ขอบคุณความรักครั้งก่อน

ยิ้มยิ้มยิ้มยิ้มยิ้มยิ้มผมเห็นหลายกระทู้ในพันทิป ผมเลยอยากมาแชร์ประสบการณ์ตอนเลิกกับเฟนที่รักมากๆมาแชร์ครับ

ผมขอบอกก่อนนะครับ ผมเป็นเกย์ และมีความรักแบบ ผู้ชาย-ผู้ชาย  ผมเป็นคนหน้าตาธรรมดา ธรรมดามากๆเลยก็ว่าได้
ตอนนั้นถ้าผมจำไม่ผิดผมอายุ 20 ผมเห็นเจอผู้ชายคนนึงโพสในเฟสว่า อกหัก เขาอายุมากกว่าผม 11 ปี เขาคือสเปคของผมเลยละ ถ้าเทียบกันตอนนั้น เขาดูดีมากแต่หันกลับมาที่ผมดูแย่ๆมากๆถ้าเทียบกับเขานะ แต่ไม่เป็นไรเผื่อฟลุคได้ขึ้นมา  ผมเลยตัดสินใจทักไปในเฟส เรียกได้ว่า ขายอ้อยกันเลยทีเดียว แต่มันฟลุคจริงๆจีบติดด้วย

เราคบกันโดยที่ทางบ้านของผมรับรู้ และผมจะไม่ค่อยทะเลาะกัน ผมคิดว่า เรื่องเล็กๆน้อยๆ ไม่ต้องเก็บมาใส่ใจหรอก เรื่องแค่นี้เอง
แต่มันกลับไม่เป็นแบบนั้นน่ะสิครับ เพราะเรื่องเล็กๆน้อยทำเริ่มก่อตัวทีละนิด เราเริ่มห่างกัน ทั้งเรื่องเวลา และเซ็กส์ ตลอด3 เดือน ก่อนที่เราจะเลิกกันเราไม่มีอะไรกันเลย ขนาดเราไปเที่ยวเกาะช้างเผื่อเปลี่ยนบรรยากาศ มันก็ไม่ได้ทำให้อะไรดีขึ้น เราดูเหมือนรักปรกติดี แต่มันกลับไม่ปรกติภายในที่ไม่มีใครรู้นะสิครับ

จนวันหนึ่งอีก 1 เดือนเราจะครบรอบ 1 ปี  เราทะเลาะกันหนักมาก จากหลายๆเรื่อง ทั้งเรื่องเล็กๆน้อยที่ไม่เคยเอามาปรับความเข้าใจกัน จนถึงขั้นเขาเดินออกไปจากชีวิตเรา เครียดตอนนั้น เรายังไม่ได้บอกเลิกกัน เรื่องมันค้างคา มา เกือบอาทิตย์ พี่ที่ทำงานบอกให้เราไปเคลียให้มันจบๆไป เพราะพี่ทำงานเขาไม่เคยเห็นเราเป็นแบบนั้นมาก่อน เราเป็นคนที่ยิ้มง่ายกับคนรู้จัก และสนุกสนานไปด้วยกัน แต่วันนั้น กลับไม่ใช่

เราตัดสิ้นใจในการโทรไปหาเขา ตอน ตี 3 (ตอนนั้นเมาด้วยและ แต่เราจำได้ทุกประโยคเลยที่คุยกัน) ถามว่าตกลงจะเลิกกันจริงๆใช่ไหม ประโยคที่ไม่อยากได้ยินที่สุดหลุดออกมาจากปากเขา ตอนนั้นเราปล่อยโหกลางลานโล้ง ไม่อายอะไรทั้งนั้น (เหมือนนิยายเลยเนอะ) จากที่เป็นคนสดใส เหมือนไม่เคยเสียใจกับอะไร แต่กลับ นั่งร้องไห้กอดพี่ที่ทำงาน ตอนนั้นแย่มากๆ ผมตัดสินในไปหาเขาที่อยู่จังหวัดใกล้เคียง ขับรถประมาณ 30 นาที ถึง เราเปิดโรงแรม เรียกให้เขามาหา เรากอดขาเขาขอร้องว่าไม่เลิกได้ไหม แต่กลับไร้คำตอบ และจบที่มีอะไรกัน

ทุกๆวันที่ผ่านไป ไม่รู้นะทำไมมันถึงทรมาร เราร้องไห้ทุกๆคืน ทุกๆครั้งที่เราอยู่คนเดียว จนเราทนไม่ไหว กลายเป็นคนที่เที่ยวทุกคืน ทุกวัน เพราะคำว่าไม่อยากอยู่คนเดียว เรื่องทุกอย่างปรึกษาใครไม่ได้เต็มที่ แต่เรื่องนี้ แม่ผมรู้เรื่องแล้ว เขาก็จะคอยโทรมาตลอดว่าเป็นยังไง

3เดือนผ่านไป ผมจำได้ดี ชีวิตผมยังเหลวแหลกแบบนั้นอยู่ เที่ยว เมา กลับห้อง ทำงาน วนอยู่แบบนั้น วันนึงกลับมาห้อง มันรู้สึกว่าไม่ไหวแล้วชีวิตนี้  ผมเคยคิดนะว่า การฆ่าตัวตายเพื่อหนี้ปัญหากับชีวิตความรักเป็นเรื่องที่ไร้สาระที่สุด แต่วันนั้นผมกลับไม่คิดแบบนั้น ตอนนั้น หัวสมองโล่งมาก คิดว่าอยู่ไม่ได้ ตายๆไปซะจะได้ไม่ต้องทนอยู่แบบนี้อีก แต่แล้วตอนนั้นเที่ยงคืนเสียงโทรสัพดังเข้ามา ชื่อที่ปรากฏขึ้นมา นั้นก็คือ "แม่"




ประโยคแรกที่แม่พูดคือ "ลูกโอเครไหม ลูกยังมีแม่นะ" ได้ยินแบบนั้นผมกลับร้องไห้หนัก และคิดในใจว่าขอโทษครับแม่ ขอโทษที่คิดว่าตัวเองอยู่ตัวคนเดียวตลอด หลังจากวันนั้นมา เราไม่เคยคิดจะฆ่าตัวตายเพราะผู้ชายคนเดียวอีกเลย (ผมยังสงสัยอยู่เลยจนถึงทุกวัน ทั้งๆที่แม่ไม่เคยโทรหาเวลานั้นแต่ทำไมตอนนั้นถึงโทรหาเราละ ไม่รู้สิ)

เราก็ต้องบอกว่าเรายังทำตัวเที่ยวแบบนั้นอยู่ แต่ เราเบาๆลงบ้าง เพราะเราก็ไม่อยากอยู่คนเดียวให้คิดมาก เราคิดว่า เขายังต้องกลับมาหาเราอีกถ้าเราดูดีขึ้น เราจึงเริ่มการเปลี่ยน เขาคลีนิคศัลยกรรม ทำจมูก ตา2ชั้น ฉีดโบท๊อค ร้อยไหม ทุกอย่างที่เราคิดว่าโอเคร  แต่จริงๆแล้ว ผ่านไป 1 ปีเต็ม ที่เราร้องไห้ทุกวัน ย้ำทุกวันจริงๆ เขาก็ไม่กลับมา เราพยายามมีใคร แต่ใจมันยังไม่ยอมเปิดใจจริงๆ เพราะคำว่ายังรักอยู่ เราให้คนอื่นเข้ามาแต่ก็เหมือนทำร้ายคนนั้นจนเกินไปเพราะเราจะพูดกับคนใหม่ตลอดว่า รอนะ รอวันที่เราจะรักเขาได้จริงๆ แต่เหมือนเห็นแก่ตัวเกินไปผมเลยปล่อยเขาไปตามทางดีกว่า

วันนึ่งเขา ผ่านเข้าปี ที่ 2 ของการเลิกกัน ผมพอทำใจได้ เลิกร้องไห้ทุกคืนแล้ว แต่จะมีบ้าง บางครั้ง ที่ยังแอบร้องไห้คนเดียวอยู่ เขาทักไลน์กลับมาหาเรา รู้สึกทั้งดีใจ และสับสน เขาบอกขอมานอนด้วยได้ไหมเพราะเขาต้องมาทำธุระในตัวเมืองที่เราอยู่ เราเลยตอบตกลงไป


วันที่เขามาหา เราดีใจมากนะ อยากจะบอกว่าคิดถึง แต่ได้แค่กอด และจบด้วยที่การเรามีอะไรกัน ตอนนั้นคือสับสนมากว่าเราจะทำตัวไร้ค่าแบบนี้ต่อไปดีไหม แลกกับการที่เขายังคุยกับเรา เราคุยกันบ้างแต่เราไม่อยากให้เขาอึดอัด เรายังมีอะไรกันทุกครั้งที่มา  แต่เขาก็มีคนคุยอีกคนนะ เรารู้ตลอด แต่เราก็ยอมที่จะอยู่แบบนั้น

ผมจำได้ดี วันที่เขามาหาเราวันนั้นเรามีอะไรกันเหมือนเดิม และอีก 2-3 วันเขาจะต้องไปทำงานต่างจังหวัด เขายังไปด้วยกับคนของเขา ตอนนั้นคิดว่าเรายังโอเครอยู่ที่เราอยู่ในสถานะแบบนี้  ทนอยู่แบบนี้ แต่อีกใจมันก็ไม่ได้คิดแบบนั้นหรอกจริงๆ ทั้งเจ็บ ทั้งทรมาร วั้นนั้นเพิ่งได้เราไป แต่กลับอีก 2-3 วัน เขาก็ไปหาตัวจริงของเขาอยู่ดี

และวันที่เขาจะรับปริญญาอีกใบ เขาชวนให้เราไป เราถามกลับไปว่า “ถ้าไปเราจะไปในฐานะไหน แล้วแฟนของเขาละ เราไม่อยากมีปัญหา” แต่ก็ไร้ซึ้งคำตอบที่ดีจากปากเขา เราเลยตัดสินไม่ได้

แต่แล้ววันนึงก็ทำให้เราเจ็บอีกครั้ง ประโยคที่เราไม่น่าถามไป ว่าคิดถึงกันบ้างไหมตลอดระยะเวลาที่เราเลิกกัน คำตอบที่เราได้รับกลับมามันทำให้เราเจ็บอีก “คิดถึงสิ คิดถึงเวลาที่เขามีอารมณ์นะ”  หัวใจมันแหลกซ้ำแล้วซ้ำอีก ผมเชื่อว่าหลายๆคนคงไม่โง่ซ้ำซากกับความรักครั้งเดิมหลายๆครั้งหรอก

ผมตัดสิ้นใจเด็ดขาด ว่าพอแล้ว ไม่วิ่งตามแล้ว จบแค่นี้ดีที่สุด แต่มันก็เหมือนเขาจะเริ่มเปลี่ยนไป โทรมาหาเราบ่อยขึ้น และครั้งล่าสุดที่ผ่านมานี้เขามาหาเรา ทำดีกับเรา เหมือนคู่รักแฟนกันเลย แต่ด้วยความที่เจ็บซ้ำซากมันมากเกินไปเลยเลยทำให้เรารู้สึกกลัว เราอึดอัด เขาพยามจะถูกตัวเรา เราปฏิเสธตลอด คืนที่เขามาหาเรา เราไม่ได้มีอะไรกัน และทุกวันนี้ เราควรตัดสิ้นใจได้แล้วละ ว่าเราควรเดินออกมา กับคำว่า "เราไม่ได้รักเขาแล้ว"

แต่ต้องขอบคุณที่เข้ามาในชีวิต ขอบคุณที่ทำให้เราอยากเปลี่ยนแปลงตัวเอง ใส่ใจตัวเองมากขึ้น ความรักครั้งนี้คือบทเรียนที่ดีที่สุด และเราจะก้าวข้ามผ่านมันไปได้

ผมไม่รู้นะทางข้างหน้าจะเจอกับคนแบบไหน จะต้องเจอกับอะไร แต่อยากบอกให้ทุกคนรู้ ว่าเราไม่ได้อยู่คนเดียว หันมามองข้างหลังสิ เรายังมีครอบครัวที่รักเรา เรายังมีพี่ มีเพื่อน ที่คอยปลอบใจเรา การเลิกกับคนที่เรารักมากที่สุด อาจจะทำให้ชีวิตเราแย่ที่สุด แต่จงเชื่อเถอะว่า สักวันเราจะลุกขึ้นมาได้ เปลี่ยนแปลงตัวเอง ทำตัวให้มีความสุข หลังจากนั้นเขาจะวิ่งกลับมาหาเรา แต่อย่าไปเอาเลย ผู้ชายที่เคยทิ้งเราไป เพราะเรายังหาใหม่ได้อีกเยอะครับ ยิ้ม
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่