ใครว่า"..ลำปาง.." ไม่มีที่เที่ยว... 7 วัน 6 คืน ยังจะไม่พอ ^^"

ขอเล่าย้อนไปช่วงต้นปีที่แล้ว (ม.ค.2017) ด้วยอารมณ์อยากปลีกวิเวก อยากหาที่เที่ยวเดี่ยวๆพักผ่อนและฟื้นฟูจิตใจ
จังหวัดลำปางจึงค่อนข้างตรงกับ concept ที่คิดไว้ " LAMPANG = ลำปาง / ลำพัง " 5555
เมื่อจิ้มได้ล่ะว่าจะไปที่ไหน ก็เริ่มหาข้อมูลจากแหล่งต่างๆนาๆ ทั้งใน pantip ,facebook ,เว็บท่องเที่ยวต่างๆ
แถมช่วงนั้นเหมือนเจอการโปรโมทในหน้า facebook อย่างถี่ยิบเลยมีข้อมูลของแหล่งท่องเที่ยวลำปางเยอะมากๆ
แต่บางคนก็ยังไม่รู้จักลำปางดี พอบอกว่าจะไปก็มักจะเจอคำพูดว่า " ลำปางมีอะไรน่าเที่ยว_ะ "
เอาล่ะ...งั้นมาทำความรู้จักในมุมของเราไปพร้อมๆกัน

เริ่มแรกเมื่อคิดจะไปแล้วจะไปยังไง...
1. จองตั๋วรถไฟก่อนเลย โทรจองสะดวกดี ใช้บัตรปชช.ตอนรับตั๋ว ส่วนตัวเคยนั่งรถไฟไทยแบบชั้น 3 มาแล้ว
กว่าจะถึงที่หมายก้นแบนมาก รอบนี้เลยขอนั่งนิ่มๆแบบแอร์เย็นๆสบายๆ และนี่เป็นครั้งแรกที่นั่งรถไฟสปรินเตอร์
ค่อนข้างโอเคเลย มาตรงเวลา มีอาหาร 1 มื้อ ของว่าง 2 มื้อ มีความตื่นเต้นตอนเข้าห้องน้ำ รถไฟโยกแรงมากอ้ะ ^^"
ค่าโดยสาร กรุงเทพฯ-ลำปาง ราคา 598 บ. (เริ่มนั่งจากสถานีหลักสี่) ใช้เวลาประมาณ 8 ชม.
การเดินทางแบบนี้เหมาะกับคนไม่เร่งรีบมาก เพราะใช้เวลานานพอสมควร
แต่เราอยากจะดื่มด่ำวิวข้างทาง แม้จะเห็นลางๆก็เหอะ เพราะงั้นรถไฟจึงถูกเลือกเป็นแผนการเดินทางไป-กลับในครั้งนี้

2. จากการหาข้อมูลพบว่าการเดินทางในจังหวัด ในแต่ละอำเภอจะใช้รถสองแถวซะส่วนใหญ่
จำราคาไม่ได้แม่นๆนะ น่าจะเริ่มที่ 20 บ.สำหรับนั่งภายในเมือง
แต่ถ้าจะเที่ยวข้ามอำเภอก็มีให้เลือกระหว่างรถสองแถว รถตู้ตามมคิว หรือต้องเหมารถไป
คนไปเที่ยวคนเดียวอาจต้องเตรียมสำรองค่ารถไปเยอะหน่อยสำหรับการเดินทางแบบนี้
เพราะแต่ละจุดท่องเที่ยวค่อนข้างไกลกันพอสมควร ยังไม่มีรถมารองรับจุดนี้มากพอ

3. ที่พักจองจากในเวปที่ดูน่าเชื่อถือ ดูแหล่งที่ปลอดภัย ดูรีวิวคนพักมากกว่ารูปในเว็บ ราคาไม่ถูกไม่แพงจนเกินไป
เราเลือกแบบไปจ่ายหน้างานหมดเลย เพราะคิดว่าอาจจะมีการเปลี่ยนแพลนเล็กน้อย

4. วางแผนเที่ยวและจัดเวลาคร่าวๆสำหรับแต่ละวัน เพื่อ save cost และ save time
อาจจะทิ้ง free time ไว้สักวันเพื่อไปหาร้านกาแฟนั่งชิวๆ เดินเล่นริมน้ำ
แต่ตามถนนคนเดิน หรือสถานที่บางแห่งที่มีเวลาเปิด-ปิดชัดเจน ควรกำหนดวันเวลาลงไปเลย
ว่าจะไปวันไหน ไปแล้วต้องทำอะไร ของกินเด่นดังต้องลองอะไรงี้ อย่านึกจะไปก็ไป อาจจะเสียเวลาเที่ยวไปฟรีๆ

หลักๆก็คร่าวๆประมาณนี้ โดยมากเวลาจัดทริป เราจะสนุกไปกับมัน
มีความคาดหวังตั้งใจในแต่ละจุดหมาย พอได้ค้นหาก็อยากที่จะเห็นของจริงๆว่าเป็นยังไง
ความคาดหวังหลักๆคือ อยากไปสัมผัสด้วยตัวเองในทุกๆที่ ^^

DAY1
เริ่มออกเดินทางตอนเช้า มีเป้สะพายหลังกับกระเป๋าสะพายเป็นสัมภาระในครั้งนี้

ตั๋วโดยสารรถไฟโทรจองแล้วไปรับที่สถานีต้นทางเลย


นั่งไปสักพักก็เสิร์ฟของว่างมื้อแรก


พอใกล้เที่ยงก็เสิร์ฟมื้อกลางวัน นี่เป็นครั้งแรกที่กินอาหารแนวนี้บนรถไฟ
ตอนแกะเกร็งมาก กลัวจะหกเหลือเกิน รสชาติกลางๆพอได้อยู่


ช่วงบ่ายๆของว่างมื้อ 2 ก็มา ขนมอันนี้อร่อยดี น้ำส้มเติมได้


วิวข้างทางก็จะประมาณนี้ เสียดายที่กระจกมัวมาก


ระหว่างทางก็เจอฝนตกบ้าง นี่ขนาดเดือนม.ค.นะ ^^"


ในที่สุดร่วม 8 ชม.ที่ยาวนานก็ถึงสักที มาพร้อมๆกับฝนเลยจ้า


ลงมางงๆแป้บนึง นึกได้ว่าข้างสถานีรถไฟมีตลาดนี่หน่า เลยไปหาอะไรกินก่อนเข้าที่พัก
ได้ขนมจีนน้ำยามา 1 ถ้วย รสชาติดีนะ แต่ไม่คุ้นกับขนมจีนทางเหนืออ้ะ
เหมือนมีผักอะไรสักอย่างที่เคมีไม่ตรงกับเรา ทานไม่หมดด้วยเสียดายมื้อแรกที่นี่ ><


ทานเสร็จฝนหยุดพอดี เดินมาถ่ายรูปหน้าสถานีหน่อย
เห็นรูปพระองค์ท่านทีไรก็อดคิดถึงไม่ได้ ไม่มีอีกแล้ว TT
(ขออภัยที่อาจจะใช้คำไม่ถูกต้อง แต่เป็นคำมาจากความรู้สึกจริงๆ)


รอสองแถวอยู่พักใหญ่เนื่องจากฝนตก รถเลยขาดระยะไป
วันแรกก็ใจตุ้มๆต่อมๆเลย ลุงคนขับให้นั่งหน้ามาด้วยกัน แกรับฝรั่งมาด้วยคนนึง
แกพาวนหาที่พักให้ฝรั่งไม่เจอสักที จนเราเปิด GG maps ช่วยถึงได้เจอ
ฝนก็ตกลงมาอีก กว่าลุงจะพามาถึงที่พัก พานู๋เที่ยวซะก่อนแล้ว
ที่พักโอเคเลย สะอาดดูดี แต่ดันอยู่ชั้น 1 TT เอาวะอยู่หลัง reception ไม่ต้องกลัวหรอก
ราคาได้ลดมานิดหน่อยจากตอนแรกที่คุยกัน นอนๆไปสบายดี แต่เสียงตู้เย็นตัดดังมาก
ตอนแรกตกใจสะดุ้งตื่นเลย กลัวนะแต่เหนื่อยมากกว่าเลยนอนต่อ 5555


ก่อนนอนคืนนี้อุ่นท้องซะหน่อย ซื้อหน้าห้องนี่ล่ะ
ฝนตกขี้เกียจออกล่ะ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่