"เมื่อคืนกว่าเด็ก ๆจะรับเหรียญเสร็จก็ปาเข้าไปสี่ทุ่ม ผมยืนรอรับที่หน้าประตูทำเนียบ รับไหว้เด็ก ๆ และเอ่ยทักทีละคน หน่อง กิ๊ฟ นุศ ปู เพียว บีม ชัชชุอร ทัดดาว อรอุมา หัตถยา พรพรรณ ปิยะนุช ฯลฯ (พยายามจะจำชื่อให้ได้ทั้งทีม)
....
ท่านทูต ท่านอัคร นั่งกับผู้ใหญ่ในทีม ตอนแรกผมก็นั่งกับโค้ชด่วน โค้ชยะ และคุณหมอพิเชษฐ์แพทย์ประจำทีม หลังจากนั้นก็ขอตัวไปนั่งกับ หน่อง กิ๊ฟ นุช และอรอุมา เพราะคุยกับโค้ชด่วนเยอะแล้ว หายคิดถึงแล้ว 555
...
คำแรกที่กิ๊ฟพูดกับผมคือ "หนูขอโทษนะพี่ วันนี้สู้ไม่ไหวจริง ๆ" ผมบอกน้องว่า "จะขอโทษทำไม พี่เห็นพวกเธอแพ้มาเยอะมากตลอดสิบปีที่ผ่านมา ถ้าเสียใจเพราะแพ้อันดับหนึ่งของโลกอย่างจีน ก็คงเลิกตามเชียร์ไปนานแล้ว"
....
แล้วก็นั่งคุยอัพเดตชีวิตกันว่าจะทำอะไรกันต่อหลังจากเลิกเล่นทีมชาติ ทั้งสามบอกว่าก็คงยังเล่นอาชีพในลีกส์ของไทย และทั้งหมดจะไปทำงานกันที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค
...
ถามนุศราว่า จะกลับไปเล่นที่ แฟร์นาบาเช่ ที่ตุรกีอีกมั้ย เธอบอกว่าคงไม่ไปแล้ว เพราะเศรษฐกิจตุรกีกำลังทรุดหนักสมาคมไม่ค่อยมีเงินจ้างนักกีฬาต่างชาติ อีกอย่างค่าเงินลีร่าของตุรกีเมื่อเทียบกับเงินไทยก็แข็งขึ้นมาก จากตอนที่เธอไปเล่นแรก ๆ 1 ลีร่าต่อ 15 บาท ตกลงมาเหลือ 1 ลีร่าแลกได้แค่ 5 บาท อยู่เมืองไทยคุ้มกว่า
....
กิ๊ฟก็ยังเล่นอาชีพในไทย และมีความสุขกับชีวิตครอบครัวที่อบอุ่น โดยมีหน่องเป็นมือที่สามที่ไม่ยอมแยกตัวออกไปมีผัวกับเขาเสียที กิ๊ฟซื้อบ้านใหม่เป็นเรือนหอกับสามี หน่องก็รีบไปจองห้องและตั้งชื่อว่า "ห้องปลื้มจิตร" และติดรูปปลื้มจิตรทั้งห้อง
....
กิ๊ฟเคยมาเล่นอาชีพที่อินโดหลายปี กลายเป็นผมต้องถามน้องว่าการใช้ชีวิตอยู่อินโดเป็นอย่างไร
ท่านอัครฯ ชมหน่องว่าหน้าดี๊ย์ ดีย์ ขนาดเล่นกีฬาตบกับตูมตาม กี๊ฟ ตอบแทนว่า "หน่องมันจะไปโดนอะไรมันตัวสูง หนูสิ นี่เลยเต็มเบ้าตา" นุศรา มาเสริมว่า "ใช่ ใช่ อีเจ้เบอร์ 2 จีนตบมาที ถ้าหนูถอยมารับนี่ลงหัวทุกที"
แล้วโค้ชด่วนก็พาเพียวเดินมาสวัสดีบอกว่า น้องจะมาเล่นที่จาการ์ต้าฤดูกาลหน้า เซ็นสัญญาเรียบร้อยแล้ว ฝากดูแลด้วย
....
คุยกันอยู่จนเกือบเที่ยงคืน ก็ถึงเวลาต้องลาจากกัน เพราะจะเดินทางกลับเมืองไทยตอนไฟล์ท 7 โมงเช้า หน่องกับนุศ งอแงนิดหน่อยเพราะกำลังเอ็นจอยไวน์ขาวอิตาเลี่ยน Prosecco อยู่ พอถูกเร่งให้กลับที่พักก็เลยเดินมากระซิบท่านอัครฯขอหนีบไปฉลองฉองขวด
...
พอดีมาดามท่านทูตได้ยิน จึงทำหน้าเข้มดุเอาว่า "เอาไปทำไมแค่สองขวด เอาไปสี่ขวดเลย"
...
ท่านอัครถ่ายรูปกับหน่อง ตาเยิ้มแล้วทั้งคู่ มือที่ไขว้ไปข้างหลังนั้น เพื่อซ่อนแก้วแชมเปญ ต่อไปคงต้องกีดกันไม่ให้สองคนนี้สนิทกัน"
แหล่งข่าว ขอบคุณข้อความและรูปจากเฟซบุ๊กคุณ Ekkawit Sudanich และ Royal Thai Embassy, Jakata
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ลิงก์ https://www.facebook.com/photo.php?fbid=10155902465477061&set=a.10150197362137061&type=3&theater
ควันหลง Asian Games 2018: ฤดูกาลหน้า เพียวไปเล่นลีกอาชีพที่จากาต้า อินโดนีเซียนะครับ
"เมื่อคืนกว่าเด็ก ๆจะรับเหรียญเสร็จก็ปาเข้าไปสี่ทุ่ม ผมยืนรอรับที่หน้าประตูทำเนียบ รับไหว้เด็ก ๆ และเอ่ยทักทีละคน หน่อง กิ๊ฟ นุศ ปู เพียว บีม ชัชชุอร ทัดดาว อรอุมา หัตถยา พรพรรณ ปิยะนุช ฯลฯ (พยายามจะจำชื่อให้ได้ทั้งทีม)
....
ท่านทูต ท่านอัคร นั่งกับผู้ใหญ่ในทีม ตอนแรกผมก็นั่งกับโค้ชด่วน โค้ชยะ และคุณหมอพิเชษฐ์แพทย์ประจำทีม หลังจากนั้นก็ขอตัวไปนั่งกับ หน่อง กิ๊ฟ นุช และอรอุมา เพราะคุยกับโค้ชด่วนเยอะแล้ว หายคิดถึงแล้ว 555
...
คำแรกที่กิ๊ฟพูดกับผมคือ "หนูขอโทษนะพี่ วันนี้สู้ไม่ไหวจริง ๆ" ผมบอกน้องว่า "จะขอโทษทำไม พี่เห็นพวกเธอแพ้มาเยอะมากตลอดสิบปีที่ผ่านมา ถ้าเสียใจเพราะแพ้อันดับหนึ่งของโลกอย่างจีน ก็คงเลิกตามเชียร์ไปนานแล้ว"
....
แล้วก็นั่งคุยอัพเดตชีวิตกันว่าจะทำอะไรกันต่อหลังจากเลิกเล่นทีมชาติ ทั้งสามบอกว่าก็คงยังเล่นอาชีพในลีกส์ของไทย และทั้งหมดจะไปทำงานกันที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค
...
ถามนุศราว่า จะกลับไปเล่นที่ แฟร์นาบาเช่ ที่ตุรกีอีกมั้ย เธอบอกว่าคงไม่ไปแล้ว เพราะเศรษฐกิจตุรกีกำลังทรุดหนักสมาคมไม่ค่อยมีเงินจ้างนักกีฬาต่างชาติ อีกอย่างค่าเงินลีร่าของตุรกีเมื่อเทียบกับเงินไทยก็แข็งขึ้นมาก จากตอนที่เธอไปเล่นแรก ๆ 1 ลีร่าต่อ 15 บาท ตกลงมาเหลือ 1 ลีร่าแลกได้แค่ 5 บาท อยู่เมืองไทยคุ้มกว่า
....
กิ๊ฟก็ยังเล่นอาชีพในไทย และมีความสุขกับชีวิตครอบครัวที่อบอุ่น โดยมีหน่องเป็นมือที่สามที่ไม่ยอมแยกตัวออกไปมีผัวกับเขาเสียที กิ๊ฟซื้อบ้านใหม่เป็นเรือนหอกับสามี หน่องก็รีบไปจองห้องและตั้งชื่อว่า "ห้องปลื้มจิตร" และติดรูปปลื้มจิตรทั้งห้อง
....
กิ๊ฟเคยมาเล่นอาชีพที่อินโดหลายปี กลายเป็นผมต้องถามน้องว่าการใช้ชีวิตอยู่อินโดเป็นอย่างไร
ท่านอัครฯ ชมหน่องว่าหน้าดี๊ย์ ดีย์ ขนาดเล่นกีฬาตบกับตูมตาม กี๊ฟ ตอบแทนว่า "หน่องมันจะไปโดนอะไรมันตัวสูง หนูสิ นี่เลยเต็มเบ้าตา" นุศรา มาเสริมว่า "ใช่ ใช่ อีเจ้เบอร์ 2 จีนตบมาที ถ้าหนูถอยมารับนี่ลงหัวทุกที"
แล้วโค้ชด่วนก็พาเพียวเดินมาสวัสดีบอกว่า น้องจะมาเล่นที่จาการ์ต้าฤดูกาลหน้า เซ็นสัญญาเรียบร้อยแล้ว ฝากดูแลด้วย
....
คุยกันอยู่จนเกือบเที่ยงคืน ก็ถึงเวลาต้องลาจากกัน เพราะจะเดินทางกลับเมืองไทยตอนไฟล์ท 7 โมงเช้า หน่องกับนุศ งอแงนิดหน่อยเพราะกำลังเอ็นจอยไวน์ขาวอิตาเลี่ยน Prosecco อยู่ พอถูกเร่งให้กลับที่พักก็เลยเดินมากระซิบท่านอัครฯขอหนีบไปฉลองฉองขวด
...
พอดีมาดามท่านทูตได้ยิน จึงทำหน้าเข้มดุเอาว่า "เอาไปทำไมแค่สองขวด เอาไปสี่ขวดเลย"
...
ท่านอัครถ่ายรูปกับหน่อง ตาเยิ้มแล้วทั้งคู่ มือที่ไขว้ไปข้างหลังนั้น เพื่อซ่อนแก้วแชมเปญ ต่อไปคงต้องกีดกันไม่ให้สองคนนี้สนิทกัน"
แหล่งข่าว ขอบคุณข้อความและรูปจากเฟซบุ๊กคุณ Ekkawit Sudanich และ Royal Thai Embassy, Jakata
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้