ชีวิต 60 ปีกับอะไรหลายๆ อย่างในชีวิตที่ผ่านมา

สวัสดีค่ะ เราตั้งกระทู้นี้ขึ้นมาเพื่อแชร์เรื่องราวของชีวิตเพื่อนของเรา เป้าหมายเพื่ออยากจะสร้างความหลากหลายให้กับใครก็ตามที่อ่าน ได้เห็นว่า ชีวิตไม่จำเป็นต้องเป็นตาม Pattern เสมอไป ทุกครั้งที่เราเห็นกระทู้ว่า อายุเท่านี้ควรต้องเงินเดือนเท่าไหร่ หรือ อายุเท่านี้มีบ้านประมาณนี้ พอหรือยัง หลายๆ ครั้ง อ่านแล้วหดหู่นะคะ ถ้าคุณไปไม่ถึงจุดที่สังคมโดยรวม (อย่างน้อยในพันทิพ) คิดว่าเป็นจุดต่ำสุดของมาตรฐาน อันนี้ความรู้สึกเราเองเลยค่ะ ส่วนตัวเราตอนนี้อายุ 32 ลาออกจากงาน ไม่มีเงินเข้า กินเงินเก่าอย่างเดียว กำลังมะงุมมะงาหลากับชีวิตตัวเองอยู่ ไม่มีบ้าน ไม่มีรถ ไม่มีครอบครัวและไม่มีหนี้ค่ะ

โอเค จบล่ะภาค introduction เข้าเนื้อหานะคะ

เพื่อนเรา ขอเรียกว่า คุณจอร์นล่ะกันค่ะ จอร์นเป็นชาวต่างชาติ ผมทอง ผิวขาว ตอนนี้อายุ 60 หย่อนๆ แล้วค่ะ อยู่เมืองไทย 10 กว่าปีแล้ว ไม่มีครอบครัว โสดตลอดชีวิต ปกติมาตรฐานชนชั้นกลางหรือชนชั้นไหนๆ ไม่ว่าที่ใดในโลก เราว่าก็น่าจะคล้ายกันนะคะ วัยปูนนี้ น่าจะมีเมีย ลูก หลาน บ้าน รถ พร้อมสรรพ แต่คุณจอร์นไม่มีอะไรที่ว่ามาเลยค่ะ บ้านก็เช่าอพาร์ตเมนท์ห้องกะทัดรัด ส่วนรถ ก็ใช้จักรยานคันเก่าๆ 1 คันถ้วน  ไม่มีประกันชีวิตนะคะ แต่สุขภาพดีใช้ได้ มีเงินเก็บเล็กน้อย ไม่มีหุ้น เจ้าตัวไม่เชื่อเรื่อง Stock market อ้อ แต่มี Crypto currency ติดตัวพอกรุบกริบค่ะ เริ่มเล่นตั้งแต่ 7-8 ปีก่อนแล้ว

อืม เขียนไป อ่านไป ชีวิตคุณจอห์นน่าห่วงนะคะ ไม่มีความมั่นคงเลย พอถามเจ้าตัวว่า พอใจในชีวิตและรู้สึกไม่มั่นคงมั้ย แก่แล้วน่ะ you

เจ้าตัวบอกว่า ชีวิตเค้าพลิก 180 องศาหลายครั้งเหลือเกิน ที่มีอยู่ก็ดีพอเหลือหลายแล้ว ติดแค่งานปัจจุบัน ที่ผูกเค้าไว้กับเมืองไทย นานเกินไป เรียกได้ว่า นอกจากประเทศบ้านเกิดแล้ว เค้าอยู่ติดที่เมืองไทยนานที่สุด ทำให้เจ้าตัวไม่สามารถไปเที่ยวที่ละ 3 เดือน 1 ปี ได้บ่อยๆ เหมือนที่เคยทำมา

นั่นล่ะค่ะ ความทุกข์ใหญ่หลวงของเค้า ไม่ได้เที่ยว เพราะตลอดชีวิตที่ผ่านมา งานหลักคือ เที่ยว ส่วนงานหาเงินคั่นเวลาคือ วิศวกรค่ะ

คุณจอร์นเริ่มทำงานครั้งแรกตอนอายุ 14 ปี เลี้ยงตัวเองโดยสมบูรณ์ไม่พึ่งพ่อแม่ตอนอายุ 16 สอบเข้ามหาลัยคณะวิศวะตอน 18 ลาออกจากมหาลัยตอน 19 ด้วยเหตุผลเสียเวลาหาเงิน ทำงานเป็นช่างเทคนิคจนอายุ 25 ลาออก นี้เป็นงานสุดท้ายที่จอห์นเป็นลูกจ้างนะคะ (ลาออกครั้งสุดท้ายที่แท้ทรู) จากนี้จะเป็นเมดเล่ของการเป็นฟรีแลนซ์สลับกับเที่ยวรอบโลกแล้วค่ะ หลังจากลาออกก็เปิดบริษัทรับออกแบบ (ตอนนั้น Personal Computer ยังไม่จุติบนโลกนี้นะคะ) จนอายุ 30 อกหักครั้งใหญ่สุดของเด็กเนิร์ด เลยตัดสินใจเก็บของแพ็คกระเป๋า ซื้อตั๋วไปทวีปอเมริกาใต้ ด้วยเหตุผลว่า อยู่ตรงข้ามโลกกับเมืองตัวเอง ไปมี Love Story กับ Dancer ชาวบราซิล จึงตามสาวเจ้าไปทำอาชีพเป็น Dancer คณะประจำชาติให้กับเปรู (อารมณ์ทำนองฝรั่งมารำโขนประจำกรมศิลป์) แล้วก็มั่วมึนอยู่ที่อเมริกาใต้อีก 2-3 ปี เงินหมด กลับประเทศบ้านเกิด รับงาน Freelance สลับกับเที่ยว พออายุ 40 หลังจากจบ Project สุดท้าย ซึ่งเจ้าตัวบอกว่า ตอนนั้นค่าตัวเค้าถือว่าสูงมากเมื่อเทียบกับค่าครองชีพ แต่ Passion ที่มีให้กับอาชีพมอดไปพร้อมกับงานสุดท้ายสำเร็จ เจ้าตัวจึงอยู่เฉยๆ 1 ปีเต็ม อ่านหนังสือ เพื่อหา Passion ใหม่ให้กับชีวิต หลังจากนั้นย้ายไปอยู่ทวีปแอฟริกาใต้ เพื่อบันทึกดนตรีดั้งเดิมของชนเผ่าก่อนที่ความเจริญจะเข้าไป
หูย...4 ปีนะคะ กับทวีปนี้ เกือบตายด้วยไข้มาลาเรีย 3 ครั้งถ้วน ตอนที่จขกท.ฟังครั้งแรก อ้าปากเหวอไปเลยค่ะ งงใจมาก คนอายุ 40 ควรต้องสร้างเนื้อสร้างตัวไปได้ค่อนตัวแล้วมั้ยย่ะ

งานนี้จบที่เจ้าตัวอายุ 45 เงินหมด กรอบ ไม่มีที่ไป เจ้าตัวบอกว่าช่วงที่เงินใกล้หมด ต้องเริ่มขุดเรซูเม่ ตามหาเอกสารส่วนตัวที่กระจัดกระจายหลายทวีป ในวันที่อีเมลล์ยังไม่แพร่หลาย มือถือไม่ต้องถามเลยค่ะ ไม่มี เจ้าตัวต้องให้เบอร์โทรพ่อกับพี่สาวซึ่งทั้ง 3 คนอยู่คนละทวีปเป็นที่ติดต่อ ลำบากน่าดู

สุดท้าย เพื่อนชาวยุโรป ที่รู้จักกันที่แอฟริกาใต้ เสนอโปรเจ็คใหม่ ให้ไปทำงานและกินนอนที่ยุโรป เพื่อเขียนโปรแกรมแบบ Custom Made ขายให้กับเอกชน เจ้าตัวเลยย้ายสำมะโนครัว ย้ายทวีปอีกครั้ง ทำงานมั่วมึนแก้ปัญหาไปได้ซักพัก ต้องการคนเขียนโปรแกรม ราคาไม่สูง จึงมาหาคนทำงานที่อินเดีย ระหว่างทางแวะเที่ยว นอนชายหาดที่ไทย แต่เนื่องจากไม่ไหวกับอะไรหลายอย่างบวกกับความชอบเมืองไทย เลยบินมาหาทีมที่ไทย แต่พึ่งเริ่มต้นคุย มีปัญหาเรื่องเงินเข้ามา สุดท้ายจบที่ เจ้าตัวเงินหมดเกลี้ยง เหลือแค่บัตรเครดิตกับโปรแกรมที่ไปต่อไม่ได้เนื่องจากขาดเงิน

ลูปเดิมค่ะ อายุเฉียด 50 เงินหมดเกลี้ยง อยู่ในประเทศที่ตัวเองพูดภาษาไม่ได้ ไม่มีเพื่อน เจ้าตัวเลยเริ่มขายของออนไลน์ จากวันนั้นถึงวันนี้ 10 กว่าปี ตอนนี้เจ้าตัวไม่ได้ขายออนไลน์แล้วค่ะ เบื่อและไม่มีเวลา อีกทั้งอาชีพปัจจุบันไม่ได้เกี่ยวข้องอันใดเลยกับอาชีพที่ผ่านมา คอมพิวเตอร์ หรือที่บัดกรี กลายเป็นงานอดิเรกเอาไว้รำลึกความหลังเท่านั้น

ล่าสุดเจ้าตัวพึ่งกลับมาจากเที่ยวป่าเขาลำเนาไพรใน SEA มา 3 เดือนถ้วน จขกท.นึกว่าเจ้าตัวย้ายประเทศแล้วค่ะ หายไปนานเหลือเกิน หลังจากคุยกัน จอร์นบอกว่าไปเที่ยวแล้วเกิดสปาร์คกับสิ่งใหม่ เมืองใหม่ กำลังหาลู่ทางย้ายที่อยู่และเปลี่ยนอาชีพอีกครั้ง ตอนอายุ 60 กว่านี่ละคะ

จบแล้วค่ะ เรื่องเล่า 1 ชีวิต (ที่ยังไม่จบนะคะ) เคยถามเจ้าตัวว่า คิดว่าภูมิใจกับอะไรที่สุดในชีวิต เค้าบอกว่า คือการที่เต็มที่และซื่อสัตย์กับตัวเอง เวลาทำงาน เค้าจะทุ่มเทพลังกาย พลังใจให้กับงาน ซึ่งเป็นสิ่งที่ตัวเอง เลือกที่จะทำในเวลานั้นๆ ไม่ว่าจะเป็นงานอะไรก็ตาม เมื่อต้องการหยุด ไปเที่ยว เจ้าตัวก็จะทิ้งทุกอย่าง เพื่อใช้เวลากับสถานที่ ซึมซับความเป็นอยู่จริงๆ ตลอดชีวิต เค้าไปเที่ยวมา 40 กว่าประเทศทั่วโลก หลายประเทศไม่ใช่แค่ไปเที่ยว แต่เรียกได้ว่าไปอยู่เลย จะดีกว่า (อันนี้จากที่เราสังเกตนะคะ เราว่าเจ้าตัวสมถะด้วย ถึงได้รอดมาได้นานขนาดนี้)

เราไม่แน่ใจนักว่า เรื่องเล่านี้จะมีประโยชน์อะไรกับใครมั้ย แต่สำหรับเรา มันคือกำลังใจ ทุกครั้งที่นึกว่าเราจะไปทางไหนต่อ กับทางที่เราเลือก ซึ่งเหมือนว่าจะขัดกับทางชีวิตที่เราเคยวาดไว้เหลือเกิน จอร์นจะคอยบอกเราว่า ชีวิตมันยากน่ะไม่มีอะไรได้มาง่ายๆ แต่ขณะเดียวกัน ชีวิตก็มีทางเป็นไปได้อีกเยอะ เราแค่ต้องกล้าที่จะเชื่อและเปิดรับมันเท่านั้น.

ป.ล. เราไม่แน่ใจนักว่าเลือก Tag ถูกมั้ย ถ้าเราเลือกผิด ช่วยแนะนำเราได้นะคะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่