สวัสดีวันศุกร์ 31 ครับ ในวันเงินเดือนออกแบบนี้สิ่งที่เราควรทำเป็นสิ่งแรกคือเอาเงินเข้าแบงค์สะสมเก็บเงิน......
ไม่ใช่เฟ้ย ต้องกดซิง 4 ต่างหาก เอาให้ถึง 200K
นอกเรื่องเยอะละ ขอเข้าประเด็น เนื่องจากหลังชม victory เทปผีล่าสุดที่ทำให้สนุกสนานขำขันหลังจากเห็นน้องๆกรีดร้องด้วยความกลัว 55555 (โคตรโรคจิตเลยเรา) แล้วก็เลยกดติดตาม ขมิ้นคนขาซอยไปไม่รู้ตัว และสิ่งนึงที่ผมรู้สึกขึ้นมาตอนเห็นน้องขมิ้นแกโอดครวญตลอดทาง (รู้สึกแทบจะไม่มีช่วงเงียบเลย)แล้วผมรู้สึกว่าน้องแกให้อารมณ์เหมือนปูเป้ แบบลดความเกรี้ยวกราดลงไปหน่อยนึง ออกแนวสาวบ่น
ตอนนี้รุ่น 2 ก็เปิดตัวมาได้ 1 เดือนกว่าๆ มีคนหลายคนได้โอชิเพิ่ม บางคนก็ยังยึดมั่นในคามิโอชิของตัวเองต่อไป บางคนก็ตามรุ่น 2 เลยและพอผมก็เป็นหนึ่งในคนที่โอชิ รุ่น 2 เพิ่ม Pantip FB ช่วง 1 เดือนนี้ก็มีกระทู้ถึงรุ่น 2 มากขึ้นทำให้ผมรู้สึกว่าเป็นนิมิตหมายที่ดีที่โอตะเปิดใจรับสิ่งใหม่ๆมากขึ้น หรือมีโอตะหน้าใหม่มากขึ้น ซึ่งผมก็อยากฝากให้โอตะที่ปิดกั้นตัวเองกับรุ่น 2 ให้ลองเปิดใจรับพวกน้องมากขึ้น และเรียนรู้พวกเธอไปเพราะบางทีพวกเธออาจมีสิ่งดีๆที่แสดงให้เห็นแต่เราเผลอหรือเลือกที่จะมองข้ามไป
พอมีทางเลือกรับชมมาก ก็ทำให้ผมได้รู้จักน้องๆรุ่น 2 มากขึ้นเริ่มจำได้หลายคน พอเอามาไล่ๆดู ก็ทำให้ผมรู้สึกว่าถ้ารุ่น 2 มาพร้อมรุ่น 1 ตั้งแต่ต้น (52 คน)กระทู้เรื่องคามิ 7 เอย กลุ่มตัวTop เอย คำสนทนาในนั้นอาจเป็นอีกรูปแบบนึงไปได้เลย พอผมเอามาลองเปรียบกันดูแบบ เซ้นท์ส่วนตัว ส่วนตัวมากๆไม่ได้ให้ทุกคนตัดสินว่าน้องทุกคนจะเป็นไปตามที่ผมคิด ผมก็เลยอยากลองเอามาเทียบกันดูถึงความคล้ายและการแข่งขันต่อไปในอนาคตบางส่วนเท่าที่ผมพอจะเทียบได้นะครับ
ยกที่ 1 (สายผู้นำ) เฌอปราง
คนนี้ไร้คู่ต่อกรครับ จากทั้งหมดในตอนนี้ผมยังไม่เจอใครที่ให้อารมณ์เหมือนแคปเฌอได้เลย แต่แคปเฌอสำหรับผมก็เหมือนคนที่อยู่บนยอดภูเขาน้ำแข็งที่เดียวดาย หนักหน่วง และรับแรงลมที่มากกว่าใครๆ
ยกที่ 2 (สายสดใส) มิวสิค,โมบาย : มิวนิค
กลุ่ม 3M นี้ผมเทียบจากที่มิวนิคถูกคาดว่าจะเป็นตัว Top ของรุ่น 2(จากการฟังกระแสหลายๆคนและความคิดส่วนตัว) ซึ่งเมื่อเอามาเทียบลักษณะกันผมให้ความรู้สึกถึงไอดอลที่สดใส น่ารัก และเยาว์วัย ซึ่งมิวสิค และโมบาย คือเด็กสาวที่มีลักษณะที่กล่าวมามากที่สุด ความสดใสของมิวสิค ความไม่คิดกังวลของโมบาย เหมือนดอกไม้ในฤดูใบไม้ผลิ ซึ่งทำให้ผมคาดหวังว่ามิวนิคจะสามารถทะยานขึ้นไปเคียบเคียงกับรุ่นพี่ได้อย่างภาคภูมิ
ยกที่ 3 (สายแฟชั่นนิส) อร : จูเน่
2 คนนี้สำหรับผมให้ First Impression ด้านความน่าเกรงขาม ความเป็นแฟชั่นตัวแม่ ถ้าอยู่ในโรงเรียน 2 คนนี้จะเป็นเหมือนหัวหน้าแก๊งสาวๆ ที่เลิกเรียนแล้วจะไปเดินสยามดูเสื้อผ้า เครื่องประดับ (สมัยนี้วัยรุ่นยังเดินสยามมั้ยนะไม่แน่ใจเพราะ 10 ปีที่แล้วยังเดินกันเยอะ) สายตาสีหน้าท่าทางมาเต็ม สามารถจับสายตาผมได้อย่างรุนแรงมาก คือมีออร่าของคนเด่นดังชัดเจน อรมีความเป็นตัวแม่มากๆ ซึ่งด้วยอายุ 20 ต้นๆที่เรียกว่าวัยสาวเต็มเปี่ยม ลุคดูสามารถขู่คนได้ด้วยสายตาและสีหน้าในทันที (ผมกลัวอรนะ แพ้ทางผญลักษณะนี้) ซึ่งจูเน่ถ้าไม่บอกว่าอายุ 17 ผมคิดว่าอายุรุ่นเดียวกับอรด้วยซ้ำ เพราะน้องมีลักษณะที่ผมรู้สึกแพ้ทางเหมือน อร มาก ผมมองว่าคนนี้แหละคือตัวสุดของรุ่น 2 แล้ว และน่าจะมีอิทธิพลต่อ BNK อย่างสูงในอนาคต (ขอให้ BNK โตขึ้นๆอยู่ยาวถึง 10 ปีทีเถ้อ)
ยกที่ 4 (สายเด็ก) ซัทจัง : รตา
กุมารไลน์ กับ โอตะเท้าเรืองแสง คู่นี้ที่จริงไม่น่าเอามาเทียบกันเพราะ รตานั้นอายุเลยกุมารไลน์ไปแล้ว แต่ลักษณะของน้องที่แสดงออกมาจากทั้ง ท่าทางอาการแบบเด็กๆซุกซนที่น่ากอดน่ากัดมาก ซึ่งถ้าอยากมีน้องสาวแบบไหน รตาคือน้องสาวที่ผมอยากมีที่สุด ซึ่งความเป็นเด็กนี้เมื่อเทียบกับ รุ่น 1 แล้วคงไม่มีใครนอกจาก ซัทจัง ที่เป็นน้องเล็กประจำวง แต่ทั้งสองจะมีความต่างกันบ้างเพราะซัทจังดูเป็นเด็กที่โตกว่าวัยในจินตนาการของผมไปบ้าง สำหรับเด็กวัย 13 ที่น่าจะมีความสดใส พลังเยอะ ลองผิดลองถูก ไม่ต้องสนใจว่าจะทำอะไรผิดพลาด อาจเป็นเพราะการเข้า BNK มาทำให้น้องมีความเป็นผู้ใหญ่กว่าวัยหรือเปล่า หรือนี่เป็นธรรมชาติของน้องอยู่แล้วก็ไม่อาจคาดการณ์ได้ ซึ่งรตามีความเป็นเด็กในจินตนาการของผมมาก
ยกที่ 5 (สายหล่อ) น้ำหนึ่ง : วี
ไอดอลสายเท่ ที่สามารถเรียกเสียงหวีดโอตะสาวๆได้ (โดยเฉพาะโอตะเท้าเรืองแสงอย่างรตา) น้ำหนึ่งคือคนที่ถูกสาวๆกรี้ดมากคนนึง จะหล่อก็ได้จะสวยก็ดี เมื่อวนมาในกลุ่มรุ่น 2 วีเป็นคนที่ผมมองข้ามไปมากที่สุดคนนึง แต่จากการที่เพื่อนๆบนโซเชี่ยลของผมเองหวีด วี หนักมาก(เพื่อนที่ว่าเป็นผู้หญิง) และสาวที่ทำท่าปัดจมูกบน MV ฤดูกาลใหม่ก็ดึงสายตาทำให้ผมต้องกดย้อนไปดูว่า ยัยเด็กนี่มันใครหว่าท่าทางมันช่างห้าวจริง จากสายข่าวที่ว่าวีมียอดจับมือที่มากระดับนึง ทำให้ผมถึงกับต้องย้อนมาดูว่า เด็กสาวที่กลัวถูกครูติ้กด่าว่ากินเยอะจะเป็นคนแบบไหน และวีก็เป็นหนึ่งในคนที่ถูกคาดว่าจะเป็นระดับตัว Top ของรุ่นเช่นกัน
ยกที่ 6 (สายฮา) ปูเป้ : ขมิ้น
คู่นี้ถ้าไม่มี Victory เทปล่าสุดคงไม่เกิด เป็นคู่ที่เหมือนนักชกคนละรุ่น แต่แค่ 5 นาที 5 นาที!ที่ขมิ้น พูดไม่หยุดโอดครวญไม่หยุดบ่นไม่หยุดตลอด แต่กลับทำให้คนดู Live วันนั้นถึงกับสนุกสนานร่วมไปกับน้องได้ทั้งที่น้องต้องมาออกต่อจากสุดยอดสายฮาอย่างปูเป้ผู้เกรี้ยวกราด (เครดิตนี้ต้องให้พี่ป๊องพี่โอ้ตพี่อุลมาก) ถ้าปูเป้เกรี้ยวกราดได้อย่างเป็นธรรมชาติ ขมิ้นก็โอดครวญได้อย่างน่าเอ็นดูมาก ทั้งสองคนนี้ทำให้ผมรู้สึกถึงคำว่า ผู้หญิงธรรมดาในความคิดผมจริงๆ เพราะรสนิยมผมคิดว่าปูเป้ไม่ใช่คนสวยน่ารักที่ภายนอกโดดเด่นอะไร แต่กลับมีความเป็นธรรมชาติสูงมากๆ คนเราไม่พอใจก็โวยสิไม่ต้องมาเก็บอารมณ์อะไรตลอด แต่ถ้าเป็นคนอื่นโวยก็คงถูกมองในแง่ลบ แต่พอปูเป้โวยกลับกลายเป็นการเกรี้ยวกราดที่ดูซอฟลงไปทันที ซึ่งขมิ้นก็แสดงความกลัวที่น่ารักสุดๆ กลัวจนขาสั่นเป็นยังไงผมพึ่งเคยเห็นก็วันนี้ แล้วมีการซอยไปซอยมาดิ้นไปมาร้องขอความช่วยเหลือตอนกลัว กรี้ดดดดดๆๆๆ เสียงดังชนิดที่ไม่อายเลย ซึ่งทำให้ผมมองว่าน้องคนนี้มีความเป็นธรรมชาติที่สูงมากจริงๆคือกลัวก็ปล่อยออกมาว่ากลัว ซึ่งคนที่ดูรายการผีก็มักชอบขำเวลาที่คนอื่นตกใจกลัวเพราะโดนแกล้งอยู่แล้วและน้องขมิ้นก็สามารถตอบโจทย์ในจุดนั้นได้อย่างสมบูรณ์แบบ
ยกที่ 7 (สายดันตัวเอง) แนทเธอรีน
ในกลุ่มทั้งรุ่น 1 และ 2 แนทเธอรีนคือสุดยอดคนที่ผลักดันความสนใจให้ตัวเองได้อย่างมากที่สุดคนนึง จนมีคำกล่าวจากคนใน Pantip ว่าแนทคือตัวอย่างของคนที่ผลักดันตัวเองและใช้โซเชี่ยลได้เป็นประโยชน์มากที่สุด ซึ่งผมก็เห็นด้วยอย่างไร้ข้อกังขา ถ้าไอดอลอยากถูกผลักดันต้องเป็นคนที่สำคัญกับ อฟช คือขายได้ แล้วคนที่ขายได้มันจะเป็นยังไง ต้องสวย น่ารัก ขี้อ้อน มีเสน่ หรืออื่นๆก็แล้วแต่หนทางที่ไอดอลนั้นจะเลือก และทำให้โอตะพร้อมเปย์ คนนั้นถึงจะเรียกได้ว่าน่าถูกผลักดัน ถ้ามีอีกแบบคือเหมือนคนถูกหวย ซึ่งโมบายคือคนนั้นในความคิดผมที่ได้เลือกให้เป็นเซนเตอร์เพลง KFC ทำให้ BNK จุดติดและน้องก็ได้รับอานิสงค์ความสำเร็จส่วนนึงมาจนดังมากในวันนี้ แต่ท่ามกลางคนที่แข่งขันกันสุดแรง ชื่อของแนทเธอรีนจากสาวหมวยที่คนไม่ค่อยรู้จักก็ผงาดขึ้นมาบนโลกโซเชี่ยล ที่เรียกได้ว่าความชอบของน้องสามารถจับสิ่งที่ผู้ชายบนโลกนี้ชอบมากสุดอย่างนึง คือฟุตบอลได้ และน้องสามารถสร้างกระแสให้ตัวเองจนเพจต่างๆถึงกับต้องเข้าหาไปเล่นกับน้องมากมายหรือช่องข่าวกีฬาก็หยิบน้องไปกล่าวถึงให้แบบฟรีๆโปรโมทให้บนจอใหญ่กันไปเลย แต่บอลโลกจบน้องก็ไม่ได้จบ น้องสานต่อด้วยการเล่นมุขแป๊ก ทั้งที่การเล่นมุขนั้นใครๆก็เล่นได้ เว็บไซท์มีเยอะแยะ แต่คนมีชื่อเสียงที่กล้ามุขออกสื่อนั้นกลับมีน้อยมาก ทำให้โอตะสายมุขก็เข้ามาร่วมเล่นต่อมุขกันมากมาย จนทำให้น้องได้ฉายา ทั้งธิดาชาวสวน หรือแนทคนเฉียบ ซึ่งถ้าน้องสามารถรักษากระแส สานต่อ และดึงให้โอตะรุ่นใหม่มายอมจ่ายเงินให้ การที่เด็กที่ไม่มีอะไรเด่นคนนี้จะผงาดติด Top ของ BNK ทั้ง 2 รุ่นก็เป็นไปได้
ที่จริงยังมีอีกบ้างอย่างคู่ เนยกับนิว ที่ให้อารมณ์ สายนุ่มนิ่ม แต่ผมคิดว่าเอาเท่านี้ก่อนไว้ถ้ารุ่น 2 แสดงออกมามากกว่านี้ก็ค่อยกลับมา
เทียบลักษณะระหว่างรุ่น 1 กับ รุ่น 2 และการวิเคราะห์บุคคล (งดดราม่า)
ไม่ใช่เฟ้ย ต้องกดซิง 4 ต่างหาก เอาให้ถึง 200K
นอกเรื่องเยอะละ ขอเข้าประเด็น เนื่องจากหลังชม victory เทปผีล่าสุดที่ทำให้สนุกสนานขำขันหลังจากเห็นน้องๆกรีดร้องด้วยความกลัว 55555 (โคตรโรคจิตเลยเรา) แล้วก็เลยกดติดตาม ขมิ้นคนขาซอยไปไม่รู้ตัว และสิ่งนึงที่ผมรู้สึกขึ้นมาตอนเห็นน้องขมิ้นแกโอดครวญตลอดทาง (รู้สึกแทบจะไม่มีช่วงเงียบเลย)แล้วผมรู้สึกว่าน้องแกให้อารมณ์เหมือนปูเป้ แบบลดความเกรี้ยวกราดลงไปหน่อยนึง ออกแนวสาวบ่น
ตอนนี้รุ่น 2 ก็เปิดตัวมาได้ 1 เดือนกว่าๆ มีคนหลายคนได้โอชิเพิ่ม บางคนก็ยังยึดมั่นในคามิโอชิของตัวเองต่อไป บางคนก็ตามรุ่น 2 เลยและพอผมก็เป็นหนึ่งในคนที่โอชิ รุ่น 2 เพิ่ม Pantip FB ช่วง 1 เดือนนี้ก็มีกระทู้ถึงรุ่น 2 มากขึ้นทำให้ผมรู้สึกว่าเป็นนิมิตหมายที่ดีที่โอตะเปิดใจรับสิ่งใหม่ๆมากขึ้น หรือมีโอตะหน้าใหม่มากขึ้น ซึ่งผมก็อยากฝากให้โอตะที่ปิดกั้นตัวเองกับรุ่น 2 ให้ลองเปิดใจรับพวกน้องมากขึ้น และเรียนรู้พวกเธอไปเพราะบางทีพวกเธออาจมีสิ่งดีๆที่แสดงให้เห็นแต่เราเผลอหรือเลือกที่จะมองข้ามไป
พอมีทางเลือกรับชมมาก ก็ทำให้ผมได้รู้จักน้องๆรุ่น 2 มากขึ้นเริ่มจำได้หลายคน พอเอามาไล่ๆดู ก็ทำให้ผมรู้สึกว่าถ้ารุ่น 2 มาพร้อมรุ่น 1 ตั้งแต่ต้น (52 คน)กระทู้เรื่องคามิ 7 เอย กลุ่มตัวTop เอย คำสนทนาในนั้นอาจเป็นอีกรูปแบบนึงไปได้เลย พอผมเอามาลองเปรียบกันดูแบบ เซ้นท์ส่วนตัว ส่วนตัวมากๆไม่ได้ให้ทุกคนตัดสินว่าน้องทุกคนจะเป็นไปตามที่ผมคิด ผมก็เลยอยากลองเอามาเทียบกันดูถึงความคล้ายและการแข่งขันต่อไปในอนาคตบางส่วนเท่าที่ผมพอจะเทียบได้นะครับ
ยกที่ 1 (สายผู้นำ) เฌอปราง
คนนี้ไร้คู่ต่อกรครับ จากทั้งหมดในตอนนี้ผมยังไม่เจอใครที่ให้อารมณ์เหมือนแคปเฌอได้เลย แต่แคปเฌอสำหรับผมก็เหมือนคนที่อยู่บนยอดภูเขาน้ำแข็งที่เดียวดาย หนักหน่วง และรับแรงลมที่มากกว่าใครๆ
ยกที่ 2 (สายสดใส) มิวสิค,โมบาย : มิวนิค
กลุ่ม 3M นี้ผมเทียบจากที่มิวนิคถูกคาดว่าจะเป็นตัว Top ของรุ่น 2(จากการฟังกระแสหลายๆคนและความคิดส่วนตัว) ซึ่งเมื่อเอามาเทียบลักษณะกันผมให้ความรู้สึกถึงไอดอลที่สดใส น่ารัก และเยาว์วัย ซึ่งมิวสิค และโมบาย คือเด็กสาวที่มีลักษณะที่กล่าวมามากที่สุด ความสดใสของมิวสิค ความไม่คิดกังวลของโมบาย เหมือนดอกไม้ในฤดูใบไม้ผลิ ซึ่งทำให้ผมคาดหวังว่ามิวนิคจะสามารถทะยานขึ้นไปเคียบเคียงกับรุ่นพี่ได้อย่างภาคภูมิ
ยกที่ 3 (สายแฟชั่นนิส) อร : จูเน่
2 คนนี้สำหรับผมให้ First Impression ด้านความน่าเกรงขาม ความเป็นแฟชั่นตัวแม่ ถ้าอยู่ในโรงเรียน 2 คนนี้จะเป็นเหมือนหัวหน้าแก๊งสาวๆ ที่เลิกเรียนแล้วจะไปเดินสยามดูเสื้อผ้า เครื่องประดับ (สมัยนี้วัยรุ่นยังเดินสยามมั้ยนะไม่แน่ใจเพราะ 10 ปีที่แล้วยังเดินกันเยอะ) สายตาสีหน้าท่าทางมาเต็ม สามารถจับสายตาผมได้อย่างรุนแรงมาก คือมีออร่าของคนเด่นดังชัดเจน อรมีความเป็นตัวแม่มากๆ ซึ่งด้วยอายุ 20 ต้นๆที่เรียกว่าวัยสาวเต็มเปี่ยม ลุคดูสามารถขู่คนได้ด้วยสายตาและสีหน้าในทันที (ผมกลัวอรนะ แพ้ทางผญลักษณะนี้) ซึ่งจูเน่ถ้าไม่บอกว่าอายุ 17 ผมคิดว่าอายุรุ่นเดียวกับอรด้วยซ้ำ เพราะน้องมีลักษณะที่ผมรู้สึกแพ้ทางเหมือน อร มาก ผมมองว่าคนนี้แหละคือตัวสุดของรุ่น 2 แล้ว และน่าจะมีอิทธิพลต่อ BNK อย่างสูงในอนาคต (ขอให้ BNK โตขึ้นๆอยู่ยาวถึง 10 ปีทีเถ้อ)
ยกที่ 4 (สายเด็ก) ซัทจัง : รตา
กุมารไลน์ กับ โอตะเท้าเรืองแสง คู่นี้ที่จริงไม่น่าเอามาเทียบกันเพราะ รตานั้นอายุเลยกุมารไลน์ไปแล้ว แต่ลักษณะของน้องที่แสดงออกมาจากทั้ง ท่าทางอาการแบบเด็กๆซุกซนที่น่ากอดน่ากัดมาก ซึ่งถ้าอยากมีน้องสาวแบบไหน รตาคือน้องสาวที่ผมอยากมีที่สุด ซึ่งความเป็นเด็กนี้เมื่อเทียบกับ รุ่น 1 แล้วคงไม่มีใครนอกจาก ซัทจัง ที่เป็นน้องเล็กประจำวง แต่ทั้งสองจะมีความต่างกันบ้างเพราะซัทจังดูเป็นเด็กที่โตกว่าวัยในจินตนาการของผมไปบ้าง สำหรับเด็กวัย 13 ที่น่าจะมีความสดใส พลังเยอะ ลองผิดลองถูก ไม่ต้องสนใจว่าจะทำอะไรผิดพลาด อาจเป็นเพราะการเข้า BNK มาทำให้น้องมีความเป็นผู้ใหญ่กว่าวัยหรือเปล่า หรือนี่เป็นธรรมชาติของน้องอยู่แล้วก็ไม่อาจคาดการณ์ได้ ซึ่งรตามีความเป็นเด็กในจินตนาการของผมมาก
ยกที่ 5 (สายหล่อ) น้ำหนึ่ง : วี
ไอดอลสายเท่ ที่สามารถเรียกเสียงหวีดโอตะสาวๆได้ (โดยเฉพาะโอตะเท้าเรืองแสงอย่างรตา) น้ำหนึ่งคือคนที่ถูกสาวๆกรี้ดมากคนนึง จะหล่อก็ได้จะสวยก็ดี เมื่อวนมาในกลุ่มรุ่น 2 วีเป็นคนที่ผมมองข้ามไปมากที่สุดคนนึง แต่จากการที่เพื่อนๆบนโซเชี่ยลของผมเองหวีด วี หนักมาก(เพื่อนที่ว่าเป็นผู้หญิง) และสาวที่ทำท่าปัดจมูกบน MV ฤดูกาลใหม่ก็ดึงสายตาทำให้ผมต้องกดย้อนไปดูว่า ยัยเด็กนี่มันใครหว่าท่าทางมันช่างห้าวจริง จากสายข่าวที่ว่าวีมียอดจับมือที่มากระดับนึง ทำให้ผมถึงกับต้องย้อนมาดูว่า เด็กสาวที่กลัวถูกครูติ้กด่าว่ากินเยอะจะเป็นคนแบบไหน และวีก็เป็นหนึ่งในคนที่ถูกคาดว่าจะเป็นระดับตัว Top ของรุ่นเช่นกัน
ยกที่ 6 (สายฮา) ปูเป้ : ขมิ้น
คู่นี้ถ้าไม่มี Victory เทปล่าสุดคงไม่เกิด เป็นคู่ที่เหมือนนักชกคนละรุ่น แต่แค่ 5 นาที 5 นาที!ที่ขมิ้น พูดไม่หยุดโอดครวญไม่หยุดบ่นไม่หยุดตลอด แต่กลับทำให้คนดู Live วันนั้นถึงกับสนุกสนานร่วมไปกับน้องได้ทั้งที่น้องต้องมาออกต่อจากสุดยอดสายฮาอย่างปูเป้ผู้เกรี้ยวกราด (เครดิตนี้ต้องให้พี่ป๊องพี่โอ้ตพี่อุลมาก) ถ้าปูเป้เกรี้ยวกราดได้อย่างเป็นธรรมชาติ ขมิ้นก็โอดครวญได้อย่างน่าเอ็นดูมาก ทั้งสองคนนี้ทำให้ผมรู้สึกถึงคำว่า ผู้หญิงธรรมดาในความคิดผมจริงๆ เพราะรสนิยมผมคิดว่าปูเป้ไม่ใช่คนสวยน่ารักที่ภายนอกโดดเด่นอะไร แต่กลับมีความเป็นธรรมชาติสูงมากๆ คนเราไม่พอใจก็โวยสิไม่ต้องมาเก็บอารมณ์อะไรตลอด แต่ถ้าเป็นคนอื่นโวยก็คงถูกมองในแง่ลบ แต่พอปูเป้โวยกลับกลายเป็นการเกรี้ยวกราดที่ดูซอฟลงไปทันที ซึ่งขมิ้นก็แสดงความกลัวที่น่ารักสุดๆ กลัวจนขาสั่นเป็นยังไงผมพึ่งเคยเห็นก็วันนี้ แล้วมีการซอยไปซอยมาดิ้นไปมาร้องขอความช่วยเหลือตอนกลัว กรี้ดดดดดๆๆๆ เสียงดังชนิดที่ไม่อายเลย ซึ่งทำให้ผมมองว่าน้องคนนี้มีความเป็นธรรมชาติที่สูงมากจริงๆคือกลัวก็ปล่อยออกมาว่ากลัว ซึ่งคนที่ดูรายการผีก็มักชอบขำเวลาที่คนอื่นตกใจกลัวเพราะโดนแกล้งอยู่แล้วและน้องขมิ้นก็สามารถตอบโจทย์ในจุดนั้นได้อย่างสมบูรณ์แบบ
ยกที่ 7 (สายดันตัวเอง) แนทเธอรีน
ในกลุ่มทั้งรุ่น 1 และ 2 แนทเธอรีนคือสุดยอดคนที่ผลักดันความสนใจให้ตัวเองได้อย่างมากที่สุดคนนึง จนมีคำกล่าวจากคนใน Pantip ว่าแนทคือตัวอย่างของคนที่ผลักดันตัวเองและใช้โซเชี่ยลได้เป็นประโยชน์มากที่สุด ซึ่งผมก็เห็นด้วยอย่างไร้ข้อกังขา ถ้าไอดอลอยากถูกผลักดันต้องเป็นคนที่สำคัญกับ อฟช คือขายได้ แล้วคนที่ขายได้มันจะเป็นยังไง ต้องสวย น่ารัก ขี้อ้อน มีเสน่ หรืออื่นๆก็แล้วแต่หนทางที่ไอดอลนั้นจะเลือก และทำให้โอตะพร้อมเปย์ คนนั้นถึงจะเรียกได้ว่าน่าถูกผลักดัน ถ้ามีอีกแบบคือเหมือนคนถูกหวย ซึ่งโมบายคือคนนั้นในความคิดผมที่ได้เลือกให้เป็นเซนเตอร์เพลง KFC ทำให้ BNK จุดติดและน้องก็ได้รับอานิสงค์ความสำเร็จส่วนนึงมาจนดังมากในวันนี้ แต่ท่ามกลางคนที่แข่งขันกันสุดแรง ชื่อของแนทเธอรีนจากสาวหมวยที่คนไม่ค่อยรู้จักก็ผงาดขึ้นมาบนโลกโซเชี่ยล ที่เรียกได้ว่าความชอบของน้องสามารถจับสิ่งที่ผู้ชายบนโลกนี้ชอบมากสุดอย่างนึง คือฟุตบอลได้ และน้องสามารถสร้างกระแสให้ตัวเองจนเพจต่างๆถึงกับต้องเข้าหาไปเล่นกับน้องมากมายหรือช่องข่าวกีฬาก็หยิบน้องไปกล่าวถึงให้แบบฟรีๆโปรโมทให้บนจอใหญ่กันไปเลย แต่บอลโลกจบน้องก็ไม่ได้จบ น้องสานต่อด้วยการเล่นมุขแป๊ก ทั้งที่การเล่นมุขนั้นใครๆก็เล่นได้ เว็บไซท์มีเยอะแยะ แต่คนมีชื่อเสียงที่กล้ามุขออกสื่อนั้นกลับมีน้อยมาก ทำให้โอตะสายมุขก็เข้ามาร่วมเล่นต่อมุขกันมากมาย จนทำให้น้องได้ฉายา ทั้งธิดาชาวสวน หรือแนทคนเฉียบ ซึ่งถ้าน้องสามารถรักษากระแส สานต่อ และดึงให้โอตะรุ่นใหม่มายอมจ่ายเงินให้ การที่เด็กที่ไม่มีอะไรเด่นคนนี้จะผงาดติด Top ของ BNK ทั้ง 2 รุ่นก็เป็นไปได้
ที่จริงยังมีอีกบ้างอย่างคู่ เนยกับนิว ที่ให้อารมณ์ สายนุ่มนิ่ม แต่ผมคิดว่าเอาเท่านี้ก่อนไว้ถ้ารุ่น 2 แสดงออกมามากกว่านี้ก็ค่อยกลับมา