เที่ยวญี่ปุ่น เมืองโอซาก้า และ เกาะฮอกไกโด แบบชิค ๆ ในหน้าร้อน 7 วัน (Part I)

รวมๆ:  ผมไม่ชอบดูพิพิฒภัณฑ์, วัด หรือปราสาท ผมชอบอะไรสนุก ๆ ธรรมชาติ วัฒนธรรมเจ๋ง ๆ และหลากหลาย
งบ: ทั้งทริปห้ามเกินคนละ 50,000 บาท (ไป 2 คน)
เดินทาง: AirAsia X ไป-กลับ สนามบินดอนเมือง-สนามบินคันไซ และ Peach Air ไปกลับ สนามบินคันไซ-สนามบินนิวชินโตเสะ
วันที่: พุธ 25 - อังคาร 31 กรกฎาคม 2018 (7 วัน)
เวลา:
(1) บิน 25/07 AirAsia X (02.10 PM) ถึง (10.00 PM)
(2) บิน 27/07 Peach air (10.30 AM) ถึง (12.30 AM)
(3) กลับ 31/07 Peach air (11.10 AM) ถึง (01.20 PM)
(4) กลับ 31/07 AirAsia X (11.55 PM) ถึง (04.00 AM) ของวันที่ 01/08
แผน
พุธ 25 : บินถึงโอซาก้าดึก ก็นอน
พฤ 26 : ไปถ่ายรูปเช้าตลาดปลาคุโรมง,นัมบะ ไปสวนสนุก universal และดึก ๆ เดินเล่นนัมบะหาของกิน
ศ 27 : บินไปฮอกไกโด และไปทะเลสาบโทยะ ล่องเรือ ดูพลุ กินบุฟเฟต์ แช่ออนเซน
ส 28 : ไปเมืองนอบิริเบทสึ ที่มีหุบเขาไฟนรก แล้วไปเมืองโอตารุ ที่มีคลอง มีเครื่องดนตรี มีเทศกาล มีขบวน ครึกครื้นไปด้วยความสุข ดึก ๆ มาเมืองซับโปโร กินเบียร์ ฟังดนตรี เดินถนนชอบปิ้งทานุกิโคจิ และนอน
อ 29 : ไปเมืองฟุราโน่ ที่มีฟาร์ม Choei และฟาร์ม Tomita ดูสวนดอกไม้และทุ่งลาเวนเดอร์ กินเมล่อน และไปเมืองบิเอะ อยากไปปั่นจักรยานชมถนนที่ว่าสวย Panorama road
จ 30 : เที่ยวเมืองซัปโปโรทั้งวัน ไปโรงงานทำชอคโกแลต ไปตลาดปลาคุชิโร กินหอย กินปู กินซูชิ กินขาปูคิงแคร๊ป (โครตใหญ่มหึมา) เดินห้าง ไปสวนสัตว์มารุยาม่าไปดูหมีขั้วโลก ดึก ๆ ไปโรงเบียร์ซัปโปโร กินบุฟเฟต์เบียร์พร้อมบุฟเฟต์เนื้อย่างเจงกิสข่าน เริ่มเมาเละ ไปเทศกาลเบียร์ที่สวนโอโดริต่อ เดินเมา ๆ เก็บบบรยากาศ แล้วนอน
อ 31 : บินกลับมาโอซาก้า (ร้อนสุด ๆ) เป้าหมายคือ กินทุกอย่างที่ขวางหน้า ชอปปิ้งตามงบที่มีที่ ย่านนัมบะและย่านชินไซบาชิ และก่อนบินกลับจะไปเข้า Spa World เพื่อผ่อนคลายออนเซน โป๊เปลือย แช่บ่อน้ำร้อน น้ำผุด น้ำร้อนสลับเย็น น้ำนม หินบำบัด โอ้วววว ฟินนน หลับสบาย
จ 1 : ถึงไทยตอนตี 4 จบทริป

วันที่ 1 (พุธ)

จาก ดอนเมือง เดินทางมาถึง สนามบินคันไซ ก็รีบซื้อตั๋วขึ้นรถไฟของ Nankai ไปโอซาก้าครับลงสถานี Shin-imamiya
เดินลงสถานีเจอโรงแรมเลยครับ ชื่อ Shin-imamiya hotel นอนแบบ Capsule 2 คน เลือกเพราะโครตถูกครับ และหากินง่าย ๆ ใน family mart เดินไป 100 ก้าวเท้าครับ ^_^

รีวิว Shin-imamiya hotel
เหมือนโรงแรมทั่วไป เป็นห้อง ๆ แต่ประตูห้องด้านบน-ล่างโล่ง เพราะ ใช้แอร์ตัวเดียวกันทั้งชั้น ประตูและได้ยินเสียงคนถ้าคุยกันครับ
ห้องอาบแยกแบ่งเป็นชั้น ๆ แยกชาย-หญิง ชายขึ้นลิฟท์ไปชั้น 10 ส่วนผู้หญิงไปชั้นอะไรจำไม่ได้ครับ ส่วนห้องน้ำชายมีชั้น 3 กับชั้น 5  มีห้องอาบน้ำเดี่ยวแค่ 2 ห้อง และอ่างอาบน้ำรวมแก้ผ้าหมดครับ มีที่ซักผ้าด้วย (ไม่มีอาหารเช้า)
ที่ตั้ง : 4/5 (เพราะไม่ติด subway ต้องเดินเท้าไปหน่อย , ติดแค่รถไฟ JR หรือ Nankai)
ราคา : 4/5
คุ้มค่า : 4/5
โดยรวมชอบนะครับ ประหยัดดี วัยรุ่นญี่ปุ่นชายอยู่กันเยอะ คนไทยก็มาเยอะครับ
โดยส่วนตัวไม่น่าจะเหมาะกับผู้สูงอายุนะครับ

(ตอนซื้อตั๋วรถไฟ กดเครืองพอเป็นครับ แต่ไม่รู้ว่าใส่แบงค์ตรงไหน เห็นแต่ช่องใส่เหรียญ เลยสะกิดถามคนญี่ปุ่น เค้าบอกใส่แบงค์ตรงช่องที่ตั๋วมันออกมานั่นแหละครับ โชว์มึนไปอีก)

วันที่ 2 (พฤ)

เช้า (6.00 AM) : จะไปถ่ายรูปเล่นตลาดปลาคุโรมง และเดินไปนัมบะถ่ายรูปกับป้ายกูลิโกะ และหาราเมงแซ่บ ๆ กิน ก่อนไป universal ครับ (อากาศอบอ้าวสุด ๆ รักแร้เปียก)

แต่ก่อนไปไม่รู้ว่าที่ญี่ปุ่นมีรถไฟหลัก ๆ 3 แบบ คือ JR , Nankai และ Subway ซึ่ง Subway มันต้องเดินเลาะถนนไป ไม่ใช่สถานีที่ติดโรงแรม กว่าจะถึงบางอ้อ..กว่าจะดูแผนที่รถไฟเป็นก็มึนหนักเหมือนกัน




เช้า (8.30 AM) : ไปถึง Universal studio ครับ อยู่ทั้งวัน-ทั้งคืน ไปง่ายเพราะเดินตามมวลมหาประชาชนไป
รีวิว Universal Studio Japan (USJ)
คุ้มค่าสุด ๆ ครับรีบเข้าเล่นก่อนเลย คือ Harry and forbidden journey (หวาดเสียวเยี่ยวเล็ด) , Spider-man (ตื่นเต้นในที่สูง) ได้เล่นแค่นี้..ผมก็จะเป็นลมแดดแล้วครับ ร้อนนรกแตกก แต่พนักงานที่นี่ยิ้มหวานทุกคนครับ

พอเสร็จก่อน 11 โมง ผมรีบวิ่งเข้าไปกินโค้กเย็น ๆ นั่งยาว ๆ ที่ร้านอาหารแอร์ฉ่ำๆ ครับ  โชคดีที่มาก่อนได้โต๊ะ หลังจากนั้น..เต็มในพริบตาครับเพราะมันร้อนมาก พอบ่ายสองกว่า ๆ ได้พลังโค้กก็ลุยต่อครับ คราวนี้ตระเวนเล่น ตระเวนดูโชว์ เข้าแถว Single นะครับ ไม่เกิน 5-10 นาทีได้เล่น
และพอเล่นเสร็จ 5 โมงเย็น เข้าห้องส้วมเนี่ยแหละครับ ถอดเสื้อ ปั้นผ้าหมาด ๆ ตรงอ่างล้างมือ เช็ดตัว ขี้ไคล แปรงฟัน เปลี่ยนเสื้อตัวใหม่ ถ้ามีน้ำให้อาบผมอาบแล้วครับ ไม่มีใครสนใจคนโป๊ครับ 555




คุ้มค่า : Harry and forbidden journey (หวาดเสียวเยี่ยวเล็ด) , Spider-man 4K (ตื่นเต้นในที่สูง)
ชอบ : เซเลอร์มูน (ดู4D เซเลอร์สู้ปีศาจ) , Terminator(ดู4D คนเหล็กยิงกัน) , minion water(ปืนฉีดน้ำสนุก เต้นๆ) , Jurassic park(ล่องเรือและสแปลชน้ำ) , Water World (ห้ามพลาดโชว์โครตเจ๋งๆๆ), Rock & Roll (โชว์ร้องเพลง)
ไม่สนุก : Jaw , Hippogriff
ไม่ได้เล่น(เพราะกลัว) : flying dinorsaw , backdraft , Hollywood dream , SpaceFantasy
ยกเลิก : พาเหรดกลางคืนครับ (ฝนตกตรีชฎาๆ .. ปอยๆ )

กลางคืนประมาณ 2 ทุ่มไปนัมบะ กินพิซซ่าญี่ปุ่นกับปลาหมึกย่าง และสลบในแคปซูลครับ

วันที่ 3 (ศ)

เช้า (6.00 AM) - เชคเอ้าท์ ไปสนามบิน เพื่อบินไป สนามบินนิวชิโตเสะ ไปยังเกาะฮอกไกโด (เตรียมพบกับอากาศอันแสนเย็นสบาย)
เที่ยง (12.30 AM) - ถึงสนามบินครับ ซื้อตั๋วไว้ที่ไทย ต้องแลกตั๋วรถไฟ 3 วัน ที่ JR ของสนามบินเลยครับ "Hokkaido rail pass 3 วัน" และทำการจองที่นั่งฟรีเพื่อเดินทางไป ทะเลสาบโทยะ "Toya" ใช้เวลา 1.25 ชั่วโมงถึงที่หมาย และต่อรถเมล์จาก JR Toya ไป Toya Bus terminal (3-4 สถานี) พอถึงก็เดินมา โรงแรม Toyako Manseikaku รีบเช็คอิน แล้วรีบวิ่งมาขึ้นเรือรอบสุดท้าย 04.30 PM

รีวิวโรงแรม Toyako Manseikaku
โดยรวมชอบนะ ออนเซนโครตๆๆดี วิวหลักล้าน อาหารเย็น อาหารเช้าโครตคุณภาพ คุ้มนะสำหรับผม จ่ายเยอะแต่รู้สึกคุ้มค่ามาก
น่าจะเก่าแก่สุด และดีที่สุด และไกลรถเมล์ที่สุดครับ เดิน/วิ่งเหนื่อยหน่อย
ที่ตั้ง : 3.5/5
ราคา : 4/5
คุ้มค่า : 4.5/5




เย็น (06.30 PM) - กลับเข้าห้องแต่งชุดญี่ปุ่นที่โรงแรมจัดไว้ และไปกิน Dinner แบบโครตบุฟเฟต์ที่ทางโรงแรมจัดให้ อิ่มหนำสำราญ รู้สึกกินไป 2 ชั่วโมง
ค่ำ (08.30 PM) - เดินออกมานั่งดูพลุ โรแมนติกสุด และเดินเล่นปาโป่ง ถ่ายรูปเรื่อยเปื่อย

วันที่ 4

เช้า (5.00 AM) - ตื่นมาออนเซ็นสุดฟิน วิวทะเลสาบ แค่นี้ก็โครตตตตคุ้มครับ วิวหลักล้านนน และกินข้าวเช้าที่โรงแรม เชคเอ้าท์ และรีบวิ่งไปขึ้นรถเมล์ ระหว่างทางก็แชะภาพไปครับ

สาย (7.30 AM) - นั่งรถเมล์กลับไป JR Toya เพื่อนั่งรถไฟไป เมืองนอบอริเบสสุ "Noboribetsu"
สาย (8.30 AM) - เก็บกระเป๋าในตู้ล็อคเกอร์ จากนั้นนั่งรถเมล์จาก JR Noboribetsu ไป Noboribetsu onsen bus terminal น่าจะประมาณ 15 นาที แล้วเดินเท้าไป หุบเขานรกจิโกคุดานิ (Jikokudani) ไม่ไกลครับเดิน 10-15 นาที






เที่ยง (11.25 AM) - นั่งรถเมล์กลับมา JR Noboribetsu และจองที่นั่งรถไฟไป JR Sapporo
บ่าย (01.40 PM) - ถึง JR Sapporo ต่อรถไฟใต้ดิน (subway) ไปสถานี Susukino แล้วเปิด google map หาโรงแรม "Sunroute New Sapporo Hotel"

*ดูดี ๆนะ ไอ้บ้าโรงแรม Sunroute New Sapporo กับ Sunroute Sapporo อยู่คนละที่นะ เพราะผมหลงไปผิดโรงแรมมาแล้ว ,มึนเหมือนเดิม*

รีวิวโรงแรม "Sunroute New Sapporo "
ห้องไม่ได้ใหญ่ แต่สิ่งดีคือติดถนนชอบปิ้งทานุกิโคจิ ซึ่งของกินเพียบ เหล้าเบียร์เพียบ แจ่มครับ
ที่ตั้ง : 5/5 (ถูกใจสายกินดื่ม)
ราคา : 3/5
คุ้มค่า : 4/5

เย็น (04.00 PM) - ออกจากโรงแรมไปรถไฟ JR เพื่อไป เมืองโอตารุ "Otaru" ใช้เวลา 30 นาทีเดินทาง เป็นเมืองที่มีคลองโอตารุแสนงดงาม เดินไปเจอเสียงกระดิ่งลมเอโดะที่ว่ากันว่าถ้าได้ยินเสียงจะทำให้เรารู้สึกเย็นสบาย อีกทั้งมีพิพิธภัณฑ์กล่องดนตรีโอตารุ และโครตโชคดี ไปเจอเทศกาลขอบคุณทะเลของเมืองโอตารุ "Otaru Ushio Matsuri"พอดีเลยครับ ขบวนยาวเหยียด เสียงเพลงระงม มองไปทางไหนก็เห็นแต่คนนั่งกินเบียร์ พูดคุย และยิ้มแย้มแจ่มใส ฟินนนนนนนนทั้งงาน





ดึก (07.00 PM)- กลับโรงแรม เดินเที่ยวถนนชอปปิ้งชิค ๆ ออกจากโรงแรมก็เจอเลย ถนนทานุกิโคจิ "Tanukikoji" ดื่มเบียร์ ดื่มสาเก ฟังดนตรี เบียดคนเมา กินอาหารญี่ปุ่น คนญี่ปุ่นดื่มเบียร์เก่งสุด ๆ หน้าแดง พอถึง4ทุ่มทุกอย่างเงียบงันทั้งถนน แยกย้ายครับ

(เดี๋ยวมาต่อครับ Part II)