▼ กำลังโหลดข้อมูล... ▼
แสดงความคิดเห็น
คุณสามารถแสดงความคิดเห็นกับกระทู้นี้ได้ด้วยการเข้าสู่ระบบ
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
บันทึกนักเดินทาง
เที่ยวต่างประเทศ
Backpack
สถานที่ท่องเที่ยวต่างประเทศ
[SR] Srilanka in the memory
สวัสดีครับ พอดีผมเพิ่งไปศรีลังกามา ตอนแรกเป็นประเทศที่ไม่คิดว่าจะไปมาก่อน ซี่งยอมรับเลยว่าเป็นทริปที่ตามรอยพี่บอล พี่ยอด จากรายการหนังพาไปอย่างแท้จริง ในเดินทางไปศรีลังการอบนี้เป็นทริประยะสันใช้วันหยุดช่วงอาสาหบูชาพอดี ไป 5 วันเศษ เดินทางไปคนเดียวเนื่องจากชวนเพื่อนๆ พ่อแม่พี่น้อง ก็มีแต่คนปฎิเสธ say no ติดไปญี่ปุ่นเกาหลีบ้าง บ้างก็ว่าศรีลังกาคืออะไร ? จังหวัดของอินเดียใช่ไหม ? (บางคนไม่รู้จริงๆ นะว่าเป็นประเทศ) แต่เอาละทริปนี้ค่าตั๋วเครื่องบินได้ถูกเข้าไปอีกของสายการบินแห่งชาติของประเทศนั้นก็คือ !!! thai airway ร๊ากกคูณเท่าฟ้า โดยผมมีแต้ม mile แลกไปศรีลังกาพอดีเสียแต่ค่าภาษีสนามบินประมาณ 2,500 บาท (ถ้าจำไม่ผิด) อารายยยจะโชคดีแบบนี้แต้มมาพอดี จึงได้มาขอทริปนี้ โดยรวมแล้วค่าครองชีพถือว่าถูกมากๆๆๆๆๆ ในการเดินทางครั้งนี้ไปเมือง Sigiriya , Kandy , colombo
เรื่อง Visa
ก่อนอื่น ทำ Visa ก่อน จริงๆ ศรีลังกา ไปขอ visa on arrival ได้นะที่สนามบินของศรีลังกา แต่ถ้าจะให้สะดวกกว่านั้น ศรีลังกาสามารถทำ E-Visa ได้เหมือนกับ อินเดีย ทำไม่อยาก กดคลิกๆๆ กรอก ซึ่งจริงๆ มีรีวิวขอ E-visa ของศรีลังกาอยู่เยอะนะ ไม่ขออธิบายละเอียดนะ ตามลิ้ง https://shipy-ship.com/2016/08/02/sri-lanka-online-visa/
และสามารถขอได้ในเวป https://www.srilanka-etaonline.com/ ราคาประมาณ 35 USD ตัดผ่านบัตรเครดิต ซึ่งตอนผมทำ visa ทางสถานฑูตส่งอนุมัติแค่ 5 นาที เอง ง๊ายยยย ง่ายมากๆๆ
Day 1
หลังจากนั้นก็ต่อรถไป kandy ซึ่งเป็นเมืองเก่า แต่รอบแรกจะแวะไปต่อรถที่นี้ก่อนค่อยย้อนกลับมาทีหลัง ระยะเวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง ถึง kandy ประมาณ 07.00 น.เศษ ค่าโดยสาร 360 RP (90บาท) ในใจคิดเฮ้ยถูกมากกก กับระยะเวลา 4 ชั่วโมง
บรรยากาศท่ารถที่ kandy
หลังจากขึ้นรถเพื่อไปต่อเมือง Dambulla ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง ราคาค่าโดยสาร 120 RP (30บาท)
นั่งรถสักพักชิวๆ เสพบรรกาศรอบนอก อ่อ *** ขอเตือนว่าระบบสาธารณะ หากใครมาศรีลังกาต้องทนกับการใกล้ชิดของคนศรีลังกา ซึ่งแรกๆ กลิ่นแขกมาเลย แต่หลังๆ ซักเริ่มชิน 5555+ ** พอมาถึงเมือง dambulla รถจะผ่านที่สถานี dambulla แต่ไม่ได้เข้าสถานี ให้แจ้งกับทางคนขับว่าจะลงท่ารถ dambulla มิเช่นนั้นซวยแน่ พอมาถึง dambulla จุดหมายของผมจะไป sigiriya ซึ่งในสถานีนั่งรถไปต่อ sigiriya ค่าโดยสาร 40 RP (10บาท) นั่งแค่ครึ่งชั่วโมงก็ถึง เมือง sigiriya แล้ว
พอมาถึงก็เก็บข้าวของเช็คอิน เกสเฮ้าส์ ที่จองไว้ ซึ่งจะบอกว่าเกสเฮ้าส์ที่นี่เยอะมากๆ เป็นเเนวๆ ชาวบ้านๆ ทำเองที่สำคัญถูกมากด้วย ชาวบ้านก็หาอาหารท้องถิ่น อาหารแปลกๆ ให้กินซึ่งได้บรรยากาศความเป็น local ไปอีก ที่พักที่ผมพักราคา 8 dollar ใน 1 คืน จองกับ agoda เห้ยก็ไม่แพงนะ
หลังจากหาข้าวหาปลา แถวนั้นก็พักซักหน่อยๆ แล้วขอเช่าจักรยานลุงเจ้าของเกสเฮ้า ปั่นเล่น เพื่อไป Pidurangal เป็นภูเขาอีกหนึ่งลูกซึ่งคุณลุงเกสเฮ้าแนะนำว่าควรไป ก่อนที่จะไปปีน Sigiriya จะบอกเขาลูกนี้ชันและเหนื่อยเอาการใช่เล่น เล่นเอาหอบได้ ข้างใน Pidurangal คล้ายๆ แนวภูกระดึง แต่ไม่โหดเท่า ข้างในเป็นวัดซึ่งเป็นทางขึ้น ค่าเข้า 500 RP (125บาท) ข้างบนก็นักท่องเที่ยวพอประมาณไม่พลุกพล่าน แต่ก็คุ้มกับวิวนะ นอนเล่นข้างบนอยู่ตั้งนาน เผลอหลับด้วยเพราะเหนื่อยกับการเดินทาง 555+
ตอนกลางคืนกลับจากที่พักเจ้าของที่พักเอาอาหารท้องถิ่นมาให้กิน บอกว่าอยากให้กิน ฟรีไม่คิดตัง เฮ้ย ดีจัง ค่าที่พักถูกแถมมีข้าวเย็นกินฟรี อีก ต้องขอขอบคุณ คุณลุงเจ้าของเกสต์เฮ้าครับ
Day 2
ตื่นเช้ามากิน ซื้อขนมปัง ตามร้านค้านิดๆหน่อย ก็ปั่นจักรยานไป sigiriya ซึ่งถือเป็นหนึ่งใน landmark ขอที่นี่ โดยประวัติของพระราชวัง sigiriya พระราชวังลอยฟ้า โดย sigiriya ปราสาทสิงห์ต้องคำสาป ถือเป็นหนึ่งในมรดกโลกของศรีลังกา ต้องปีนเขาลูกนึงถึงจะไปถึงพระราชวังลอยฟ้าที่เก่าที่สุดแห่งหนึ่งทีอายุกว่าพันปี ซึ่งเล่นเอาหอบและได้เหงื่อไปไม่น้อย.. โดยพระราชวังแห่งนี้มี Story อยู่ว่าเป็นอนุสรณ์ของคนบาป เนื่องจากพระเจ้ากัสปะ ซึ่งครองกรุงลงกา ในสมัยนั้น. ได้ยึดอำนาจจากพระราชบิดาของตนเอง จนตนเองได้เป็นกษัตริย์ พอยึดอำนาจได้ก็จับพ่อตนเองไปฝังทั้งเป็น. ถือเป็นการยึดอำนาจโหดร้าย ซึ่งต่อมาพระเจ้ากัสปะได้ชิงอำนาจมาได้ ก็ปกครองไม่สงบสุข มีพี่น้องไล่ตีแก้แค้นเสมอมา จนตนเองต้องสร้างพระราชวังบนภูเขาหินสูงชัน ซึ่งก็เกณฑ์คนไปสร้างเสียชีวิตเป็นพันคน.... เพื่อป้องกันจากการโจมตีของพี่น้องตนเอง จนต่อมาพระเจ้ากัสปะก็แพ้ภัยตนเอง ถึงมาตนเองจะอยู่สูงแค่ไหน. ก็ถูกฆ่าแย่งอำนาจจากพี่น้องร่วมสายเลือดในที่สุด .... ตอนจะเดินทางก็ฟัง story ก็รู้สึกตื่นเต้นเหมือนกัน
โดยค่าเข้าเราเห็นครั้งแรกก็ตกใจมาก คือ แพงง ตั้งแต่ไม่เที่ยวไม่เคยเจอค่าธรรมเนียมเข้าสถานที่แพงขนาดนี้ ราคา 4,770 RP (1,200บาท) แต่จะมัวเสียดายไม่ได้เพราะไหนๆ ก็มาถึงที่แล้ว ก็เสียเงินแล้วละ 555+ คิดว่าเอาหน่าแลกกับประสบการณ์ อุตส่าถ่อสังขารมาถึงนี้แล้วนี่หน่า
จริงๆ การขึ้น sigiriya ถือว่าสูงนะ แต่ไม่ค่อยเหนื่อยเท่าไร อาจเป็นเพราะคนเยอะได้พักบ่อย แต่รู้สึก Amazing มากว่า ไปสร้างได้ยังไงตั้งสูงงแค่ปีนขึ้นปีนลงก็เหนื่อยลง ยอมใจคนสมัยก่อนจริงๆ แล้วใช้เวลานานพอควรก็อยู่บนนั้น เอาจริงๆก็ใหญ่เหมือนกัน ผมใช้เวลากับที่นี่เกือบครึ่งวัน กว่าจะขึ้น กว่าจะลง ใช้พละกำลังพอควร แต่ถ้าคนชื่นชอบปีนเขา เดินเขา ก็จะชอบเลยละ
หลังจากลงมาแล้ว ก็จัดการเช็คเอ้าที่พัก แล้วโบกมือลาลุงเกสเฮ้า เสียดายไม่ได้ถ่ายรูปลุงเอาไว้เป็นที่ระลึก ไม่เป็นไร อยู่ในความทรงจำของเราก็พอ 55+ พอรำ่ลากันเสร็จก็เดินต่อไปที่คิวรถจาก sigiriya - dambulla ซึ่งคิวรถก็เดินเท้าเปล่าอีก 2 กิโลเมตร คือจริงๆ มีรถตุ๊กตานะแถวนั้น แต่ด้วยความขี้งก ช้านจะไม่เสียตังให้พวกแกหรอก 55+ ค่าโดยสารสนราคาที่ 40 RP (10บาท) ตั้งรถประมาณ 1 ชั่วโมง เพราะรถรอบนี้จอดรับส่งบ่อเหลือเกิน
พอไปถึง คิวรถที่ dambullla ก็หารถต่อไปที่ Kandy ต่อ แต่เห็นว่ายังพอมีเวลา ก็เดินเล่นไปๆๆมาๆ ในเมือง Dambulla สักเล็กน้อย เมือง dambulla เป็นเสมือนเมืองทางผ่านไปจังหวัดอื่นๆ เป็นเมืองเล็กๆไม่ค่อยมีอะไร แต่มีมรดกโลกแห่งหนึ่งคือวัดถํ้า dambulla แต่เกรงเวลาไม่พอและจึงเดินเล่นในเมืองหาอะไรกินดีกว่า
บรรยากาศในเมือง
หลังจากเดินเล่นๆ หาอะไรกินเสร็จ ก็กลับมาที่คิวรถไป kandy ซึ่งจะบอกว่า คิวรถต้องขึ้นตรงจุดที่เขาจอดให้ลงตอนแรก แต่ก็ไม่ไกลจากสถานี ค่าโดยสารไป kandy 120 RP (30บาท) นั่งประมาณ 2 ชั่วโมงเศษ ๆ พอถึง kandy ก็ตกเย็นแล้ว พัก Hostel ในเมืองราคาไม่แพง แต่ตอนกลางคืนไม่ออกเที่ยวนะ ถึงเราจะเป็นผู้ชายก็ประมาทไม่ได้ เพราะเกรงอันตราย แต่จริงๆ ในเมืองก็ไม่มีอะไรเที่ยวอยู่แล้ว ด้วยความเป็นเมืองแขกและเมืองพุทธ ลักษณะอนุรักษ์นิยมหน่อย แทบไม่ค่อยเห็นมีร้านเหล้า หรือร้านนั่งชิวเลย ซึ่งผมก็เลือกจะนอน เพราะต้องตื่นแต่เช้าไป วัดพระเขี้ยวแก้ว ซึ่งเป็น landmark ของ kandy
SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น