กลับมาอีกครั้งกับ Pantip Movie Review กับเรื่องราวในหนังสารคดีที่มาพร้อมกับความเชื่อและบ้าของตูน บอดี้สแลม กับเรื่องราวซึ่งถ่ายทอดจากสถานการณ์จริงที่เกิดขึ้นตลอดเส้นทางการวิ่งจากเบตงถึงแม่สาย ภายในเวลา 55 วัน 2,215 กิโลเมตร ที่อัดแน่นไปด้วยเรื่องราวแห่งความสุขทั้งจากการวิ่งและคนข้างทาง
หนังได้พาเราไปใกล้ชิดกับตูนในมุมที่ไม่ใช่ฮีโร่ แต่เป็นเพียงคนธรรมดาคนหนึ่งที่ต้องการตามหาไฟในชีวิตและพบว่าตนเองมีความสุขที่ได้ทำมัน ซึ่งความสุขนี้เองที่กลายมาเป็นพลังที่พร้อมส่งต่อไปให้กับใครอีกหลายคน เราจะได้เข้าใจถึงสิ่งที่ทำให้พี่ตูนตัดสินใจที่จะออกมาวิ่ง ความเชื่อที่หนักแน่น รวมไปถึงความตั้งใจจะก้าวข้ามตัวเอง นอกจากนี้เรายังจะได้เห็นที่มาที่ไป ทั้งยังจะได้รู้ว่าการเติบโตขึ้นมามีจิตใจที่ยิ่งใหญ่นั้นไม่ได้มาจากใครอื่นไกล นอกจากคนรอบตัวซึ่งเป็นอีกหนึ่งแรงขับเคลื่อนที่สำคัญในการใช้ชีวิต
ถึงแม้ว่าจะเป็นหนังสารคดีตามถ่าย แต่ก็ต้องขอชื่นชมผู้กำกับและทีมตัดต่อที่จัดหมวดความรู้สึกได้หลากหลายอารมณ์ไม่ว่าจะเป็นสุข เศร้า กดดัน เอาใจช่วย และเพิ่มพลังบวกสู่ใจของคนดู เราจะได้เห็นภาพคมชัดรวมไปถึงองค์ประกอบสวยงามผ่านหนังเรื่องนี้ ด้านฟุตเทจที่เลือกใช้ก็สามารถเรียงซีนต่างๆ ได้อย่างลื่นไหล แถมยังเลือกดนตรีและเพลงประกอบได้เหมาะสมเข้ากับสถานการณ์ที่หยิบมาสุดๆ เรียกว่าออกจากโรงเพลงทุกเพลงยังก้องอยู่ในหัวและชวนให้อินไปกับมัน บอกได้คำเดียวเลยว่างานละเอียดมาก เป็น 1 ชั่วโมงครึ่งที่กลมกล่อมทีเดียว
สำหรับใครที่อาจจะไม่เคยติดตามโครงการก้าวหรือไม่เคยติดตามผลงานของตูน บอดี้สแลม มาก่อนก็สามารถดูหนังเรื่องนี้รู้เรื่องได้ โดยเฉพาะคนที่กำลังท้อแท้หรือเหนื่อยหน่ายกับชีวิตหนังเรื่องนี้จะเติมไฟและแรงบันดาลใจดีๆ ให้เรากล้าที่จะก้าวออกจากความคิดแล้วลุกขึ้นมาทำสิ่งต่างๆ เพื่อตัวเอง หรือบางทีพลังเหล่านี้อาจจะส่งต่อไปสู่ผู้อื่นได้อีกด้วย
[SR] Pantip Movie Review : 2,215 เชื่อ บ้า กล้า ก้าว
กลับมาอีกครั้งกับ Pantip Movie Review กับเรื่องราวในหนังสารคดีที่มาพร้อมกับความเชื่อและบ้าของตูน บอดี้สแลม กับเรื่องราวซึ่งถ่ายทอดจากสถานการณ์จริงที่เกิดขึ้นตลอดเส้นทางการวิ่งจากเบตงถึงแม่สาย ภายในเวลา 55 วัน 2,215 กิโลเมตร ที่อัดแน่นไปด้วยเรื่องราวแห่งความสุขทั้งจากการวิ่งและคนข้างทาง
หนังได้พาเราไปใกล้ชิดกับตูนในมุมที่ไม่ใช่ฮีโร่ แต่เป็นเพียงคนธรรมดาคนหนึ่งที่ต้องการตามหาไฟในชีวิตและพบว่าตนเองมีความสุขที่ได้ทำมัน ซึ่งความสุขนี้เองที่กลายมาเป็นพลังที่พร้อมส่งต่อไปให้กับใครอีกหลายคน เราจะได้เข้าใจถึงสิ่งที่ทำให้พี่ตูนตัดสินใจที่จะออกมาวิ่ง ความเชื่อที่หนักแน่น รวมไปถึงความตั้งใจจะก้าวข้ามตัวเอง นอกจากนี้เรายังจะได้เห็นที่มาที่ไป ทั้งยังจะได้รู้ว่าการเติบโตขึ้นมามีจิตใจที่ยิ่งใหญ่นั้นไม่ได้มาจากใครอื่นไกล นอกจากคนรอบตัวซึ่งเป็นอีกหนึ่งแรงขับเคลื่อนที่สำคัญในการใช้ชีวิต
ถึงแม้ว่าจะเป็นหนังสารคดีตามถ่าย แต่ก็ต้องขอชื่นชมผู้กำกับและทีมตัดต่อที่จัดหมวดความรู้สึกได้หลากหลายอารมณ์ไม่ว่าจะเป็นสุข เศร้า กดดัน เอาใจช่วย และเพิ่มพลังบวกสู่ใจของคนดู เราจะได้เห็นภาพคมชัดรวมไปถึงองค์ประกอบสวยงามผ่านหนังเรื่องนี้ ด้านฟุตเทจที่เลือกใช้ก็สามารถเรียงซีนต่างๆ ได้อย่างลื่นไหล แถมยังเลือกดนตรีและเพลงประกอบได้เหมาะสมเข้ากับสถานการณ์ที่หยิบมาสุดๆ เรียกว่าออกจากโรงเพลงทุกเพลงยังก้องอยู่ในหัวและชวนให้อินไปกับมัน บอกได้คำเดียวเลยว่างานละเอียดมาก เป็น 1 ชั่วโมงครึ่งที่กลมกล่อมทีเดียว
สำหรับใครที่อาจจะไม่เคยติดตามโครงการก้าวหรือไม่เคยติดตามผลงานของตูน บอดี้สแลม มาก่อนก็สามารถดูหนังเรื่องนี้รู้เรื่องได้ โดยเฉพาะคนที่กำลังท้อแท้หรือเหนื่อยหน่ายกับชีวิตหนังเรื่องนี้จะเติมไฟและแรงบันดาลใจดีๆ ให้เรากล้าที่จะก้าวออกจากความคิดแล้วลุกขึ้นมาทำสิ่งต่างๆ เพื่อตัวเอง หรือบางทีพลังเหล่านี้อาจจะส่งต่อไปสู่ผู้อื่นได้อีกด้วย
SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้