เปิดเรื่องไม่ถูกเลยแฮะสำหรับคนที่ไม่กินกาแฟ และข้อมูลในหัวเรื่องกาแฟก็มีอยู่น้อยนิดมาก...
วันนี้ได้มีโอกาสไปร้านกาแฟแถวๆพระรามเก้ามาค่ะ....(4 Rama 9 Soi 41 Yak Soi 18 Suanluang)
อ้าวไม่กินกาแฟ แล้วไปร้านกาแฟทำไม?
คำตอบคือ....เค้าอยากไปถ่ายรูป เห็นร้านเขาน่ารักดีอ่ะ
แค่หน้าร้านก็อยากเข้าแล้ว น่ารักจะตาย ถ่ายรูปแบบบรรยากาศกลิ่นไอญี่ปุ่นนิดๆนะ อุ้ยยยยย ชอบมากกกกก
เข้าร้านเลยละกัน...ที่นี่เป็นร้านเล็กๆ มีจำนวนโต๊ะไม่เยอะมากนะ เน้นบริการที่ทั่วถึง ผู้คนที่เข้ามาที่นี่มีเป้าหมายเดียวกันคือกาแฟดริป
งานงอกแล้วไง กาแฟดริป!!!
ให้ตายเถอะกาแฟใสนมกินแล้วยังจะใจสั่นเลย5555
ไม่เป็นไร ทางร้านมีชาเขียวกับโกโก้...แต่มาถึงทั้งทีอ่ะ นี่ร้านกาแฟนะ จะไม่สั่งกาแฟเหรอ...?(จัดไปสิ)
แต่เดี๋ยวก่อน
เราเจอโจทย์จากเจ้าของร้านว่าชอบกาแฟแบบไหน เลือกเมล็ดกาแฟได้นะ กาแฟนอก กาแฟไทย แบบDry หรือ Honey...(เอาละไง....งานงอกไม่รู้เรื่องเลยจ้าาาาา คืออะไรว้าาาา กาแฟผสมน้ำผึ้งเหรอ ดื่มกันให้ชุ่มคออะไรแบบนี้)
สรุปว่าเจ้าของร้านก็มาสอนเราให้รู้จักกาแฟจ้า
*Dry / Natural Process เก็บเชอร์รี่ >> แล้วตากเลย
*Pulped-natural / Semi-dry Process / Honey Process เก็บเชอร์รี่ >> ปอกเปลือกและเนื้อ (Pulp) ได้เป็น ‘กาแฟกะลาที่ยังมีเมือก’ >> นำไปตาก
*Wet / Washed Process เก็บเชอร์รี่ >> ปอกเปลือกและเนื้อ (Pulp) แล้วได้เป็น‘กาแฟกะลาที่ยังมีเมือก’ >> หมักในบ่อหมัก ซึ่งจะเกิดปฏิกิริยาเคมี (Fermentation) จนเมือกสลายไป >> ล้างเมือกที่ยังคงเหลือออก (ผู้ผลิตบางราย อาจเลือกนำกาแฟกะลาที่หมักแล้วเข้า ‘เครื่องขัดเมือก (Demucilager)’ อีกที เพื่อให้ได้กาแฟกะลาที่สะอาดที่สุด ก่อนนำไปตาก จนได้เป็นกาแฟ
กาแฟแต่ละแบบก็จะมีรสชาติ ความหอม ความเฉพาะตัว ที่แตกต่างกันไป
ต้องเลือกแล้วหละ(เลือกอะไรไปยังจำไม่ได้เลย)
เพราะตอนนั้นกำลังหูอื้อกับการได้ยินข้อเสนอว่า "มีเวลาไม๊ ลองดริปกาแฟเองได้นะ มาที่นี่ทดลองได้นะ ที่นี่เป็น LAB"
เห้ยยยย คือดีงามอ่ะ แม้จะไม่ใช่คอกาแฟ แต่ได้ทดลองดริปเองก็ไม่เลวนะ....จัดไป
ขั้นตอนเยอะนิดหน่อย แต่ไม่ยากเกินความสามารถหรอก
สนุกดีนะกับการบดเมล็ดกาแฟด้วยการหมุนกับมือตัวเอง ดอมดมกลิ่นกาแฟคั่วหอมๆจากที่เราบด เรียนรู้จักการชงกาแฟ 3นาที ต้องใช้น้ำเท่าไหร่ มือนิ่งไม๊ มือหนักไปไม๊
เป็นอีกที่หนึ่งที่อยากแนะนำสำหรับคอกาแฟ
มีเวลาว่างก็มานั่งทำงานชิวๆ พูดคุยแลกเปลี่ยนความรู้เรื่องกาแฟแบบคนรักกาแฟ
ที่สำคัญ!!!!ใครอยากลองหาประสบการณ์ดริปกาแฟเอง ก็มาทดลองได้นะ เจ้าของร้านใจดี๊ใจดี
เลือกเมล็ดกาแฟเอง บดเอง ดริปกาแฟเอง ชิมเอง แบ่งคนในร้านชิมด้วย กินกาแฟกันให้ตาค้าง
ใครแวะไป ขอให้สนุกกับวิทยาศาสตร์กาแฟนะ
เพราะกาแฟเป็นวิทยาศาสตร์ ฉันจึงมาสนทนาภาษากาแฟที่ the brew lab
เปิดเรื่องไม่ถูกเลยแฮะสำหรับคนที่ไม่กินกาแฟ และข้อมูลในหัวเรื่องกาแฟก็มีอยู่น้อยนิดมาก...
วันนี้ได้มีโอกาสไปร้านกาแฟแถวๆพระรามเก้ามาค่ะ....(4 Rama 9 Soi 41 Yak Soi 18 Suanluang)
อ้าวไม่กินกาแฟ แล้วไปร้านกาแฟทำไม?
คำตอบคือ....เค้าอยากไปถ่ายรูป เห็นร้านเขาน่ารักดีอ่ะ
แค่หน้าร้านก็อยากเข้าแล้ว น่ารักจะตาย ถ่ายรูปแบบบรรยากาศกลิ่นไอญี่ปุ่นนิดๆนะ อุ้ยยยยย ชอบมากกกกก
เข้าร้านเลยละกัน...ที่นี่เป็นร้านเล็กๆ มีจำนวนโต๊ะไม่เยอะมากนะ เน้นบริการที่ทั่วถึง ผู้คนที่เข้ามาที่นี่มีเป้าหมายเดียวกันคือกาแฟดริป
งานงอกแล้วไง กาแฟดริป!!!
ให้ตายเถอะกาแฟใสนมกินแล้วยังจะใจสั่นเลย5555
ไม่เป็นไร ทางร้านมีชาเขียวกับโกโก้...แต่มาถึงทั้งทีอ่ะ นี่ร้านกาแฟนะ จะไม่สั่งกาแฟเหรอ...?(จัดไปสิ)
แต่เดี๋ยวก่อน
เราเจอโจทย์จากเจ้าของร้านว่าชอบกาแฟแบบไหน เลือกเมล็ดกาแฟได้นะ กาแฟนอก กาแฟไทย แบบDry หรือ Honey...(เอาละไง....งานงอกไม่รู้เรื่องเลยจ้าาาาา คืออะไรว้าาาา กาแฟผสมน้ำผึ้งเหรอ ดื่มกันให้ชุ่มคออะไรแบบนี้)
สรุปว่าเจ้าของร้านก็มาสอนเราให้รู้จักกาแฟจ้า
*Dry / Natural Process เก็บเชอร์รี่ >> แล้วตากเลย
*Pulped-natural / Semi-dry Process / Honey Process เก็บเชอร์รี่ >> ปอกเปลือกและเนื้อ (Pulp) ได้เป็น ‘กาแฟกะลาที่ยังมีเมือก’ >> นำไปตาก
*Wet / Washed Process เก็บเชอร์รี่ >> ปอกเปลือกและเนื้อ (Pulp) แล้วได้เป็น‘กาแฟกะลาที่ยังมีเมือก’ >> หมักในบ่อหมัก ซึ่งจะเกิดปฏิกิริยาเคมี (Fermentation) จนเมือกสลายไป >> ล้างเมือกที่ยังคงเหลือออก (ผู้ผลิตบางราย อาจเลือกนำกาแฟกะลาที่หมักแล้วเข้า ‘เครื่องขัดเมือก (Demucilager)’ อีกที เพื่อให้ได้กาแฟกะลาที่สะอาดที่สุด ก่อนนำไปตาก จนได้เป็นกาแฟ
กาแฟแต่ละแบบก็จะมีรสชาติ ความหอม ความเฉพาะตัว ที่แตกต่างกันไป
ต้องเลือกแล้วหละ(เลือกอะไรไปยังจำไม่ได้เลย)
เพราะตอนนั้นกำลังหูอื้อกับการได้ยินข้อเสนอว่า "มีเวลาไม๊ ลองดริปกาแฟเองได้นะ มาที่นี่ทดลองได้นะ ที่นี่เป็น LAB"
เห้ยยยย คือดีงามอ่ะ แม้จะไม่ใช่คอกาแฟ แต่ได้ทดลองดริปเองก็ไม่เลวนะ....จัดไป
ขั้นตอนเยอะนิดหน่อย แต่ไม่ยากเกินความสามารถหรอก
สนุกดีนะกับการบดเมล็ดกาแฟด้วยการหมุนกับมือตัวเอง ดอมดมกลิ่นกาแฟคั่วหอมๆจากที่เราบด เรียนรู้จักการชงกาแฟ 3นาที ต้องใช้น้ำเท่าไหร่ มือนิ่งไม๊ มือหนักไปไม๊
เป็นอีกที่หนึ่งที่อยากแนะนำสำหรับคอกาแฟ
มีเวลาว่างก็มานั่งทำงานชิวๆ พูดคุยแลกเปลี่ยนความรู้เรื่องกาแฟแบบคนรักกาแฟ
ที่สำคัญ!!!!ใครอยากลองหาประสบการณ์ดริปกาแฟเอง ก็มาทดลองได้นะ เจ้าของร้านใจดี๊ใจดี
เลือกเมล็ดกาแฟเอง บดเอง ดริปกาแฟเอง ชิมเอง แบ่งคนในร้านชิมด้วย กินกาแฟกันให้ตาค้าง
ใครแวะไป ขอให้สนุกกับวิทยาศาสตร์กาแฟนะ