เป็นกระทู้แรกด้วยคะ เข้ามาขอคำแนะนำคะ รถดิฉันเป็นรถกะบะชนกับรถมอเตอร์ไซค์ป้าคนสูงอายุคะ
กล้องรถยนต์ดิฉันไม่มี กล้องถนนก็เสียคะ เรื่องมีอยู่ว่า
ดิฉันขับรถกะบะจะไปซื้อขนมให้ลูก กำลังขับมาตามถนนพหลโยธิน เข้าเลนส์ในขวา
เพื่อเลี้ยวขวาตามสัญญาณไฟเขียวของทางฝั่งดิฉันออกพอดี
ดิฉันขับไม่เร็ว จำได้ว่าความเร็วประมาณ 50 กม./ชม. เปิดไฟเลี้ยวขวามาแต่ไกล มีใบขับขี่ ขับปกติ
ดิฉันขับจะเลี้ยวตามสัญญาณไฟเขียว ช่วงที่จะเลี้ยวขวาเป็นช่วงถนนที่กว้าง ไม่ใช่เลี้ยวหักศอก ยังไม่พ้นเกาะกลางถนน
ก็มีรถมอไซค์ป้าคนนึงแกอายุ 60 กว่าแล้ว ขับแซงฝั่งประตูซ้ายรถยนต์แต่ละคันมาทางด้านหลังจนถึงรถดิฉัน
ป้าเขาก็แซงซ้ายขึ้นมา อยู่ๆก็หักรถเข้าหารถของดิฉัน ขับตัดหน้ารถดิฉัน เพื่อจะยูเทิร์นกลับรถตัดหน้าไปทางขวาฝั่งของดิฉันขับ
ระยะกระชั้นชิดและเป็นเหตุสุดวิสัยที่ดิฉันจะหักหลบไปทางไหนได้ เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเร็วมาก ทำให้รถกะบะดิฉันชน
เข้ากับรถมอไซค์ป้าเขาตรงกลางลำ ส่วนรถดิฉันมุมหน้าซ้ายเป็นรอยถลอกนิดเดียว ป้าเขารถล้ม ขาซ้ายปวม มีรอยถลอกที่แก้มนิดหน่อย
แต่ดีที่ใส่หมวกกันน็อค มีเด็กวัยรุ่นที่ขับมาใกล้กันมีจิตอาสาช่วยยกรถมอไซที่ล้ม ช่วยกันกับดิฉันเก็บผักเก็บรองเท้าป้าเขาที่หล่นจากตะกร้า
รถมอไซมีพังแค่กระจกขวาหลุด ตอนชนดิฉันตกใจแต่ตั้งสติเบรกรถ และโชคดีที่รถยนต์คันหลังที่ตามหลังดิฉันมาเพื่อจะเลี้ยวขวาตามกันมา
เขาเบรกตามได้ทัน ไม่ชนท้ายรถดิฉันอีกที น้องวัยรุ่นที่ช่วยก็บอก พี่รถติด เราเข็นรถเข้าข้างทางกันก่อน และตำรวจและรถพยาบาลก็ตามมา
ตำรวจถามน้องวัยรุ่นว่าเห็นเหตุการณ์ไหม น้องเขาบอกไม่เห็นตอนชน แต่มาช่วยตอนรถล้มแล้ว ดิฉันก็บอกเห็นด้วยที่รถพยาบาลมาให้ป้า
ลองไปตรวจที่โรงพยาบาลอีกที แต่ป้าเขาเดินได้ รถพยาบาลก็ทายาให้ ช่วงนี้ดิฉันก็ได้ยิน
ป้าเล่าให้น้องที่ทายาให้แกว่าแกกำลังจะยูเทิร์นกลับรถ และเกิดชนกับรถดิฉัน
พอไปรักษาโรงพยาบาล เสียค่ารักษาเอ็กซเรย์ต่างๆ 8,000 บาท ประกันจ่าย ป้าเขาได้จ่ายส่วนต่าง 600 บาท
เป็นช่วงที่ดิฉันไปดูงานต่างจังหวัดพอดี ดิฉันจึงให้แฟนไปเยี่ยมป้าแกที่บ้านแทน น้องชายแฟนบอกว่า
หลังจากรถชน 2 วัน เห็นป้าแกไปเดินตลาดอยู่คงไม่เป็นรัยมากแล้ว พอดีฉันดูงานกลับมาจากต่างจังหวัด
ดิฉันป่วยไปหาหมอเป็นโรคประจำตัวน้ำในหูไม่เท่ากัน ซึ่งเป็นเรื้อรังมาไม่เกี่ยวกับที่รถชน
จึงได้โทรหาลูกชายป้าว่า ค่อยไปโรงพักอีกที เพราะตำรวจบอกต้องมาคุยกันใครผิดถูก และจ่ายค่าปรับอาจจะเป็นประมาทร่วม
คุยกันนอกรอบ คู่กรณีไม่ยอมรับผิดว่าคิดจะกลับรถยูเทิร์นตัดหน้ารถดิฉัน
แต่เขามากลับคำว่าจะเลี้ยวขวาเข้าไปทางเดียวกับดิฉันตามสัญญาณไฟเขียว
คราวนี้ปวดหัวกับป้าแกเลย หัวหมอมาก หาว่ายังไงรถยนต์ก็ผิดเพราะเป็นรถใหญ่ ต้องชดใช้ที่แกไม่ได้ไปทำงานร้านเฟอร์นิเจอร์
2 วันและคงเป็นค่าทำขวัญ รวมๆแล้วก็ 3,000 บาท ที่ป้าแกเรียกร้องหาว่าดิฉันเป็นฝ่ายผิดลูกเดียว ทั้งๆที่ยังไม่ได้ไปคุยโรงพัก
ทางบ้านแฟนป้าแกเป็นพ่อหลวงบ้านเก่า แฟนแกก็มาคุยประมาณว่ารู้จักตำรวจเยอะ ค้าไม้ด้วยกัน บ้านมีตังค์ไม่เอาก็ได้ถ้าไม่ยอม
ไปคุยกันโรงพัก แต่ระวังรถจะถูกยึดไว้โรงพักไม่มีรถไปทำงานนะ ยังมาว่าดิฉันไม่มีน้ำใจมาเยี่ยม ทั้งๆที่ดิฉันก็ให้แฟนมาเยี่ยมแทน
และติดงานไปต่างจังหวัดและกลับมาก็ป่วย ดิฉันไปหาหมอมีใบรับรองแพทย์ สุดยอดเลยคะเจอคู่กรณีแบบนี้
ทีแรกบอกป้าเสียงค่ารักษาเอง 8,000 บาทออกไปก่อน พอดิฉันถามว่าประกันจ่ายไม่ใช่หรือ ป้าแกก็อึกๆอักๆ เพราะแฟนแก
ถามมีบิลใบเสร็จค่ารักษาไหม ดิฉันบอกถ้าไม่มีก็ไม่เป็นรัยเค้ามีข้อมูลการรักษาในเครื่องคอมโรงบาลแล้ว แกก็มาบอกทีหลังว่า
จริงๆ ไม่ได้เสีย 8,000 เสียแค่ส่วนต่าง 600 บาท กรณีนี้ถ้าเราบอกตำรวจไปตามเหตุการณ์แล้ว ฝ่ายรถยนต์ดิฉันต้องผิดมั้ยคะ
รถมอไซค์แซงซ้ายหักเข้ามาตัดหน้ารถดิฉันเพื่อยูเทิร์นกลับรถ ช่วงรถยนต์ดิฉันกำลังเลี้ยวขวาตามไฟเขียว เลยชนมอไซค์ป้าคนนั้นคะ
กล้องรถยนต์ดิฉันไม่มี กล้องถนนก็เสียคะ เรื่องมีอยู่ว่า
ดิฉันขับรถกะบะจะไปซื้อขนมให้ลูก กำลังขับมาตามถนนพหลโยธิน เข้าเลนส์ในขวา
เพื่อเลี้ยวขวาตามสัญญาณไฟเขียวของทางฝั่งดิฉันออกพอดี
ดิฉันขับไม่เร็ว จำได้ว่าความเร็วประมาณ 50 กม./ชม. เปิดไฟเลี้ยวขวามาแต่ไกล มีใบขับขี่ ขับปกติ
ดิฉันขับจะเลี้ยวตามสัญญาณไฟเขียว ช่วงที่จะเลี้ยวขวาเป็นช่วงถนนที่กว้าง ไม่ใช่เลี้ยวหักศอก ยังไม่พ้นเกาะกลางถนน
ก็มีรถมอไซค์ป้าคนนึงแกอายุ 60 กว่าแล้ว ขับแซงฝั่งประตูซ้ายรถยนต์แต่ละคันมาทางด้านหลังจนถึงรถดิฉัน
ป้าเขาก็แซงซ้ายขึ้นมา อยู่ๆก็หักรถเข้าหารถของดิฉัน ขับตัดหน้ารถดิฉัน เพื่อจะยูเทิร์นกลับรถตัดหน้าไปทางขวาฝั่งของดิฉันขับ
ระยะกระชั้นชิดและเป็นเหตุสุดวิสัยที่ดิฉันจะหักหลบไปทางไหนได้ เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเร็วมาก ทำให้รถกะบะดิฉันชน
เข้ากับรถมอไซค์ป้าเขาตรงกลางลำ ส่วนรถดิฉันมุมหน้าซ้ายเป็นรอยถลอกนิดเดียว ป้าเขารถล้ม ขาซ้ายปวม มีรอยถลอกที่แก้มนิดหน่อย
แต่ดีที่ใส่หมวกกันน็อค มีเด็กวัยรุ่นที่ขับมาใกล้กันมีจิตอาสาช่วยยกรถมอไซที่ล้ม ช่วยกันกับดิฉันเก็บผักเก็บรองเท้าป้าเขาที่หล่นจากตะกร้า
รถมอไซมีพังแค่กระจกขวาหลุด ตอนชนดิฉันตกใจแต่ตั้งสติเบรกรถ และโชคดีที่รถยนต์คันหลังที่ตามหลังดิฉันมาเพื่อจะเลี้ยวขวาตามกันมา
เขาเบรกตามได้ทัน ไม่ชนท้ายรถดิฉันอีกที น้องวัยรุ่นที่ช่วยก็บอก พี่รถติด เราเข็นรถเข้าข้างทางกันก่อน และตำรวจและรถพยาบาลก็ตามมา
ตำรวจถามน้องวัยรุ่นว่าเห็นเหตุการณ์ไหม น้องเขาบอกไม่เห็นตอนชน แต่มาช่วยตอนรถล้มแล้ว ดิฉันก็บอกเห็นด้วยที่รถพยาบาลมาให้ป้า
ลองไปตรวจที่โรงพยาบาลอีกที แต่ป้าเขาเดินได้ รถพยาบาลก็ทายาให้ ช่วงนี้ดิฉันก็ได้ยิน
ป้าเล่าให้น้องที่ทายาให้แกว่าแกกำลังจะยูเทิร์นกลับรถ และเกิดชนกับรถดิฉัน
พอไปรักษาโรงพยาบาล เสียค่ารักษาเอ็กซเรย์ต่างๆ 8,000 บาท ประกันจ่าย ป้าเขาได้จ่ายส่วนต่าง 600 บาท
เป็นช่วงที่ดิฉันไปดูงานต่างจังหวัดพอดี ดิฉันจึงให้แฟนไปเยี่ยมป้าแกที่บ้านแทน น้องชายแฟนบอกว่า
หลังจากรถชน 2 วัน เห็นป้าแกไปเดินตลาดอยู่คงไม่เป็นรัยมากแล้ว พอดีฉันดูงานกลับมาจากต่างจังหวัด
ดิฉันป่วยไปหาหมอเป็นโรคประจำตัวน้ำในหูไม่เท่ากัน ซึ่งเป็นเรื้อรังมาไม่เกี่ยวกับที่รถชน
จึงได้โทรหาลูกชายป้าว่า ค่อยไปโรงพักอีกที เพราะตำรวจบอกต้องมาคุยกันใครผิดถูก และจ่ายค่าปรับอาจจะเป็นประมาทร่วม
คุยกันนอกรอบ คู่กรณีไม่ยอมรับผิดว่าคิดจะกลับรถยูเทิร์นตัดหน้ารถดิฉัน
แต่เขามากลับคำว่าจะเลี้ยวขวาเข้าไปทางเดียวกับดิฉันตามสัญญาณไฟเขียว
คราวนี้ปวดหัวกับป้าแกเลย หัวหมอมาก หาว่ายังไงรถยนต์ก็ผิดเพราะเป็นรถใหญ่ ต้องชดใช้ที่แกไม่ได้ไปทำงานร้านเฟอร์นิเจอร์
2 วันและคงเป็นค่าทำขวัญ รวมๆแล้วก็ 3,000 บาท ที่ป้าแกเรียกร้องหาว่าดิฉันเป็นฝ่ายผิดลูกเดียว ทั้งๆที่ยังไม่ได้ไปคุยโรงพัก
ทางบ้านแฟนป้าแกเป็นพ่อหลวงบ้านเก่า แฟนแกก็มาคุยประมาณว่ารู้จักตำรวจเยอะ ค้าไม้ด้วยกัน บ้านมีตังค์ไม่เอาก็ได้ถ้าไม่ยอม
ไปคุยกันโรงพัก แต่ระวังรถจะถูกยึดไว้โรงพักไม่มีรถไปทำงานนะ ยังมาว่าดิฉันไม่มีน้ำใจมาเยี่ยม ทั้งๆที่ดิฉันก็ให้แฟนมาเยี่ยมแทน
และติดงานไปต่างจังหวัดและกลับมาก็ป่วย ดิฉันไปหาหมอมีใบรับรองแพทย์ สุดยอดเลยคะเจอคู่กรณีแบบนี้
ทีแรกบอกป้าเสียงค่ารักษาเอง 8,000 บาทออกไปก่อน พอดิฉันถามว่าประกันจ่ายไม่ใช่หรือ ป้าแกก็อึกๆอักๆ เพราะแฟนแก
ถามมีบิลใบเสร็จค่ารักษาไหม ดิฉันบอกถ้าไม่มีก็ไม่เป็นรัยเค้ามีข้อมูลการรักษาในเครื่องคอมโรงบาลแล้ว แกก็มาบอกทีหลังว่า
จริงๆ ไม่ได้เสีย 8,000 เสียแค่ส่วนต่าง 600 บาท กรณีนี้ถ้าเราบอกตำรวจไปตามเหตุการณ์แล้ว ฝ่ายรถยนต์ดิฉันต้องผิดมั้ยคะ