัว การยุบตัวนั้นทำให้เกิดช่องมิติที่ซ้อนกันของกาลเวลาทำให้โลกที่อยู่ข้างหลังช่องนั้นเป็นอีกโลกนึงที่มีความต่างไม่มากก็น้อยกับโลกปัจจุบันของเรา โดยความรุนแรงของการยุบตัวจนทำให้เกิดการซ้อนกันของกาลเวลานั้นก็ขึ้นอยู่กับความเร็วของจานหมุนยิ่งมีความเร็วมากการทับซ้อนของเวลาก็จะยิ่งมีความซับซ้อนขึ้น"
ดร.ฮิลอธิบายการทำงานของParallel Gate ให้บิลฟัง
"หมายความว่าถ้าความเร็วในการหมุนมีความเร็วที่ต่างจากความเร็วแสงไม่มากนักโลกข้างหลังช่องมิตินี้ก็จะไม่ต่างกับโลกที่เราอยู่มากเท่าไรสินะ" บิลถามกลับไปที่ดร.ฮิล
"ใช่ครับ" ฮิลตอบกลับไปยังบิล
"งั้นถ้าเราเร่งความเร็วให้เร็วที่สุดโลกข้างหลังช่องมิตินี้ก็จะยิ่งพัฒนาไปไกลกว่าปัจจุบันสินะ" บิลพูดด้วยสายตาที่เปี่ยมไปด้วยความโลภ
"นั้นคือปํญหาของเราเพียงอย่างเดียวครับไม่มีอะไรการันตีได้ว่ายิ่งความเร็วมากโลกก็จะพัฒนามากขึ้นตามเพราะโลกข้างหลังช่องมิตินี้คือโลกคู่ขนาน เราไม่รู้ว่าโลกใบนั้นมันดำเนินมายังไงมันอาจจะเป็นโลกที่ไม่เหลืออะไรแล้วก็ได้หรือมันอาจจะเป็นโลกที่พัฒนาแบบที่เราไม่เคยเห็นมาก่อนเลย เราอาจจะต้องเข้าออกช่องมิติไปจนกว่าจะเจอโลกที่พัฒนากว่าโลกของเราเรื่องนี้มันขึ้นอยู่กับดวง" ฮิลตอบไปที่บิลด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความกังวลถึงเรื่องปัญหาที่เขาได้บอกไป
"การลงทุนทุกการลงทุนย่อมมีความเสี่ยงคุณฮิลและผมก็จะเสี่ยงกับมันยังไงซะถ้าโลกใบนั้นมันไม่ใช่โลกที่พัฒนาในแบบที่เราต้องการก็แค่ออกมาแล้วเริ่มขั้นตอนการสร้างช่องมิติใหม่แค่นั้นเอง เอาล่ะฉันชักอยากจะเห็นแล้วสิว่าโลกที่อยู่ข้างหลังช่องมิตินั้นมันจะเป็นโลกแบบไหนกัน" บิลพูดด้วยน้ำเสียงที่สบายๆและสีหน้าที่ไร้ซึ้งความกังวลใดๆ
"ถ้าท่านพูดแบบนั้น....ก็ได้ครับเราจะทำการเริ่มขั้นตอนในทันที่แต่ก่อนอื่นเราคงต้องจัดทีมเพื่อสำรวจก่อน" แซมตอบกลับไปที่บิลที่สีหน้าเต็มไปด้วยความปลื้มปิติกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้าของเขา
"ไปสิ รออะไรเล่าให้ไวเลยฉันอดทนรอแทบจะไม่ไหวอยู่แล้ว" บิลรีบตอบกลับไปที่แซมทันทีแล้วเดินไปนั้งที่โซฟาเพื่อรอทีมสำรวจ 2ชมผ่านไปแซมกลับมาพร้อมกับทีมสำรวจที่ประกอบไปด้วย
1.แซม วิลสันต์ หัวหน้าทีมวิจัยโปรเจค Parallel และหัวหน้านักวิทยาศาสตร์
2.แอนนา พรอมส์ คู่หมั้นของแซม วิลสันต์และผู้ช่วยของ แซม
3.ดร.ฮิล มาร์คอม หัวหน้านักฟิสิกส์
4.คาคุระ โชอิจิ นักชีววิทยา
5.เจมส์ เคมเวล นักการตลาด
6.เอมิลี่ สตาร์ลิ่ง นักพฤกษศาสตร์
7.อีวาน มาเชล หมอ
8.โลแกน มาร์เออ อดีตหน่วยรบพิเศษ,หัวหน้าทหารรับจ้าง
9.แองเจิ้ล มาเคที่ ทหารรับจ้าง
10.เดเนียล บิสช๊อป ทหารรับจ้าง
11.เคน เมลโล่ อดีตหน่วยรบพิเศษ,ทหารรับจ้าง
12.แม็ค แชมเบล อดีตหน่วยรบพิเศษ,ทหารรับจ้าง
13.เควิน แรนท์ อดีตหน่วยรบพิเศษ,ทหารรับจ้าง
"ทั้งหมดนี้คือทีมสำรวจที่จะเข้าไปในช่องมิติอาจมีการออกเปลี่ยนแปลงสมาชิกไปตามโลกที่เปลี่ยนไป นี้เป็นชุดแรกที่จะเข้าไปสำรวจครับ" แซมยื่นเอกสารรายชื่อให้กับบิลและเดินกลับไปรวมกลุ่มกับทีมที่ยืนอยู่ต่อหน้าเขา
"ประวัติดีเยี่ยมโดยเฉพาะพวกทหารนี้พวกคุณฆ่าคนไปเท่าไรแล้วเนี้ย" บิลพูดหยอกๆและมองไปที่เหล่าทหารรับจ้าง
"ไม่รู้สิมากพอๆกันกับเงินที่คุณมีละมั่ง" โลแกน หนุ่มร่างใหญ่บึกบึนสูง190cmไว้เคลาเข้มในชุดทหารสีดำ ได้ตอบกลับไปด้วยสีหน้าที่กวนๆพร้อมกับรอยยิ้มที่มุมปาก ตามมาด้วยเสียงหัวเราะของทหารรับจ้างคนอื่นๆ
"โว้ววน่ากลัวจัง โอเคๆเอาล่ะพูดกันมามากละผมอนุมัติให้พวกคุณเป็นทีมแรกเข้าไปสำรวจผมอยากเห็นจะแย่แล้วไอโลกคู่ขนานอะไรนั้นพร้อมเมื่อไรเริ่มได้เลย" บิลพูดพร้อมกับวางเอกสารลงบนโต๊ะ
แซมสั่งให้เจ้าหน้าที่ควบคุมเปิดเครื่องParallel Gate ด้วยความเร็วที่สูงสุดตามที่บิลได้บอกไว้ จานหมุนหมุนด้วยความเร็วที่เหนือกว่าแสงหลายเท่าตัว ในขณะเดียวกันก็เกิดแรงผลักและแรงดูดในวัตถุกลม ความร้อนที่เกิดจากการหมุนส่งพลังงานไปยังเครื่องดูดพลังงานจนเต็มและพร้อมยิง
"เครื่องดูดพลังงานพร้อมยิงแล้วครับ" เสียงเจ้าหน้าที่ควบคุมParallel Gate ตะโกนบอกไปยังแซม วิลสันต์
แซมถอนหายใจและสั่งให้เจ้าหน้าที่ยิงเครื่องดูดพลังงานไปยังวัตถุกลม
"เริ่มยิงใน 3 2 1 " เสียงเจ้าหน้าทีนับถอยหลังสู่การยิง
"ปัง!!!!" เสียงเครื่องดูดยิงพลังงานที่เพื่อดูดพลังงานนิวเคลียร์ของวัตถุทรงกลม วัตถุทรงกลมหลังโดนยิงจุดศูนย์กลางของทรงกลมเริ่มขยับและเริ่มยุบตัวลงไปและค่อยๆขยายออกอย่างรวดเร็วกลายเป็นช่องมิติสีดำสนิท เจ้าหน้าที่ควบคุมปรับความเร็วของจานหมุนให้อยู่ในระดับคงที่เพื่อที่จะให้ทีมสำรวจได้เข้าไปด้านในนั้น บิลและทุกคนในห้องวิจัยต่างก็ตกตะลึงกับสิ่งที่พวกเขาพึ่งจะได้เห็น
"มัน..มัน..มันสุดยอดมากๆยุคใหม่เทคโนโลยีใหม่ๆโลกใบใหม่ กำลังรอเราอยู่จะรออะไรอยู่ล่ะพวกคุณเข้าไปสำรวจเลย" เสียงของบิลที่พูดด้วยน้ำเสียงที่ดีใจสุดขีด
แซมและทีมสำรวจก็ค่อยๆเดินเข้าไปในช่องสีดำสนิทนั้นกันทีละคนๆ ถึงภายนอกช่องมิตินั้นจะเป็นสีดำแต่พอเข้าไปแล้ว รอบๆตัวกลับเป็นภาพสีเทาที่บิดเบี้ยวๆอยู่รอบๆตัวพวกเขาและมีมิติที่เหมือนกระจกที่แตกและมีแสงสีขาวตรงรอยแตกนั่นอยู่ตรงหน้าพวกเขาไม่ไกลนัก
"นี้คงจะเป็นมิติของเวลาสินะ" ฮิลกล่าวขึ้นหลังจากที่ได้ก้าวเข้ามาในช่องมิติ
"หมายความว่ายังไง" โชอิจิ หนุ่มหล่อสไตล์เอเชียส่วมแว่นสูง176cmถามกลับไปยังฮิล
"มันเป็นเหมือนช่องทางเชื่อมระหว่างโลกของเรากับโลกอีกโลกนึง และแสงสีขาวที่ออกมาจากรอยแตกนั่นก็น่าจะเป็นทางออกไปสู่โลกคู่ขนาน"ฮิลตอบกลับไปยังโชอิจิที่กำลังทำหน้าสงสัย
"ผมคิดว่าเราควรรีบออกไปจากที่ตรงนี้กันดีกว่ามีสิ่งที่น่าสนใจกว่านั้นรอเราอยู่หลังแสงสีขาวนั่น" แซมบอกกับทุกคนและเดินหน้าไปยังแสงสีขาว เมื่อทุกคนออกจากแสงสีขาวนั่นมาก็ต้องตกตะลึงกับสิ่งที่อยุ่ตรงหน้าพวกเขามันเป็นป่าแต่มันเป็นป่าที่ไม่มีใครเคยเห็นมาก่อนเลยทั้งต้นไม้ ดอกไม้ หญ้า สภาพแวดล้อมรอบๆตัวพวกเขามันไม่มีสิ่งไหนเลยที่พวกเขาคุ้นเคยจากโลกที่พวกเขามา
"ต้นไม้และดอกไม้พวกนี้ฉันไม่เคยเห็นมาก่อนเลยในชีวิต" เอมิลี่ หญิงสาวร่างเล็ก หน้าตาน่ารัก สูง160cmพูดขึ้นและมองไปยังต้นไม้ประหลาดจำนวนมาก ที่มีลำต้นสีดำสนิทและใบไม้สีเทารากและกิ่งก้านมหึมาสีดำของพวกมันเชื่อมติดกันทุกต้นเป็นแนวยาว และดอกไม้ประหลาดที่มีกลีบดอกสีเขียวและขนอ่อนๆขึ้นอยู่เล็กน้อยเกสรสีแดงเข้มราวกับสีของเลือดขึ้นอยู่กระจัดกระจายกันรอบๆตัวพวกเขาบนพื้นที่เปียกชุ่ม
"ฉันว่าไม่มีใครเคยเห็นทั้งนั้นล่ะนี้เรายังอยู่ในที่ที่เรียกว่าโลกรึเปล่าเนี้ย" เคน ทหารหนุ่มหน้าตาดีสูง180cmในชุดทหารสีดำ ได้พูดขึ้น
"มันคือโลกนั้นละแต่มันเป็นโลกที่การเกิดของมันน่าจะเป็นคนละแบบกับโลกที่เรามา" แอนนา สาวที่ดูเป็นผู้ใหญ่รวบผมสูง170cm กล่าวขึ้นหลังจากได้ยินเสียงที่เคนถามขึ้นมา
"เกิดคนละแบบงั้นหรอไหนว่ามันเป็นโลกคู่ขนานไงจะเกิดคนละแบบกับเราได้ไง" แองเจิ้ล ทหารหญิงใจกล้า ถามขึ้นแบบหวนๆ
"โลกคู่ขนานมันคือโลกอีกโลกนึงที่ดำเนินไปพร้อมๆกับเราแต่โลกใบนั้นอาจจะมีบางสิ่งที่ต่างจากโลกของเราไม่มากก็น้อยอย่างเช่น เพราะคุณเลือกที่จะมาเป็นทหารรับจ้างคุณก็เลยได้มาร่วมเดินทางกับเราในวันนี้แต่ถ้าหากคุณไม่ได้เลือกมาเป็นทหารในวันนั้นคุณก็จะไม่ได้มาร่วมกับเราวันนี้ทางเลือกที่คุณไม่ได้เลือกนั่นแหละคือโลกคู่ขนานที่จะเกิดขึ้นอีกโลกนึงซึ่งโลกใบนั้นก็จะมีคุณที่ไม่ได้เป็นทหารอยู่นั้นเอง"แอนนา อธิบายให้แองเจิ้ลฟัง
"แล้วมันเกี่ยวกันยังไงกับไอการเกิดของโลกละ" เดเนียล หทารหนุ่มหล่อสไตล์อินเดียถามขึ้นด้วยหน้าที่งุนงง
"ก่อนเข้ามาในนี้คุณคงเห็นจานหมุนที่หมุนด้วยความเร็วเหนือแสงแล้วสินะนั้นเป็นการหมุนเพื่อสร้างทางเลือกต่างๆที่แตกต่างกันออกไปเหมือนกับที่คุณเลือกเป็นทหารหรือไม่เป็นทหารนั่นแหละ แน่นอนว่าการเกิดบิกแบงก็เหมือนกันการระเบิดของบิกแบงของจักวาลนี้คงจะเป็นการระเบิดอีกรูปแบบนึงจึงเกิดเป็นโลกคู่ขนานที่มีการเกิดของจักวาลที่ต่างกัน " แอนนาตอบ
"แต่ฉันว่ามันจะเกิดยังไงก็ช่างเถอะดูรอบๆตัวเราสิมีแต่สิ่งแปลกใหม่ทั้งนั้นเลยนี้อาจจะเป็นโลกที่พัฒนาแบบที่โลกปัจจุบันของเราต้องใช้เวลาเป็นล้านๆปีกว่าจะเป็นแบบนี้ก็ได้" เจมส์ หนุ่มนักพูดรูปร่างสมส่วน กำลังพูดด้วยน้ำเสียงที่ดีใจสุดขีด
"ถึงนี้จะเป็นโลกที่มีช่วงเวลาที่เท่ากันกับเราแต่ถ้าเป็นแบบที่นายบอกจริงๆถ้ามีสิ่งมีชีวิตที่ทรงภูมิปัญญาขนาดนั้นเราอาจจะเจรจากันไม่รู้เรื่องก็ได้" แอนนาบอกกับเจมส์ ที่กำลังดีใจอยู่
"ผมว่าเรากลับไปที่โลกปัจจุบันเราก่อนดีกว่า เรายังไม่รู้ว่าที่นี้มีอะไรบ้างบางทีมันอาจจะไม่มีอะไรเลยก็ได้นะผมว่าเราเก็บตัวอย่างต้นไม้และดอกไม้พวกนี้ไปวิจัยกันก่อนแล้วค่อยกลับกันมาอีกทีจะดีกว่านะ" อีวาน หมอหน้าเข้มสุดหล่อ พูดขึ้นกลางวงสนทนา
"ผมเห็นด้วยนะทำตามที่หมออีวานบอกกันเถอะ" แซมกล่าวขึ้น เอมิลี่ แอนนา และโชอิจิได้นำชิ้นส่วนต่างๆของต้นไม้ ดอกไม้ประหลาดเหล่านี้ใส่ลงในโหล่แก้วเพื่อจะนำกลับไปวิจัย
"เฮ้!!!!!ทุกคนดูนั้นสิแย่แล้ว" แม๊ค หทารหนุ่มหน้าเด็ก สูง184cm ตะโกนขึ้นพร้อมชี้ไปยังรอยแตกของมิติที่พวกเขาออกมา สิ่งที่ทุกคนหันไปมองและเห็นก็คือรอยแตกนั้นมันค่อยๆยุบหายไปที่ละนิดๆรอยที่ยุบลงไปเผยให้เห็นถึงวิวป่าด้านหลังชัดขึ้นทีละน้อยๆ
"บ้าาจริง" เควิน ทหารหนุ่มร่างเล็กสูง174cmพูดขึ้นและเขากำลังวิ่งด้วยความเร็วทั้งหมดทีเขามีไปที่รอยแตก แต่รอยแตกก็ค่อยๆยุบและหายไปโดยสมบูรณ์ต่อหน้าพวกเขาทั้ง13คน
"เห้ยๆๆอย่ามาล้อเล่นนะรอยแตกนั้นมันหายไปแบบนี้ก็หมายความว่า เราติดอยู่ในโลกประหลาดนี้งั้นหรอ" เจมส์กล่าวขึ้นพร้อมสีหน้าที่เปลี่ยนจากความดีใจเป็นสีหน้าที่ซี๊ดเซียว
ทุกคนในตอนนี้อยู่ในสภาวะที่ตกใจกับเหตุการณ์ที่พึ่งจะเกิดขึ้น โลแกนสั่งให้ลูกทีมกระจายกันไปสำรวจพื้นที่รอบๆ
"ทุกคนใจเย็นๆพวกผมมาด้วยเพื่อรับกับสถาณการณ์ทีคับขันแบบนี้อยู่แล้วผมสั่งลูกน้องไปสำรวจพื้นที่รอบๆแล้วตอนนี้ให้ทุกคนมารวมตัวกันก่อนและค่อยว่ากันอีกที" โลแกนสั่งทุกคนให้มารวมกัน
ลูกทีมของโลแกนเดินกลับมากันทีละคนทุกคนบอกเหมือนกันว่าไม่มีวี่แววของสิ่งมีชีวิต และเคนบอกว่ามีจุดที่เหมาะแก่การตั้งแคมป์อยู่ จากทางที่เขาไปสำรวจมา โลแกนจึงถามกับแซมและฮิลไปว่า
"การเกิดของทางเข้าของช่องมิติมันจะเกิดในตำแหน่งเดิมไหมถ้าหากมีการเปิดประตูมิติอีกครั้ง"
"เรื่องนี้เราเองก็ยังไม่แน่ใจนักเราเหลือเรื่องที่ต้องการทดสอบอยู่ไม่กี่เรื่องแต่บิลเขาอยากจะเห็นการข้ามโลกไปยังโลกคู่ขนานโดยไวที่สุดเราก็เลยไม่ได้ทดสอบเรื่องตำแหน่งการเกิดของช่องมิติ" ฮิลตอบกลับไปยังโลแกน
Parallel มิติมรณะ ตอนที่ 2 มิติโลกคู่ขนาน(1)
"มันคือ Parallel Gate ทำงานโดยใช้กระแสไฟฟ้าที่มากพอที่จะทำให้จานหมุนนี้หมุนด้วยความเร็วเหนือแสงความร้อนที่เกิดจากการเสียดสีของการหมุนกับอากาศจะถูกส่งไปเป็นเชื้อเพลิงให้กับเครื่องดูดพลังงานและเจ้าเครื่องนี้ก็จะยิงไปที่วัตถุทรงกลมทำให้เกิดช่องมิติและคงสภาพอยู่หากมีความเร็วของการหมุนที่คงที่ โดยความเร็วของการหมุนจะส่งผลต่อโลกอีกโลกที่อยู่ด้านหลังช่องมิตินี้" แซมหัวหน้าทีมวิจัยตอบกลับบิลที่กำลังตกตะลึงกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้าเขาบิลทำหน้างงๆเมื่อฟังในสิ่งที่แซมบอก
"ดร.ฮิล จะเป็นคนอธิบายให้ท่านฟัง" แซมชี้นิ้วไปที่ ดร.ฮิล มาร์คอม นักฟิสิกส์ของทีมวิจัย ชายผมยุ่งสีบลอนด์ลักษณะเด็กเนิร์ดๆในชุดเชิตสีขาว
"วัตถุทรงกลมนั้นมันเปรียบเหมือนโลกนั่นละการหมุนของจานเป็นการสร้างแรงสองแรงให้กับทรงกลม คือแรงผลักที่มีปฏิกริยานิวเคลียร์ที่อยู่ใจกลางของทรงกลมและแรงดูดเข้าสู่จุดศูนย์กลาง นอกจากนี้ความร้อนที่เกิดจากการหมุนจะถูกส่งไปยังเครื่องดูดพลังงานซึ่งเจ้าเครื่องนี้จะทำการยิงเพื่อดูดพลังงานนิวเคลียร์ของวัตถุทรงกลมจนหมดทำให้แรงผลักที่ออกไม่สามารถต้านแรงที่ดูดเข้าสู่จุดศูนย์กลางได้ทำให้เกิดการยุบตัว การยุบตัวนั้นทำให้เกิดช่องมิติที่ซ้อนกันของกาลเวลาทำให้โลกที่อยู่ข้างหลังช่องนั้นเป็นอีกโลกนึงที่มีความต่างไม่มากก็น้อยกับโลกปัจจุบันของเรา โดยความรุนแรงของการยุบตัวจนทำให้เกิดการซ้อนกันของกาลเวลานั้นก็ขึ้นอยู่กับความเร็วของจานหมุนยิ่งมีความเร็วมากการทับซ้อนของเวลาก็จะยิ่งมีความซับซ้อนขึ้น"
ดร.ฮิลอธิบายการทำงานของParallel Gate ให้บิลฟัง
"หมายความว่าถ้าความเร็วในการหมุนมีความเร็วที่ต่างจากความเร็วแสงไม่มากนักโลกข้างหลังช่องมิตินี้ก็จะไม่ต่างกับโลกที่เราอยู่มากเท่าไรสินะ" บิลถามกลับไปที่ดร.ฮิล
"ใช่ครับ" ฮิลตอบกลับไปยังบิล
"งั้นถ้าเราเร่งความเร็วให้เร็วที่สุดโลกข้างหลังช่องมิตินี้ก็จะยิ่งพัฒนาไปไกลกว่าปัจจุบันสินะ" บิลพูดด้วยสายตาที่เปี่ยมไปด้วยความโลภ
"นั้นคือปํญหาของเราเพียงอย่างเดียวครับไม่มีอะไรการันตีได้ว่ายิ่งความเร็วมากโลกก็จะพัฒนามากขึ้นตามเพราะโลกข้างหลังช่องมิตินี้คือโลกคู่ขนาน เราไม่รู้ว่าโลกใบนั้นมันดำเนินมายังไงมันอาจจะเป็นโลกที่ไม่เหลืออะไรแล้วก็ได้หรือมันอาจจะเป็นโลกที่พัฒนาแบบที่เราไม่เคยเห็นมาก่อนเลย เราอาจจะต้องเข้าออกช่องมิติไปจนกว่าจะเจอโลกที่พัฒนากว่าโลกของเราเรื่องนี้มันขึ้นอยู่กับดวง" ฮิลตอบไปที่บิลด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความกังวลถึงเรื่องปัญหาที่เขาได้บอกไป
"การลงทุนทุกการลงทุนย่อมมีความเสี่ยงคุณฮิลและผมก็จะเสี่ยงกับมันยังไงซะถ้าโลกใบนั้นมันไม่ใช่โลกที่พัฒนาในแบบที่เราต้องการก็แค่ออกมาแล้วเริ่มขั้นตอนการสร้างช่องมิติใหม่แค่นั้นเอง เอาล่ะฉันชักอยากจะเห็นแล้วสิว่าโลกที่อยู่ข้างหลังช่องมิตินั้นมันจะเป็นโลกแบบไหนกัน" บิลพูดด้วยน้ำเสียงที่สบายๆและสีหน้าที่ไร้ซึ้งความกังวลใดๆ
"ถ้าท่านพูดแบบนั้น....ก็ได้ครับเราจะทำการเริ่มขั้นตอนในทันที่แต่ก่อนอื่นเราคงต้องจัดทีมเพื่อสำรวจก่อน" แซมตอบกลับไปที่บิลที่สีหน้าเต็มไปด้วยความปลื้มปิติกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้าของเขา
"ไปสิ รออะไรเล่าให้ไวเลยฉันอดทนรอแทบจะไม่ไหวอยู่แล้ว" บิลรีบตอบกลับไปที่แซมทันทีแล้วเดินไปนั้งที่โซฟาเพื่อรอทีมสำรวจ 2ชมผ่านไปแซมกลับมาพร้อมกับทีมสำรวจที่ประกอบไปด้วย
1.แซม วิลสันต์ หัวหน้าทีมวิจัยโปรเจค Parallel และหัวหน้านักวิทยาศาสตร์
2.แอนนา พรอมส์ คู่หมั้นของแซม วิลสันต์และผู้ช่วยของ แซม
3.ดร.ฮิล มาร์คอม หัวหน้านักฟิสิกส์
4.คาคุระ โชอิจิ นักชีววิทยา
5.เจมส์ เคมเวล นักการตลาด
6.เอมิลี่ สตาร์ลิ่ง นักพฤกษศาสตร์
7.อีวาน มาเชล หมอ
8.โลแกน มาร์เออ อดีตหน่วยรบพิเศษ,หัวหน้าทหารรับจ้าง
9.แองเจิ้ล มาเคที่ ทหารรับจ้าง
10.เดเนียล บิสช๊อป ทหารรับจ้าง
11.เคน เมลโล่ อดีตหน่วยรบพิเศษ,ทหารรับจ้าง
12.แม็ค แชมเบล อดีตหน่วยรบพิเศษ,ทหารรับจ้าง
13.เควิน แรนท์ อดีตหน่วยรบพิเศษ,ทหารรับจ้าง
"ทั้งหมดนี้คือทีมสำรวจที่จะเข้าไปในช่องมิติอาจมีการออกเปลี่ยนแปลงสมาชิกไปตามโลกที่เปลี่ยนไป นี้เป็นชุดแรกที่จะเข้าไปสำรวจครับ" แซมยื่นเอกสารรายชื่อให้กับบิลและเดินกลับไปรวมกลุ่มกับทีมที่ยืนอยู่ต่อหน้าเขา
"ประวัติดีเยี่ยมโดยเฉพาะพวกทหารนี้พวกคุณฆ่าคนไปเท่าไรแล้วเนี้ย" บิลพูดหยอกๆและมองไปที่เหล่าทหารรับจ้าง
"ไม่รู้สิมากพอๆกันกับเงินที่คุณมีละมั่ง" โลแกน หนุ่มร่างใหญ่บึกบึนสูง190cmไว้เคลาเข้มในชุดทหารสีดำ ได้ตอบกลับไปด้วยสีหน้าที่กวนๆพร้อมกับรอยยิ้มที่มุมปาก ตามมาด้วยเสียงหัวเราะของทหารรับจ้างคนอื่นๆ
"โว้ววน่ากลัวจัง โอเคๆเอาล่ะพูดกันมามากละผมอนุมัติให้พวกคุณเป็นทีมแรกเข้าไปสำรวจผมอยากเห็นจะแย่แล้วไอโลกคู่ขนานอะไรนั้นพร้อมเมื่อไรเริ่มได้เลย" บิลพูดพร้อมกับวางเอกสารลงบนโต๊ะ
แซมสั่งให้เจ้าหน้าที่ควบคุมเปิดเครื่องParallel Gate ด้วยความเร็วที่สูงสุดตามที่บิลได้บอกไว้ จานหมุนหมุนด้วยความเร็วที่เหนือกว่าแสงหลายเท่าตัว ในขณะเดียวกันก็เกิดแรงผลักและแรงดูดในวัตถุกลม ความร้อนที่เกิดจากการหมุนส่งพลังงานไปยังเครื่องดูดพลังงานจนเต็มและพร้อมยิง
"เครื่องดูดพลังงานพร้อมยิงแล้วครับ" เสียงเจ้าหน้าที่ควบคุมParallel Gate ตะโกนบอกไปยังแซม วิลสันต์
แซมถอนหายใจและสั่งให้เจ้าหน้าที่ยิงเครื่องดูดพลังงานไปยังวัตถุกลม
"เริ่มยิงใน 3 2 1 " เสียงเจ้าหน้าทีนับถอยหลังสู่การยิง
"ปัง!!!!" เสียงเครื่องดูดยิงพลังงานที่เพื่อดูดพลังงานนิวเคลียร์ของวัตถุทรงกลม วัตถุทรงกลมหลังโดนยิงจุดศูนย์กลางของทรงกลมเริ่มขยับและเริ่มยุบตัวลงไปและค่อยๆขยายออกอย่างรวดเร็วกลายเป็นช่องมิติสีดำสนิท เจ้าหน้าที่ควบคุมปรับความเร็วของจานหมุนให้อยู่ในระดับคงที่เพื่อที่จะให้ทีมสำรวจได้เข้าไปด้านในนั้น บิลและทุกคนในห้องวิจัยต่างก็ตกตะลึงกับสิ่งที่พวกเขาพึ่งจะได้เห็น
"มัน..มัน..มันสุดยอดมากๆยุคใหม่เทคโนโลยีใหม่ๆโลกใบใหม่ กำลังรอเราอยู่จะรออะไรอยู่ล่ะพวกคุณเข้าไปสำรวจเลย" เสียงของบิลที่พูดด้วยน้ำเสียงที่ดีใจสุดขีด
แซมและทีมสำรวจก็ค่อยๆเดินเข้าไปในช่องสีดำสนิทนั้นกันทีละคนๆ ถึงภายนอกช่องมิตินั้นจะเป็นสีดำแต่พอเข้าไปแล้ว รอบๆตัวกลับเป็นภาพสีเทาที่บิดเบี้ยวๆอยู่รอบๆตัวพวกเขาและมีมิติที่เหมือนกระจกที่แตกและมีแสงสีขาวตรงรอยแตกนั่นอยู่ตรงหน้าพวกเขาไม่ไกลนัก
"นี้คงจะเป็นมิติของเวลาสินะ" ฮิลกล่าวขึ้นหลังจากที่ได้ก้าวเข้ามาในช่องมิติ
"หมายความว่ายังไง" โชอิจิ หนุ่มหล่อสไตล์เอเชียส่วมแว่นสูง176cmถามกลับไปยังฮิล
"มันเป็นเหมือนช่องทางเชื่อมระหว่างโลกของเรากับโลกอีกโลกนึง และแสงสีขาวที่ออกมาจากรอยแตกนั่นก็น่าจะเป็นทางออกไปสู่โลกคู่ขนาน"ฮิลตอบกลับไปยังโชอิจิที่กำลังทำหน้าสงสัย
"ผมคิดว่าเราควรรีบออกไปจากที่ตรงนี้กันดีกว่ามีสิ่งที่น่าสนใจกว่านั้นรอเราอยู่หลังแสงสีขาวนั่น" แซมบอกกับทุกคนและเดินหน้าไปยังแสงสีขาว เมื่อทุกคนออกจากแสงสีขาวนั่นมาก็ต้องตกตะลึงกับสิ่งที่อยุ่ตรงหน้าพวกเขามันเป็นป่าแต่มันเป็นป่าที่ไม่มีใครเคยเห็นมาก่อนเลยทั้งต้นไม้ ดอกไม้ หญ้า สภาพแวดล้อมรอบๆตัวพวกเขามันไม่มีสิ่งไหนเลยที่พวกเขาคุ้นเคยจากโลกที่พวกเขามา
"ต้นไม้และดอกไม้พวกนี้ฉันไม่เคยเห็นมาก่อนเลยในชีวิต" เอมิลี่ หญิงสาวร่างเล็ก หน้าตาน่ารัก สูง160cmพูดขึ้นและมองไปยังต้นไม้ประหลาดจำนวนมาก ที่มีลำต้นสีดำสนิทและใบไม้สีเทารากและกิ่งก้านมหึมาสีดำของพวกมันเชื่อมติดกันทุกต้นเป็นแนวยาว และดอกไม้ประหลาดที่มีกลีบดอกสีเขียวและขนอ่อนๆขึ้นอยู่เล็กน้อยเกสรสีแดงเข้มราวกับสีของเลือดขึ้นอยู่กระจัดกระจายกันรอบๆตัวพวกเขาบนพื้นที่เปียกชุ่ม
"ฉันว่าไม่มีใครเคยเห็นทั้งนั้นล่ะนี้เรายังอยู่ในที่ที่เรียกว่าโลกรึเปล่าเนี้ย" เคน ทหารหนุ่มหน้าตาดีสูง180cmในชุดทหารสีดำ ได้พูดขึ้น
"มันคือโลกนั้นละแต่มันเป็นโลกที่การเกิดของมันน่าจะเป็นคนละแบบกับโลกที่เรามา" แอนนา สาวที่ดูเป็นผู้ใหญ่รวบผมสูง170cm กล่าวขึ้นหลังจากได้ยินเสียงที่เคนถามขึ้นมา
"เกิดคนละแบบงั้นหรอไหนว่ามันเป็นโลกคู่ขนานไงจะเกิดคนละแบบกับเราได้ไง" แองเจิ้ล ทหารหญิงใจกล้า ถามขึ้นแบบหวนๆ
"โลกคู่ขนานมันคือโลกอีกโลกนึงที่ดำเนินไปพร้อมๆกับเราแต่โลกใบนั้นอาจจะมีบางสิ่งที่ต่างจากโลกของเราไม่มากก็น้อยอย่างเช่น เพราะคุณเลือกที่จะมาเป็นทหารรับจ้างคุณก็เลยได้มาร่วมเดินทางกับเราในวันนี้แต่ถ้าหากคุณไม่ได้เลือกมาเป็นทหารในวันนั้นคุณก็จะไม่ได้มาร่วมกับเราวันนี้ทางเลือกที่คุณไม่ได้เลือกนั่นแหละคือโลกคู่ขนานที่จะเกิดขึ้นอีกโลกนึงซึ่งโลกใบนั้นก็จะมีคุณที่ไม่ได้เป็นทหารอยู่นั้นเอง"แอนนา อธิบายให้แองเจิ้ลฟัง
"แล้วมันเกี่ยวกันยังไงกับไอการเกิดของโลกละ" เดเนียล หทารหนุ่มหล่อสไตล์อินเดียถามขึ้นด้วยหน้าที่งุนงง
"ก่อนเข้ามาในนี้คุณคงเห็นจานหมุนที่หมุนด้วยความเร็วเหนือแสงแล้วสินะนั้นเป็นการหมุนเพื่อสร้างทางเลือกต่างๆที่แตกต่างกันออกไปเหมือนกับที่คุณเลือกเป็นทหารหรือไม่เป็นทหารนั่นแหละ แน่นอนว่าการเกิดบิกแบงก็เหมือนกันการระเบิดของบิกแบงของจักวาลนี้คงจะเป็นการระเบิดอีกรูปแบบนึงจึงเกิดเป็นโลกคู่ขนานที่มีการเกิดของจักวาลที่ต่างกัน " แอนนาตอบ
"แต่ฉันว่ามันจะเกิดยังไงก็ช่างเถอะดูรอบๆตัวเราสิมีแต่สิ่งแปลกใหม่ทั้งนั้นเลยนี้อาจจะเป็นโลกที่พัฒนาแบบที่โลกปัจจุบันของเราต้องใช้เวลาเป็นล้านๆปีกว่าจะเป็นแบบนี้ก็ได้" เจมส์ หนุ่มนักพูดรูปร่างสมส่วน กำลังพูดด้วยน้ำเสียงที่ดีใจสุดขีด
"ถึงนี้จะเป็นโลกที่มีช่วงเวลาที่เท่ากันกับเราแต่ถ้าเป็นแบบที่นายบอกจริงๆถ้ามีสิ่งมีชีวิตที่ทรงภูมิปัญญาขนาดนั้นเราอาจจะเจรจากันไม่รู้เรื่องก็ได้" แอนนาบอกกับเจมส์ ที่กำลังดีใจอยู่
"ผมว่าเรากลับไปที่โลกปัจจุบันเราก่อนดีกว่า เรายังไม่รู้ว่าที่นี้มีอะไรบ้างบางทีมันอาจจะไม่มีอะไรเลยก็ได้นะผมว่าเราเก็บตัวอย่างต้นไม้และดอกไม้พวกนี้ไปวิจัยกันก่อนแล้วค่อยกลับกันมาอีกทีจะดีกว่านะ" อีวาน หมอหน้าเข้มสุดหล่อ พูดขึ้นกลางวงสนทนา
"ผมเห็นด้วยนะทำตามที่หมออีวานบอกกันเถอะ" แซมกล่าวขึ้น เอมิลี่ แอนนา และโชอิจิได้นำชิ้นส่วนต่างๆของต้นไม้ ดอกไม้ประหลาดเหล่านี้ใส่ลงในโหล่แก้วเพื่อจะนำกลับไปวิจัย
"เฮ้!!!!!ทุกคนดูนั้นสิแย่แล้ว" แม๊ค หทารหนุ่มหน้าเด็ก สูง184cm ตะโกนขึ้นพร้อมชี้ไปยังรอยแตกของมิติที่พวกเขาออกมา สิ่งที่ทุกคนหันไปมองและเห็นก็คือรอยแตกนั้นมันค่อยๆยุบหายไปที่ละนิดๆรอยที่ยุบลงไปเผยให้เห็นถึงวิวป่าด้านหลังชัดขึ้นทีละน้อยๆ
"บ้าาจริง" เควิน ทหารหนุ่มร่างเล็กสูง174cmพูดขึ้นและเขากำลังวิ่งด้วยความเร็วทั้งหมดทีเขามีไปที่รอยแตก แต่รอยแตกก็ค่อยๆยุบและหายไปโดยสมบูรณ์ต่อหน้าพวกเขาทั้ง13คน
"เห้ยๆๆอย่ามาล้อเล่นนะรอยแตกนั้นมันหายไปแบบนี้ก็หมายความว่า เราติดอยู่ในโลกประหลาดนี้งั้นหรอ" เจมส์กล่าวขึ้นพร้อมสีหน้าที่เปลี่ยนจากความดีใจเป็นสีหน้าที่ซี๊ดเซียว
ทุกคนในตอนนี้อยู่ในสภาวะที่ตกใจกับเหตุการณ์ที่พึ่งจะเกิดขึ้น โลแกนสั่งให้ลูกทีมกระจายกันไปสำรวจพื้นที่รอบๆ
"ทุกคนใจเย็นๆพวกผมมาด้วยเพื่อรับกับสถาณการณ์ทีคับขันแบบนี้อยู่แล้วผมสั่งลูกน้องไปสำรวจพื้นที่รอบๆแล้วตอนนี้ให้ทุกคนมารวมตัวกันก่อนและค่อยว่ากันอีกที" โลแกนสั่งทุกคนให้มารวมกัน
ลูกทีมของโลแกนเดินกลับมากันทีละคนทุกคนบอกเหมือนกันว่าไม่มีวี่แววของสิ่งมีชีวิต และเคนบอกว่ามีจุดที่เหมาะแก่การตั้งแคมป์อยู่ จากทางที่เขาไปสำรวจมา โลแกนจึงถามกับแซมและฮิลไปว่า
"การเกิดของทางเข้าของช่องมิติมันจะเกิดในตำแหน่งเดิมไหมถ้าหากมีการเปิดประตูมิติอีกครั้ง"
"เรื่องนี้เราเองก็ยังไม่แน่ใจนักเราเหลือเรื่องที่ต้องการทดสอบอยู่ไม่กี่เรื่องแต่บิลเขาอยากจะเห็นการข้ามโลกไปยังโลกคู่ขนานโดยไวที่สุดเราก็เลยไม่ได้ทดสอบเรื่องตำแหน่งการเกิดของช่องมิติ" ฮิลตอบกลับไปยังโลแกน