คุณ "เป็นต่อ" ครับ ผมว่าการขาดความเข้าใจนั่นแหละครับคือปัญหา ไม่ใช่เรื่องอื่น ................ โดย ตระกองขวัญ

คนที่ขาดความเข้าใจ  ไมใช่ใครอื่น  
แต่คือตัวคุณ "เป็นต่อ" เองนั่นแหละครับ    ปัญหาอยู่ตรงนี้


แตกประเด็นจาก  https://pantip.com/topic/38020875

ผมเข้าไปร่วมแสดงความเห็น  คุณเป็นต่อก็แย้ง  ผมก็ถือว่าได้แสดงความเห็นไปแล้ว
คุณเป็นต่อจะเข้าใจประเด็นไหม  หรือเอาแต่ "ยึดติด" กับความถูกต้องของตัวเอง  ผมก็ไม่ยุ่งอีก

แต่พอตะกี้เห็น  https://pantip.com/topic/38020875/comment34  ของคุณเป็นต่อ
ผมก็คิดว่า  หากไม่อธิบาย ไม่สนทนากันให้รู้เรื่อง   ไม่เหมาะแน่ ๆ   เพราะคนอื่น ๆ รวมทั้งผม  จะกลายเป็นคนแย่ไปซะดื้อ ๆ



จากกระทู้ที่แตกประเด็นมา  ผมได้ให้แง่คิดว่า
ไม่ใช่เพราะคุณเป็นต่อชอบห้องเพลง ถึงได้มีคนเข้าไปแย้ง  แต่เพราะคุณเป็นต่อตั้งกระทู้เชิงพาดพิงท้าทายคนอื่น
เมื่อมีการพาดพิง ท้าทาย  ในท่วงทำนองว่า  เพราะคนอื่น ทำให้ห้องเพลงอยู่ไม่ได้ ก็ย่อมมีการแย้ง

และผมยังแสดงความเห็นอีกว่า  ที่เกิดการแย้ง ไม่ใช่เพราะคุณเป็นต่อชอบห้องเพลง  แต่เพราะการพาดพิงคนอื่น
จะชอบ  จะอยากให้กลับมา  จะคิดถึง   ก็ตามสบาย   แต่เมื่อพาดพิงคนอื่นก็ต้องมีผลสะท้อน

แต่ดูเหมือนคุณเป็นต่อไม่เช้าใจ    โดยเฉพาะการที่คุณเป็นต่อโพสต์ใน คห.34  ว่า

อุดมการณ์ทางการเมืองที่แตกต่างกัน ไม่ใช่สิ่งสำคัญไปชั่วคราว เวลานี้ต่างร่วมใจ
กันแสดงออกถึงถึงความ ...... !!! ....... ( ไม่พูดดีกว่า )


นี่ไงครับ   ความไม่เข้าใจ  อันทำให้เกิดปัญหาของคุณเป็นต่อ

พิจารณาเนื้อหาที่ผมยกมาสิครับ
คนปกติที่ไหนคิดกันแบบนี้ ?

อุดมการณ์ทางการเมืองที่แตกต่างไม่ใช่สิ่งสำคัญชั่วคราว  คืออะไร ?

หมายความว่า  
ถ่าเป็นแดงด้วยกัน จะถูกจะผิดไม่สำคัญ ต้องปกป้องเข้าข้างกันอย่างนั้นหรือ ?
ถ้าความคิดทางการเมืองต่างกัน  เป็นมิตรกันไม่ได้  ต้องอยู่คนละขั้วทุกอย่างทุกเรื่องตลอดไปงั้นเหรอ ?

เวลานี้ต่างร่วมใจกันแสดงออกถึงถึงความ ...... !!! ....... ( ไม่พูดดีกว่า )    คืออะไร ?

คือร่วมมือกันเล่นงานห้องเพลงอย่างนั้นหรือ ?

อะไรของคุณ
นี่แหละ ผมถึงบอก  มันคนละเรื่อง  ระหว่างความชอบห้องเพลงของคุณ กับ การที่คุณพาดพิงคนอื่น



คุณยังบอกว่า  คนอื่นแยกแยะไม่ออก  
ซึ่งคุณหมายถึงว่า  คุณจะชอบห้องเพลง เป็นเรื่องของคุณ คนอื่นไม่มีสิทธิ์มาก้าวก่าย
ทั้งที่ความจริง  คนที่แยกแยะไม่ออก  ก็คือคุณเองนั่นแหละ
เพราะคุณเอาความชอบของคุณมาพาดพิงคนอื่นในเชิงลบ  ทำเหมือนคนอื่นทำลายห้องเพลง
แต่คุณตะแบงอยู่อย่างเดียวว่า  คุณแค่แสดงความชอบ  ทำไมต้องมาต่อว่าคุณ

และคุณโพสต์ใน คห.34 อีกว่า

อยู่ห้องการเมือง มันก็ควรจะเป็นคนที่มองอะไรในหลายๆมุม
อยู่ห้องการเมือง มันก็ควรจะเป็นคนที่แยกแยะเรื่องราวต่างๆเป็น
อยู่ห้องการเมือง มันก็ควรจะเป็นคนใจกว้าง
อยู่ห้องการเมือง มันก็ควรจะรู้จัก การให้อภัย
อยู่ห้องการเมือง มันก็ควรจะรู้จักปล่อยวางเป็น


คุณมองหลายมุมไหม  หรือเห็นแต่มุมของตัวเอง ?
คุณแยกแยะเรื่องราวต่าง ๆ เป็นไหม  หรือเอาแต่บอกว่าคนอื่นแยกแยะไม่เป็น ?
คุณใจกว้างพอไหม   พาดพิงคนอื่นแต่พอโดนผลสะท้อนกลับแสดงอาการไม่พอใจ ?
การให้อภัย   เรื่องเดียวกันไหมกับความรับผิดชอบ ?
การปล่อยวาง  คืออะไร  คือไม่ต้องรับผิดชอบก็ไม่เป็นไร  ปล่อย ๆ ไปเหอะ จะอะไรนักหนา  อย่างนั้นเหรอ ?




ย้ำนะครับ  คุณจะชอบห้องเพลง  ไม่มีใครก้าวก่ายคุณหรอก
คุณจะบอกว่า เรื่องคาามขัดแย้งคุณไม่เกี่ยว ไม่รู้ ไม่สนใจ  ใครจะเกลียดห้องเพลงเกลียดไป  คุณไม่เกลียดด้วย
ก็เป็นเรื่องของคุณ

แต่เมื่อไรก็ตาม  ที่คุณออกมาแสดงความชอบแบบกระทบต่อคนอื่น  พาดพิงคนอื่น
ก็ย่อมมีผลสะท้อนถึงคุณ

และคุณต้องแยกแยะ และคิดให้กว้างพอว่า  
การแสดงความชอบของคุณ  มีความหมายอย่างไรแบบไม่เอาแต่อ้างว่าไม่ได้หมายความอย่างนั้น
จะเอาแต่อ้างว่า  ไม่ได้พาดพิงว่าใครในทางเสียหาย  แค่ชอบห้องเพลง   ไม่ได้นะครับ
เพราะถ้อยคำและเนื้อหาที่คุณแสดงออกมามันกระทบต่อคนอื่นในทางลบ  ไม่ใช่แค่เรื่องความรู้สึกชอบหรือไม่ชอบ

อย่างคำว่า  ปัญหามาม่ากับคนนอกห้องเพลง  ไม่นึกว่าจะทำให้ห้องเพลงต้องหายไปจากราชดำเนิน
คุณอาจคิดว่า ไม่นึกว่าห้องเพลงจะอ่อนแอขนาดนี้  แต่คนอื่นเขาอาจคิดว่า คุณกำลังบอกว่าเพราะคนอื่นทำให้ห้องเพลงอยู่ไม่ได้

อย่างนี้  คุณต้องใจกว้างพอที่จะรับผลสะท้อน   ไม่ใช่บอกให้คนอื่นใจกว้างรับในสิ่งที่คุณอยากให้รับ



นี่คือที่สาธารณะ  มีความหลากหลาย  
จะสื่ออะไร  ต้องสื่ออย่างชัดเจน   ให้สาธารณะเห็นประเด็นตรงกัน  
หากสาธารณะเห็นไม่ตรงกัน  มีการแย้ง มีการสนับสนุน  มีการตีความที่แตกต่างกัน  คนสื่อก็ต้องรับผลสะท้อนนั้น
ไม่ใช่โวยวายโทษสาธารณะว่าไม่เข้าใจในสิ่งที่สื่อ

ไม่ใช่เรื่องถูก ผิด  แต่คือเรื่องการพาดพิงและผลสะท้อน
ไมใช่เรื่องใครมองว่าคุณคิดถึงห้องเพลงแล้วผิด



ชอบไปเถอะครับ  คิดถึงไปเถอะครับ   เพียงแต่ให้ระมัดระวังอย่าให้ไปโยงถึงคนอื่น
แค่ที่คุณยกเรื่องมาม่า   ใช้ถ้อยคำว่า  ระหว่างคนห้องเพลงกับคนนอกห้องเพลง   ก็คือดารพาดพิงคนอื่นแล้วครับ

ถามตัวคุณเองดีกว่า  ว่าทำไม  จะคิดถึง จะแสดงความชอบ
ทำไมไม่แค่แสดงความรู้สึกตัวเอง  จะว่าห้องเพลงดี มีค่า มีสาระอย่างไรก็ว่าไป  ไม่ต้องดึงเรื่องอื่น คนอื่นมาเกี่ยง มาอ้าง
ก็เพราะหยิบยกเรื่องอื่นคนอื่นมานั่นแหละ  ถึงทำให้เกิดปัญหา

เมื่อพาดพิงคนอื่น  ก็มีผลสะท้อน    เมื่อมีผลสะท้อนก็ยอมรับ  แยกแยะ  ใจกว้าง  ต่อผลสะท้อนที่เกิดขึ้น
เท่านั้นเอง