หน้าแรก
คอมมูนิตี้
ห้อง
แท็ก
คลับ
ห้อง
แก้ไขปักหมุด
ดูทั้งหมด
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
แท็ก
แก้ไขปักหมุด
ดูเพิ่มเติม
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
{room_name}
{name}
{description}
กิจกรรม
แลกพอยต์
อื่นๆ
ตั้งกระทู้
เข้าสู่ระบบ / สมัครสมาชิก
เว็บไซต์ในเครือ
Bloggang
Pantown
PantipMarket
Maggang
ติดตามพันทิป
ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้
เกี่ยวกับเรา
กฎ กติกา และมารยาท
คำแนะนำการโพสต์แสดงความเห็น
นโยบายเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล
สิทธิ์การใช้งานของสมาชิก
ติดต่อทีมงาน Pantip
ติดต่อลงโฆษณา
ร่วมงานกับ Pantip
Download App Pantip
Pantip Certified Developer
::: ไมเคิลกับการช็อปปิ้งที่ร้านขายของโบราณ Regis Galerie ในลาสเวกัส :::
กระทู้สนทนา
คลับ :
Michael Jackson
แฟนๆไมเคิลคงจะได้ดูกันครบหมดทุกท่านแล้วนะคะสำหรับสารคดี Living With Michael Jackson
สารคดีนี้นายมาร์ติน บาเชียร์ (Martin Bashir) เริ่มมาติดตามถ่ายทำตั้งแต่เดือนพฤษภาคม ปี 2002 จนถึงเดือนมกราคม ปี 2003
รวมเป็นเวลา 8 เดือนเต็ม ออกอากาศเดือนกุมภาพันธ์ 2003 เช่นกัน นับว่าเป็นเรื่องฮือฮามาก เพราะไมเคิลคนให้ความสนใจทั่วโลกอยู่แล้ว
แต่วันนี้จะหยิบยกมาเล่าให้ฟังตอนนี้นะคะ ตอนที่ไมเคิลไปช็อปปิ้งร้านขายของโบราณชื่อดัง "Regis Galerie" ในลาสเวกัส ค่ะ (เป็นร้านที่มีชื่อเสียงเป็นอันดับต้นๆของโลก)
...ร้านนี้มีเว็บไซต์เป็นของตัวเอง ไปติดตามกันได้ค่ะ ...
ตามที่เจ้าของเค้าเขียนไว้ว่า ไมเคิลเป็นลูกค้าขาประจำของร้านเค้ามานานมากแล้ว ไม่ใช่ว่าเพิ่งจะซื้อครั้งนี้เป็นครั้งแรก
เค้าบอกว่า ไมเคิลไม่ได้ซื้อผลงานศิลปะเพราะแรงกระตุ้น แต่ไมเคิลจะพูดคุยถึงที่มาที่ไปของงานศิลปะแต่ละชิ้นกันยาวเลย สำหรับงานแต่ละชิ้นที่จะตัดสินใจซื้อ (การถ่ายทำสารคดีก็เป็นเพียงบทสรุปว่าไมเคิลชอบซื้ออะไรแบบไหนก็เท่านั้นเอง)
... ต้องลงรายละเอียดที่มาของงานโบราณชิ้นนั้นอย่างลึกมากๆ ก่อนที่จะให้มาถ่ายทำสารคดีซะอีก คุยกันเป็นวันๆ ...
(ไมเคิลเป็นคนชอบสะสมของเก่าของโบราณเหมือนคนทั่วไปที่พอจะมีเงินซื้อนั่นแหละค่ะ มันเป็นเรื่องธรรมดา แต่ตอนที่ไปถ่ายทำสารคดี เป็นช่วงที่ถ่ายทำให้เห็นช่วงชีวิตสั้นๆเพียงแค่เสี้ยวเดียวของชีวิตเท่านั้น น่าสงสารไมเคิลที่สุดค่ะ คนนี้เม้ากันสนุกปาก แม้กระทั่งในเมืองไทยก็มีเพจเอาไปเม้าเหมือนกันนะคะ คิดแล้วของขึ้นค่ะ
)
เจ้าของเค้าบอกว่า วันที่ที่นายมาร์ตินมาถ่ายทำนั้นมันไม่ใช่เป็นปกตินิสัยของไมเคิลเลย ไมเคิลมาซื้อของจะอารมณ์ดีทุกครั้ง
แต่วันนั้นไมเคิลอารมณ์เสีย และดูไม่พอใจกับการเจ้ากี้เจ้าการของนายมาร์ตินมากเลยค่ะ ถึงขั้นรีบกลับเลย และกลับมาดูอีกทีและเอาของพร้อมกับลูกของเค้าตามภาพค่ะ
เค้ายังบอกว่า ตามปกติทุกครั้งที่ไมเคิลมาซื้อของที่ร้านของเค้า ไมเคิลก็จะใช้เวลาศึกษาของเก่าทั้งวัน และจะทานอาหารกลางวันหรืออาหารค่ำที่ร้านอาหารบริเวณใกล้เคียงแถวนั้นเลยค่ะ
และที่เป็นปกตินิสัยของไมเคิล พอได้ของที่ชอบและจัดเก็บเป็นอย่างดีแล้ว ไมเคิลก็ชอบที่จะจัดเฉลิมฉลองด้วยการ ปิ้งขนมปังพร้อมด้วยแก้วแชมเปญค่ะ (อันนี้คงจะอร่อยนะคะ ทานขนมปังปิ้งพร้อมดื่ม (...)ในแก้วแชมเปญ อิอิ) นั่นคือสิ่งที่ทางร้านเค้าเล่านะคะ
(เห็นคนไทยบางคนคล้อยตามข่าวว่าไมเคิลเป็นคนแปลกที่ชอบซื้อของพวกนี้ แต่โดยส่วนตัวไม่เห็นว่าแปลกตรงไหนเลย คนชอบสะสมงานศิลปะโบราณมีเยอะแยะไปบนโลกใบนี้ หากคนๆนั้นเค้าสามารถมีเงินไปซื้อได้ และของพวกนี้ในอนาคตมูลค่าก็จะสูงเพิ่มขึ้นด้วย จริงมั๊ยคะ)
ไมเคิลกับลูกชายน้อง Prince ตอนอายุ 5 ขวบ ปี 2002 ค่ะ
แถมอีกนิดค่ะ คลิปนี้มีคนแปลไทยไว้แล้ว
และก็จะบอกว่า ที่ไมเคิลเค้าชี้อันนั้น อันนี้ ก็คือสิ่งทีเค้าสั่งจองกันไว้ก่อนล่วงหน้าไว้แล้ว (มาเพิ่มใหม่เป็นบางชิ้น) ทางร้านได้เตรียมของไว้ให้ก็เพื่อให้ไมเคิลได้ถ่ายทำสารคดีนี้แหละค่ะ (และจะแถมว่า การถ่ายทำสารคดีมันก็เหมือนกับถ่ายหนังเล็กๆนั่นแหละ ไม่ใช่ผู้รู้แต่พอจะเดาได้ค่ะ ไหนจะตากล้อง ไหนจะอุปกรณ์ และการเตรียมการจิปาถะ ... ไม่ใช่ว่าไลฟ์สดเหมือนที่พวกเราทำกันปัจจุบันนี้ซะที่ไหน จริงมั๊ยคะ? อ้อ..ไลฟ์สดยังต้องแต่งตัวแต่งหน้าให้สวยก่อน จริงมั๊ยคะ?? อิอิอิ )
แก้ไขข้อความเมื่อ
▼
กำลังโหลดข้อมูล...
▼
แสดงความคิดเห็น
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
บนสุด
ล่างสุด
อ่านเฉพาะข้อความเจ้าของกระทู้
หน้า:
หน้า
จาก
แชร์ : 15
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน
อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่
ยอมรับ
::: ไมเคิลกับการช็อปปิ้งที่ร้านขายของโบราณ Regis Galerie ในลาสเวกัส :::
สารคดีนี้นายมาร์ติน บาเชียร์ (Martin Bashir) เริ่มมาติดตามถ่ายทำตั้งแต่เดือนพฤษภาคม ปี 2002 จนถึงเดือนมกราคม ปี 2003
รวมเป็นเวลา 8 เดือนเต็ม ออกอากาศเดือนกุมภาพันธ์ 2003 เช่นกัน นับว่าเป็นเรื่องฮือฮามาก เพราะไมเคิลคนให้ความสนใจทั่วโลกอยู่แล้ว
...ร้านนี้มีเว็บไซต์เป็นของตัวเอง ไปติดตามกันได้ค่ะ ...
ตามที่เจ้าของเค้าเขียนไว้ว่า ไมเคิลเป็นลูกค้าขาประจำของร้านเค้ามานานมากแล้ว ไม่ใช่ว่าเพิ่งจะซื้อครั้งนี้เป็นครั้งแรก
เค้าบอกว่า ไมเคิลไม่ได้ซื้อผลงานศิลปะเพราะแรงกระตุ้น แต่ไมเคิลจะพูดคุยถึงที่มาที่ไปของงานศิลปะแต่ละชิ้นกันยาวเลย สำหรับงานแต่ละชิ้นที่จะตัดสินใจซื้อ (การถ่ายทำสารคดีก็เป็นเพียงบทสรุปว่าไมเคิลชอบซื้ออะไรแบบไหนก็เท่านั้นเอง)
... ต้องลงรายละเอียดที่มาของงานโบราณชิ้นนั้นอย่างลึกมากๆ ก่อนที่จะให้มาถ่ายทำสารคดีซะอีก คุยกันเป็นวันๆ ...
(ไมเคิลเป็นคนชอบสะสมของเก่าของโบราณเหมือนคนทั่วไปที่พอจะมีเงินซื้อนั่นแหละค่ะ มันเป็นเรื่องธรรมดา แต่ตอนที่ไปถ่ายทำสารคดี เป็นช่วงที่ถ่ายทำให้เห็นช่วงชีวิตสั้นๆเพียงแค่เสี้ยวเดียวของชีวิตเท่านั้น น่าสงสารไมเคิลที่สุดค่ะ คนนี้เม้ากันสนุกปาก แม้กระทั่งในเมืองไทยก็มีเพจเอาไปเม้าเหมือนกันนะคะ คิดแล้วของขึ้นค่ะ
แต่วันนั้นไมเคิลอารมณ์เสีย และดูไม่พอใจกับการเจ้ากี้เจ้าการของนายมาร์ตินมากเลยค่ะ ถึงขั้นรีบกลับเลย และกลับมาดูอีกทีและเอาของพร้อมกับลูกของเค้าตามภาพค่ะ
และที่เป็นปกตินิสัยของไมเคิล พอได้ของที่ชอบและจัดเก็บเป็นอย่างดีแล้ว ไมเคิลก็ชอบที่จะจัดเฉลิมฉลองด้วยการ ปิ้งขนมปังพร้อมด้วยแก้วแชมเปญค่ะ (อันนี้คงจะอร่อยนะคะ ทานขนมปังปิ้งพร้อมดื่ม (...)ในแก้วแชมเปญ อิอิ) นั่นคือสิ่งที่ทางร้านเค้าเล่านะคะ
(เห็นคนไทยบางคนคล้อยตามข่าวว่าไมเคิลเป็นคนแปลกที่ชอบซื้อของพวกนี้ แต่โดยส่วนตัวไม่เห็นว่าแปลกตรงไหนเลย คนชอบสะสมงานศิลปะโบราณมีเยอะแยะไปบนโลกใบนี้ หากคนๆนั้นเค้าสามารถมีเงินไปซื้อได้ และของพวกนี้ในอนาคตมูลค่าก็จะสูงเพิ่มขึ้นด้วย จริงมั๊ยคะ)
และก็จะบอกว่า ที่ไมเคิลเค้าชี้อันนั้น อันนี้ ก็คือสิ่งทีเค้าสั่งจองกันไว้ก่อนล่วงหน้าไว้แล้ว (มาเพิ่มใหม่เป็นบางชิ้น) ทางร้านได้เตรียมของไว้ให้ก็เพื่อให้ไมเคิลได้ถ่ายทำสารคดีนี้แหละค่ะ (และจะแถมว่า การถ่ายทำสารคดีมันก็เหมือนกับถ่ายหนังเล็กๆนั่นแหละ ไม่ใช่ผู้รู้แต่พอจะเดาได้ค่ะ ไหนจะตากล้อง ไหนจะอุปกรณ์ และการเตรียมการจิปาถะ ... ไม่ใช่ว่าไลฟ์สดเหมือนที่พวกเราทำกันปัจจุบันนี้ซะที่ไหน จริงมั๊ยคะ? อ้อ..ไลฟ์สดยังต้องแต่งตัวแต่งหน้าให้สวยก่อน จริงมั๊ยคะ?? อิอิอิ )