ขายของ Online แรกๆออกชิ้นสองชิ้นถึงเยอะขึ้นมาหน่อยก็ไม่เกิน 10 การหิ้วไปไม่ใช่เรื่องลำบาก ช่วงที่ธุรกิจเติบโต ออเดอร์เข้ามามาก การแบกของพะรุงพะรัง ไปส่งไปรษณีย์ก็โคตรไม่โอเคอีกต่อไป พนักงานรับของก็มีเท่าเดิม คนส่งของมีเยอะขึ้น จำนวนชิ้นก็มากขึ้นไปอีก การเอาของไปส่งเองก็ไม่ใช่ 5 - 10 นาทีอีกต่อไป

        บางทีก็ส่งของไม่ทันโดนลูกค้าบ่นบ้าง ก็เข้าใจนะเค้าอยากได้เร็ว ส่วนนึงก็เรานี่หละที่งกเอง ไม่ยอมหาคนมาช่วย นานๆเข้ามันก็คิดได้ว่า

เวลา = เงินเท่ากับทองเวลาในการแพคของ
ส่งของที่ลดลง = เวลาพักผ่อนมากขึ้น

    เชื่อเลยว่าพ่อค้าแม่ค้า วันนึงที่เริ่มขายดีจะต้องใช้เวลามากขั้นในการแพคของ บางทีอาจต้องเกณฑ์พ่อแม่พี่น้อง มาช่วยแพคช่วยส่งกัน ตัวที่จะรีวิวต่อไปนี้เป็นหนึ่งในทางเลือกขนส่งที่ใช้บริการครับ
    Ninja van เป็นขนส่งน้องใหม่ที่เข้ามาในตลาด ซึ่งผมได้ลองใช้ตอนที่เจ้าประจำอยู่ๆก็เกิดปัญหาเช็ค tracking ไม่ได้ ลูกค้าบ่นกันระงม เลยหาอีกทางเลือกนึงเพื่อเป็นแผนสำรองเผื่อมีเหตุการณ์ไม่คาดคิดเกิดขึ้นอีก
    เค้าโฆษณาไว้ว่าเป็นมิติใหม่ของการไม่ต้องไปส่งของเอง (ซึ่งเจ้าอื่นก็มี) แค่ผมพึ่งเคยมาใช้บริการเจ้านี้เจ้าแรก แล้วก็ไปลอง Kerry ต่อ สำหรับผม Ninja Van มันค่อนข้างสะดวก + ประหยัดเวลามากแค่นัดเวลาให้เข้ามารับของ ทุกอย่างจบ
    ตัวที่ผมใช้เป็นแบบ Premium เหมาะสำหรับคนที่ส่งของไม่ต่ำกว่า 300-500 ชิ้น/เดือน
    เรื่องสมัคร ก็เหมือนขนส่งอื่นๆ กรอกข้อมูลปกติ แต่อยากบอกว่า ใครสนใจสมัครผ่านเวปแล้วเจอแบบนี้ สมัครผ่าน line จะสะดวกกว่าครับ

ตัวนี้จะเป็นการกรอกข้อมูลของเรา แล้วพนักงานจะติดต่อกลับมา หลังจากนั้นเราจะได้ user + password เพื่อ Login

หลังจากนั้นสามารถนัดเวลาเพื่อให้ทางนินจาเข้ามารับของไปส่งได้เลยครับ


ข้อดีที่เจอ
-    ส่งในกทม อีกวันถึง < อันนี้สะดวก ทันใจลูกค้าดี
-    รับฟรีในกทมและรอบๆกทม (รอบแค่ไหนอันนี้ไม่ทราบเหมือนกัน ปกติเรียกมารับแค่ในกทม ขออภัยด้วยครับ)

- Dashboard ช่วยเช็ค tracking แบบ realtime (อันนี้ผมเอารูปมาจากเน็ตนะ)
ตัวนี้ค่อนข้างสะดวกเลย เพราะจะเห็นว่าของอยู่ที่ไหนแล้วรวมถึงสามารถให้ทางลูกค้าเช็คเองได้ด้วย ผ่าน app หรือในเวป แค่ส่งเวป + tracking สำหรับคนที่เคยเช็คจากไปรษณีย์บ่อยๆ หรือแม้กระทั่งคนที่ไม่ค่อยเชี่ยวชาญ ตรงนี้ไม่เจอปัญหาเลย  

    ความไม่สะดวกส่วนตัวที่ไม่ชอบตรงนี้คือ ไม่มี link url โดยตรงที่จะเช็คได้ อันนี้ต้องเข้าหน้าเวปแล้วกดเช็ค tracking มันจะขึ้นมาเป็น pop up ซึ่งบางทีลูกค้าก็จะหาไม่เจอ

    ตอนสมัคร ไม่สามารถกรอกข้อมูลในเวปได้เพราะ google link ไม่เปิด access ไว้
    สรุปหากส่งน้อยชิ้น การเรียกให้ Kerry เข้ามารับอาจเป็นตัวเลือกที่ดีในการประหยัดรายจ่าย (มีค่าบริการเล็กน้อย) แต่ถ้าตอนธุรกิจเริ่มโตแล้ว มีของที่ต้องส่งบ่อยๆ เยอะๆ ninja premium จะช่วยประหยัดไปได้เยอะเลยครับ ถึงการสมัครจะขรุขระไปบ้าง แต่การใช้งานไม่มีปัญหาอะไร

ก่อนจะจากกันเอาเวปซื้อกล่องราคาน่าคบหามาฝากครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ http://www.mpc-onlineshop.com/


ถ้าไม่ได้ส่งบ่อยส่งมาก ซื้อจาก office mate นี่พอถูไถ แต่ถ้าเยอะ ควรซื้อแบบผ่านเวปที่เค้าจัดจำหน่ายหรือทำเอง Key word ใน google ก็ประมาณว่า “ซื้อกล่องไปรษณีย์” แล้วก็หาเวปที่ถูกใจหรือราคาถูกได้ตามสะดวก
นอกจากนี้สิ่งที่ผมเห็นตัวอย่างแล้วอยากมาแนะนำคือ ส่วนใหญ่คนไทยทำธุรกิจ online โดยการตัดราคาเป็นส่วนใหญ่ แต่ไม่มีใครเพิ่มมูลค่า สินค้าบางเจ้าก็เอามาจากจีนเหมือนกัน แต่ถ่ายรูปให้ดูดี packaging ดี บริการดี ก็อัพราคาได้

กล่องก็เป็นอย่างนึงที่ช่วยเพิ่มมูลค่าของสินค้าได้  เพิ่มโอกาสในการเป็นจุดสนใจ + เพิ่มราคาได้ด้วยครับ

สำหรับร้านทำกล่อง customize แบบนี้ผมยังไม่มีแนะนำเพราะยังไม่เจอเจ้าที่ถูกใจ หรือราคาโอเค ใครมีก็รบกวนหลังไมค์มาแชร์กันได้นะครับ ^^