ในที่สุดก็เข้าใจในความคิดของคน มันง่ายไปไหมที่จะกล่าวหากันแบบนี้ เราจะรู้ความคิดเขาก็ต่อเมื่อเราไม่มีประโยชน์อะไร มันเป็นคำพูดที่ออกมาจากปากของคนที่คิดเอาแต่ใด้ โดยไม่คิดถึงเหตุผลอื่นๆ กว่าจะเป็นแบบนี้ได้ ต้องทำไงบ้าง
* ออกค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนวีซ่าที่โอมาน สองรอบ รวมถึงค่าเครื่อวบินไปกลับ ค่าจองโรงแรม
* ช่วงรามาดอนไม่มีงานที่ทำงาน อยู่บ้าน ก็หางานพิเศษให้ทำ เพื่อหารายใด้
* ไม่มีเงินโอนไปบ้านก็จัดการโอน ไม่มีก็ให้พี่สาวที่ กทม. โอนให้ สุดท้ายก็โอนให้ รวมกับค่าแรงคนงาน แต่ก็ไม่โอนให้คนงาน มาบอกว่า
ค่าตัวของเขา
* เมื่อออกไปแล้วมาว่าลับหลัง ไปบอกคนโน้นคนนี้ว่าเราไม่ดี ที่ทำทุกอย่างก็เพราะเป็นห่วง อยากให้มีชีวิตที่ดีกว่าที่เป็นอยู่ แต่กลับโดนว่า
แบบนี้ มันมาก เกินกว่าที่จะรับใด้ ในชีวิตไม่เคยแม้แต่จะคิดแบบนี้เลย แต่ก็โดนว่าแบบนี้
* ถ้าเราเป็นแมงดาเกาะเขากิน แล้วเขาเป็นอะไรหละ*
* ตอนอยู่ด้วยกัน ก็ธรรมดาเงินๆทอง ก็ใช้ร่วมกัน ขาดเกิน ก็หยิบยื่นช่วยเหลือกัน เป็นธรรมดา เราไม่ว่าหรอก ว่าเราไม่เคยใด้รับการยื่นความ
ช่วยเหลือจากเขา แต่ ความจริงก็คือความจริง
* แต่อย่ามาใส่ร้าย ว่ากันแบบนี้ มันแรงเกินจะรัยใด้ *
* ยากที่จะอภัย อโหสิกรรม (Be Reconciled, Forgive) คือ กรรมที่เลิกให้ผล หรือการไม่เอาโทษต่อกัน และการเลิกแล้วต่อกัน
หากทำแล้วไม่สบายใจตัวเอง ก็คงกรรมนั้นต่อไป จนกว่าจะบรรลุแห่งกรรม นั่นคือกรรม Not Forgive & No Forget
cr: Na More Johnnie
* แต่อย่างไรก็ตาม ก็ต้องขอบคุณที่ออกไปจากชีวิตเรา คบกับคนเลว ทำให้ชีวิตพาเลวไปด้วย ดีที่ออกไปใด้ ชีวิตเราจะใด้ดีขึ้น ดีกว่ามีปลิงมาเกาะ
กินเลือด ตอนนี้ ทำให้ชีวิตดีขันอีกมากมาย ขอบใจ
*เราอาจจะไม่เคยมองเห็น “กรรม”แต่สิ่งที่เราควรตระหนักรู้ก็คือ กฎแห่งกรรม มีจริง กรรมไม่เคยละเว้นใคร ไม่ว่ากรรมนั้นจะเป็น “บุญหรือบาป”
เมื่อไรก็ตามที่เหตุปัจจัยถึงพร้อม…บุญและบาปก็พร้อมให้ผลทันที
We may never see the "karma", but what we should realize is that the karmic law of karma has never been ignored, whether
karma is "merit or sin".Whenever the factor is ready ... merit and sin are ready to give immediate results.
*และตอนนี้ เขาก็รับกรรม ของเขาไป ทำกรรมอะไรไว้ กรรมนั้นมันก็จะมาติดตามเขาตลอดไป.
*เหมือนกับบทละคร ที่เอ่ยใว้ให้เตือนใจ ว่า*
"มันจะมีช่วงหนึ่งในชีวิต
ที่อยากทำไรทุกๆอย่างตามใจเรา
จนลืมสิ่งสำคัญไป
ไม่แน่ใจว่าเคยเป็นหรือปล่าว
แต่ตอนอายุตอนนั้น
ผมเป็นแล้ว และพังไปเยอะเลย"
ชีวิตในดูไบ EP#1
* ออกค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนวีซ่าที่โอมาน สองรอบ รวมถึงค่าเครื่อวบินไปกลับ ค่าจองโรงแรม
* ช่วงรามาดอนไม่มีงานที่ทำงาน อยู่บ้าน ก็หางานพิเศษให้ทำ เพื่อหารายใด้
* ไม่มีเงินโอนไปบ้านก็จัดการโอน ไม่มีก็ให้พี่สาวที่ กทม. โอนให้ สุดท้ายก็โอนให้ รวมกับค่าแรงคนงาน แต่ก็ไม่โอนให้คนงาน มาบอกว่า
ค่าตัวของเขา
* เมื่อออกไปแล้วมาว่าลับหลัง ไปบอกคนโน้นคนนี้ว่าเราไม่ดี ที่ทำทุกอย่างก็เพราะเป็นห่วง อยากให้มีชีวิตที่ดีกว่าที่เป็นอยู่ แต่กลับโดนว่า
แบบนี้ มันมาก เกินกว่าที่จะรับใด้ ในชีวิตไม่เคยแม้แต่จะคิดแบบนี้เลย แต่ก็โดนว่าแบบนี้
* ถ้าเราเป็นแมงดาเกาะเขากิน แล้วเขาเป็นอะไรหละ*
* ตอนอยู่ด้วยกัน ก็ธรรมดาเงินๆทอง ก็ใช้ร่วมกัน ขาดเกิน ก็หยิบยื่นช่วยเหลือกัน เป็นธรรมดา เราไม่ว่าหรอก ว่าเราไม่เคยใด้รับการยื่นความ
ช่วยเหลือจากเขา แต่ ความจริงก็คือความจริง
* แต่อย่ามาใส่ร้าย ว่ากันแบบนี้ มันแรงเกินจะรัยใด้ *
* ยากที่จะอภัย อโหสิกรรม (Be Reconciled, Forgive) คือ กรรมที่เลิกให้ผล หรือการไม่เอาโทษต่อกัน และการเลิกแล้วต่อกัน
หากทำแล้วไม่สบายใจตัวเอง ก็คงกรรมนั้นต่อไป จนกว่าจะบรรลุแห่งกรรม นั่นคือกรรม Not Forgive & No Forget
cr: Na More Johnnie
* แต่อย่างไรก็ตาม ก็ต้องขอบคุณที่ออกไปจากชีวิตเรา คบกับคนเลว ทำให้ชีวิตพาเลวไปด้วย ดีที่ออกไปใด้ ชีวิตเราจะใด้ดีขึ้น ดีกว่ามีปลิงมาเกาะ
กินเลือด ตอนนี้ ทำให้ชีวิตดีขันอีกมากมาย ขอบใจ
*เราอาจจะไม่เคยมองเห็น “กรรม”แต่สิ่งที่เราควรตระหนักรู้ก็คือ กฎแห่งกรรม มีจริง กรรมไม่เคยละเว้นใคร ไม่ว่ากรรมนั้นจะเป็น “บุญหรือบาป”
เมื่อไรก็ตามที่เหตุปัจจัยถึงพร้อม…บุญและบาปก็พร้อมให้ผลทันที
We may never see the "karma", but what we should realize is that the karmic law of karma has never been ignored, whether
karma is "merit or sin".Whenever the factor is ready ... merit and sin are ready to give immediate results.
*และตอนนี้ เขาก็รับกรรม ของเขาไป ทำกรรมอะไรไว้ กรรมนั้นมันก็จะมาติดตามเขาตลอดไป.
*เหมือนกับบทละคร ที่เอ่ยใว้ให้เตือนใจ ว่า*
"มันจะมีช่วงหนึ่งในชีวิต
ที่อยากทำไรทุกๆอย่างตามใจเรา
จนลืมสิ่งสำคัญไป
ไม่แน่ใจว่าเคยเป็นหรือปล่าว
แต่ตอนอายุตอนนั้น
ผมเป็นแล้ว และพังไปเยอะเลย"