ภาษาอังกฤษ สำคัญต่อการเรียนรู้ ต่อสายงานอาชีพ มากขนาดไหนหรอครับ

ตามหัวข้อเลยครับ
ผมทำงานเป็นบุคคล IT (เกี่ยวกับพัฒนาซอฟแวร์) แล้วเวลาจะหาข้อมูลอะไร ภาษาไทยก็พอมีครับ แต่พออ่านภาษาอังกฤษ ผมก็ใช้เวลาอ่านนานมากกว่าภาษาไทยครับ 1 ย่อหน้า เป็นครึ่งชั่วโมงเลย
   อยากหาแรงบัลดาลใจจากพี่ๆ หรือ คนหลายๆคนครับ ว่าภาษาช่วยให้คุณๆ พัฒนาตัวเองได้มากขนาดไหน

   ทุกวันนี้ เวลาจะอ่านอะไร ผมก็อยากอ่านเป็นภาษาอังกฤษครับ ก็มี กลัวๆ มี ขี้เกียด บ้างครับ
  อยากมีตัวอย่างหรือคุณๆช่วยบอกเรื่องราวที่ผ่านมาให้เป็นตัวอย่างทีครับ

ขอบคุณครับ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 4
ผมอาจไม่ใช่คนที่ จขกท. อยากฟังเพราะผมเรียนเอกอังกฤษ ภาษาอังกฤษคืองานหลักของผม ถ้าไม่ได้ภาษาอังกฤษก็คงตกงานหรืออดตายไปนานแล้ว แต่ผมก็ไม่ได้เก่งแต่เกิด มาหัดเอาทีหลังทั้งนั้น และผมไม่มีวิธีลัดนะครับ ผมหัดอ่านหนังสือภาษาอังกฤษตั้งแต่ ม.1 จนจบ ป.ตรี กี่ปีก็คิดไป นั่นแหละครับเวลาที่ใช้ในการเปลี่ยนจากคนไม่เก่งให้เป็นคนเก่งจากประสบการณ์ผม มันนานขนาดนั้นเลย สมัยมัธยมผมจะอ่านแค่ข่าวหนังสือพิมพ์ หรือบทความนิตยสารสั้นๆ แต่มาเริ่มอ่านจริงจังเมื่อสมัยเรียน ป.ตรี หลังเข้าเอกแล้วก็อ่านตาแฉะครับ วิชาไวยากรณ์อ่านไปเลยตำรา 500 กว่าหน้า วิชาวรรณคดียิ่งแล้วใหญ่ เทอมนึงอ่าน 5 เล่ม เล่มละ 3-4 ร้อยหน้า แล้วไม่ใช่หนังสืออ่านง่ายๆ สไตล์แฮรี่พอตเตอร์นะครับ แต่ละเล่มนี่เปิดศัพท์กันเลือดตาแทบกระเด็น บางทีอ่านไปทั้งหน้ายังไม่รู้เรื่องเลยก็มี แต่ก็ต้องทนเพราะมันเป็นวิชาเรียน แต่หลังจากผมจบมาได้แล้วบอกเลยครับ โลกทัศน์เปิดขึ้นมาก ผมพบว่าข้อมูลที่เป็นภาษาไทยมีน้อยมาก เมื่อเทียบกับข้อมูลที่เป็นภาษาสากลไม่ว่าจะในห้องสมุดหรืออินเตอร์เน็ต บางทีค้นกูเกิ้ลหัวข้อนึงเจอเว็บไทยไม่กี่เว็บ แต่พอค้นเป็นภาษาอังกฤษขึ้นมาเพียบ แบบว่าข้อมูลโคตรลึกจนเราไม่อยากจะอ่านเว็บไทยเลย เพราะบางครั้งคนทำเว็บก็ก็อบมาผิดๆ หรือแปลผิดก็เจอบ่อยมาก แม้แต่เวลาไม่ได้ทำงาน เช่น ดูหนัง-เล่นเกมผมยังไม่ดูซับไทยเลยครับ เพราะเจอคำแปลผิดแล้วหงุดหงิดทุกที อย่างพวกหนังซิทคอมฝรั่งนี่ถ้าดูซับไทยเทียบกับต้นฉบับ จะรู้เลยว่าแปลเนื้อหาหายไปเยอะมาก ประมาณว่ายิงมุกมา 3 มุกแปลเป็นไทยได้ตลกแค่ 1 มุก อีก 2 มุกก็แปลได้แต่มันไม่ตลกเพราะมันเป็นการเล่นคำภาษาอังกฤษ บางทีนั่งดูหนังกับเพื่อน ผมหัวเราะคนเดียวแต่เพื่อนไม่หัวเราะ เพราะเพื่อนอ่านซับไทยซึ่งมันแปลได้แต่คำศัพท์ แต่ไม่ได้แปลความตลกมาด้วย

จริงๆ อาจารย์สอนการแปลของผมก็บอกตั้งแต่สมัยเรียนละครับว่าถ้าอยากเก่งอังกฤษ อย่าอ่านหนังสือแปล เพราะมันเป็นการเสพสื่อผ่านมุมมองของคนอื่น ซึ่งถ้าเขาแปลผิดเราก็จะไม่รู้ได้เลยนอกจากจะเอาต้นฉบับมาเปิดเทียบกัน ดังนั้นถ้าอยากเก่งต้องอ่านต้นฉบับเอง แปลเองครับ คนอ่านหนังสือแปลไม่มีทางเก่งไปกว่าคนแปลได้ เพราะทุกอย่างที่เขารับรู้ถูกจำกัดผ่านมุมมองของคนแปลเท่านั้น
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่