บทที่ 6
https://pantip.com/topic/38018828
ความเดิม
ปิฬาร์เปิดศึกอีกครั้ง ที่บ้านของคุณยาย ที่กำลังเลี้ยงดูปูเสื่อ สองหนุ่มนักศึกษาอยู่นอกชานบ้านพอดี
อะไรจะเกิดขึ้น เชิญท่านติดตามต่อไป เมี๊ยววว!!!!
------
ถ้าจะพูดถึงพละกำลังต้องยกให้แมวหง่าวเพราะเป็นแมวบ้านนอก ใช้ชีวิตอย่างสมบุกสมบัน เผชิญหน้ากับหมาแมวนับครั้งไม่ถ้วน ดังนั้นความแข็งแรงจึงเหลือเฟือจะขย้ำคอแมวตัวไหนก็ได้ในหมู่บ้าน แต่ความฉลาดต้องยกให้แมวปิฬาร์เพราะเป็นแมวในเมือง อยู่ในสังคมแมวมีการศึกษามารยาทงดงามจนฟังภาษาคนรู้เรื่องเพียงแต่พูดภาษาคนไม่ได้เท่านั้น
.......
แมวในเมืองแกล้งวิ่งหลบซ้ายขวาไปมาทิ้งระยะห่างไม่มากนัก และไม่ได้หลบออกจากบ้านของคุณยาย วิ่งหลบไปมาอย่างมีชั้นเชิง ปล่อยให้แมวไล่ล่าเสียหลักหัวทิ่มหัวตำอยู่หลายครั้ง พอได้จังหวะก็เปลี่ยนทิศทางตรงไปยังวงอาหารการกิน เหลือระยะทางอีกเล็กน้อยจะถึงเป้าหมายเลี้ยวแฉลบออกด้านข้างด้านแบบกะทันหัน
เจ้าหง่าวผู้ซึ่งไม่ยอมเข็ดหลาบกับเล่ห์เหลี่ยมแมวในเมือง หลับหูหลับตาวิ่งตามมาเบรกไม่ทัน จึงถลาเข้ากลางวงตามหลักของแรงเฉื่อย ท่ามกลางเสียงถ้วยชามแตกเปรี้ยงปร้างเอะอะโวยวายลั่นไปหมด กว่าจะรู้ตัวว่าเสียเชิงไปแล้ว เจ้าหง่าวก็พบว่าตัวเองยืนหน้าเซ่ออยู่กลางวงกับข้าว โดยมีเศษอาหารกระเด็นกระจัดกระจายอยู่รอบตัว เศษผักติดตามหัวหู ดูแล้วน่าเวทนาเหลือเกิน แล้วต่อมาฝาหม้อบินไร้เงาก็ลอยมากระทบหัวอย่างจัง แมวบ้านนอกผู้เคราะห์ร้ายกระโดดโหยงสุดตัว ดาวนับร้อยลอยว่อนเต็มหน้า ท่ามกลางเสียงร้องด่าทอของคุณตา
แมวนักเลงวิ่งหลบออกมาอย่างหวุดหวิดก่อนจะโดนหม้อบินไร้เงาเป็นครั้งที่สอง เห็นหางไว ๆ ของปิฬาร์หลบแวบลงไปทางบันไดจึงวิ่งตามไปอย่างแค้นเคือง
นั่นไง....แมวในเมืองจอมแสบของเจ้าหง่าว ยืนอยู่บนเบาะคันงามของมอเตอร์ไซด์คู่ชีพของไอ้หนุ่มผมยาวนักพัฒนา แมวนักเลงบ้านนอกกางเล็บกระโจนเข้าตะปบด้วยลีลาท่าทางสวยงามด้วยกระบวนท่ากรงเล็บพิฆาต
แคว่กๆๆๆ...........!
อนิจจา........กรงเล็บพญายมของเจ้าหง่าวที่หลับหูหลับตาข่วนถี่ยิบ ตะปบลงไปบนเบาะลิซ่าเต็มแรง เพราะเป้าหมายหลบวูบไปอย่างแมวรู้
“ไม่.....”
เสียงไอ้หนุ่มผมยาวร้องโหยหวนเมื่อมองลงมาเห็นภาพอันน่าสยดสยองเข้าพอดี เห็นลิซ่าคันงามถูกตะปบด้วยเล็บมือแมวต่อหน้าต่อตา ความตกใจทำให้หยิบจานใบหนึ่งที่วางข้างตัวขว้างลงมาจากนอกชาน โดยมีเป้าหมายอยู่ที่เจ้าแมวหง่าวผู้กำลังยืนงงงันอยู่บนเบาะจักรยานยนต์ แต่เสียดายว่าฝีมือการขว้างจานยังต่ำกว่ามาตรฐาน และต่ำกว่าการคาดหวัง เป้าหมายที่แท้จริงของจานบินใบนั้นจึงเป็นลำตัวของรถคันโปรด
เพล้ง...!!
“อ๊าก..!.”
เสียงร้องปิ่มว่าจะขาดใจดังขึ้นหลังจากนั้น หนุ่มรุ่นพี่ผมยาวผู้มีรถจักรยานยนต์อยู่ในหัวใจถลาลงมาจากบ้านร้องสุดเสียง เมื่อรู้ว่าตัวเองทำร้ายลิซ่าคันโปรดด้วยมือของตัวเอง ยังไม่ทันทำอะไร จานชามอีกใบก็ลอยลิ่วลงไปกระทบบั้นท้ายลิซ่าอย่างจัง จากฝีมือของหนุ่มรุ่นน้องผู้เห็นลูกพี่ขว้างจานลงไป ก็ถือโอกาสหยิบจานขึ้นมาขว้างลงไปบ้างเพื่อเอาใจลูกพี่
เพล้ง!
“โอ้ย...ลิซ่า ไม่นะ!”
ไอ้หนุ่มผมยาวผวาลุกขึ้น กระโดดพรวดเดียวจากนอกชาน ลงไปหามอเตอร์ไซด์แสนรักคุกเข่าไหล่ตก ซบหน้ากับฝ่ามือทั้งสองอยู่ข้างพาหนะคู่ชีพในลักษณะของคนดวงใจแตกสลายไม่มีชิ้นดี ไม่กล้าแม้แต่จะมองดูร่องรอยความเสียหายอันบังเกิดกับลิซ่ารถคู่ใจ ซึ่งปกติจะทะนุถนอมชนิดริ้นไม่ไห้ไต่ไรไม่ให้ตอม กลางคืนแทบจะกลางมุ้งให้ น้ำยาขัดเงาก็ราคาแสนแพง เพียงให้ลิซ่ามันวาวเป็นประกายดั่งใจฝัน ความขมขื่นทรมานใจที่ทำร้ายลิซ่าด้วยมือของตัวเอง มันเลวร้ายยิ่งกว่ากรงเล็บแมวเสียอีก รอยถลอกของสีรถ เหมือนรอยมีดที่กรีดกลางใจบริเวณละเอียดอ่อนที่สุดจนเจ็บปวดสาหัสสากรรจ์
“ลิซ่า....ผมขอโทษ ฮือ ๆ....”
คุณตาซอมบี้กับคุณยายใจดี ยืนมองหนุ่มนักศึกษาทั้งสองคนอย่างสงสัย รุ่นพี่ปริเวทนาการคร่ำครวญกับรถคันโปรด รุ่นน้องนั่งน้ำตาไหลพรากกับเหล้าแก้วแรกในชีวิตราวกับคนสูญสิ้นทุกอย่างในโลกนี้ไปแล้ว
“มันเป็นอะไรของมันวะ เด็กพวกนี้” คุณตาเกาหัวอย่างไม่เข้าใจ “สงสัยมันจะเรียนมากไป เลยออกอาการพิลึก พิลั่นแบบนี้ เออ...สงสัยจะต้องไปห้ามคนบ้านเราไม่ให้ส่งลูกไปเรียนในเมืองจริง ๆ แล้ว กลัวว่ะ....กลัวใจพวกเด็กรุ่นใหม่ไฟแรง”
“มันอาจไม่ใช่นะตา..” คุณยายคัดค้านจนน้ำหมากไหลย้อยมุมปากตามประสาคนแก่ที่มองโลกในแง่ดี
“มันอาจจะเป็นแฟชั่นใหม่ ของคนในเมืองก็ได้ แหม....พวกเราคนเฒ่าคนแก่อยู่บ้านนอกคอกนา จะไปเข้าใจอะไรกับขนบธรรมเนียมพวกเด็กเขา ว่าไหมล่ะตา....”
“สงสัยเป็นเด็กแนว เด็กเกรียน”
“อะไรนะตา”
“ไม่รู้เหมือนกัน รู้แต่ว่าพูดแล้วมันรู้สึกยืด ๆ เท่ ๆ ดี..”
ข้างแมวจอมยุ่งพอหลบฉากออกไปได้ก็วิ่งกลับขึ้นไปบนหลังคาอีกครั้ง มองเจ้าหง่าวซึ่งยังแยกเขี้ยวอยู่ข้างล่าข้างรั้วแบบขยาด เพราะเริ่มรู้สึกว่ายุ่งกับแมวในเมืองตัวนี้ครั้งใด มีแต่เรื่องซวยให้กับตัวเองทั้งนั้น
และดูเหมือนจะซวยจริงๆ เพราะทันใดนั้นเองสองหูของไอ้คุณหง่าว ก็แทบระเบิดออกมาด้วยเสียงกระโชกสนั่นหวั่นไหวปานฟ้าถล่ม พร้อมกับเงาทะมึนถาโถมเข้าใส่ หมาหน้าโหดสามตัวซึ่งคอยสังเกตการณ์อยู่เงียบ ๆ พอเห็นมีจังหวะสวยงาม ก็เล็งเป้าหมายมายังแมวนักเลงบ้านนอกทันที
เจ้าหง่าวร้องไม่เป็นภาษาแมว กระโดดโหยงหลบคมเขี้ยวมหากาฬไปได้แบบหวุดหวิด ออกวิ่งสี่ตีนสุดชีวิตไปตามใต้ถุนบ้านโน้นบ้านนี้ โดยมีฝูงหมาหน้าโหดกวดตามไปติด ๆ ท่ามกลางสิ่งของถล่มทลายแตกหักล้มระเนระนาดกระจัดกระจายไปตามรายทาง ในความรู้สึกของหมา การไล่กัดแมวเป็นเรื่องสนุกตื่นเต้นเร้าใจหาใดเปรียบปาน
พอเหตุการณ์บานปลายห่างออกไป ปิฬาร์ก็ค่อยย่องลงมาจากหลังคา เพราะเห็นว่าบนนอกชานมีปลาย่างตกอยู่สองสามตัว กลิ่นของปลาย่างหอมหวนชวนเคลิ้มฝัน และน่าลิ้มเลียสุดประมาณ แต่เมื่อเป็นแมวในเมือง จะพรวดพราดไปกินแบบไร้มารยาทไม่ได้ มันต้องค่อยเป็นค่อยไปแบบแมวผู้ดีมีสกุล ดังนั้นจึงค่อยย่องเข้าไปอย่างสง่างามมีชั้นเชิงและไว้ตัว
เจ้าหนุ่มรุ่นน้องซึ่งกำลังเช็ดน้ำตา บังเอิญหันมามองพอดี
สำหรับหนุ่มนักศึกษาคนนี้ ภาพผีแมวแตงโมยังคงติดตาติดใจคอยหลอกคอยหลอนอยู่มิรู้คลาย พอเห็นหน้าปิฬาร์ก็จำได้ทันที ความหวาดกลัวก็ทะลักล้นครืนขึ้นมาอีกครั้ง แมวผีแตงโมมันตามเรามาถึงที่นี่...ในคืนอันโหดร้าย
“ผีแมวแตงโมมาอีกแล้ว อ๊ากซ์”
เด็กหนุ่มร้องสุดเสียงก่อนตาเหลือกตาค้างหงายหลังตึงลงกับพื้น ความเมาและความกลัวประเดประดังขึ้นมาพร้อมกัน ทำให้จิตใจอันอ่อนไหวเปราะบางทลายคงราบคาบสิ้นสติไปในทันที
ส่วนนักศึกษารุ่นพี่ไม่สนใจอีกแล้วกับสภาวการณ์ของโลก คงคร่ำครวญด้วยความโศกเศร้าร้าวรันทด อยู่กับลิซ่าคันงามราวคนหัวใจสลาย
ไอ้หง่าวแมวนักเลงบ้านนอก ความที่หวาดกลัวหมาหน้าโหดกำลังไล่พิฆาต ทำให้ลืมกระทั่งว่าการหลบหนีที่ถูกต้องตามมาตรฐานสากล ต้องหลบขึ้นไปบนบ้าน รับรองไม่มีหมาหน้าไหนกล้าไล่ตามขึ้นไป คุณหง่าวกลับเตลิดออกชายป่าช้างหมู่บ้าน แล้วกระโจนขึ้นไปนั่งตัวสั่นบนคาคบไม้ต้นหนึ่ง มองลงมาทีไรก็แทบจะเป็นลมหน้ามืด เพราะในเงามืดมัวยังเห็นเขี้ยวแสยะแยกเห่าดุเดือดลั่นสะท้านป่า ทำให้ขวัญหนีดีฝ่อเป็นอย่างยิ่ง แมวนักเลงได้แต่หมอบเอากรงเล็บเกาะกิ่งไม้ไว้แน่นด้วยความหวาดกลัวว่าจะถูกสภาพบีบคั้น ทำให้สติแตกจนพลัดหล่นลงไป เพราะเคยได้ยินข่าวว่าเคยมีแมวถูกรุมเห่าจนเสียสติกลายเป็นแมวบ้ามาแล้ว
การ “รุมเห่า” แม้จะมันสนุกตื่นเต้นและเร้าใจแบบไล่แมว หรือการลอบกัด แต่ก็นับว่าออกรสออกชาติไม่น้อย อีกทั้งเป็นการบริหารกล้ามเนื้อคอ หลอดเสียง และเป็นการแสดงศักยภาพของพลังอำนาจเสียงอวดหมาตัวอื่นไปในตัว ดังนั้นฝูงหมาจึงกระหน่ำเสียงเห่าแบบไม่ขาดสายราวสายน้ำตกกระแทกกระทั้นไม่ขาดตอน ดังสะท้านกังวานไปทั้งหมู่บ้าน ตั้งแต่หัวค่ำจนดวงเดือนโผล่พ้นทิวไม้จึงเลิกลาจากการรุมเห่าอันโหดร้ายทารุณต่อจิตใจ เพราะเริ่มมีอาการเจ็บคอ ประกอบกับเริ่มเบื่อที่แมวไม่เห่าตอบ ฝูงหมาหน้าโหดจึงยอมพักยกล่าถอยกลับไปในหมู่บ้าน
แมวหง่าวรู้สึกเหมือนตายแล้วเกิดใหม่ การตกยู่ในสภาพถูกรุมเห่ามันยิ่งกว่าฝันร้าย จิตใจหนักอึ้งกดดันจนแทบจะพลัดตกลงไปหลายครั้ง ไม่แน่เหมือนกันว่าถ้าถูกรุมเห่าไปอีกสักระยะ อาจลืมตัวเท้าอ่อนหล่นลงไปจริงๆ ก็เป็นได้
หลังจากตั้งสติอยู่ครู่ใหญ่ ใจคอของไอ้หง่าวค่อยสงบลง และเริ่มสังเกตสภาพการณ์รอบตัว ป่าคืนนี้ดูเงียบเชียบวังเวงอย่างแปลกประหลาด ปกติแมวนักเลงบ้านนอกไม่ได้ออกมาชายป่าแถวนี้บ่อยนัก เนื่องจากกลัวผีแมว มีข่าวลือในหมู่แมวว่าแมวหลายตัวถูกฆ่าตาย และกลายเป็นผีแมวคอยหลอกหลอนแมวในหมู่บ้าน จนสติแตกไปหลายตัวแล้ว
แต่ข่าวลือฟังแล้วสยดสยองที่สุด ก็คือข่าวแมวท้องไม่มีพ่อตัวหนึ่ง คลอดลูกตายทั้งกลมอยู่ในป่า กลายเป็นวิญญาณแมว คาบลูกเดินไปมาในราวป่าร้องเสียงหาแมวรัก เหมียว...เหมียว....โหยหวนชวนขนลุกยามค่ำคืนอันเยือกเย็น หนาวเหน็บชวนสะท้านหวั่นไหว ในแสงจันทร์อันหม่นมัวอึมครึม
พอนึกถึงเรื่องนี้ ไอ้หง่าวก็ตัวสั่น ถึงจะเก่งกล้าบู้ล้างผลาญปานใด แต่ก็เป็นแมวที่กลัวผีแมวเป็นที่สุด มองเห็นเงาไม้ใบไม้ไหววูบวาบเป็นภาพผีแมวเดินไปมาเต็มไปหมด
ต้องกลับไปในหมู่บ้าน.....แมวหง่าวบอกกับตัวเอง ที่นั่นมีชายคาอันอบอุ่น มีอาหารให้กินแก้หิว มีเสื่อเก่าเก็บไว้ตามใต้ถุนหรือบนบ้านให้ลองเล็บเล่น มีหนูมากมายให้เล่นไล่จับ น่าอยู่กว่าบนต้นไม้อันโดดเดี่ยวอ้างว้างนี้มากนัก
ไต่ลงมาอย่างระมัดระวังเพราะกลัวตกเสียชื่อแมว ตอนขึ้นทำไมขึ้นเร็วเหลือเกิน ตอนลงทำไมยากจัง
พอลงมาถึงพื้นกำลังจะวิ่งหางชี้เข้าไปในหมู่บ้าน แมวเหง่าวก็ชะงักงันเพราะรู้สึกว่าความน่ากลัวบางอย่างกำลังคุกคามอย่างรุนแรง มันเป็นความน่าสะพรึงกลัวมีกลิ่นไอของความตายและความชั่วร้ายแบบไม่เคยสัมผัสมาก่อนในชีวิต พอหันหลังกลับไปมองก็ตัวเย็นเฉียบรู้สึกเหมือนเลือดในตัวจะจับกันเป็นก้อนแข็ง ขนลุกขนพองไปทั้งตัว เพราะในความมืดในเงาไม้ ร่างตะคุ่มและดวงตาวาวหลายคู่กำลังจ้องมองมาอย่างน่าสะพรึงกลัว
“แมวผี....ผีแมว....!”
แมวนักเลงบ้านนอกร้องสุดเสียง แต่เสียงนั้นกังวานอยู่ในจิตใจเท่านั้น ความกลัวขีดสุดทำให้ร้องไม่ออก วิ่งก็ไม่ออก ได้แต่ยืนตัวแข็งค้างอยู่ราวหุ่นปั้นในขณะเจ้าของสายตาวาววับเป็นประกายค่อยย่างสามขุมออกมาจากเงาไม้ หนึ่งตัว... สองตัว.. สามตัว...
ปกติเจ้าหง่าวจะคิดว่าตัวเองเป็นแมวตัวใหญ่และแข็งแรงที่สุดในโลก เพราะยังไม่เคยเห็นแมวตัวใดใหญ่กว่าตนเอง มาคืนนี้จึงรู้ว่าคิดผิด เพราะแมวสามตัวที่ก้าวออกมาปรากฏตัวนั้นตัวรูปร่างใหญ่กว่าเจ้าหง่าวมาก ท่าทางก็โหดร้ายป่าเถื่อนมากกว่า จนทำให้แมวนักเลงอย่างเจ้าหง่าวกลายเป็นแมวสุภาพเรียบร้อยขี้อายขึ้นมาทันทีเมื่อเทียบกับผู้มาเยือน
นั่นไม่ใช่ผีแมว แต่เป็นแมวป่าสีดำสนิทสามตัว !
จบบทครับ เมี๊ยว!
ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาเยือน
ขอบคุณ อิโม ความเห็น งามๆ จากคุณ Na(นะ) , คุณมัศยวีร์ , คุณkasareev , คุณสมาชิกหมายเลข 726649 , คุณLady Star 919 , คุณกาล อนันตา , คุณturtle_cheesecake , คุณรัชต์สารินท์ , คุณลายลิขิต, คุณอ้อมสมาชิกหมายเลข 868666 ,คุณ Soul Master , คุณศรเขียว ครับป๋ม เมี๊ยวว!!!







แมวปิฬาร์ 7..................แมวป่า
https://pantip.com/topic/38018828
ความเดิม
ปิฬาร์เปิดศึกอีกครั้ง ที่บ้านของคุณยาย ที่กำลังเลี้ยงดูปูเสื่อ สองหนุ่มนักศึกษาอยู่นอกชานบ้านพอดี
อะไรจะเกิดขึ้น เชิญท่านติดตามต่อไป เมี๊ยววว!!!!
------
ถ้าจะพูดถึงพละกำลังต้องยกให้แมวหง่าวเพราะเป็นแมวบ้านนอก ใช้ชีวิตอย่างสมบุกสมบัน เผชิญหน้ากับหมาแมวนับครั้งไม่ถ้วน ดังนั้นความแข็งแรงจึงเหลือเฟือจะขย้ำคอแมวตัวไหนก็ได้ในหมู่บ้าน แต่ความฉลาดต้องยกให้แมวปิฬาร์เพราะเป็นแมวในเมือง อยู่ในสังคมแมวมีการศึกษามารยาทงดงามจนฟังภาษาคนรู้เรื่องเพียงแต่พูดภาษาคนไม่ได้เท่านั้น
.......
แมวในเมืองแกล้งวิ่งหลบซ้ายขวาไปมาทิ้งระยะห่างไม่มากนัก และไม่ได้หลบออกจากบ้านของคุณยาย วิ่งหลบไปมาอย่างมีชั้นเชิง ปล่อยให้แมวไล่ล่าเสียหลักหัวทิ่มหัวตำอยู่หลายครั้ง พอได้จังหวะก็เปลี่ยนทิศทางตรงไปยังวงอาหารการกิน เหลือระยะทางอีกเล็กน้อยจะถึงเป้าหมายเลี้ยวแฉลบออกด้านข้างด้านแบบกะทันหัน
เจ้าหง่าวผู้ซึ่งไม่ยอมเข็ดหลาบกับเล่ห์เหลี่ยมแมวในเมือง หลับหูหลับตาวิ่งตามมาเบรกไม่ทัน จึงถลาเข้ากลางวงตามหลักของแรงเฉื่อย ท่ามกลางเสียงถ้วยชามแตกเปรี้ยงปร้างเอะอะโวยวายลั่นไปหมด กว่าจะรู้ตัวว่าเสียเชิงไปแล้ว เจ้าหง่าวก็พบว่าตัวเองยืนหน้าเซ่ออยู่กลางวงกับข้าว โดยมีเศษอาหารกระเด็นกระจัดกระจายอยู่รอบตัว เศษผักติดตามหัวหู ดูแล้วน่าเวทนาเหลือเกิน แล้วต่อมาฝาหม้อบินไร้เงาก็ลอยมากระทบหัวอย่างจัง แมวบ้านนอกผู้เคราะห์ร้ายกระโดดโหยงสุดตัว ดาวนับร้อยลอยว่อนเต็มหน้า ท่ามกลางเสียงร้องด่าทอของคุณตา
แมวนักเลงวิ่งหลบออกมาอย่างหวุดหวิดก่อนจะโดนหม้อบินไร้เงาเป็นครั้งที่สอง เห็นหางไว ๆ ของปิฬาร์หลบแวบลงไปทางบันไดจึงวิ่งตามไปอย่างแค้นเคือง
นั่นไง....แมวในเมืองจอมแสบของเจ้าหง่าว ยืนอยู่บนเบาะคันงามของมอเตอร์ไซด์คู่ชีพของไอ้หนุ่มผมยาวนักพัฒนา แมวนักเลงบ้านนอกกางเล็บกระโจนเข้าตะปบด้วยลีลาท่าทางสวยงามด้วยกระบวนท่ากรงเล็บพิฆาต
แคว่กๆๆๆ...........!
อนิจจา........กรงเล็บพญายมของเจ้าหง่าวที่หลับหูหลับตาข่วนถี่ยิบ ตะปบลงไปบนเบาะลิซ่าเต็มแรง เพราะเป้าหมายหลบวูบไปอย่างแมวรู้
“ไม่.....”
เสียงไอ้หนุ่มผมยาวร้องโหยหวนเมื่อมองลงมาเห็นภาพอันน่าสยดสยองเข้าพอดี เห็นลิซ่าคันงามถูกตะปบด้วยเล็บมือแมวต่อหน้าต่อตา ความตกใจทำให้หยิบจานใบหนึ่งที่วางข้างตัวขว้างลงมาจากนอกชาน โดยมีเป้าหมายอยู่ที่เจ้าแมวหง่าวผู้กำลังยืนงงงันอยู่บนเบาะจักรยานยนต์ แต่เสียดายว่าฝีมือการขว้างจานยังต่ำกว่ามาตรฐาน และต่ำกว่าการคาดหวัง เป้าหมายที่แท้จริงของจานบินใบนั้นจึงเป็นลำตัวของรถคันโปรด
เพล้ง...!!
“อ๊าก..!.”
เสียงร้องปิ่มว่าจะขาดใจดังขึ้นหลังจากนั้น หนุ่มรุ่นพี่ผมยาวผู้มีรถจักรยานยนต์อยู่ในหัวใจถลาลงมาจากบ้านร้องสุดเสียง เมื่อรู้ว่าตัวเองทำร้ายลิซ่าคันโปรดด้วยมือของตัวเอง ยังไม่ทันทำอะไร จานชามอีกใบก็ลอยลิ่วลงไปกระทบบั้นท้ายลิซ่าอย่างจัง จากฝีมือของหนุ่มรุ่นน้องผู้เห็นลูกพี่ขว้างจานลงไป ก็ถือโอกาสหยิบจานขึ้นมาขว้างลงไปบ้างเพื่อเอาใจลูกพี่
เพล้ง!
“โอ้ย...ลิซ่า ไม่นะ!”
ไอ้หนุ่มผมยาวผวาลุกขึ้น กระโดดพรวดเดียวจากนอกชาน ลงไปหามอเตอร์ไซด์แสนรักคุกเข่าไหล่ตก ซบหน้ากับฝ่ามือทั้งสองอยู่ข้างพาหนะคู่ชีพในลักษณะของคนดวงใจแตกสลายไม่มีชิ้นดี ไม่กล้าแม้แต่จะมองดูร่องรอยความเสียหายอันบังเกิดกับลิซ่ารถคู่ใจ ซึ่งปกติจะทะนุถนอมชนิดริ้นไม่ไห้ไต่ไรไม่ให้ตอม กลางคืนแทบจะกลางมุ้งให้ น้ำยาขัดเงาก็ราคาแสนแพง เพียงให้ลิซ่ามันวาวเป็นประกายดั่งใจฝัน ความขมขื่นทรมานใจที่ทำร้ายลิซ่าด้วยมือของตัวเอง มันเลวร้ายยิ่งกว่ากรงเล็บแมวเสียอีก รอยถลอกของสีรถ เหมือนรอยมีดที่กรีดกลางใจบริเวณละเอียดอ่อนที่สุดจนเจ็บปวดสาหัสสากรรจ์
“ลิซ่า....ผมขอโทษ ฮือ ๆ....”
คุณตาซอมบี้กับคุณยายใจดี ยืนมองหนุ่มนักศึกษาทั้งสองคนอย่างสงสัย รุ่นพี่ปริเวทนาการคร่ำครวญกับรถคันโปรด รุ่นน้องนั่งน้ำตาไหลพรากกับเหล้าแก้วแรกในชีวิตราวกับคนสูญสิ้นทุกอย่างในโลกนี้ไปแล้ว
“มันเป็นอะไรของมันวะ เด็กพวกนี้” คุณตาเกาหัวอย่างไม่เข้าใจ “สงสัยมันจะเรียนมากไป เลยออกอาการพิลึก พิลั่นแบบนี้ เออ...สงสัยจะต้องไปห้ามคนบ้านเราไม่ให้ส่งลูกไปเรียนในเมืองจริง ๆ แล้ว กลัวว่ะ....กลัวใจพวกเด็กรุ่นใหม่ไฟแรง”
“มันอาจไม่ใช่นะตา..” คุณยายคัดค้านจนน้ำหมากไหลย้อยมุมปากตามประสาคนแก่ที่มองโลกในแง่ดี
“มันอาจจะเป็นแฟชั่นใหม่ ของคนในเมืองก็ได้ แหม....พวกเราคนเฒ่าคนแก่อยู่บ้านนอกคอกนา จะไปเข้าใจอะไรกับขนบธรรมเนียมพวกเด็กเขา ว่าไหมล่ะตา....”
“สงสัยเป็นเด็กแนว เด็กเกรียน”
“อะไรนะตา”
“ไม่รู้เหมือนกัน รู้แต่ว่าพูดแล้วมันรู้สึกยืด ๆ เท่ ๆ ดี..”
ข้างแมวจอมยุ่งพอหลบฉากออกไปได้ก็วิ่งกลับขึ้นไปบนหลังคาอีกครั้ง มองเจ้าหง่าวซึ่งยังแยกเขี้ยวอยู่ข้างล่าข้างรั้วแบบขยาด เพราะเริ่มรู้สึกว่ายุ่งกับแมวในเมืองตัวนี้ครั้งใด มีแต่เรื่องซวยให้กับตัวเองทั้งนั้น
และดูเหมือนจะซวยจริงๆ เพราะทันใดนั้นเองสองหูของไอ้คุณหง่าว ก็แทบระเบิดออกมาด้วยเสียงกระโชกสนั่นหวั่นไหวปานฟ้าถล่ม พร้อมกับเงาทะมึนถาโถมเข้าใส่ หมาหน้าโหดสามตัวซึ่งคอยสังเกตการณ์อยู่เงียบ ๆ พอเห็นมีจังหวะสวยงาม ก็เล็งเป้าหมายมายังแมวนักเลงบ้านนอกทันที
เจ้าหง่าวร้องไม่เป็นภาษาแมว กระโดดโหยงหลบคมเขี้ยวมหากาฬไปได้แบบหวุดหวิด ออกวิ่งสี่ตีนสุดชีวิตไปตามใต้ถุนบ้านโน้นบ้านนี้ โดยมีฝูงหมาหน้าโหดกวดตามไปติด ๆ ท่ามกลางสิ่งของถล่มทลายแตกหักล้มระเนระนาดกระจัดกระจายไปตามรายทาง ในความรู้สึกของหมา การไล่กัดแมวเป็นเรื่องสนุกตื่นเต้นเร้าใจหาใดเปรียบปาน
พอเหตุการณ์บานปลายห่างออกไป ปิฬาร์ก็ค่อยย่องลงมาจากหลังคา เพราะเห็นว่าบนนอกชานมีปลาย่างตกอยู่สองสามตัว กลิ่นของปลาย่างหอมหวนชวนเคลิ้มฝัน และน่าลิ้มเลียสุดประมาณ แต่เมื่อเป็นแมวในเมือง จะพรวดพราดไปกินแบบไร้มารยาทไม่ได้ มันต้องค่อยเป็นค่อยไปแบบแมวผู้ดีมีสกุล ดังนั้นจึงค่อยย่องเข้าไปอย่างสง่างามมีชั้นเชิงและไว้ตัว
เจ้าหนุ่มรุ่นน้องซึ่งกำลังเช็ดน้ำตา บังเอิญหันมามองพอดี
สำหรับหนุ่มนักศึกษาคนนี้ ภาพผีแมวแตงโมยังคงติดตาติดใจคอยหลอกคอยหลอนอยู่มิรู้คลาย พอเห็นหน้าปิฬาร์ก็จำได้ทันที ความหวาดกลัวก็ทะลักล้นครืนขึ้นมาอีกครั้ง แมวผีแตงโมมันตามเรามาถึงที่นี่...ในคืนอันโหดร้าย
“ผีแมวแตงโมมาอีกแล้ว อ๊ากซ์”
เด็กหนุ่มร้องสุดเสียงก่อนตาเหลือกตาค้างหงายหลังตึงลงกับพื้น ความเมาและความกลัวประเดประดังขึ้นมาพร้อมกัน ทำให้จิตใจอันอ่อนไหวเปราะบางทลายคงราบคาบสิ้นสติไปในทันที
ส่วนนักศึกษารุ่นพี่ไม่สนใจอีกแล้วกับสภาวการณ์ของโลก คงคร่ำครวญด้วยความโศกเศร้าร้าวรันทด อยู่กับลิซ่าคันงามราวคนหัวใจสลาย
ไอ้หง่าวแมวนักเลงบ้านนอก ความที่หวาดกลัวหมาหน้าโหดกำลังไล่พิฆาต ทำให้ลืมกระทั่งว่าการหลบหนีที่ถูกต้องตามมาตรฐานสากล ต้องหลบขึ้นไปบนบ้าน รับรองไม่มีหมาหน้าไหนกล้าไล่ตามขึ้นไป คุณหง่าวกลับเตลิดออกชายป่าช้างหมู่บ้าน แล้วกระโจนขึ้นไปนั่งตัวสั่นบนคาคบไม้ต้นหนึ่ง มองลงมาทีไรก็แทบจะเป็นลมหน้ามืด เพราะในเงามืดมัวยังเห็นเขี้ยวแสยะแยกเห่าดุเดือดลั่นสะท้านป่า ทำให้ขวัญหนีดีฝ่อเป็นอย่างยิ่ง แมวนักเลงได้แต่หมอบเอากรงเล็บเกาะกิ่งไม้ไว้แน่นด้วยความหวาดกลัวว่าจะถูกสภาพบีบคั้น ทำให้สติแตกจนพลัดหล่นลงไป เพราะเคยได้ยินข่าวว่าเคยมีแมวถูกรุมเห่าจนเสียสติกลายเป็นแมวบ้ามาแล้ว
การ “รุมเห่า” แม้จะมันสนุกตื่นเต้นและเร้าใจแบบไล่แมว หรือการลอบกัด แต่ก็นับว่าออกรสออกชาติไม่น้อย อีกทั้งเป็นการบริหารกล้ามเนื้อคอ หลอดเสียง และเป็นการแสดงศักยภาพของพลังอำนาจเสียงอวดหมาตัวอื่นไปในตัว ดังนั้นฝูงหมาจึงกระหน่ำเสียงเห่าแบบไม่ขาดสายราวสายน้ำตกกระแทกกระทั้นไม่ขาดตอน ดังสะท้านกังวานไปทั้งหมู่บ้าน ตั้งแต่หัวค่ำจนดวงเดือนโผล่พ้นทิวไม้จึงเลิกลาจากการรุมเห่าอันโหดร้ายทารุณต่อจิตใจ เพราะเริ่มมีอาการเจ็บคอ ประกอบกับเริ่มเบื่อที่แมวไม่เห่าตอบ ฝูงหมาหน้าโหดจึงยอมพักยกล่าถอยกลับไปในหมู่บ้าน
แมวหง่าวรู้สึกเหมือนตายแล้วเกิดใหม่ การตกยู่ในสภาพถูกรุมเห่ามันยิ่งกว่าฝันร้าย จิตใจหนักอึ้งกดดันจนแทบจะพลัดตกลงไปหลายครั้ง ไม่แน่เหมือนกันว่าถ้าถูกรุมเห่าไปอีกสักระยะ อาจลืมตัวเท้าอ่อนหล่นลงไปจริงๆ ก็เป็นได้
หลังจากตั้งสติอยู่ครู่ใหญ่ ใจคอของไอ้หง่าวค่อยสงบลง และเริ่มสังเกตสภาพการณ์รอบตัว ป่าคืนนี้ดูเงียบเชียบวังเวงอย่างแปลกประหลาด ปกติแมวนักเลงบ้านนอกไม่ได้ออกมาชายป่าแถวนี้บ่อยนัก เนื่องจากกลัวผีแมว มีข่าวลือในหมู่แมวว่าแมวหลายตัวถูกฆ่าตาย และกลายเป็นผีแมวคอยหลอกหลอนแมวในหมู่บ้าน จนสติแตกไปหลายตัวแล้ว
แต่ข่าวลือฟังแล้วสยดสยองที่สุด ก็คือข่าวแมวท้องไม่มีพ่อตัวหนึ่ง คลอดลูกตายทั้งกลมอยู่ในป่า กลายเป็นวิญญาณแมว คาบลูกเดินไปมาในราวป่าร้องเสียงหาแมวรัก เหมียว...เหมียว....โหยหวนชวนขนลุกยามค่ำคืนอันเยือกเย็น หนาวเหน็บชวนสะท้านหวั่นไหว ในแสงจันทร์อันหม่นมัวอึมครึม
พอนึกถึงเรื่องนี้ ไอ้หง่าวก็ตัวสั่น ถึงจะเก่งกล้าบู้ล้างผลาญปานใด แต่ก็เป็นแมวที่กลัวผีแมวเป็นที่สุด มองเห็นเงาไม้ใบไม้ไหววูบวาบเป็นภาพผีแมวเดินไปมาเต็มไปหมด
ต้องกลับไปในหมู่บ้าน.....แมวหง่าวบอกกับตัวเอง ที่นั่นมีชายคาอันอบอุ่น มีอาหารให้กินแก้หิว มีเสื่อเก่าเก็บไว้ตามใต้ถุนหรือบนบ้านให้ลองเล็บเล่น มีหนูมากมายให้เล่นไล่จับ น่าอยู่กว่าบนต้นไม้อันโดดเดี่ยวอ้างว้างนี้มากนัก
ไต่ลงมาอย่างระมัดระวังเพราะกลัวตกเสียชื่อแมว ตอนขึ้นทำไมขึ้นเร็วเหลือเกิน ตอนลงทำไมยากจัง
พอลงมาถึงพื้นกำลังจะวิ่งหางชี้เข้าไปในหมู่บ้าน แมวเหง่าวก็ชะงักงันเพราะรู้สึกว่าความน่ากลัวบางอย่างกำลังคุกคามอย่างรุนแรง มันเป็นความน่าสะพรึงกลัวมีกลิ่นไอของความตายและความชั่วร้ายแบบไม่เคยสัมผัสมาก่อนในชีวิต พอหันหลังกลับไปมองก็ตัวเย็นเฉียบรู้สึกเหมือนเลือดในตัวจะจับกันเป็นก้อนแข็ง ขนลุกขนพองไปทั้งตัว เพราะในความมืดในเงาไม้ ร่างตะคุ่มและดวงตาวาวหลายคู่กำลังจ้องมองมาอย่างน่าสะพรึงกลัว
“แมวผี....ผีแมว....!”
แมวนักเลงบ้านนอกร้องสุดเสียง แต่เสียงนั้นกังวานอยู่ในจิตใจเท่านั้น ความกลัวขีดสุดทำให้ร้องไม่ออก วิ่งก็ไม่ออก ได้แต่ยืนตัวแข็งค้างอยู่ราวหุ่นปั้นในขณะเจ้าของสายตาวาววับเป็นประกายค่อยย่างสามขุมออกมาจากเงาไม้ หนึ่งตัว... สองตัว.. สามตัว...
ปกติเจ้าหง่าวจะคิดว่าตัวเองเป็นแมวตัวใหญ่และแข็งแรงที่สุดในโลก เพราะยังไม่เคยเห็นแมวตัวใดใหญ่กว่าตนเอง มาคืนนี้จึงรู้ว่าคิดผิด เพราะแมวสามตัวที่ก้าวออกมาปรากฏตัวนั้นตัวรูปร่างใหญ่กว่าเจ้าหง่าวมาก ท่าทางก็โหดร้ายป่าเถื่อนมากกว่า จนทำให้แมวนักเลงอย่างเจ้าหง่าวกลายเป็นแมวสุภาพเรียบร้อยขี้อายขึ้นมาทันทีเมื่อเทียบกับผู้มาเยือน
นั่นไม่ใช่ผีแมว แต่เป็นแมวป่าสีดำสนิทสามตัว !
จบบทครับ เมี๊ยว!
ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาเยือน
ขอบคุณ อิโม ความเห็น งามๆ จากคุณ Na(นะ) , คุณมัศยวีร์ , คุณkasareev , คุณสมาชิกหมายเลข 726649 , คุณLady Star 919 , คุณกาล อนันตา , คุณturtle_cheesecake , คุณรัชต์สารินท์ , คุณลายลิขิต, คุณอ้อมสมาชิกหมายเลข 868666 ,คุณ Soul Master , คุณศรเขียว ครับป๋ม เมี๊ยวว!!!