วางแผนมีเงินเพิ่มหลังเกษียณในการเล่นและศึษาเรื่อง หุ้น 6 ปี จึงเข้าสู้โหมดทดรองเอาจริง 1 ปี ก่อนเกษียนในปลายปีหน้า

วางแผนมีเงินเพิ่มหลังเกษียณในการเล่นและศึษาเรื่อง หุ้น 6 ปี จึงเข้าสู้โหมดทดรองเอาจริง 1 ปี ก่อนเกษียนในปลายปีหน้า

       มูลเหตุที่เข้ามาเล่นหุ้นก็คือ เมื่อ ต้นปี 2554 ผมเกิดสภาวะไขมันอุตันในเส้นเลือดสมองอย่างเฉียบพลัน(สะโตร้ก) น็อกหมดสติไปขณะกำลังเดินเข้าประตูบ้าน แบบไม่มีคนเห็น จนฟื้นขึ้นมาแบบเป็นอัมพาต > อัมพฤต จึงมีคนมาช่าย เข้าห้องไอชียู (ไม่ขอเล่ารายระเอียด) ซึ่งลูกสาวกำลังจะเรียนจบ ป.ตรี  ผมได้ซื้อที่ไว้ 1.5 ไร่ มาหลายปีแล้ว กำลังลงปลูกต้นไม้ เพื่อหวังผลในยามเกษียณหรือตกงาน โอ หมดกัน เมื่อไม่ได้ไปดูแล ต้องปล่อยทิ้งตายทั้งหมด เพราะผมก็ยังเปาะแปะๆ อยู่แม้จะไม่เห็นสภาวะอัมพฤตภายนอกให้เห็น แต่สามารถพอไปทำงานได้ ดีที่ผมพัฒนาระบบคอมพิวเตอร์ต่างๆ ทั้งอาร์ดแวร์ และซอฟแวร์ จนเสถียรหมดแล้ว ยังมีจุดบกพร่องอยู่ แต่เพียงเล็กน้อยแก้ไขได้ง่าย ในส่วนของอาร์ดแวร์ เพียงคนเดียว
       ลูกเรียนจบ วิศวะคอมพิวเตอร์ เกียรติ์นิยม 2  ได้งานตั้งแต่ยังไม่จบ สนใจเรื่องหุ้น จึงซื้อหนังสือมาอ่านหลายเล่น  อ่า.. ผมก็ได้หนังสือที่ลูกซื้อนั้นแหละมาอ่านบ้าง เล่ม 2 เล่ม จนลูกตัดสินใจเปิดพอร์ตหุ้น ผมจึงเปิดพอร์ตมั้ง  แต่ลูกเมื่อเปิดพอร์ตลงทุนไปเพียง 3 หมื่นกว่าบาทแล้ว จึงรัว่าไม่มีเวลาให้กับหุ้น จะทำให้ไม่สามารถพัฒนางานได้ดี จึงทิ้งไว้แค่นั้น แม้ภายหลังเขาจะได้กำไร 100 % กว่า ถึง 7 หมื่นกว่าบาท เขาก็ไม่สนใจแล้ว

       ส่วนผมก็ยังเล่นๆ กับมันไปเรื่อยๆ ได้บ้างเสียบ้าง เผื่อยามเกษียณมีอะไรทำ ได้ปันผลมาเล็กน้อย จนขาดทุนไปถึง 50 % จึงหยุดทิ้งไว้อย่างนี้น 7-8 เดือนต่อมาหุ้นตีกลับขึ้นมา ลงทุนเพิ่มเงินเข้าไป ประมาณ 9 หมื่นกว่าบาท +/-  แต่ได้ปันผลมา หมื่นกว่าบาทแล้ว ก็ไม่ได้เพิ่มเงินลงทุนอะไรไปอีก จึงเล่นสนุกไปเรือยๆ ฆ่าเวลาว่างๆ ไป ในช่วงเวลางาน ซึ่งเป็นงานบริหาร  งานบริหารต่างกับงาน รูทีน(ทำงานตามวงรอบในช่วงเวลางาน) เพราะเวลาไม่ได้บงบอกคุณภาพในการทำงาน เพราะการแก้ปัญหา หรือการคิดระบบ ไม่ได้อยู่ในเวลางานเท่านั้น มันสามารถติดในความคิด แม้จะกลับบ้านแล้วก็ตาม ก็ยังเกิดไอเดียในการแก้ หรือเพิ่มระบบ ขึ้นมาได้      

       ผมก็เล่นๆ มันเห็นวิธีทาง คิดได้วิธีทางอะไร ก็เล่นมันเสียให้หมด มาอย่างนั้น จนจะ 6 ปี ได้ปันผลรวมประมาณ 2 หมื่นนิดๆ แต่เงินในพอร์ตผมเหลืออยู่ที่ 6 หมื่น ซึ่งผมถือว่าผมเสมอตัว แต่ได้ความรู้มาพอประมาณ  ผมเริ่มเข้าสนทนาตั้งกระทู้ในห้องสินธรเพื่อศึกษาเพิ่มหาแนวทาง หาข้อมูลมากรอง  ปลายปีที่แล้ว (ปี 60) และผมเคยบอกแล้วว่า ผมจะทดลองลงทุนแบบจริงๆ สักทีภายใน 1 ปี โดยมีเป้าหมายที่เงินปันผล ต้องมากกว่า เงินฝากดอกเบี้ยแบบพิเศษของธนาคาร คือต้องได้กำไร 3-10 % ต่อปี โดยที่ตั้งทุนอยู่ที่ 8-9 หมื่นบาท  ก็สิ้นเดือน ตุลาคม 61 ก็ครบ 1 ปีแล้ว  ถ้าได้ตามเป้าหมายผมก็จะคอยเพิ่มทุนไปเรื่อยๆ จนถึง 2 แสนบาท ในปีถัดๆ ซึ่งก็เกษียณพอดี

     ผมจึงมารายงานผล ในช่วง 1 ปี จากเงินทุน 8-9 หมื่นบาท(เอาปันผล 2 หมื่นนิดๆ ที่ได้มาลงไปใหม่ให้เต็มจำนวนเดิม) ได้ปันผลมาเท่าไร และเงินทุนก็ยังคงที่ 8-9 หมื่นบาท +- เล็กน้อย ถือว่ายังเป็นเรื่องปกติ ของการลงทุนในหุ้น

   ผมขอเอารูป ในกระทู้เก่า เมื่อเต้นดือน พฤษจิกายน  60 มาให้เห็นเป็นตามลำดับ

  
  เมื่อได้กรองข้อมูลและคำแนะนำในเดือน ธันวาคม 60 ผมทำขึ้นได้เท่านี้.


     ต่อมาผมได้เพิ่มทุนโดยเอาปันผลที่ได้มาแล้ว 2 หมื่นกว่าบาท ลงไป เป้าหมายอยู่ที่เงินปันผล ไม่ใช่เฉพาะต้องเป็นหุ่นตัวใดตัวหนึ่ง ผมถือว่าหุ้นรายตัวที่ผมซื้อก็เพื่อ รักษาระดับเงินทุนในพอร์ต +/- ไม่มากจากทุนตัวเงินที่ลงไป ก็ทำได้ถึงแสนกว่าที่เดียว  แต่หุ้นมีขึ้นมีลงเอาเป็นเป้าหมายไม่ได้ เพราะเมื่อเงินยังหมุนเวียนอยู่ในพอร์ต มันไม่แน่นอน  แต่ก็ผมเกิดมีอารมณ์ไหลไปเหมือนกัน หลุดไปจากเป้าหมายช่วงหนึ่ง เอาเงินเข้าไปในพอร์ตเพิ่มไป 1.3 หมื่น กะจะทำเงินในพอร์ตให้สูง ผิดจากทิศทางที่ตนเองวางแผลนอยู่  ด้วยยังไม่ถึงจุดที่มีข้อมูลกรองความคิดขึ้นไปสู่ระดับสามารถแยกแยะถือยาว ได้ 1 เด้ง 2 เด้ง นั้นก่อน ต้องผ่านต้องให้แน่นในช่วงระดับ เอาเงินปันผล ไปก่อน จึงขึ้น รีเวล หรือระดับ 2 ต่อไปได้ โดยจิตไม่ตก เมื่อหุ้นแกว่ง อย่างรุ่นแรง.

       ก็ได้เจอประสบการจริง ตกจาก 1700 กว่าจุด มาลงเหลือ 1600 กว่าจุด  ที่ผ่านมา ผมต้องรีบ ถอนเงินจากพอร์ต 1.3 หมื่น เข้าบัญชีข้างนอกก่อนดีกว่า ทำให้รู้ตัวว่า เรายังไม่แข็งแกร่งไม่ระเอียดพอ ที่จะจดจำพฤติกรรมหุ้นต่างๆ ที่ซื้อ หรือที่เปิดใหม่ ส่วนมากผมจะขาดทุนไปกับหุ้นที่เปิดตลาดใหม่ เพราะอยากไปรองเล่นกับมันได้เรียนรู้ ก็สูญเสียไปเป็นหมื่นรวมกัน  แต่ทุนก็ตีกลับจากหุ้นที่รู้พฤติกรรม และดูข้อมูลต่างๆ เช่นค่า p.. ข้อมูลประกอบการ-ปันผลย้อนหลัง กราฟ หรือ ปันผลแล้วได้ฟรี หรือรอจนขึ้นกลับมาเหมือนเดิม หรือปล่อยไปซื้อตัวอื่นที่ น่าจะดีกว่า.

       ก็คือผมยังอยู่ในระดับที่  1.  กินปันผล ให้จนเชียวชาญ บกพร่องน้อยที่สุด     
                  ก็จะขึ้นระดับที่  2.   เพิ่มทุน เกาะหุ้นรายตัวแบบถือยาวมีข้อมูลแน่นรู้พฤติกรรมดี เพื่อ เด้ง 1 เท่า 2 เท่า บางตัว และได้กินปันผลอยู่
     
      เอาแหละรายงานผล ในระดับที่ 1 เงินปันผลผมมาได้เท่าใดแล้วในเกือบ 1 ปี ในทุน 8-9 หมื่น บาท ที่ลงไป เอาภาพปันผลมาให้ดู จะไม่เกิดข้อกังขา.

   

บวก 400 บาท จากปันผล AOT ก่อนหน้านั้น


ออ. ช่วงก่อนหน้านั้นอีกนิดหน่อย ไม่ได้เก็บไว้ก็ปล่อยผ่านไป

บวกอีก ประมาน 1,000 บาท  จากหุ้นกองทุน  ABPIF  ที่จะปันผลวันที่ 12 เดือน กันยายน 61.

             ดังนั้นได้ยอดรวมที่ได้เงิน ปันผล คือ   4,714 บาท ต่อปี.  

              เมื่อ คำนวนจากทุน 9 หมื่น  ได้กำไร 5.24 % ต่อปี


            เงินทุนที่เหลืออยู่ในภาพแรก คือ   54,405 บาท + เพิ่มทุนครั้งที่ (1) 25,000 + 0 (ครั้งที่ 2 เพิ่มเข้าไป 13,000 บาท แล้วถอนออก)

           ก็คือ ทุนจริงๆ ที่ทดลงใน 1 ปี อยู่ ที่    79,405  บาท  นั้นเอง

           แต่มีเงินทุนเหลือในพอร์ต ดังรูป..ปัจจุบัน.


         สรุป  ได้ปันผลมาฟรีๆ แล้ว   แถมเงินในพอร์ต ก็ยังมีกำไร ติดปลายนวมมานิดหน่อย นั้นเอง  

                          ซึ่งผลการทดลองมา 1 ปีประสบความสำเร็จ    ดังนั้นการเพิ่มทุนในพอร์ต หุ้นตามเป้าหมาย เพื่อหวังเงินเพิ่ม เมื่อเกษียน จึงดำเนินการต่อได้.

        ที่ผมตั้งกระทู้เสนอ ก็เพื่อให้มีการเรียนรู้ร่วมกัน เพราะผมก็ได้ข้อมูลจากห้องสินธร ที่ผมกรองแล้วมาใช้ เช่นกัน  และเผื่อให้คนที่หวังมีรายได้หลังเกษียณ ได้เรียนรู้หาทิศทางอย่างเหมาะ ตามความสามารถ ที่พอมีข้อมูลในการลงทุน อย่างระมัดระวัง  .

       หมายเหตุ จากที่ประเมินด้วยตัวเอง การลงทุนในหุ้น มีความเสี่ยงสูง มีซับซ้อน ไม่ได้เหมาะกับทุกคน

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่