ก่อนอื่นต้องออกตัวว่าเป็นกระทู้แรกที่พิมพ์เลยถ้าผิดพลาดอะไรก็อย่าหงุดหงิดเค้าเลยนะ เค้าต้องการแชร์ประสบการณ์ให้เพื่อนๆพี่ๆน้องๆ จริงๆ
Junior Marketing Association Thailand (J-MAT) หรือ ชมรมยุวสมาชิกสมาคมการตลาดแห่งประเทศไทย ภาษาบ้านๆก็คือเป็น เป็นน้องๆของสมาคมการตลาดแห่งประเทศไทย ที่รวมตัวนักศึกษาจากทั่วประเทศ หลากสาขาวิชาต่างๆ แต่ส่วนมากจะเน้นการตลาด มาจัดกิจกรรมที่เป็นประโยชน์และร่วมกำหนดทิศทางในการพัฒนาทักษะทางการตลาดให้แก่นิสิตนักศึกษาภายนอก โดยการทำงานก็จะมีพี่ๆนักการตลาดในเครือข่ายของสมาคมคอยช่วยสอน ช่วยคอมเม้น ให้เราเติบโตและฝ่าฟันอุปสรรค์ไปได้ ซึ่งปัจจุบัน J-MAT ก็มีมากว่า 30 ปีแล้ว (มีรุ่นพี่ J-MAT มากกว่า 30 รุ่น 0.0)
J-MAT ทำอะไรบ้าง ไม่เห็นรู้จัก
คนส่วนใหญ่ที่รู้จักก็คงจะเป็นเด็กที่แข่งแผนการตลาด แต่รู้จักแค่โครงการประกวดแผน J-MAT Award ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ซึ่งแข่งกันดุเดือดมากทุกปี แต่โครงการอื่นๆ คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยรู้จักหรอก น่าน้อยใจนักT^T มาๆเดี๋ยวเราจะอธิบายให้กระจ่างเองว่า J-MAT เป็นอย่างไง ?

บรรยากาศวันปฐมนิเทศพี่ๆก็กลับมาให้คำแนะนำ สนุกสนาน
เริ่มต้นตั้งแต่สมัครเข้า J-MAT ปีที่เราเข้าจำนวนคนสมัครอยู่ประมาณ1,000 รับประมาณ 80-90 คน ก็คิดเป็น 1:10 ตอนแรกก็กังวลๆ แต่ก็ลองดูเพราะโอกาสมีไว้ให้เราคว้าไปจ้า!! ผลออกมาติดใจนึงก็ดีใจนะ แต่อีกใจนึงก็กังวลเพราะเราอยู่มหาวิทยาลัยต่างจังหวัดใช้เวลาเดินทาง ประมาณ 2-3 ชม. เข้ากทม. และเด็ก J-MAT มีวาระทำงาน 1 ปี ส่วนใหญ่มีประชุมงานกันเสาร์ เว้น เสาร์ ต่อเดือนอีก (ประชุมเดือนละ2ครั้ง) แต่พี่รุ่นก่อนๆ ก็บอกว่าปกติจะคุยงานกันผ่านไลน์มากกว่า ไม่ก็คอลกลุ่มคุยกัน ก็เรามันเด็กยุค 4.0 นี่หน่า (เพราะฉนั้นอย่าอ้างว่าไม่มีเวลา ฮี่ๆๆๆ) ใจเราก็เอาก็เอา คิดว่าไหวก็ต้องไหวดิ
ก่อนเริ่มทำโปรเจคก็จะมีไปค่าย Sharing Together ก่อน เพื่อกระชับความสัมพันธ์ภายในรุ่นและกับพี่ๆ
รุ่นเราได้ไปแคมป์ 3 วัน 2 คืนที่จังหวัดสระบุรี ก็มีกิจกรรมมากมาย สนุกสนานตามภาษาวัยรุ่นได้รู้จักเพื่อนมากขึ้น เพื่อนก็น่ารักกกกก><
นัดเจอกันแต่เช้า แดดอ่อนๆ เป็นฤกษ์ที่ดี ฮ่า ฮ้า

มีการปูพื้นฐานและให้ความรู้ที่จำเป็นต่อต้องใช้ในการเป็นเด็กJ-MAT

บุคลิกภาพและการแต่งตัวก็ต้องมานะ สอนโดยพี่โอ๊ตจาก SCG

เด็กการตลาดจะขาดการพรีเซ้นไปไม่ได้เลย เรียนมาแล้วต้องปล่อยของซะหน่อย

มุมสนุกสนานเราก็มีนะ ชีวิตมันต้อง Work Life balance ^^

ผูกข้อไม้ข้อมือทำความรู้จัก ฝากฝังงานกันเรียบร้อย

พร้อมพิธีมอบเสื้อเจแมท และเดินทางกลับกทม.โดยหารู้ไม่ว่ามีภาระอันยิ่งใหญ่รอเราอยู่ T^T

เด็ก J-MAT Gen ใหม่พร้อมแล้วจ้า งานทั้งหลายดาหน้ากันเข้ามาเลย!!
ประเดิมการทำงานด้วยโครงการแรก สัมมนาสู่เส้นทางการตลาด
เป็นโครงการที่เด็ก J-MAT จะต้องจัดงานสัมมนา
งานพาร์ทแรก เริ่มตั้งแต่ ประชุมกันคิดคอนเซ็ป ทำโป๊สเตอร์ หาสถานที่ หาวิทยากรที่เหมาะสม หาผู้เข้าฟัง หาสปอนเซอร์ หางบประมารณ หาอุปกรณ์ หา หา หา หา และหาอีกมากมาย ดีไซน์เสร็จออกมาจะได้หน้าตาแบบนี้ สวยงามหลังจากขบคิดกันมานาน คอนเซ้ปต้องการจะสวนกระแสว่าการตลาดไม่จำเป็นต้องแพง

Blacksheep approach Low-cost and Creative Marketing
ภาพจาก :
https://www.facebook.com/SMARTJMAT/photos/a.569168759800015/1679361205447426/?type=3&theater
พาร์ทสองก็จะเป็นส่วนของ วันงาน เราก็ต้องเตรียมสตาฟ จัดเวที รายละเอียดภายใน คุมไฟแสงสี คุมกิจกรรม คุมเวลา คุมคน
ซึ่งงานแรกนี้จะเรียกได้ว่าเป็นโครงการของเด็ก J-MAT ล้วนๆ แทบ 100% เพราะเราต้องจัดการเองทั้งหมด ออกไอเดียเสนอ เถียงกันเต็มที่ทุกคนพลังเยอะมากกกกกก มีกระทบกระทั่งกันบ้าง แต่สุดท้ายผลของงานออกมาก็ทำให้ทุกคนพอใจ

แบ่งทีมไปดูสถานที่จริง ดูโล่งเกินไปต้องหาของมาตกแต่ง งานซะแล้ว

ถอยแกะดำป้ายแดงมาตัวนึงให้เข้าธีมงาน กว่าจะหาแบบที่ต้องการได้ น้ำตาแทบไหล

แกะก็ไม่ใช่ใคร เด็กJ-MAT เรานี้เอง (ร้อนมากขอพักหน่อย)

ถึงมันจะเหนื่อยและอุปสรรคก็เยอะแต่ทุกคนก็สนุกและยิ้มรับมันได้

แล้วงานก็จบไปอย่างสวยงามจำนวนผู้เข้าร่วมประมาณ1,000 คน ขนาดโครงการแรกนะเนี่ย ผลของงานออกมาแบบนี้ทุกคนก็มีแรงลุยโครงการต่อไปกันเลย
โครงการที่สอง ประกวดแผนการตลาด J-MAT Award
โครงการยอดฮิตตลอดการของ J-MAT ฮิตจนคนนึกว่า J-MAT คือโครงการแข่งแผน T^T ที่ฮิตเพราะว่า นักศึกษาสายล่ารางวัลจะเข้ามาแข่งในรายการนี้ซึ่ง แผนที่ได้รางวัลหรือผ่านเข้ารอบถือว่าสุดยอดมากๆเลย เพราะว่าขนกรรมการระดับแถวหน้าของประเทศมาตรวจแผนในโครงการนี้โดยเฉพาะ เรียกได้ว่าเก็บทุกเม็ด เป๊ะทุกหน่วย และที่สำคัญรางวัลสูงสุดคือได้รับถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี แต่เบื้องหลังโครงการนี้หล่ะเป็นอย่างไร ไปต่อกันเลย

ถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สมสง่า เด็ก J-MAT ก็เป็นปลื้มด้วยที่ได้มีส่วนรวมในโครงการนี้ ><
ซึ่งสปอนเซอร์ในแต่ละปี พี่ช่วง(เป็นพี่ที่คอยดูแลเด็กJ-MAT)กับสมาคมจะเป็นคนดีลไว้ให้อยู่แล้วว่าจะเป็นใครไม่ต้องไปเหนื่อยหาเองเหมือนโครงการแรก แต่สิ่งที่ยากกว่าคือความเป็นมืออาชีพและผิดพลาดไม่ได้ เพราะเขาเป็นธุรกิจจริงๆ T^T
งานพาร์ทแรก ก็จะหนักหน่วงไปที่การประชาสัมพันธ์ให้ทั่วถึง และงานเอกสารต่างๆนาๆ ใครไม่แม่น Excell นี้ตายไปเลยจ้า เพราะข้อมูลเยอะมากๆ ด้วยความที่เราทำงานร่วมกับสปอนเซอร์ ยอดจะน้อยไม่ได้ ความเครียดส่วนใหญ่ก็จะไปตกลงที่ยอดสมัคร (เด็กที่สมัครแผนก็ชอบไปสมัครกันวันสุดท้าย เราก็หัวใจจะวายยอดไม่มาสักทีจะถึง KPI ไหม)

คนนี้พี่ช่วง นางฟ้าของพวกเราชาวJ-MAT
งานพาร์ทสอง ก็หนักใช่ย่อยเพราะเด็ก J-MAT ส่วนหนึ่งก็ไปประกวดแผนด้วย ทางสมาคมจึงไม่ให้เด็กส่วนนี้เข้ามามีส่วนรวมกับงานเบื้องหลังของโครงการเลย (ป้องกันการทุจริตทุกกรณี) ซึ่งเราเข้าใจว่าต้องทำให้ความโปร่งใส แต่คนทำงานก็เหลือน้อยลงไปอีก โอ้ยย ซึ่งต้องจัดงานวันบรีฟโจทย์การแข่งขัน และวันพรีเซ้นแผนอีกด้วย!! รวมถึงแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าซึ่งบางเรื่องก็ส่งผลกระทบต่อสมาคมก็ต้องปรึกษาผู้ใหญ่ด้วยนะจ๊ะ ไม่ใช่จะทำมั่วๆอย่างไงก็ได้

วันบรีฟโจทย์คนเยอะมากกกกกก ต้องวางแผน Flow คนให้ดีนะ

คุมแสงสีไฟ ซีเคว้นต่างๆ เราก็เป็นคนจัดการนะ คนเบื้องหลังต้องทำเบื้องหลังให้ดี

เพื่อให้ผลงานเบื้องหน้าสมบูรณ์ที่สุด ^^

ด้วยพลังวิเศษของเด็ก J-MAT งานก็สามารถจบลงได้อย่างสวยงามจ้า
โครงการที่สาม อบรมนักการตลาดรุ่นเยาวร์Marketing Trainee
เป็นแคมป์สำหรับนักศึกษาสาขาการตลาดหรือสาขาอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องที่กำลังจบการศึกษาภายในปีที่จัด มาอบรมก่อน 2 เดือนออกไปทำงานจริง ซึ่งเป็นโครงการที่ให้ความรู้ทางการตลาดแบบถึงพริกถึงขิง จากกูรูนักการตลาดหลากหลายอุตสาหกรรม พร้อมได้ทำแผนการตลาดโดยมีพี่ๆนักการตลาดคอยเป็นโค้ชให้ตั้งแต่เริ่มทำจนถึงวันพรีเซ้นต่อหน้ากรรมการเลย ซึ่งถือว่าเป็นโครงการส่งท้ายชีวิตนักศึกษาได้อย่างเข้มข้นเลยทีเดียว นั่นคือความท้าทายของผู้เข้าร่วมโครงการ แต่ฝั่งของเด็ก J-MATหล่ะเป็นอย่างไร
คอนเซ็ปที่คิดกันมาได้ คือ Shine the diamond in you (คล้ายเพลงหน่อยๆใช่ไหม 55555) เพราะเรามองว่าเด็กทุกคนคือเพชรที่มีค่า แต่เพชรที่ผ่านการเจียระไนแล้วจะส่องแสงประกายได้กว่าใคร ซึ่งโครงการของเรานี้เองจะเจียระไนความรู้ก้าวสู่การเป็นนักการตลาดมืออาชีพ!!

ภาพจาก :
https://www.facebook.com/SMARTJMAT/photos/a.569168759800015/1813509772032568/?type=3&theater
งานพาร์ทแรก หินมาก ประสานงาน โค-ตะ-ระ เยอะ ต้องวางระบบการทำงานให้ดีๆ เลยไม่งั้นหัวแตก ทั้งหาวิธีประชาสัมพันธ์ที่โดนใจกลุ่มนักศึกษาให้มาเข้าร่วมโครงการ เพราะนักศึกษาส่วนใหญ่ก็อยากที่จะเริ่มทำงานทันที และปัจจัยเรื่องมหาวิทยาลัยก็เปิดปิดไม่ตรงกัน และไม่ตรงกับช่วงที่โครงการเปิด ไหนจะเป็นเรื่องการติดต่อวิทยาการแต่ละท่าน(มีประมาณ30คอร์ส) ติดต่อขอใช้สถานที่ หาสปอนเซอร์ และประสานงานกับ รุ่นพี่ Marketing trainee รุ่นอื่นๆอีกด้วย(Marketing Trainee ก็มี Connection รุ่นเหมือนกันนะจ๊ะ แน่นปึ้ก)

ประสานงานเพื่อจัดสอบเพื่อคัดเลือกนักศึกษาที่ผ่านมาตรฐานสู่ขั้นตอนสัมภาษณ์จ้า

ติดต่อพี่ๆกรรมการ ขาโหดทุกท่าน พี่ๆก็น่ารักสละเวลามาช่วยด้วย >/\<
งานพาร์ทสอง ถ้าเราจัดการพาร์ทแรกได้ดีขั้นต่อมาก็จะง่ายเพราะเป็นการดูแล ควบคุมโครงการให้จบลงอย่างสวยงาม แต่ถ้าจัดการไม่ดีน่ะ ฮึ่ม ตามแก้งานกันบาน!!

งานปฐมนิเทศ Marketing trainee เด็ก J-MAT ก็อยู่ทุที่จริงๆ เรียกได้ว่าความสามารถครบเครื่อง งานบู้ บุ๋นก็ไม่หวั่น
ด้านของวิทยากรที่มาให้ความรู้แบบถึงพริกถึงขิง ซึ่งเด็ก J-MATได้ติดต่อก็มีมากมายหลายคนมาก แต่ละคนนี้คิวทองที่แท้ทรู จะยกตัวอย่างนิดหน่อยพอเป็นน้ำจิ้มนะ เดี๋ยวกระทู้มันจะยาวเกินไป 555555

พี่จิ๊บ Brand baker Agencyมาแรง

พี่ตั้ม วิทยากรพิเศษจาก มหาวิทยาลัยกรุงเทพ สอนโคตรมันส์เลยท่านนี้

พี่แม็ค จาก Rabbit tale agency ขวัญใจวัยรุ่น

พี่แก่ นักการตลาดมือโปรและเจ้าของเว็ป Nattapuch.com ชื่อดัง

พี่โอ๋ โอริเวอร์ ประธานอำนวยการ YOUNG & RUBICAM BRANDS

ไม่ว่าจะสนุกแค่ไหนแต่งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา และโครงการจบลงด้วยดี ไว้เราจะมาพบกันใหม่น้าทุกคนนน
มีต่อ>>>
[CR] รีวิว 1ปีเต็ม!! ฉบับเด็ก J-MAT สิ่งที่คนภายนอกไม่มีวันเข้าใจ (มีรูปเบื้องหลังท้ายๆ)
Junior Marketing Association Thailand (J-MAT) หรือ ชมรมยุวสมาชิกสมาคมการตลาดแห่งประเทศไทย ภาษาบ้านๆก็คือเป็น เป็นน้องๆของสมาคมการตลาดแห่งประเทศไทย ที่รวมตัวนักศึกษาจากทั่วประเทศ หลากสาขาวิชาต่างๆ แต่ส่วนมากจะเน้นการตลาด มาจัดกิจกรรมที่เป็นประโยชน์และร่วมกำหนดทิศทางในการพัฒนาทักษะทางการตลาดให้แก่นิสิตนักศึกษาภายนอก โดยการทำงานก็จะมีพี่ๆนักการตลาดในเครือข่ายของสมาคมคอยช่วยสอน ช่วยคอมเม้น ให้เราเติบโตและฝ่าฟันอุปสรรค์ไปได้ ซึ่งปัจจุบัน J-MAT ก็มีมากว่า 30 ปีแล้ว (มีรุ่นพี่ J-MAT มากกว่า 30 รุ่น 0.0)
J-MAT ทำอะไรบ้าง ไม่เห็นรู้จัก
คนส่วนใหญ่ที่รู้จักก็คงจะเป็นเด็กที่แข่งแผนการตลาด แต่รู้จักแค่โครงการประกวดแผน J-MAT Award ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ซึ่งแข่งกันดุเดือดมากทุกปี แต่โครงการอื่นๆ คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยรู้จักหรอก น่าน้อยใจนักT^T มาๆเดี๋ยวเราจะอธิบายให้กระจ่างเองว่า J-MAT เป็นอย่างไง ?
เริ่มต้นตั้งแต่สมัครเข้า J-MAT ปีที่เราเข้าจำนวนคนสมัครอยู่ประมาณ1,000 รับประมาณ 80-90 คน ก็คิดเป็น 1:10 ตอนแรกก็กังวลๆ แต่ก็ลองดูเพราะโอกาสมีไว้ให้เราคว้าไปจ้า!! ผลออกมาติดใจนึงก็ดีใจนะ แต่อีกใจนึงก็กังวลเพราะเราอยู่มหาวิทยาลัยต่างจังหวัดใช้เวลาเดินทาง ประมาณ 2-3 ชม. เข้ากทม. และเด็ก J-MAT มีวาระทำงาน 1 ปี ส่วนใหญ่มีประชุมงานกันเสาร์ เว้น เสาร์ ต่อเดือนอีก (ประชุมเดือนละ2ครั้ง) แต่พี่รุ่นก่อนๆ ก็บอกว่าปกติจะคุยงานกันผ่านไลน์มากกว่า ไม่ก็คอลกลุ่มคุยกัน ก็เรามันเด็กยุค 4.0 นี่หน่า (เพราะฉนั้นอย่าอ้างว่าไม่มีเวลา ฮี่ๆๆๆ) ใจเราก็เอาก็เอา คิดว่าไหวก็ต้องไหวดิ
ก่อนเริ่มทำโปรเจคก็จะมีไปค่าย Sharing Together ก่อน เพื่อกระชับความสัมพันธ์ภายในรุ่นและกับพี่ๆ
รุ่นเราได้ไปแคมป์ 3 วัน 2 คืนที่จังหวัดสระบุรี ก็มีกิจกรรมมากมาย สนุกสนานตามภาษาวัยรุ่นได้รู้จักเพื่อนมากขึ้น เพื่อนก็น่ารักกกกก><
นัดเจอกันแต่เช้า แดดอ่อนๆ เป็นฤกษ์ที่ดี ฮ่า ฮ้า
ประเดิมการทำงานด้วยโครงการแรก สัมมนาสู่เส้นทางการตลาด
เป็นโครงการที่เด็ก J-MAT จะต้องจัดงานสัมมนา
งานพาร์ทแรก เริ่มตั้งแต่ ประชุมกันคิดคอนเซ็ป ทำโป๊สเตอร์ หาสถานที่ หาวิทยากรที่เหมาะสม หาผู้เข้าฟัง หาสปอนเซอร์ หางบประมารณ หาอุปกรณ์ หา หา หา หา และหาอีกมากมาย ดีไซน์เสร็จออกมาจะได้หน้าตาแบบนี้ สวยงามหลังจากขบคิดกันมานาน คอนเซ้ปต้องการจะสวนกระแสว่าการตลาดไม่จำเป็นต้องแพง
Blacksheep approach Low-cost and Creative Marketing
ภาพจาก : https://www.facebook.com/SMARTJMAT/photos/a.569168759800015/1679361205447426/?type=3&theater
พาร์ทสองก็จะเป็นส่วนของ วันงาน เราก็ต้องเตรียมสตาฟ จัดเวที รายละเอียดภายใน คุมไฟแสงสี คุมกิจกรรม คุมเวลา คุมคน
ซึ่งงานแรกนี้จะเรียกได้ว่าเป็นโครงการของเด็ก J-MAT ล้วนๆ แทบ 100% เพราะเราต้องจัดการเองทั้งหมด ออกไอเดียเสนอ เถียงกันเต็มที่ทุกคนพลังเยอะมากกกกกก มีกระทบกระทั่งกันบ้าง แต่สุดท้ายผลของงานออกมาก็ทำให้ทุกคนพอใจ
โครงการที่สอง ประกวดแผนการตลาด J-MAT Award
โครงการยอดฮิตตลอดการของ J-MAT ฮิตจนคนนึกว่า J-MAT คือโครงการแข่งแผน T^T ที่ฮิตเพราะว่า นักศึกษาสายล่ารางวัลจะเข้ามาแข่งในรายการนี้ซึ่ง แผนที่ได้รางวัลหรือผ่านเข้ารอบถือว่าสุดยอดมากๆเลย เพราะว่าขนกรรมการระดับแถวหน้าของประเทศมาตรวจแผนในโครงการนี้โดยเฉพาะ เรียกได้ว่าเก็บทุกเม็ด เป๊ะทุกหน่วย และที่สำคัญรางวัลสูงสุดคือได้รับถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี แต่เบื้องหลังโครงการนี้หล่ะเป็นอย่างไร ไปต่อกันเลย
ถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สมสง่า เด็ก J-MAT ก็เป็นปลื้มด้วยที่ได้มีส่วนรวมในโครงการนี้ ><
ซึ่งสปอนเซอร์ในแต่ละปี พี่ช่วง(เป็นพี่ที่คอยดูแลเด็กJ-MAT)กับสมาคมจะเป็นคนดีลไว้ให้อยู่แล้วว่าจะเป็นใครไม่ต้องไปเหนื่อยหาเองเหมือนโครงการแรก แต่สิ่งที่ยากกว่าคือความเป็นมืออาชีพและผิดพลาดไม่ได้ เพราะเขาเป็นธุรกิจจริงๆ T^T
งานพาร์ทแรก ก็จะหนักหน่วงไปที่การประชาสัมพันธ์ให้ทั่วถึง และงานเอกสารต่างๆนาๆ ใครไม่แม่น Excell นี้ตายไปเลยจ้า เพราะข้อมูลเยอะมากๆ ด้วยความที่เราทำงานร่วมกับสปอนเซอร์ ยอดจะน้อยไม่ได้ ความเครียดส่วนใหญ่ก็จะไปตกลงที่ยอดสมัคร (เด็กที่สมัครแผนก็ชอบไปสมัครกันวันสุดท้าย เราก็หัวใจจะวายยอดไม่มาสักทีจะถึง KPI ไหม)
งานพาร์ทสอง ก็หนักใช่ย่อยเพราะเด็ก J-MAT ส่วนหนึ่งก็ไปประกวดแผนด้วย ทางสมาคมจึงไม่ให้เด็กส่วนนี้เข้ามามีส่วนรวมกับงานเบื้องหลังของโครงการเลย (ป้องกันการทุจริตทุกกรณี) ซึ่งเราเข้าใจว่าต้องทำให้ความโปร่งใส แต่คนทำงานก็เหลือน้อยลงไปอีก โอ้ยย ซึ่งต้องจัดงานวันบรีฟโจทย์การแข่งขัน และวันพรีเซ้นแผนอีกด้วย!! รวมถึงแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าซึ่งบางเรื่องก็ส่งผลกระทบต่อสมาคมก็ต้องปรึกษาผู้ใหญ่ด้วยนะจ๊ะ ไม่ใช่จะทำมั่วๆอย่างไงก็ได้
โครงการที่สาม อบรมนักการตลาดรุ่นเยาวร์Marketing Trainee
เป็นแคมป์สำหรับนักศึกษาสาขาการตลาดหรือสาขาอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องที่กำลังจบการศึกษาภายในปีที่จัด มาอบรมก่อน 2 เดือนออกไปทำงานจริง ซึ่งเป็นโครงการที่ให้ความรู้ทางการตลาดแบบถึงพริกถึงขิง จากกูรูนักการตลาดหลากหลายอุตสาหกรรม พร้อมได้ทำแผนการตลาดโดยมีพี่ๆนักการตลาดคอยเป็นโค้ชให้ตั้งแต่เริ่มทำจนถึงวันพรีเซ้นต่อหน้ากรรมการเลย ซึ่งถือว่าเป็นโครงการส่งท้ายชีวิตนักศึกษาได้อย่างเข้มข้นเลยทีเดียว นั่นคือความท้าทายของผู้เข้าร่วมโครงการ แต่ฝั่งของเด็ก J-MATหล่ะเป็นอย่างไร
คอนเซ็ปที่คิดกันมาได้ คือ Shine the diamond in you (คล้ายเพลงหน่อยๆใช่ไหม 55555) เพราะเรามองว่าเด็กทุกคนคือเพชรที่มีค่า แต่เพชรที่ผ่านการเจียระไนแล้วจะส่องแสงประกายได้กว่าใคร ซึ่งโครงการของเรานี้เองจะเจียระไนความรู้ก้าวสู่การเป็นนักการตลาดมืออาชีพ!!
ภาพจาก : https://www.facebook.com/SMARTJMAT/photos/a.569168759800015/1813509772032568/?type=3&theater
งานพาร์ทแรก หินมาก ประสานงาน โค-ตะ-ระ เยอะ ต้องวางระบบการทำงานให้ดีๆ เลยไม่งั้นหัวแตก ทั้งหาวิธีประชาสัมพันธ์ที่โดนใจกลุ่มนักศึกษาให้มาเข้าร่วมโครงการ เพราะนักศึกษาส่วนใหญ่ก็อยากที่จะเริ่มทำงานทันที และปัจจัยเรื่องมหาวิทยาลัยก็เปิดปิดไม่ตรงกัน และไม่ตรงกับช่วงที่โครงการเปิด ไหนจะเป็นเรื่องการติดต่อวิทยาการแต่ละท่าน(มีประมาณ30คอร์ส) ติดต่อขอใช้สถานที่ หาสปอนเซอร์ และประสานงานกับ รุ่นพี่ Marketing trainee รุ่นอื่นๆอีกด้วย(Marketing Trainee ก็มี Connection รุ่นเหมือนกันนะจ๊ะ แน่นปึ้ก)
งานพาร์ทสอง ถ้าเราจัดการพาร์ทแรกได้ดีขั้นต่อมาก็จะง่ายเพราะเป็นการดูแล ควบคุมโครงการให้จบลงอย่างสวยงาม แต่ถ้าจัดการไม่ดีน่ะ ฮึ่ม ตามแก้งานกันบาน!!
ด้านของวิทยากรที่มาให้ความรู้แบบถึงพริกถึงขิง ซึ่งเด็ก J-MATได้ติดต่อก็มีมากมายหลายคนมาก แต่ละคนนี้คิวทองที่แท้ทรู จะยกตัวอย่างนิดหน่อยพอเป็นน้ำจิ้มนะ เดี๋ยวกระทู้มันจะยาวเกินไป 555555
มีต่อ>>>
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้