[SR] 15Day Japan "Trip" เดินให้ขาขาด กินให้เป๋าฉีก [Hokkaido and Tokyo] (Part1)

สำหรับการกระทู้รีวิวนี้จัดทำขึ้นสำหรับให้คนอยากไปญี่ปุ่นในทางตอนเหนือหรือคนที่คิดจะไปญี่ปุ่นครั้งแรกแต่ไม่รู้จะไปเที่ยวที่ไหนบ้าง เพราะทำแบบมีรายละอียดในการเดินทางเกือบครบ อาจจะมีความยาวนานมาก เพราะรายละเอียดในแต่ล่ะสถานที่เยอะมาก  จะจัดทำให้มี Part น้อยที่สุดนะครับ ยังไม่ชัวร์ว่าจะทำออกมาทั้งกี่ Part  หวังว่าจะเป็นประโยชน์ต่อคนอ่านทุกๆท่าน ขอบคุณครับ   ช่วงที่ไป 1-15 Feb 2018
ณ สนามบินดอนเมือง ผมไปทั้งหมด 9 คนนะทริปนี้  ไปทั้งหมด 15 วัน เต็มพิกัดของการไปเลยทีเดียว
โดยใช้สายการบิน Airasia XJ 606  ขาไป เวลา 09.45 ลงที่ Narita Airport (ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 5.30 ชม.)  มาถึงที่นี่ โดยประมาณ 7.00 ณ. กลัวคนเยอะแต่ก็เยอะจริงๆด้วย 555+  แนะนำควรเช็คอินในเว็ปก่อนเลย ทั้งไป-ทั้งกลับ จะได้สะดวกในการโหลดของ ไม่ต้องไปต่อแถวตามในรูปกันเลยทีเดียว สะดวกกว่าเยอะ
เอกสารควรให้พร้อมนะครับ Passport กับ กระดาษ Check-in ผ่านเว็ปก็จะดี เผื่อเหลือเผื่อขาด จัดไปให้ครบ ชุดใหญ่ไฟกระพริบ อันนี้ผมทำใบชับขี่สากลไปด้วยนะครับ จะเช่ารถขับในญี่ปุ่น  เวลาไปทำ ทำได้ที่ ขนส่งสอบใขขับขี่ เตรียมแค่รูปถ่าย 2 นิ้ว 2 รูป ใบขับขี่ตัวจริงและสำเนา 5 นาทีเสร็จครับ เร็วมากกกกกก   ราคาตั๋ว ไปกลับ 9000 นิดๆ ครับจำไม่ได้ ค่ากระเป๋าปีนี้มาแพงมากนะครับ 1200 ต่อ 20 กก. ค่าอาหารบนเครื่อง 150 บาท ได้น้ำขวดเล็ก 1 ขวด ทริปนี้ผมเฉลี่ยๆเอาครับ ไม่ได้เอาทุกคน ขาไปแนะนำเอาน้อยๆพอดีๆเกินหน่อยๆ ควรชั่งก่อนไปนะครับ ขากลับจัดเต็มตามกำลังแบกและช็อปครับ
ตามหาที่นั่งกันตามสะดวกอยากนั่งใกล้ใครลุยให้เต็มที่ และแบ็คแพ็ครีบไปเก็บของและจองนะครับ  เดี๋ยวเต็ม ^^
เมื่อได้ใบกรอก ตม. ทางญี่ปุ่นครับหาหนังสือเล่มนี้จากกระเป๋าด้านหน้าที่นั่งได้เลยไม่ต้องเปิดโทรศัพท์ตัวเล็กครับจ้องกันตาแตก
มีวิธีเขียนหมดทุกอย่างครับ เขียนตามหนังสือได้เลยครับ  มีคำแปลทุกอย่างจัดไปเลย เขียนผิดขอใหม่ได้นะครับจาก แอร์ของสายการบิน (มันร้อนสินะ !!)  อาหารไม่ได้ถ่ายนะครับ หิวมากตอนนั้นเลยลืม 555+  ควรสั่งในเว็ปนะครับ ถ้าหวังหน้างานอาจหมดและแพงกว่าด้วย
ถึงแล้วครับ Narita Airport ลุยสิครัช ตามป้ายไปเลยจ้า อากาศหนาวได้ใจจริงๆ
ถ้าไม่รีบก็เกาะบรรไดเลื่อนไปเลย แต่แนะนำครับรีบไป ตรง ตม. คนเยอะมากต่อเป็น ชม. เลยทีเดียว ร้อนมากด้วย ถ้าจัดมาเต็มถือกันให้แขนขาดไปข้างหรือจะใส่ให้ร้อนตับแตกไปเลยก็ได้นะครับ
ตามไปป้ายยาวไปจนกว่าจะถึง ตม. นะครับ
เมื่อผ่าน ตม.เรียบร้อย ก็ไปเอากระเป๋าได้เลยครับ เช็คของและกระเป๋าให้เรียบร้อยครับ
หาสายผ่านตัวเองให้เจอนะจ๊ะ หรือตามคนอื่นๆไปได้เลย
เมื่อเอากระเป๋าเสร็จ ถ้าใครหิวมีที่กินเยอะนะขึ้นไปข้างบนได้เลย แต่ถ้าใครรีบไปที่พัก ตามป้าย Train ไปเลยจ้า
ตามต่อไปลุยๆ
เมื่อถึงแล้วเราก็หาซื้อตั๋วไปที่ที่เราจอง โรงแรมได้เลย วันนี้ผมใช้หยอดตู้เอาครับ ดูสถานที่ได้จากข้างบน information ตารางใยแมงมุมรถไฟของญี่ปุ่น  ทริปนี้ได้จอง Hostel ที่ Shinjuku ไว้คืนแรก
ได้ตั๋วมาแล้ว หยอดเครื่องผ่านและไปกันโลด ดูเวลาและชานชาลา ให้เปะ ถ้าไม่รู้ถามเจ้าหน้าที่ได้เลย
เวลารถไฟที่นี่จะเป๊ะมาก
มีบุญได้นั่งนะจ๊ะ มีกรรมได้ยืน ยาวไป ประมาณ 1 ชม. ควรเข้าห้องน้ำให้เรียบร้อยก่อนออกจากสถานี ถ้าใครเข้าห้องน้ำบ่อย
ถึง Shinjuku Station แล้ว Action กันสิจ๊ะ รอไรล่ะ หิมะครั้งแรกที่เคยเจอ 55+  
ลากกระเป๋าอันหนักหน่วงไปที่พักได้เลย คืนแรก ที่พักชื่อ IMANO Tokyo  Hostel café&bar
ตาม google map ไปเลยจ้า ทริปนี้บอกไว้ก่อนนะครับ เดินให้ขาขาด -ให้เป๋าฉีก
ระหว่างทางเดินยาวไป ทั้งหนาว ทั้งเปียก ทั้งหนัก ลุยๆๆ ฮึบๆ
เดินชมเมืองไปสิครับ กว่าจะถึง ดูเหมือนใกล้ๆ (หนาวจะตายห่า)
ถึงแล้วครับ โฮสเทล จะได้นอนสักที 555+ ทั้งหนาวทั้งเหนื่อย IMANO Tokyo  Hostel café&bar  ค่าที่พักตกคนล่ะ 1000 บาท
ข้างในโฮสเทลมาดูกันเลย บาร์เล็กๆให้คลายหนาวและเหงาด้วยนะครับ มีทั้งกาแฟ และ เบียร์ ไปเลือกที่ตู้ได้เลย
มาจัดให้คลายหนาวไปก่อนเลยหลังจากเดินผ่าหิมะและฝนมา Asahi Beer สดนะครับ ใส่แก้วของทางร้าน สวยงามเลยทีเดียว   รถชาติคิดดูสิ !! ออริจินอลจากญี่ปุ่น มันจะดีกว่าไทยมาแค่ไหน แก้วล่ะ 700 เยน ประมาณ 200 นิดๆ บาท
ขวดต่อไปชิมยิ้มให้ทั่วเลย เบียร์ขวด Yebisu รสชาติออกไปคนชอบเบียร์สุดๆ แบบนุ่มลึกๆลงไป ถ้าสายเบียร์ควรห้ามพลาด ฉายาของขวดเลย “เบียร์เทพเจ้าที่เหล่าคอทองแดงซูฮกให้”
เมื่อดื่มกันเรียบร้อยพวกผมก็ขึ้นไปห้องพักตัวเอง ซึ่งแบ่งหญิง แบ่งชาย ทาง ผญ ได้ห้องรวมกัน 5 คนเลย (ไมได้ถ่ายมาครับ)  แต่ของผมทาง ผช ได้ห้องแคปซูลรวมกัน
รูอันน้อยนิดของที่นอนคืนนี้ ปูผ้าที่นอนเองด้วยนะครับ ถ้าขี้เกียจก็วางแล้วนอนเลยเหมือนผม ^^  ห้องน้ำที่ญี่ปุ่นไม่ต้องห่วงครับ ทางโฮสเทล ก็เช่นเดียวกัน สะอาดมาก แยกทั้งห้องอาบน้ำ แยกทั้งห้องน้ำ มี ไดร์เป่าผม ครีมทุกๆอย่างพร้อม แต่เสียอย่างเดียวนะครับ โฮสเทลที่นี่ไม่มีผ้าเช็คตัวให้ แต่ที่อื่นมีให้นะครับ ทางผมไม่ได้เตรียมมาเหมือนกันคิดว่ามีให้ ก็เสียไปครับคนล่ะ 200 เยน ประมาน 60 บาท
เมื่อวางของกันเรียบร้อยเราหิวมากออกไปหาไรกินดีกว่ายืมร่มทางโฮสเทลลุลุยหาไร-ไปเลย เดินไปเรื่อยๆ
เมื่อเริ่มหิวหนัก จัดไปเลยร้านแรกที่เจอ คือร้านนี้เอง ร้านราเมงหยอดเหรียญ เหมือนร้านอาหารตามสั่งบ้านเรา แต่การสั่งอาหารที่ร้านนี้ ดูเบอร์และไปหยอดตู้เอาบัตรไปให้พนักงานทำในร้านครับ ราคาจะเฉลี่ยอยู่ที่ 450-750 เยน
แล้วแต่เมนูนะครับ อยาก-ไรจัดเลย รสชาติถ้าคนชอบอาหารญี่ปุ่น ผมว่ามันก็กินได้ทุกเมนู อร่อยกว่าที่ไทยเยอะนะ แต่ก็แล้วแต่คน น้ำซุปกลมกล่ม
ภายในร้านครับ ไปหยิบน้ำบริการตัวเองและเมื่ออาหารเสร็จนะครับเขาจะเรียกแล้วเราก็ไปถือมานั่งกินครับ
จัดไปราเมงหมูสไลด์ซุปสาหร่าย ถ้วยเดียวก็อิ่มแล้วครับ ที่นี่ราเมงได้เยอะมาก ไม่เหมือนไทย กินได้ 2 คน เลยทีเดียวถ้าสำหรับคนกินน้อยแต่ผม ซัดเกลี้ยงคนเดียว จากนั้นกลับไปนอนเพื่อวันพรุ่งนี้ที่สดใส
ดู google map ตามไปเลยครับ ไปใกล้ๆเดินไปได้ครับ ร้านอาหารร้านนี้
เช้าวันที่ 2 เตรียมตัวให้พร้อมและจะไปลุยร้านอาหารปลาย่าง ร้านประจำ ของทางบ้านครับ  (แนะนำครับ)  ที่ชินจูกุ
ก่อนจากโรงแรมผมเอา ธนบัตรไทย ไปติดเครื่องชงกาแฟทางโรงแรม เห็นเขาติดกันเยอะ แต่ยังไม่มีประเทศไทย จัดไปสิครัชรอไร ขอเทปใสทางโรงแรมเลย
เปิด google map สิครับ ถ้าจะไป- ร้าน  Shinpachi Shokudo Seibu Shinjuku branch  เดินเบาๆ เกือบ 1 โล วอร์มขาสักนิด ก่อนจะไปขาแหกข้างหน้า
ถึงหน้าร้านแล้วครับ !!!! ฝนก็ตกหิมะลงอีก  ไปดูหน้าหน้าตาอาหารของทางร้านดีกว่า
โชว์แบบว่าหลากหลายเลยครับ เพราะหิวมาก !!  ราคาก็จะประมาณ 200-250 บาท โดยประมาณต่อชุด
ลุยในร้านเลย ส่วนของพ่อครัวในการย่างปลาแต่ล่ะจาน ใช้ถ่านญี่ปุ่นเวลาย่างจะมีกลิ่นติดมานี่ล่ะทีเด็ดของทางร้านนี้ ย่างให้-กันสดๆเลยทีเดียว
บรรยากาศภายในร้านนะครับ  จะนั่งได้ประมาณ 15 คนทั้งร้านโดยประมาณ ไปช้าต้องรอคิวครับ แต่ก็ไม่เป็นไรครับเพราะคนที่นี่รีบ-รีบไปทำงานเหมือนกัน ยืนรอสักนิดจะไม่ผิดหวัง
ดูเมนูกันครับ มีปลากหลากหลายให้เลือก-ตามสบาย ถ้าไม่ชอบปลาก็จะมีชุดข้าวหน้าเนื้อให้มา 1 ชุดครับ แต่ขอแนะนำให้กินปลาครับ แต่รอบนี้ผมสั่งเนื้อเพราะมาครั้งที่แล้วกินปลาไป แนะนำเป็นปลา Mackerel นะครับ
จัดมาแล้วครับของแม่ผมเอง Menu ลำดับที่ 9 Mackerel Pickle in sweet sake ถึงจะมีสาเกเป็นส่วนผสมแต่ไม่มีกลิ่นเลยนะครับ จานนี้จะออกหวานๆของซอสถ้ากินกับจะพอดี ก้างใหญ่เอาออกง่าย
นี่ล่ะของผมเอง ข้าวหน้าเนื้อย่างถ่าน คิดดูสิย่างถ่านหอมๆของญี่ปุ่น กับเนื้อที่บางๆ และข้าวร้อนๆ มันจะดีขนาดไหน คิดดูสิ ^^
ชื่อสินค้า:   Travel Japan ท่องเที่ยว ประสบการณ์
คะแนน:     

SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - ได้รับสินค้าหรือบริการมาใช้รีวิวฟรี โดยไม่ต้องคืนสินค้าหรือบริการนั้น
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่