สวัสดีค่ะ กระทู้นี้เป็นกระทู้แสดงความคิดเห็นและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นของพี่ๆน้าอาทุกคนค่ะ ทุกความคิดเห็นหนูจะมองให้เชิงให้กำลังใจ ตักเตือนและสอนไปในเวลาเดียวกันค่ะ
ปัจจุบันหนูศึกษาอยู่ชั้นม.3ค่ะ ในตอนนี้แม่ของหนูต้องไปทำงานที่ต่างจังหวัดและไม่มีกำหนดกลับ แต่ยังคงโทรมาหาและคุยกันทุกวัน
โดยมีหนูน้องชายที่ต้องดูแลด้วยอีกหนึ่งคนและคุณปู่อีกหนึ่งคน ส่วนคนที่มาดูแลตอนที่แม่ไม่อยู่คือ คุณป้า1ค่ะ
น้องของหนูอยู่ชั้นป.5ค่ะ ซึ่งในความคิดของหนูคือ 'น้องควรจะทำอะไรต่างๆเองได้แล้ว' เช่น รีดชุดนักเรียน เอาผ้าไปซัก ฯลฯ
แต่ แต่ แต่ น้องของหนูไม่ยอมทำเพราะ คุณป้า2(ที่อยู่ต่างประเทศ)บอกว่า 'มันเป็นหน้าที่ของเด็กผู้หญิง เด็กผู้ชายจะทำไปทำไม'
ตอนที่หนูได้ยิน หน้าหนูชาไปหมด น้ำตารื้นขึ้นมาทันที หนูคิดกับตัวเองในใจ 'มันต้องจำกัดความด้วยหรอว่าผู้หญิงต้องทำงานบ้านแค่ฝ่ายเดียว'
อาจจะฟังดูแปลกๆแต่มันก็เกิดขึ้นจริงๆ และหนูไม่ยอมค่ะ หนูพูดตอบคุณป้าไป 'ถ้าป้าคิดแบบนั้น ก็ให้มันใส่ชุดยับๆนั่นแหละไปโรงเรียน' แล้วก็โดนมองแรงผ่านวิดีโอคอลและโดนด่าเหมือนทุกครั้งที่โทรมาหาค่ะ หนูยอมรับผิดที่พูดจาแบบนั้นกับป้า แต่หนูไม่เข้าใจทำไมถึงต้องจำกัดความแค่นั้นด้วย..
ผ่านวันนั้นไป คุณป้า1มาหาหนูที่บ้านในวันอาทิตย์แล้วก็มาด่าๆๆหนูด้วยเหตุผลที่ว่า 'หนูไม่คุยกับน้องแล้วก็ด่าน้องด้วยคำหยาบ' ตอนนั้นคือหนูแบบ หือ?
กำมือแน่นมากแล้วอ่ะค่ะ คิดอยู่นาน 'เราไปด่ามันตอนไหนวะ แถมคำหยาบอีก!' หนูยอมรับว่าปกติคุยกับเพื่อนก็หยาบจริงๆแต่ก็ไม่เคยหลุดพูดแบบเป็นประโยคในบ้านเลย ถ้าหลุดจริงๆก็คือตอนทำอะไรสักอย่างตกหรือทำอะไรพลาด ไม่เคยนำคำพวกนั้นมาด่าคนในบ้านหรือแม้กระทั่งเจ้าตูบเลย
หลังจากที่ป้าด่าเสร็จก็อีหรอบเดิมๆค่ะ ไม่ก้านมะยมก็คงเป็นไม้แขวนผ้า แต่มันคงไกลมือป้าเกินไป ป้าจึงคว้าไม้กวาดแล้วก็ใส่ที่ก้นและขาหนูไปหลายที
หนูก็กลั้นน้ำตาไว้ค่ะ เพราะร้องไปก็ไม่ช่วยให้ป้าหยุดตีเลย พอตีเสร็จหนูก็ทรุดลงกับพื้นทันทีเลยค่ะ ในใจหนูคิด 'ไปโรงเรียนไม่ได้แน่' แต่!!
ป้าหนูโยนไม้กวาดลงมาซ้ำใส่หลังแถมตะคอกใส่อีกว่า 'ถ้าพรุ่งนี้เห็นว่าหยุดเรียนจะตีซ้ำให้ขาแตกเลย' หนูก็ทำได้แค่พยักหน้าแล้วเดินกลับห้อง
ส่วนน้องน่ะหรอคะ ก็ยืนหัวเราะตามประสาเด็กที่ได้ตามสิ่งที่ตนต้องการนั่นแหละค่ะ หนูไม่ได้โทษที่น้องหรือป้าเลย หนูต้องโทษตัวเองที่ไปย้อนป้าตอนนั้น..
ผ่านมาอีกหลายวันแผลที่โดนตีเริ่มดีขึ้น แต่แผลที่จิตใจไม่เคยดีขึ้นเลย ในแต่ละวันหนูต้องโดนใครสักคนด่า ไม่ปู่ก็ป้าค่ะ ปู่ก็จะว่าเรื่อง ทำกับข้าวอะไรทำไมเป็นแบบนี้ ด่าน้องทำไม ตะคอกใส่น้องทำไม ป้าก็จะว่าในเชิงดูถูกดูแคลนบางทีก็ลามไปเรื่องอื่น การเรียนมั่ง เกรดมั่ง การตื่นนอนมั่ง หนักสุดก็อาจจะเป็นการเอาหนูไปเทียบกับน้องชายทั้งๆที่หนูเรียนมัธยมและน้องชายเรียนแค่ประถม รวมๆแล้วในบ้านมีแค่เจ้าตูบเท่านั้นค่ะที่ดีกับหนู
ในแต่ละวันของหนูอาจจะไม่เหมือนเพื่อนคนอื่นๆในห้องเลย ตื่นเช้ามาก็ต้องทำในส่วนตัวเองให้เสร็จก่อนค่อยปลุกน้อง เรียน8หรือ9ชั่วโมงต่อวัน เลิกเรียนบ่ายสามไปทำพาร์ทไทม์ต่อจนถึงหกโมงครึ่งบ้าง ถึงทุ่มบ้าง บางวันก็เดินกลับบ้านเองหรืออาจจะมีพี่ที่ทำงานด้วยกันมาส่ง กลับบ้านมาก็ต้องทำกับข้าวต่อ ทำการบ้านจนถึงห้าทุ่มบ้าง เที่ยงคืนบ้าง บางครั้งอาจจะมีถึงตีสองตีสาม เสาร์ตอนเช้าก็ต้องไปเรียนพิเศษ บ่ายทำงาน อาทิตย์ก็เรียนพิเศษเช้าแล้วก็ตอนสี่โมงเย็น มันอาจจะหนักกว่านี้ถ้าหากบ้านหนูอยู่ไกลจากที่ที่ทำพาร์ทไทม์และไกลจากที่เรียนพิเศษ เพราะถ้าหนูจะไปต้องเดินไปเอง (แต่ตอนไปโรงเรียนปู่ไปส่งน๊า)
บางครั้งก็ต้องไปทำรายงานโครงงานหรือการบ้านต่างๆที่ได้รับมอบหมายให้เป็นงานกลุ่ม หนูก็ต้องไปทำที่บ้านเพื่อน แน่นอนว่าเพื่อนต้องมารับค่ะ
ป้าหนูก็จะมองจิกๆแล้วถามว่า 'ไปทำงานบ้านเพื่อนจริงๆหรอ ไม่ใช่อยากออกไปหาผู้ชายหรือไง' หนูแทบอยากจะตีหน้าผากตัวเองให้ดังไปเจ็ดบ้าน
หนูก็บอกกับป้าว่า 'ก็ไปทำงานนั่นแหละ หนูไม่ได้เป็นคนแบบนั้น' แล้วหนูก็ไปกับเพื่อนโดยที่ป้าจะโทรหาทุกๆชั่วโมง
และเกือบทุกครั้งที่ได้กลับบ้านค่ำ ป้าก็จะ 'กลับบ้านค่ำไปหาผู้ชายหละสิ' ถามอีหรอบเดิม หนูก็ตอบตามเดิม เพียงแค่น้ำเสียงที่ใช้มันเปลี่ยนไป
หลังจากที่ใช้น้ำเสียงรุนแรงใส่ก็เหมือนเดิมค่ะ ให้ใช้คำว่าใส่ไม่ยั้งคงจะไม่พอ แต่คราวนี้หนูร้องไห้ออกมาเลยค่ะ ป้าก็จะด่าๆว่าสำออยบ้าง อ่อนแอบ้าง
หนูเลยตะคอกใส่ว่า 'คุณเป็นใครมาตีลูกคนอื่นเขา เป็นแม่หรือไง!' แล้วป้าก็ชะงักแล้วก็โยนไม้แขวนเสื้อลงข้างๆหนูแล้วทำเหมือนจะเข้ามาลูบหัวหนู แต่หนูหลบแล้วบอกว่า 'คนอื่นเขาตบหัวแล้วลูบหลัง แต่สิ่งที่ป้าทำกับหนูคือการจะฆ่าหนูแล้วทรมานไปเรื่อยๆ' แล้วหนูก็เดินหนีเลยค่ะ
หนูจำสายตาของป้าตอนตีหนูได้ดี มันไม่เหมือนตอนพ่อตีหรือตอนที่แม่ดุ มันคือสายตาที่ป้ากำลังบ่งบอกว่า 'ได้ตีสักทีนะ ได้ทรมานสักทีนะ'
หลังจากเหตุการณ์นั้น ป้าไม่คุยกับหนูเลยค่ะ น้องก็ไม่คุยกับหนูเลย แต่จะเป็นการพูดลอยๆแต่เจาะจงที่หนูชัดเจนมากๆ เช่น อีนี่ นังนี่ เด็กนี่ ตามด้วยคำพูดและสายตา กิริยาท่าทางที่พร้อมทำร้ายและฆ่าหนูเต็มที่...
มีหลายครั้งหรือทุกครั้งที่หนูเอาคำพูดของป้าของปู่มาคิดแล้วนึกน้อยใจและอยากทำร้ายตัวเอง หนูจะชอบคิดว่า 'เออ จริงๆเราก็ไม่ได้มีประโยชน์อะไรมากนี่หว่า ถ้าตายๆไปหรือหายไปที่ไหนสักที่เขาคงไม่เสียดายหรอก' หรือ 'เราจะทนอยู่ทำตัวเหมือนขี้ข้าเขาทำไม' แต่หนูก็คิดเสมอว่า 'ถ้าแม่กลับมาแล้วเห็นว่าหนูอยู่น้องได้ แม่ก็จะดีใจมากแน่ๆเลย' มีหลากหลายความคิดและความรู้สึกที่ตีกันอยู่ในหัวของหนูแต่ที่จะคิดมากและคิดประจำก็คือ การทำร้ายตัวเอง
หนูต้องเก็บทุกความรู้สึกไว้กับตนเอง แสดงออกให้ป้าหรือน้องหรือใครเห็นไม่ได้ แม้แต่พี่สาวที่หนูสนิทที่สุดในครอบครัว
หลายครั้งที่นอนไม่หลับจนต้องแอบซื้อยานอนหลับมากิน หลายครั้งที่คิดมากจนปวดหัวจนเบลอ
หลายครั้งที่ร้องไห้หนักจนหลับไป หลายครั้งที่หยิบคัตเตอร์มาชี้ที่แขนตัวเองแล้วนั่งมอง แม้จะไม่ได้จิ้มลงไปแต่ก็รู้ว่าถ้าจิ้มต้องเจ็บแน่ๆ
หากหนูจิ้มคัตเตอร์ลงไปที่แขนจริงๆ มันต้องเป็นแผลที่น่าอายในการใช้ชีวิตแน่ๆ
หนูอยากมีชีวิตอยู่ในทุกๆวันเพราะหนูอยากอยู่กับพ่อกับแม่ เพราะหนูรักท่าน หนูอยากทำอนาคตของหนูให้สำเร็จ ให้ท่านเห็นว่าคนอย่างหนูก็ทำเหมือนลูกคนอื่นได้
หนูยอมรับในหลายๆเรื่องว่ามันเป็นเพราะตัวหนูทั้งนั้น หนูโทษใครไม่ได้ ปัญหาบางอย่างมันเกิดที่หนู มันต้องจบลงที่หนูเท่านั้น
ที่หนูได้มาตั้งกระทู้ในวันนี้ มันคือความอัดอั้นในใจของหนูที่ป้าและปู่ชอบตามใจน้อง สปอยน้อง ให้ท้ายน้องในทุกๆเรื่องจนน้องเคยชินกับการตามใจ
น้องมักจะมองหนูด้วยสายตาที่ไม่ควรมองกับพี่แท้ๆของตัวเองเลย เป็นสายตาที่ขนาดหนูเป็นน้องหนูยังไม่เคยมองกับพี่ตัวเองแบบนั้นเลยสักครั้ง
ถ้าให้หนูเล่าในเรื่องอื่นด้วย แค่กระทู้เดียวหนูกลัวจะไม่พอค่ะ หลังจากที่แม่กลับมาแล้ว หนูจะบอกแม่ทุกเรื่องที่หนูอัดอั้นในตอนที่แม่อยู่
ด้วยปากของหนู ด้วยคำพูดของนู ด้วยเสียงของหนู ไม่ใช่เสียงและคำพูดที่บิดเบือนของป้าอย่างแน่นอน
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านในกระทู้ของหนูค่ะ หากมีคำใดที่อ่านแล้วสะดุดหรืออ่านแล้วไม่ถูกอกถูกใจอย่างไร หนูขออภัยด้วยนะคะ
หนูจะประพฤติตัวให้ดีกว่านี้ยิ่งขึ้นไปอีกค่ะ.
ในวันที่ท้อแต่ก็ต้องลุกขึ้นเดินต่อ..
ปัจจุบันหนูศึกษาอยู่ชั้นม.3ค่ะ ในตอนนี้แม่ของหนูต้องไปทำงานที่ต่างจังหวัดและไม่มีกำหนดกลับ แต่ยังคงโทรมาหาและคุยกันทุกวัน
โดยมีหนูน้องชายที่ต้องดูแลด้วยอีกหนึ่งคนและคุณปู่อีกหนึ่งคน ส่วนคนที่มาดูแลตอนที่แม่ไม่อยู่คือ คุณป้า1ค่ะ
น้องของหนูอยู่ชั้นป.5ค่ะ ซึ่งในความคิดของหนูคือ 'น้องควรจะทำอะไรต่างๆเองได้แล้ว' เช่น รีดชุดนักเรียน เอาผ้าไปซัก ฯลฯ
แต่ แต่ แต่ น้องของหนูไม่ยอมทำเพราะ คุณป้า2(ที่อยู่ต่างประเทศ)บอกว่า 'มันเป็นหน้าที่ของเด็กผู้หญิง เด็กผู้ชายจะทำไปทำไม'
ตอนที่หนูได้ยิน หน้าหนูชาไปหมด น้ำตารื้นขึ้นมาทันที หนูคิดกับตัวเองในใจ 'มันต้องจำกัดความด้วยหรอว่าผู้หญิงต้องทำงานบ้านแค่ฝ่ายเดียว'
อาจจะฟังดูแปลกๆแต่มันก็เกิดขึ้นจริงๆ และหนูไม่ยอมค่ะ หนูพูดตอบคุณป้าไป 'ถ้าป้าคิดแบบนั้น ก็ให้มันใส่ชุดยับๆนั่นแหละไปโรงเรียน' แล้วก็โดนมองแรงผ่านวิดีโอคอลและโดนด่าเหมือนทุกครั้งที่โทรมาหาค่ะ หนูยอมรับผิดที่พูดจาแบบนั้นกับป้า แต่หนูไม่เข้าใจทำไมถึงต้องจำกัดความแค่นั้นด้วย..
ผ่านวันนั้นไป คุณป้า1มาหาหนูที่บ้านในวันอาทิตย์แล้วก็มาด่าๆๆหนูด้วยเหตุผลที่ว่า 'หนูไม่คุยกับน้องแล้วก็ด่าน้องด้วยคำหยาบ' ตอนนั้นคือหนูแบบ หือ?
กำมือแน่นมากแล้วอ่ะค่ะ คิดอยู่นาน 'เราไปด่ามันตอนไหนวะ แถมคำหยาบอีก!' หนูยอมรับว่าปกติคุยกับเพื่อนก็หยาบจริงๆแต่ก็ไม่เคยหลุดพูดแบบเป็นประโยคในบ้านเลย ถ้าหลุดจริงๆก็คือตอนทำอะไรสักอย่างตกหรือทำอะไรพลาด ไม่เคยนำคำพวกนั้นมาด่าคนในบ้านหรือแม้กระทั่งเจ้าตูบเลย
หลังจากที่ป้าด่าเสร็จก็อีหรอบเดิมๆค่ะ ไม่ก้านมะยมก็คงเป็นไม้แขวนผ้า แต่มันคงไกลมือป้าเกินไป ป้าจึงคว้าไม้กวาดแล้วก็ใส่ที่ก้นและขาหนูไปหลายที
หนูก็กลั้นน้ำตาไว้ค่ะ เพราะร้องไปก็ไม่ช่วยให้ป้าหยุดตีเลย พอตีเสร็จหนูก็ทรุดลงกับพื้นทันทีเลยค่ะ ในใจหนูคิด 'ไปโรงเรียนไม่ได้แน่' แต่!!
ป้าหนูโยนไม้กวาดลงมาซ้ำใส่หลังแถมตะคอกใส่อีกว่า 'ถ้าพรุ่งนี้เห็นว่าหยุดเรียนจะตีซ้ำให้ขาแตกเลย' หนูก็ทำได้แค่พยักหน้าแล้วเดินกลับห้อง
ส่วนน้องน่ะหรอคะ ก็ยืนหัวเราะตามประสาเด็กที่ได้ตามสิ่งที่ตนต้องการนั่นแหละค่ะ หนูไม่ได้โทษที่น้องหรือป้าเลย หนูต้องโทษตัวเองที่ไปย้อนป้าตอนนั้น..
ผ่านมาอีกหลายวันแผลที่โดนตีเริ่มดีขึ้น แต่แผลที่จิตใจไม่เคยดีขึ้นเลย ในแต่ละวันหนูต้องโดนใครสักคนด่า ไม่ปู่ก็ป้าค่ะ ปู่ก็จะว่าเรื่อง ทำกับข้าวอะไรทำไมเป็นแบบนี้ ด่าน้องทำไม ตะคอกใส่น้องทำไม ป้าก็จะว่าในเชิงดูถูกดูแคลนบางทีก็ลามไปเรื่องอื่น การเรียนมั่ง เกรดมั่ง การตื่นนอนมั่ง หนักสุดก็อาจจะเป็นการเอาหนูไปเทียบกับน้องชายทั้งๆที่หนูเรียนมัธยมและน้องชายเรียนแค่ประถม รวมๆแล้วในบ้านมีแค่เจ้าตูบเท่านั้นค่ะที่ดีกับหนู
ในแต่ละวันของหนูอาจจะไม่เหมือนเพื่อนคนอื่นๆในห้องเลย ตื่นเช้ามาก็ต้องทำในส่วนตัวเองให้เสร็จก่อนค่อยปลุกน้อง เรียน8หรือ9ชั่วโมงต่อวัน เลิกเรียนบ่ายสามไปทำพาร์ทไทม์ต่อจนถึงหกโมงครึ่งบ้าง ถึงทุ่มบ้าง บางวันก็เดินกลับบ้านเองหรืออาจจะมีพี่ที่ทำงานด้วยกันมาส่ง กลับบ้านมาก็ต้องทำกับข้าวต่อ ทำการบ้านจนถึงห้าทุ่มบ้าง เที่ยงคืนบ้าง บางครั้งอาจจะมีถึงตีสองตีสาม เสาร์ตอนเช้าก็ต้องไปเรียนพิเศษ บ่ายทำงาน อาทิตย์ก็เรียนพิเศษเช้าแล้วก็ตอนสี่โมงเย็น มันอาจจะหนักกว่านี้ถ้าหากบ้านหนูอยู่ไกลจากที่ที่ทำพาร์ทไทม์และไกลจากที่เรียนพิเศษ เพราะถ้าหนูจะไปต้องเดินไปเอง (แต่ตอนไปโรงเรียนปู่ไปส่งน๊า)
บางครั้งก็ต้องไปทำรายงานโครงงานหรือการบ้านต่างๆที่ได้รับมอบหมายให้เป็นงานกลุ่ม หนูก็ต้องไปทำที่บ้านเพื่อน แน่นอนว่าเพื่อนต้องมารับค่ะ
ป้าหนูก็จะมองจิกๆแล้วถามว่า 'ไปทำงานบ้านเพื่อนจริงๆหรอ ไม่ใช่อยากออกไปหาผู้ชายหรือไง' หนูแทบอยากจะตีหน้าผากตัวเองให้ดังไปเจ็ดบ้าน
หนูก็บอกกับป้าว่า 'ก็ไปทำงานนั่นแหละ หนูไม่ได้เป็นคนแบบนั้น' แล้วหนูก็ไปกับเพื่อนโดยที่ป้าจะโทรหาทุกๆชั่วโมง
และเกือบทุกครั้งที่ได้กลับบ้านค่ำ ป้าก็จะ 'กลับบ้านค่ำไปหาผู้ชายหละสิ' ถามอีหรอบเดิม หนูก็ตอบตามเดิม เพียงแค่น้ำเสียงที่ใช้มันเปลี่ยนไป
หลังจากที่ใช้น้ำเสียงรุนแรงใส่ก็เหมือนเดิมค่ะ ให้ใช้คำว่าใส่ไม่ยั้งคงจะไม่พอ แต่คราวนี้หนูร้องไห้ออกมาเลยค่ะ ป้าก็จะด่าๆว่าสำออยบ้าง อ่อนแอบ้าง
หนูเลยตะคอกใส่ว่า 'คุณเป็นใครมาตีลูกคนอื่นเขา เป็นแม่หรือไง!' แล้วป้าก็ชะงักแล้วก็โยนไม้แขวนเสื้อลงข้างๆหนูแล้วทำเหมือนจะเข้ามาลูบหัวหนู แต่หนูหลบแล้วบอกว่า 'คนอื่นเขาตบหัวแล้วลูบหลัง แต่สิ่งที่ป้าทำกับหนูคือการจะฆ่าหนูแล้วทรมานไปเรื่อยๆ' แล้วหนูก็เดินหนีเลยค่ะ
หนูจำสายตาของป้าตอนตีหนูได้ดี มันไม่เหมือนตอนพ่อตีหรือตอนที่แม่ดุ มันคือสายตาที่ป้ากำลังบ่งบอกว่า 'ได้ตีสักทีนะ ได้ทรมานสักทีนะ'
หลังจากเหตุการณ์นั้น ป้าไม่คุยกับหนูเลยค่ะ น้องก็ไม่คุยกับหนูเลย แต่จะเป็นการพูดลอยๆแต่เจาะจงที่หนูชัดเจนมากๆ เช่น อีนี่ นังนี่ เด็กนี่ ตามด้วยคำพูดและสายตา กิริยาท่าทางที่พร้อมทำร้ายและฆ่าหนูเต็มที่...
มีหลายครั้งหรือทุกครั้งที่หนูเอาคำพูดของป้าของปู่มาคิดแล้วนึกน้อยใจและอยากทำร้ายตัวเอง หนูจะชอบคิดว่า 'เออ จริงๆเราก็ไม่ได้มีประโยชน์อะไรมากนี่หว่า ถ้าตายๆไปหรือหายไปที่ไหนสักที่เขาคงไม่เสียดายหรอก' หรือ 'เราจะทนอยู่ทำตัวเหมือนขี้ข้าเขาทำไม' แต่หนูก็คิดเสมอว่า 'ถ้าแม่กลับมาแล้วเห็นว่าหนูอยู่น้องได้ แม่ก็จะดีใจมากแน่ๆเลย' มีหลากหลายความคิดและความรู้สึกที่ตีกันอยู่ในหัวของหนูแต่ที่จะคิดมากและคิดประจำก็คือ การทำร้ายตัวเอง
หนูต้องเก็บทุกความรู้สึกไว้กับตนเอง แสดงออกให้ป้าหรือน้องหรือใครเห็นไม่ได้ แม้แต่พี่สาวที่หนูสนิทที่สุดในครอบครัว
หลายครั้งที่นอนไม่หลับจนต้องแอบซื้อยานอนหลับมากิน หลายครั้งที่คิดมากจนปวดหัวจนเบลอ
หลายครั้งที่ร้องไห้หนักจนหลับไป หลายครั้งที่หยิบคัตเตอร์มาชี้ที่แขนตัวเองแล้วนั่งมอง แม้จะไม่ได้จิ้มลงไปแต่ก็รู้ว่าถ้าจิ้มต้องเจ็บแน่ๆ
หากหนูจิ้มคัตเตอร์ลงไปที่แขนจริงๆ มันต้องเป็นแผลที่น่าอายในการใช้ชีวิตแน่ๆ
หนูอยากมีชีวิตอยู่ในทุกๆวันเพราะหนูอยากอยู่กับพ่อกับแม่ เพราะหนูรักท่าน หนูอยากทำอนาคตของหนูให้สำเร็จ ให้ท่านเห็นว่าคนอย่างหนูก็ทำเหมือนลูกคนอื่นได้
หนูยอมรับในหลายๆเรื่องว่ามันเป็นเพราะตัวหนูทั้งนั้น หนูโทษใครไม่ได้ ปัญหาบางอย่างมันเกิดที่หนู มันต้องจบลงที่หนูเท่านั้น
ที่หนูได้มาตั้งกระทู้ในวันนี้ มันคือความอัดอั้นในใจของหนูที่ป้าและปู่ชอบตามใจน้อง สปอยน้อง ให้ท้ายน้องในทุกๆเรื่องจนน้องเคยชินกับการตามใจ
น้องมักจะมองหนูด้วยสายตาที่ไม่ควรมองกับพี่แท้ๆของตัวเองเลย เป็นสายตาที่ขนาดหนูเป็นน้องหนูยังไม่เคยมองกับพี่ตัวเองแบบนั้นเลยสักครั้ง
ถ้าให้หนูเล่าในเรื่องอื่นด้วย แค่กระทู้เดียวหนูกลัวจะไม่พอค่ะ หลังจากที่แม่กลับมาแล้ว หนูจะบอกแม่ทุกเรื่องที่หนูอัดอั้นในตอนที่แม่อยู่
ด้วยปากของหนู ด้วยคำพูดของนู ด้วยเสียงของหนู ไม่ใช่เสียงและคำพูดที่บิดเบือนของป้าอย่างแน่นอน
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านในกระทู้ของหนูค่ะ หากมีคำใดที่อ่านแล้วสะดุดหรืออ่านแล้วไม่ถูกอกถูกใจอย่างไร หนูขออภัยด้วยนะคะ
หนูจะประพฤติตัวให้ดีกว่านี้ยิ่งขึ้นไปอีกค่ะ.