ต้อง ขออนุญาติ แนะนำก่อนนะครับ ส่วนตัว อยู่ในวงการนี้มาพอสมควร
และทำงานในสายนี้มาตลอด และมีเพื่อนที่เป็นสัตวแพทย์ อยู่ด้วย ก็ถือได้ว่าอยู่ตรงนี้มาร่วมๆ เกือบ สิบปีแล้ว
สำหรับใครคิดว่า รู้อยู่แล้ว มั่นใจในข้อมูลที่ตนเองเชื่ออยู่แล้วก็ กดผ่านไปได้เลยครับ
ในกระทู้นี้ผม จะขอให้ข้อมูลที่เป็นประสบการณ์จริง ล้วนๆ นะครับ และ ก็มีความเห็นส่วนตัวพอสมควร
ใบเพ็ดดีกรีสุนัข คืออะไร? ทำไมต้องมี?๋ มีแล้วดีอย่างไร? แล้วจะเริ่มทำอย่างไร? เลือกทำแบบไหน?
ใบเพ็ดดีกรีสุนัข คือ ทะเบียนประวัติ ของสุนัข ครับ ซึ่งจะรวบรวมเอาข้อมูลต่างๆ ของตัวสุนัขที่ขึ้นทะเบียนไว้
รวมถึง ประวัติของพ่อแม่ ปู่ย่า ตาทวด เอาไว้ จะมองดีๆ ก็เหมือนกับทะเบียนบ้านนั้นแหละครับ ถูกเก็บโดย
สถาบันที่ถูกจัดตั้งโดยเอกชน ( ถูกแล้วครับ เอกชน ไม่ใช่รัฐบาล ซึงหลายคนเขาใจมาตลอด ) โดยสถาบันพวกนี้
ก็คือนิติบุคคล เอกชน ตั้งมาเพื่อการเก็บรวมรวมประวัติสุนัข อย่างถูกต้อง เป็นมาตรฐาน และชัดเจน (สำคัญมาก)
เปรีนบเหมือนบริษัทๆ หนึ่งนั้นเองครับ เปรียบเสมือน องค์กรอิสระ ที่ให้การรับรองต่างๆ ความหน้าเชื่อถือเกิดจาก
มาตรฐานการเก็บข้อมูลเป็นสำคัญ
แล้วทำไมต้องมีใบเพ็ดละ? ใบเพ็ดดีอย่างไง?
หลายคนติดใจตรงนี้มากเลย บางคนซื้อหมา คนขายก็บอก ถ้าจะเอาใบเพ็ด ต้องเพิ่มเงินนะ เพิ่มมาก เพิ่มน้อย นั้นก็อยู่กับ
การตกลงของ คนซื้อและ คนขาย ครับ จะเหมาะสมหรือไม่ก็อยู่ที่คุณรับได้ไหม ถ้าคุณบอกว่าคุณรับได้ นั้นก็คือราคาที่เหมาะสม
ใบเพ็ด ใจหลักสำคัญเลยคือ การเก็บประวัติสุนัข รวมถึงข้อมูลสำคัญต่างๆ ชื่อ เพศ สี วันเกิด พันธุ์ สายประวัติ (อันนี้สำคัญ)
ชื่อเจ้าของ ชื่อสายพันธุ์ เลขทะเบียน เลขไมโครชิพ
ข้อมูลที่ได้กล่าวไป สำคัญอย่างไร แน่นอนครับ
- ชื่อ เพศ สี วันเกิด อันนี้เป็นข้อมูลพื้นฐาน
- ชื่อเจ้าของ ใครเป็นเจ้าของ หมาตัวนี้ไปมีปัญหากับใคร คนนี้แหละครับเป็นคนรับผิดชอบ
- ชื่อผู้เพาะพันธุ์สุนัข ระบุให้รู้ว่าใครเป็นคนผสม (ชื่อเสียงหน้าตา หมาสวย ก็หน้าบาน มาไม่สวยก็-มีปัญหาเป็นโน้นนี้ ก็คนนี้แหละครับ)
- สายประวัติ พ่อแม่ ปู่ย่า ตาทวด ส่วนนี้เป็นส่วนหนึ่งที่เรียกได้ว่าเป็นจุดสำคัญที่ทำให้มีการทำใบนี้ขึ้นมา เพื่อเป็นการสืบประวัติ
การถ่ายทอดทางพันธุกรรมต่างๆ เพื่อวางแผ่นในการผสม ให้ได้สุนัขในอุดมคติของใครหลายๆ คน ส่วนนี้ต้องลองศึกษาเพิ่มดูครับ
เกียวกับการถ่ายทอด ยีนเด่น ยีนด้อย
-การระบุสายพันธุ์ เพื่อบอกให้ชัดเจนว่ามันเป็นพันธุ์อะไรกันแน่ และยังเป็นตัวที่ใช้การันตรี ว่าสุนัขตัวนี้นั้นเป็นพันธุ์แท้ๆ โดยหลักการ
ออกใบ นั้นคือ การดูจากลักษณะทางมาตรฐานสายพันธุ์ เขาจะดูจากตรงนี้เป็นหลัก ไม่ได้มีการตรวจอะไรนอกจากการดู แต่....
เขาจะดูจากหมาโตเท่านั้น ไม่ใช่ว่าหมาเพิ่งออก แล้วบอกได้เลยว่าพันธุ์อะไร ตรงนี้ครับ จุดสำคัญ ที่บอกว่าเขาจะออกใบให้กับหมาโต
หมายถึง เขาจะออกให้กับพ่อแม่พันธุ์ ซึงเป็นหมาโตเต็มวัยเท่านั้น สำหรับตัวที่จะเป็นต้นสาย (ที่เรียกว่าจดแบบ No Record)
เมื่อ พ่อแม่มีใบเพ็ดแล้ว ก็หมายความว่า พ่อแม่นั้นจะเป็นพันธุ์แท้ ก็เพียงพอที่จะทำใบเพ็ดให้ลูกหมาได้แล้วครับ ดั้งนั้น
จะทำใบเพ็ดให้ลูกหมาได้ พ่อแม่ จะต้องมีใบเพ็ด เท่านั้น ถ้าไม่มี ก็จดให้มีได้ เพราะหมาโตสามารถบอกได้ว่าแท้หรือไม่ เป็นพันธุ์อะไร
จึงเป็นใบที่จะรับรองได้ว่าหมาเป็นพันธุ์แท้ ( แต่ก็ไม่เสมอไปที่จะรับประกันได้ 100% นะครับ เพราะ เพื่อนๆ คงได้ยินคำว่าใบสวม
เดียวผมจะบอกว่ามันคืออะไร )
- เลขทะเบียนตัว อันนี้เขาใช้ในการเก็บในฐานข้อมูล เพื่ออ้างอิงประวัติสุนัข โดน ชื่อ สุนัขจะเปลี่ยนไปเป็นอะไรก็แล้วแต่ ข้อมูลตัวนี้จะไม่เปลียน
เหมือนเลขบัตร ประชาชนของคนนี้แหละครับ
- เลขทะเบียนไมโครชิพ ฟังถูกแล้วครับ ไมโครชิพ แต่ก่อน เพื่อนๆ บางคนที่มีอายุหน่อย อาจเคยได้ยินกับการสักหู ซึ่ง โลกเปลียนไป
ก็มีวิธีใหม่ๆ ขึ้นมาใช้ ไมโครชิพ เป็นอุปกรณ์ที่เข้ามาช่วย ในการเก็บข้อมูล ตัวเลข 15 หลัก ใช้กันทั่วโลก ประโยชน์เพื่อในในการ
เป็นเลขกำกับ ที่ถูกฝั่งไว้ในใต้ผิวหนังสุนัข ไม่ได้ เหมือนในหนังสายลับนะครับ มันเป็นแค่ตัวเก็บเลข 15 หลัง โดยที่จะอ่านเลขนี้ได้
ต้องใช้เครื่องอ่านไมโครชิพ สำคัญเพื่อใช้อ้างอิงกับเอกสารทะเบียนต่างๆ ในที่นี้ก็เป็นใบเพ็ดดีกรี ซึ่ง ถ้าเป็นหมาโตเขาจะบังคับให้ฝั่ง
แต่ในเมืองนอกบางประเทศบังคับฝังทุกตัว และยังใช้ในการ อิงเอกสาร ที่ใช้ในการผ่านแดน การไปต่างประเทศ การออกเอกสารราชการ
ต่างๆ แต่ในบ้านเรายังไม่ให้ความสำคัญเท่าไหร่ เพราะ ไม่มีบทกฎหมายอะไรมาควบคุม เช่นในบางประเทศ ใครเลี้ยงหมา คุณต้องจ่ายเงิน
พิเศษให้กับรัฐ หรือ หมาคุณไปกัดใคร ทุกตัวนั้นจะขึ้นทะเบียนกับองค์กรต่างๆ เพื่อเช็คได้ว่าใครเป็นเจ้าของ
อยากทำใบเพ็ดกันขึ้นมาแล้วบ้างหรือยังครับ ?
ต่อๆ ครับ
เราจะเริ่มทำใบเพ็ดอย่างไร? แล้วเลือกทำกับที่ไหนดี?
การทำใบเพ็ดยากไหม จะว่ายากก็ไม่เชิง จะว่าง่ายก็ไม่ใช่
จะเริ่มทำใบเพ็ด มีอยู่ 2 วิธี
1.คือทำเองกับสถาบันโดยตรง
2.ทำฝากกับตัวแทนไป
1. ทำเองกับสถาบันโดยตรง
อันนี้จะทำได้ก็มี 2 วิธี คือเข้าไปที่สถาบันนั้นๆ เองโดยตรงเลย
กับส่ง ปณ เข้าไปทำ
โดยสถาบันพวกนี้ ก็มีอยู่หลายที่ หลายสถาบันครับ แต่ที่หลักๆ ก็มีของ KA (เซิร์ทหาพี่กูเอานะครับ)
กับ TDC ทั้ง 2 ที่ก็มีความแตกต่างกันครับ สวนตัวเคยทำกับทั้ง 2 ที่ แต่ช่วงหลังผมทำกับ TDC มากกว่า
หลายคนยังติดกับความเข้าใจว่า ต้องทำกับที่ใดที่หนึ่งเท่านั้น เพราะ หาข้อมูลที่ไหนๆ ก็เจอแต่ KA
ใช่ครับเพราะ เขาตั้งมาก่อน แต่ ของ TDC ที่ผมใช้งานอยู่นั้นต่างกันครับ เอกสารเก็บมีมาตรฐานมาก
จัดตั้งโดยสัตวแพทย์ ซึ่งอีกที่นั้นตั้งโดยกลุ่มคนเลี้ยง นั้นแหละครับ และเนื่องจาก TDC เป็นที่ใหม่
นั้นหมายความว่า เป็นองค์กรใหม่ที่ยังไม่ได้มีการดิลกับต่างประเทศ แล้วแบบนี้จะส่งหมาไปเมืองนอกได้ไหม?
ตอบ . . . ส่งได้ไม่มีปัญหาครับ ถ้าคุณบอกว่าจะเริ่มส่งไปขาย คุณมันใจขนาดไหนครับ? เพราะการที่จะส่งไปขายได้
คุณต้องแน่นอนจริงๆ ส่วนตัวผม ที่เจอๆ มา น้อยกว่า 3% ที่หมาไทยจะถูกส่งไปเมืองนอก จริงๆ สุนัขไปเมืองนอก
ไม่มีใบเพ็ดก็ไปได้ หมาวัดก็ไปได้เลย
การทำใบเพ็ดจำเป็นต้องเป็นฟาร์มหรือไม่?
ไม่จำเป็นครับคุณมีหมาตัวเดียวก็ทำใบเพ็ดได้ เลียงแค่แม่พันธุ์ จะแจ้งเกิดให้ลูกหมาก็ทำได้ครับ โดยหลักสำคัญ
คือ พ่อและแม่ จะต้องมีใบเพ็ดด้วยเท่านั้น ถ้าจะทำของ KA ต้องมีใบของ KA เท่านั้น ส่วน ถ้าทำของ TDC
คุณมีใบของ อะไรก็แล้วแต่ ที่ทั่วไปเขารับก็เป็นใช้ได้
โดยที่คุณจะต้องสมัครเป็นสมาชิก และทำโอนกรรมสิทธิ์ในตัวสุนัขนั้นด้วยนะครับ
จึงจะสามรถแจ้งเกิดให้กับลูกหมาได้
หลักการไม่ยากเลยครับ ขอแค่ มีหมา มีรูป เป็นเจ้าของเอง
ใบเพ็ด จะต้องรับรองโดยองค์กรต่างประเทศ ถึงจะสากล จริง หรือ ไม่?
หลายคนให้ความสำคัญมากครับ กับใบเพ็ด จะต้อง FCI แต่รู้หรือไม่ว่าคืออะไร ไอ้ FCI เนี่ย
ตอบง่ายๆ นะครับ FCI เป็นองค์การในต่างประเทศครับ ที่รวบรวมเอา องค์การต่างๆ ในแต่ละประเทศ
ให้มาเป็นพวกกับเขา ซึ่งจะบอกว่า ทั้งโลกไหม ก็ไม่ใช่นะครับ จริงๆแล้ว ก็คือองค์กรเอกชนเนี่ยแหละครับ
เหมือนกับในประเทศเรา ไม่ได้มีเพียง FCI นะครับที่เป็นองค์ที่รวบรวมองค์กรเล็กๆ เหล่านี้
เพื่ออะไร ? เพื่อที่จะส่งประวัติ หากันและกันได้ครับ FCI จะเป็นตัวกลางในการ เชื่อมต่อ องค์กรเหล่านี้
แต่ก็มีหลายประเทศไม่ได้เป็น สมาชิก ขององค์กรนี้นะครับ ใหญ่ๆ เลยก็ AKC ของเมกา UKC ก็เช่นกัน
ด้วยมาตรฐาน ในการเก็บข้อมูล และเป็นองค์กรที่มีศักยภาพ อันนี้หลายๆ โพสใช้คำนัครับ คือใหญ่นั้นเอง
สรุปแล้วคือ จำเป็นไหมว่าต้อง FCI ความเห็นส่วนตัวคิดว่าไม่จำเป็นครับ เพราะหมาเราไม่ได้ขายเมืองนอก
ส่วนใหญ่ขายในไทย บรีดในไทย ถ้าหมาคุณสวยจริงสุดติ่งจริงๆ ไปได้หมดแหละครับ คนซื้อเขาทุ่มสุดตัว
ไม่เกี่ยงราคา ไม่เกี่ยงว่ามีใบเพ็ดหรือไม่ซะด้วยซ้ำ
อีกเหตุผลที่ผมเลือกของ TDC มากกว่าเพราะ ด้วยการที่เขาเป็นกลุ่มสัตวแพท ทำให้เขามีโครงการขึ้นมา
เพื่อซัพพอทสมาชิกด้วย ตัวอย่างปัจจุบัน มีโครงการที่สำคัญเลย คือ TDCBC ครับ เป็นโครงการเคลือข่าย
ธนาคารเลือด สำคัญไหม เพื่อนๆ คงรู้จักโรคพญาธิ เม็ดเลือดกันดี เลือดจึงสำคัญมาก และมีน้อยมาก
เพราะ เลือดสุนัขมีปริมาณน้อยมากๆ น้อยกว่าคนเยอะมากๆ ขนาดคนบริจากกันเยอะขนาดนี้ยังไม่พอใช้เลย
และหมา ยิ่งกว่าคนอีกครับ ทำให้การที่จะไปถ่ายเลือดเพื่อรักษาสุนัข นั้นค่าใช้ข่ายสูงมาก 7000-15000THB
เลยทีเดียว โดยโครงการนี้เปิดโอกาศให้กว้างขึ้น ตรงที่ หมาที่ขึ้นทะเบียน จะขึ้นได้ทุกตัว เพื่อเข้าโครงการนี้
หมาวัดก็ขึ้นได้ครับ เพื่ออะไร? เมื่อเรานำหมาเราไปบริจากเลือดช่วยหมาตัวอื่นแล้ว ยังได้สิทธิ์พิเศษ กว่าชาวบ้าน
คือ เมื่อเราบริจากเลือด 2 ครั้ง เราสามารถขอเบิกเลือดฟรี ได้ 1 ครั้ง ปกติ เลือดจะอยู่ที่ 5000-10000 บาท ต่อถุง
ถ้าไม่เคยบริจาก ก็สามารถขอเบิกซื้อได้ในราคาพิเศษ 3000-4000 โดยเงื่อนไขคือ หมาจะต้องขึ้นทะเบียนแล้ว
อย่างน้อย 3 เดือน ถ้าเป็นพันธุ์ผสม จะต้องฝังไมโครชิพด้วย นะครับ ถึงจะเข้าโครงการได้
2.การทำผ่านเพจรับทำใบเพ็ด นั้นก็ไม่ยากครับ แค่ส่งข้อมูลให้เขา แต่เขาจะรับแต่ของ TDC
เพจที่เห็นอยู่ก็จะเป็น
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://www.facebook.com/bkdogpedigree
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://www.facebook.com/ayppetshop
โดยการส่งข้อมูลต่างๆ ในการทำใบเพ็ดให้เขา ค่าบริการจะอยู่ที่ 350+ค่าธรรมเนียมต่างๆ
สุดท้ายนี้ก็ทิ้งไว้ซักหน่อย...
หมาจะสวย ไม่ได้อยู่ที่ใบเพ็ด ไม่มีใบเพ็ดไม่ได้แปลว่าหมาคุณไม่แท้
และมีใบเพ็ด ก็ไม่ได้แปลว่าหมาคุณแท้ 100% เช่นเดียวกัน ถ้าไม่เลือกว่าใบเพ็ดของอะไร
แนะนำ เกียวกับใบเพ็ดดีกรีสุนัข สำหรับใครที่สนใจ และ ยังสงสัยอยู่ว่ามันอย่างไง
และทำงานในสายนี้มาตลอด และมีเพื่อนที่เป็นสัตวแพทย์ อยู่ด้วย ก็ถือได้ว่าอยู่ตรงนี้มาร่วมๆ เกือบ สิบปีแล้ว
สำหรับใครคิดว่า รู้อยู่แล้ว มั่นใจในข้อมูลที่ตนเองเชื่ออยู่แล้วก็ กดผ่านไปได้เลยครับ
ในกระทู้นี้ผม จะขอให้ข้อมูลที่เป็นประสบการณ์จริง ล้วนๆ นะครับ และ ก็มีความเห็นส่วนตัวพอสมควร
ใบเพ็ดดีกรีสุนัข คืออะไร? ทำไมต้องมี?๋ มีแล้วดีอย่างไร? แล้วจะเริ่มทำอย่างไร? เลือกทำแบบไหน?
ใบเพ็ดดีกรีสุนัข คือ ทะเบียนประวัติ ของสุนัข ครับ ซึ่งจะรวบรวมเอาข้อมูลต่างๆ ของตัวสุนัขที่ขึ้นทะเบียนไว้
รวมถึง ประวัติของพ่อแม่ ปู่ย่า ตาทวด เอาไว้ จะมองดีๆ ก็เหมือนกับทะเบียนบ้านนั้นแหละครับ ถูกเก็บโดย
สถาบันที่ถูกจัดตั้งโดยเอกชน ( ถูกแล้วครับ เอกชน ไม่ใช่รัฐบาล ซึงหลายคนเขาใจมาตลอด ) โดยสถาบันพวกนี้
ก็คือนิติบุคคล เอกชน ตั้งมาเพื่อการเก็บรวมรวมประวัติสุนัข อย่างถูกต้อง เป็นมาตรฐาน และชัดเจน (สำคัญมาก)
เปรีนบเหมือนบริษัทๆ หนึ่งนั้นเองครับ เปรียบเสมือน องค์กรอิสระ ที่ให้การรับรองต่างๆ ความหน้าเชื่อถือเกิดจาก
มาตรฐานการเก็บข้อมูลเป็นสำคัญ
แล้วทำไมต้องมีใบเพ็ดละ? ใบเพ็ดดีอย่างไง?
หลายคนติดใจตรงนี้มากเลย บางคนซื้อหมา คนขายก็บอก ถ้าจะเอาใบเพ็ด ต้องเพิ่มเงินนะ เพิ่มมาก เพิ่มน้อย นั้นก็อยู่กับ
การตกลงของ คนซื้อและ คนขาย ครับ จะเหมาะสมหรือไม่ก็อยู่ที่คุณรับได้ไหม ถ้าคุณบอกว่าคุณรับได้ นั้นก็คือราคาที่เหมาะสม
ใบเพ็ด ใจหลักสำคัญเลยคือ การเก็บประวัติสุนัข รวมถึงข้อมูลสำคัญต่างๆ ชื่อ เพศ สี วันเกิด พันธุ์ สายประวัติ (อันนี้สำคัญ)
ชื่อเจ้าของ ชื่อสายพันธุ์ เลขทะเบียน เลขไมโครชิพ
ข้อมูลที่ได้กล่าวไป สำคัญอย่างไร แน่นอนครับ
- ชื่อ เพศ สี วันเกิด อันนี้เป็นข้อมูลพื้นฐาน
- ชื่อเจ้าของ ใครเป็นเจ้าของ หมาตัวนี้ไปมีปัญหากับใคร คนนี้แหละครับเป็นคนรับผิดชอบ
- ชื่อผู้เพาะพันธุ์สุนัข ระบุให้รู้ว่าใครเป็นคนผสม (ชื่อเสียงหน้าตา หมาสวย ก็หน้าบาน มาไม่สวยก็-มีปัญหาเป็นโน้นนี้ ก็คนนี้แหละครับ)
- สายประวัติ พ่อแม่ ปู่ย่า ตาทวด ส่วนนี้เป็นส่วนหนึ่งที่เรียกได้ว่าเป็นจุดสำคัญที่ทำให้มีการทำใบนี้ขึ้นมา เพื่อเป็นการสืบประวัติ
การถ่ายทอดทางพันธุกรรมต่างๆ เพื่อวางแผ่นในการผสม ให้ได้สุนัขในอุดมคติของใครหลายๆ คน ส่วนนี้ต้องลองศึกษาเพิ่มดูครับ
เกียวกับการถ่ายทอด ยีนเด่น ยีนด้อย
-การระบุสายพันธุ์ เพื่อบอกให้ชัดเจนว่ามันเป็นพันธุ์อะไรกันแน่ และยังเป็นตัวที่ใช้การันตรี ว่าสุนัขตัวนี้นั้นเป็นพันธุ์แท้ๆ โดยหลักการ
ออกใบ นั้นคือ การดูจากลักษณะทางมาตรฐานสายพันธุ์ เขาจะดูจากตรงนี้เป็นหลัก ไม่ได้มีการตรวจอะไรนอกจากการดู แต่....
เขาจะดูจากหมาโตเท่านั้น ไม่ใช่ว่าหมาเพิ่งออก แล้วบอกได้เลยว่าพันธุ์อะไร ตรงนี้ครับ จุดสำคัญ ที่บอกว่าเขาจะออกใบให้กับหมาโต
หมายถึง เขาจะออกให้กับพ่อแม่พันธุ์ ซึงเป็นหมาโตเต็มวัยเท่านั้น สำหรับตัวที่จะเป็นต้นสาย (ที่เรียกว่าจดแบบ No Record)
เมื่อ พ่อแม่มีใบเพ็ดแล้ว ก็หมายความว่า พ่อแม่นั้นจะเป็นพันธุ์แท้ ก็เพียงพอที่จะทำใบเพ็ดให้ลูกหมาได้แล้วครับ ดั้งนั้น
จะทำใบเพ็ดให้ลูกหมาได้ พ่อแม่ จะต้องมีใบเพ็ด เท่านั้น ถ้าไม่มี ก็จดให้มีได้ เพราะหมาโตสามารถบอกได้ว่าแท้หรือไม่ เป็นพันธุ์อะไร
จึงเป็นใบที่จะรับรองได้ว่าหมาเป็นพันธุ์แท้ ( แต่ก็ไม่เสมอไปที่จะรับประกันได้ 100% นะครับ เพราะ เพื่อนๆ คงได้ยินคำว่าใบสวม
เดียวผมจะบอกว่ามันคืออะไร )
- เลขทะเบียนตัว อันนี้เขาใช้ในการเก็บในฐานข้อมูล เพื่ออ้างอิงประวัติสุนัข โดน ชื่อ สุนัขจะเปลี่ยนไปเป็นอะไรก็แล้วแต่ ข้อมูลตัวนี้จะไม่เปลียน
เหมือนเลขบัตร ประชาชนของคนนี้แหละครับ
- เลขทะเบียนไมโครชิพ ฟังถูกแล้วครับ ไมโครชิพ แต่ก่อน เพื่อนๆ บางคนที่มีอายุหน่อย อาจเคยได้ยินกับการสักหู ซึ่ง โลกเปลียนไป
ก็มีวิธีใหม่ๆ ขึ้นมาใช้ ไมโครชิพ เป็นอุปกรณ์ที่เข้ามาช่วย ในการเก็บข้อมูล ตัวเลข 15 หลัก ใช้กันทั่วโลก ประโยชน์เพื่อในในการ
เป็นเลขกำกับ ที่ถูกฝั่งไว้ในใต้ผิวหนังสุนัข ไม่ได้ เหมือนในหนังสายลับนะครับ มันเป็นแค่ตัวเก็บเลข 15 หลัง โดยที่จะอ่านเลขนี้ได้
ต้องใช้เครื่องอ่านไมโครชิพ สำคัญเพื่อใช้อ้างอิงกับเอกสารทะเบียนต่างๆ ในที่นี้ก็เป็นใบเพ็ดดีกรี ซึ่ง ถ้าเป็นหมาโตเขาจะบังคับให้ฝั่ง
แต่ในเมืองนอกบางประเทศบังคับฝังทุกตัว และยังใช้ในการ อิงเอกสาร ที่ใช้ในการผ่านแดน การไปต่างประเทศ การออกเอกสารราชการ
ต่างๆ แต่ในบ้านเรายังไม่ให้ความสำคัญเท่าไหร่ เพราะ ไม่มีบทกฎหมายอะไรมาควบคุม เช่นในบางประเทศ ใครเลี้ยงหมา คุณต้องจ่ายเงิน
พิเศษให้กับรัฐ หรือ หมาคุณไปกัดใคร ทุกตัวนั้นจะขึ้นทะเบียนกับองค์กรต่างๆ เพื่อเช็คได้ว่าใครเป็นเจ้าของ
อยากทำใบเพ็ดกันขึ้นมาแล้วบ้างหรือยังครับ ?
ต่อๆ ครับ
เราจะเริ่มทำใบเพ็ดอย่างไร? แล้วเลือกทำกับที่ไหนดี?
การทำใบเพ็ดยากไหม จะว่ายากก็ไม่เชิง จะว่าง่ายก็ไม่ใช่
จะเริ่มทำใบเพ็ด มีอยู่ 2 วิธี
1.คือทำเองกับสถาบันโดยตรง
2.ทำฝากกับตัวแทนไป
1. ทำเองกับสถาบันโดยตรง
อันนี้จะทำได้ก็มี 2 วิธี คือเข้าไปที่สถาบันนั้นๆ เองโดยตรงเลย
กับส่ง ปณ เข้าไปทำ
โดยสถาบันพวกนี้ ก็มีอยู่หลายที่ หลายสถาบันครับ แต่ที่หลักๆ ก็มีของ KA (เซิร์ทหาพี่กูเอานะครับ)
กับ TDC ทั้ง 2 ที่ก็มีความแตกต่างกันครับ สวนตัวเคยทำกับทั้ง 2 ที่ แต่ช่วงหลังผมทำกับ TDC มากกว่า
หลายคนยังติดกับความเข้าใจว่า ต้องทำกับที่ใดที่หนึ่งเท่านั้น เพราะ หาข้อมูลที่ไหนๆ ก็เจอแต่ KA
ใช่ครับเพราะ เขาตั้งมาก่อน แต่ ของ TDC ที่ผมใช้งานอยู่นั้นต่างกันครับ เอกสารเก็บมีมาตรฐานมาก
จัดตั้งโดยสัตวแพทย์ ซึ่งอีกที่นั้นตั้งโดยกลุ่มคนเลี้ยง นั้นแหละครับ และเนื่องจาก TDC เป็นที่ใหม่
นั้นหมายความว่า เป็นองค์กรใหม่ที่ยังไม่ได้มีการดิลกับต่างประเทศ แล้วแบบนี้จะส่งหมาไปเมืองนอกได้ไหม?
ตอบ . . . ส่งได้ไม่มีปัญหาครับ ถ้าคุณบอกว่าจะเริ่มส่งไปขาย คุณมันใจขนาดไหนครับ? เพราะการที่จะส่งไปขายได้
คุณต้องแน่นอนจริงๆ ส่วนตัวผม ที่เจอๆ มา น้อยกว่า 3% ที่หมาไทยจะถูกส่งไปเมืองนอก จริงๆ สุนัขไปเมืองนอก
ไม่มีใบเพ็ดก็ไปได้ หมาวัดก็ไปได้เลย
การทำใบเพ็ดจำเป็นต้องเป็นฟาร์มหรือไม่?
ไม่จำเป็นครับคุณมีหมาตัวเดียวก็ทำใบเพ็ดได้ เลียงแค่แม่พันธุ์ จะแจ้งเกิดให้ลูกหมาก็ทำได้ครับ โดยหลักสำคัญ
คือ พ่อและแม่ จะต้องมีใบเพ็ดด้วยเท่านั้น ถ้าจะทำของ KA ต้องมีใบของ KA เท่านั้น ส่วน ถ้าทำของ TDC
คุณมีใบของ อะไรก็แล้วแต่ ที่ทั่วไปเขารับก็เป็นใช้ได้
โดยที่คุณจะต้องสมัครเป็นสมาชิก และทำโอนกรรมสิทธิ์ในตัวสุนัขนั้นด้วยนะครับ
จึงจะสามรถแจ้งเกิดให้กับลูกหมาได้
หลักการไม่ยากเลยครับ ขอแค่ มีหมา มีรูป เป็นเจ้าของเอง
ใบเพ็ด จะต้องรับรองโดยองค์กรต่างประเทศ ถึงจะสากล จริง หรือ ไม่?
หลายคนให้ความสำคัญมากครับ กับใบเพ็ด จะต้อง FCI แต่รู้หรือไม่ว่าคืออะไร ไอ้ FCI เนี่ย
ตอบง่ายๆ นะครับ FCI เป็นองค์การในต่างประเทศครับ ที่รวบรวมเอา องค์การต่างๆ ในแต่ละประเทศ
ให้มาเป็นพวกกับเขา ซึ่งจะบอกว่า ทั้งโลกไหม ก็ไม่ใช่นะครับ จริงๆแล้ว ก็คือองค์กรเอกชนเนี่ยแหละครับ
เหมือนกับในประเทศเรา ไม่ได้มีเพียง FCI นะครับที่เป็นองค์ที่รวบรวมองค์กรเล็กๆ เหล่านี้
เพื่ออะไร ? เพื่อที่จะส่งประวัติ หากันและกันได้ครับ FCI จะเป็นตัวกลางในการ เชื่อมต่อ องค์กรเหล่านี้
แต่ก็มีหลายประเทศไม่ได้เป็น สมาชิก ขององค์กรนี้นะครับ ใหญ่ๆ เลยก็ AKC ของเมกา UKC ก็เช่นกัน
ด้วยมาตรฐาน ในการเก็บข้อมูล และเป็นองค์กรที่มีศักยภาพ อันนี้หลายๆ โพสใช้คำนัครับ คือใหญ่นั้นเอง
สรุปแล้วคือ จำเป็นไหมว่าต้อง FCI ความเห็นส่วนตัวคิดว่าไม่จำเป็นครับ เพราะหมาเราไม่ได้ขายเมืองนอก
ส่วนใหญ่ขายในไทย บรีดในไทย ถ้าหมาคุณสวยจริงสุดติ่งจริงๆ ไปได้หมดแหละครับ คนซื้อเขาทุ่มสุดตัว
ไม่เกี่ยงราคา ไม่เกี่ยงว่ามีใบเพ็ดหรือไม่ซะด้วยซ้ำ
อีกเหตุผลที่ผมเลือกของ TDC มากกว่าเพราะ ด้วยการที่เขาเป็นกลุ่มสัตวแพท ทำให้เขามีโครงการขึ้นมา
เพื่อซัพพอทสมาชิกด้วย ตัวอย่างปัจจุบัน มีโครงการที่สำคัญเลย คือ TDCBC ครับ เป็นโครงการเคลือข่าย
ธนาคารเลือด สำคัญไหม เพื่อนๆ คงรู้จักโรคพญาธิ เม็ดเลือดกันดี เลือดจึงสำคัญมาก และมีน้อยมาก
เพราะ เลือดสุนัขมีปริมาณน้อยมากๆ น้อยกว่าคนเยอะมากๆ ขนาดคนบริจากกันเยอะขนาดนี้ยังไม่พอใช้เลย
และหมา ยิ่งกว่าคนอีกครับ ทำให้การที่จะไปถ่ายเลือดเพื่อรักษาสุนัข นั้นค่าใช้ข่ายสูงมาก 7000-15000THB
เลยทีเดียว โดยโครงการนี้เปิดโอกาศให้กว้างขึ้น ตรงที่ หมาที่ขึ้นทะเบียน จะขึ้นได้ทุกตัว เพื่อเข้าโครงการนี้
หมาวัดก็ขึ้นได้ครับ เพื่ออะไร? เมื่อเรานำหมาเราไปบริจากเลือดช่วยหมาตัวอื่นแล้ว ยังได้สิทธิ์พิเศษ กว่าชาวบ้าน
คือ เมื่อเราบริจากเลือด 2 ครั้ง เราสามารถขอเบิกเลือดฟรี ได้ 1 ครั้ง ปกติ เลือดจะอยู่ที่ 5000-10000 บาท ต่อถุง
ถ้าไม่เคยบริจาก ก็สามารถขอเบิกซื้อได้ในราคาพิเศษ 3000-4000 โดยเงื่อนไขคือ หมาจะต้องขึ้นทะเบียนแล้ว
อย่างน้อย 3 เดือน ถ้าเป็นพันธุ์ผสม จะต้องฝังไมโครชิพด้วย นะครับ ถึงจะเข้าโครงการได้
2.การทำผ่านเพจรับทำใบเพ็ด นั้นก็ไม่ยากครับ แค่ส่งข้อมูลให้เขา แต่เขาจะรับแต่ของ TDC
เพจที่เห็นอยู่ก็จะเป็น
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
โดยการส่งข้อมูลต่างๆ ในการทำใบเพ็ดให้เขา ค่าบริการจะอยู่ที่ 350+ค่าธรรมเนียมต่างๆ
สุดท้ายนี้ก็ทิ้งไว้ซักหน่อย...
หมาจะสวย ไม่ได้อยู่ที่ใบเพ็ด ไม่มีใบเพ็ดไม่ได้แปลว่าหมาคุณไม่แท้
และมีใบเพ็ด ก็ไม่ได้แปลว่าหมาคุณแท้ 100% เช่นเดียวกัน ถ้าไม่เลือกว่าใบเพ็ดของอะไร