Bhutan in the Rain - รีวิวเที่ยวภูฏานช่วงหน้าฝน กับกล้องฟิล์มคู่ใจ

ต้องขอเปรยก่อนว่า นี่เป็นการไปภูฏานครั้งแรก และจับพลัดจับผลูได้ไปเที่ยวในช่วงเวลาสั้นๆ ที่ว่างก่อนจะไม่ว่างอีกนาน ..แต่ถึงจะใช้เวลาอยู่บนแผ่นดินภูฏานไม่กี่วัน แต่กลับมาแล้วบอกเลยว่า...ถึงกับโหยหาอยากกลับไปอีกอยู่ทุกๆ วันเลยทีเดียว



https://pantip.com/topic/38039121 กระทู้ใหม่ รีไรท์ ติดตามเรื่องราวต่อได้ที่นี่เลยจ้า


                  เหตุผลที่ชื่อกระทู้เป็น ภูฏานช่วงหน้าฝน (อย่าลืมออกเสียงว่า พู-ตาน !) ก็เพราะความจริงแล้ว ช่วงเวลาเหมาะสมสำหรับการไปภูฏานจริงๆ คือช่วงฤดูใบไม้ผลิ และฤดูใบไม้ร่วง ช่วงเดือน 3-5 และ 9-11 ส่วนเดือน 6-8 จะเป็นฤดูร้อน ถึงจะเรียกฤดูร้อนแต่ก็มีมรสุมอยู่เรื่อยๆ ทำให้ท้องฟ้าที่ควรจะสีฟ้าเต็มไปด้วยเมฆฝนอยู่บ่อยๆ
..แต่เนื่องจากเราว่าว่างแค่ช่วงปลายเดือนกรกฏาเท่านั้น ประจวบเหมาะกับมีตารางทัวร์ช่วงนั้นเลยพอดี เราจึงแพ็คกระเป๋าไปกันอย่างไม่รีรอ เพราะการได้พิชิตวัดทักซัง (Taktsang) หรืออีกชื่อคือ Tiger’s nest นั้นเป็นหนึ่งใน Bucket list ของเราที่คิดว่า ต้องไปดูภาพของวัดทักซังที่ตั้งอยู่บนชะง่อนผานั้นให้ได้สักวันหนึ่ง (ได้แรงบันดาลใจมาจากภาพสวยๆ ที่คนไปภูฏานแล้วมักถ่ายกลับมาให้ได้ดูอยู่เสมอนั่นเอง แบบแค่เห็นก็หลงรักเข้าแล้ว 555) แต่ก็คิดไว้บ้างแล้วแหละว่า คงไปพิชิตวัดทักซังสักครั้งหนึ่งครั้งเดียวในชีวิตก็พอนะ เพราะค่าทัวร์ไปเหยียบแผ่นดินภูฏานมันแพงแสนแพงเหลือเกิน



ทักซังที่เราเฝ้าใฝ่ฝัน (ฟิล์ม)



                  ในส่วนของรายละเอียด ตารางเดินทาง ขอไม่เขียนอะไรมากเนอะ เพราะก็เป็นตารางเดินทางแบบง่ายๆ 5 วัน 4 คืน เน้นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของภูฏานที่มีคนรีวิวมาอยู่บ้างแล้ว สามารถเสิร์จหากันได้ทั่วไป  และเป็นเมืองท่องเที่ยวใกล้ๆ อย่าง Paro-Thimphu-Punakha เมืองท่องเที่ยวใกล้สนามบินนั่นเอง

                  อย่างที่เกริ่นไว้ว่า การเดินทางไปในครั้งนี้ เป้าหมายจริงๆ คือไปที่วัดทักซังในวันที่ 4
แต่.. พออยู่ไปเข้าวันที่ 2 พวกเราก็ถึงกับลืมวันลืมคืนกันเลยทีเดียว (ลืมแบบลืมจริงๆ ลืมถึงขนาดต้องถามกันว่าวันนี้วันที่เท่าไหร่ของการเดินทางแล้วกันแน่ 555) เพราะทุกสถานที่ที่เราไป ผู้คน ถนนหนทาง ล้วนเป็นภาพแปลกตา และสวยงามสำหรับเราไปหมด ตั้งแต่ขึ้นเครื่องที่สุวรรณภูมิ ก็มีชุดประจำชาติ ทั้งชาย และหญิง เดินกันขวักไขว่ให้บริการบนเครื่อง ตอนลงที่สนามบินพาโร (Paro International Airport) ก็มีศิลปะแบบภูฏานตามผนัง หน้าต่าง เสา และประตู ให้ได้ชมอย่างสวยงาม อีกทั้งมองฝั่งนึงเป็นอาคารสนามบิน อีกฝั่งเป็นภูเขาขนาบข้าง มองเลยไปยังเห็นเมืองเป็นบ้านเล็กใหญ่ (ใหญ่แต่ก็ไม่เกิน 5 ชั้นนะ เดี๋ยวจะมาอธิบายต่อว่าทำไม) ไล่ระดับอยู่ตามเชิงเขา และที่ราบอันน้อยนิด



สถาปัตยกรรมภูฏานบนอาคารสนามบิน



ลงจากเครื่องก็เดินเล่นชื่นชมได้อย่างสบายใจ พอเมื่อไหร่ก็เข้าเกทไปตม.



                   ...คิดดู นี่ขนาดแค่ก้าวแรกขึ้นเครื่องจนเหยียบสนามบินก็สวย และมีมุมให้น่าหยิบกล้องขึ้นมาถ่ายรูปอยู่ตลอด จะไม่ให้ถึงกับลืมวันลืมคืน เข้าใจว่าวันที่สามแล้วทั้งๆ ที่พึ่งจะเข้าวันที่สองได้ยังไงกัน 555


กระทู้นี้เป็นกระทู้แรก ตั้งใจจะเขียนให้เป็นภาพจากกล้องฟิล์มคู่ใจ+กล้องมือถือ ประกอบกับประเด็นต่างๆ ที่เราประทับใจในภูฏาน ในเชิงมาเล่าสู่กันฟัง แชร์ความประทับใจเก็บไว้เป็นข้อมูลเผื่อจะมีใคร ทั้งที่เคยไปแล้วและยังไม่เคยไป อยากไปสัมผัสบรรยากาศแบบภูฏานๆ อย่างเราสักครั้ง ยิ้ม


ผิดพลาดประการใดก็ขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยหนา หัวใจ

*ข้อมูลส่วนใหญ่มากจากไกด์ภูฏานเล่าให้ฟัง ส่วนน้อยจากการทำการค้นคว้าเพิ่มเติม


**อัพเดต 9/9/18
ขออนุญาตแก้ไขเนื้อหาบางส่วน(ส่วนน้อย) และภาพประกอบ เพราะอยากจะเขียนรีไรท์ใหม่ให้เป็นเนื้อเดียวกันมากขึ้น พร้อมกับรอภาพที่ยังได้มาไม่ครบ
https://pantip.com/topic/38039121 กระทู้ใหม่ รีไรท์ ติดตามเรื่องราวต่อได้ที่นี่เลยจ้า
**
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่